เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 674 พลังอันแข็งแกร่งของชาวเน็ต
บทที่ 674 พลังอันแข็งแกร่งของชาวเน็ต
ตัวเลขนี้ ทำให้ทุกคนล้วนตกตะลึงอย่างไม่มีสิ้นสุด
ต้องรู้ด้วยว่า บนเว็บไซต์ออฟฟิเชียลเพื่อที่จะยืนยันความเป็นธรรมของผลโหวต ผู้ร่วมโหวตทุกคนล้วนต้องผ่านการตรวจสอบตัวตนที่ยุ่งยากและซับซ้อน และไม่ใช่แค่ลงทะเบียนแล้วจะสามารถผลโหวตได้ ทุกคนต้องมีใบอนุญาตเป็นของตนเองถึงจะสามารถโหวตได้
หนึ่งแสน!
ตัวเลขนี้มองดูเหมือนไม่มาก แต่เทียบกับคนอื่น ๆ แล้ว กลับน่าทึ่งเป็นอย่างมาก
เพราะนับตั้งแต่เริ่มเปิดลิงก์ให้ชาวเน็ตโหวตทางออนไลน์นี้มา ผลโหวตสูงสุดที่เคยได้รับคือห้าหมื่นกว่าโหวตเท่านั้น
แต่หมินอันเกอทันทีที่เปิดตัว ก็สร้างสถิติใหม่ ทั้งยังทำให้ผลโหวตขยับขึ้นเป็นสองเท่าอย่างคาดไม่ถึง
และข้าง ๆ คนที่เหล่ากรรมการโหวตเลือกให้เป็นนักแสดงนำยอดเยี่ยม นักแสดงที่ได้รับโหวตจากห้าคน กลับมีเพียงไม่ถึงหนึ่งหมื่นคะแนน
คะแนนแตกต่างกันมากแบบนี้ ก็พึ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในเทศกาลภาพยนตร์โบ๋หยู่
เมื่อเห็นแบบนั้น ทุกคนล้วนอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
เพราะการสนับสนุนอย่างมากมายจากชาวเน็ตได้เปลี่ยนคำตัดสินของเหล่ากรรมการในตอนแรก ซึ่งนี่ก็เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในเทศกาลภาพยนตร์โบ๋หยู่เช่นกัน
ทุกคนด้านล่างเวทีราวกับว่าชะงักค้างไปในทันที เพราะในตอนแรกนั้นพวกเขามั่นใจมากเกินไป ขอเพียงแค่เป็นคนที่ได้รับการยอมรับจากกรรมการก็เท่ากับผลลัพธ์สุดท้ายแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ตระหนักถึงพลังอันแข็งแกร่งของชาวเน็ต
ในขณะนั้นพิธีกรที่ยืนอยู่บนเวทียังมึนงงอยู่เล็กน้อย เห็นผลลัพธ์เปลี่ยนไปกะทันหัน ก็ยังผวาไปฉับพลัน
เธอมองชื่อบนจอครั้งแล้วครั้งเล่า ยืนยันอยู่หลายครั้งในที่สุดก็แน่ใจ เปลี่ยนคำพูดที่จะเอ่ยออกมาปากทันที
ยกเสียงขึ้นเล็กน้อย เอ่ยอย่างหนักแน่น: “ตอนนี้ให้เราประกาศรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมของปีนี้ ใช่แล้ว คือคนที่เกินความคาดหมายของทุกคนหมินอันเกอ!”
เห็นผลสุดท้ายบนจอแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนและอีกหลายคนที่นั่งในห้องวีไอพีก็ตกใจเหมือนกัน
เมื่อสักครู่ตอนเห็นผลโหวตของเหล่ากรรมการแล้ว พวกเขาล้วนคิดว่าแพ้แล้ว หมินอันเกอก็ยังพลาดรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
แต่ไม่คาดคิดว่า ในส่วนของการโหวตจากชาวเน็ต จะสามารถทำให้เกิดการพลิกผันที่น่าตกใจ คว้ารางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมครั้งนี้มาได้อย่างฉิวเฉียด!
หมินอันเกอลุกขึ้นอย่างตื่นเต้น!
เขาอยากกลายเป็นนักแสดงคนหนึ่ง รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมเป็นการยืนยันสำหรับฝีมือการแสดงของความพยายามของเขา
ถึงแม้แสงไฟในห้องวีไอพีจะมืดสลัว แต่นัยน์ตาของเขากลับส่องแสงเล็กน้อย สองมือข้างลำตัวกำหมัดแน่น มองไปทางเวทีอย่างตื่นเต้น แต่กลับนิ่งไม่ขยับ
เห็นดังนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงเอ่ยเตือนเสียงเบา
“พี่หมิน ขอแสดงความยินดีกับการได้รับรางวัลของคุณ รีบขึ้นไปรับเถอะ”
ได้ยินเสียงนี้ หมินอันเกอในที่สุดก็เหมือนจะได้สติ หันกลับไปมองทางเวินเที๋ยนเที๋ยน ดูเหมือนจะไม่ได้ลนลานอะไร แต่นัยน์ตากลับเต็มไปด้วยความดีใจ พราวระยับด้วยน้ำตาที่เอ่อคลอ
ใครก็ไม่รู้ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ หมินอันเกอได้ผ่านอะไรมาบ้าง
เขาตกลงมาจากจุดสูงสุดของอาชีพการงานจนถึงจุดต่ำสุด เห็นแฟนคลับมากมายของตัวเองห่างหายจากไปไกลเรื่อย ๆ
นึกถึงตอนที่ตนเองตอนถ่ายภาพยนตร์ทำงานและศึกษาทั้งวันทั้งคืนแล้ว ตอนนี้คว้ามาได้หนึ่งรางวัลในมือกลับรู้สึกหนักอึ้งเป็นพิเศษ
หมินอันเกอยืนอยู่บนเวที ผู้คนด้านล่างเงียบกริบ ไม่มีใครเอ่ยพูดอะไร
ทุกคนล้วนมองไปที่คนที่อยู่บนเวที กลับรู้สึกว่าหมินอันเกอตอนนี้นั้นได้แตกต่างจากตอนแรกอย่างชัดเจน
แม้ว่าจะจะแต่งตัวจะดูเรียบง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก แต่กลับทำให้คนดูมีเสน่ห์ ทำให้ผู้คนละสายตาไม่ได้
เขาในตอนนี้ เหมือนกับนกฟีนิกซ์ที่ตายในกองไฟแต่ก็ได้รับชีวิตที่เป็นนิพพานเป็นการตอบแทนความไม่ย่อท้อและความพยายาม กลายเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจของทั้งงานพิธีมอบรางวัล
หมินอันเกอสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วเริ่มพูดช้า ๆ
“ไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ ผมยังครุ่นคิดเรื่องออกจากวงการบันเทิงดีหรือไม่ แล้วหางานทำเพื่อใช้ชีวิตที่เหลืออยู่”
เสียงของเขาเบามาก พูดถึงเรื่องในอดีต น้ำเสียงสงบนิ่ง ไม่มีการคลื่นใด ๆ แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ ว่าตอนนั้นเขาลำบากมากแค่ไหน
ทั้งงาน มีเพียงแค่เสียงของหมินอันเกอ
“แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนมาหาผม ให้บทภาพยนตร์ “แสงจางๆ”เรื่องนี้กับผม ในตอนแรกผมไม่ได้ตกลงรับ เพราะผมรู้สถานการณ์ตอนนั้นของตัวเองดี ไม่สามารถทำลายเที๋ยนเที๋ยน และไม่สามารถทำลายภาพยนตร์เรื่องนี้ได้”
เขาหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยต่อ: “แต่ว่ามีคนคนหนึ่งบอกกับผม ถ้าหากคนเรามีความฝัน ก็อย่ายอมแพ้เด็ดขาด ผู้หญิงคนนั้น เดิมผมเห็นเธอเป็นน้องสาวคนหนึ่งมาตลอด แต่คิดไม่ถึงเลยว่าไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอได้กลายเป็นครูของผมซะแล้ว เดินนำข้างหน้าผม ช่วงเวลาที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ คนที่ผมอยากขอบคุณที่สุดก็คือเธอ”
พูดถึงตรงนี้ มุมปากของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มบางเบา สบตามองตรงไปที่กล้องด้วยสีหน้าแววตาที่จริงจัง
แล้วจึงค่อย ๆ เอ่ย: “หลวนจื่อ ขอบคุณนะ รางวัลนี้ก็เป็นของคุณ”
ได้ยินชื่อนี้ ทุกคนในงานล้วนตกใจ
ข่าวคาวของหลวนจื่อกับหมินอันเกอ ทั้งวงการบันเทิงแทบจะไม่มีใครที่ไม่รู้
เดิมคิดว่าโอกาสแบบนี้ หมินอันเกอกำลังหลุดพ้นจากทุกข์ก่อนหน้านี้ มีแฟนคลับและอนาคตใหม่ ควรจะรีบเคลียร์ความสัมพันธ์กับหลวนจื่อ
แต่คิดไม่ถึงว่า เขาจะเอ่ยคำพูดพวกนี้ในงานพิธีมอบรางวัล
แต่ในขณะนั้นเอง กลับไม่มีใครแสดงออกถึงความไม่พอใจ
เนื่องจากหมินอันเกอเลือกคนรักของตัวเองในช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุด ในวงการบันเทิงที่เย็นชานี้ ทำให้ผู้คนสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น ทำให้รู้สึกโหยหา
ภาพเหตุการณ์นี้ถ่ายทอดสดไปทั่วทุกมุมในประเทศ
และในขณะนั้น คนที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกดูถ่ายทอดสดพิธีมอบรางวัลอย่างหลวนจื่อก็ได้เห็นภาพเหตุการณ์นี้เช่นกัน
ในตอนที่ หมินอันเกอที่อยู่ในโทรทัศน์สบตากับกล้อง ราวกับว่ายืนอยู่ข้างเธอแล้วสบตากับเธอ
ทันใดนั้นเมื่อได้ยินแบบนั้น หลวนจื่อเองก็อึ้งไปชั่วขณะ คิดไม่ถึงว่าหมินอันเกอจะพูดถึงตนเอง
แต่วินาทีต่อมา ก็ยิ้มออกมาบางเบา ยกมือขึ้นวางบนหน้าท้องน้อยอย่างแผ่วเบา ลูบไปมาอย่างเคยชิน
ผ่านไปหลายวินาที ถึงพูดขึ้นมาช้า ๆ : “ไม่ต้องขอบคุณ”
เมื่อหมินอันเกอพูดจบ ทั้งงานเงียบไปหลายวินาที ไม่นาน เสียงปรบมือก็ดังขึ้น
เขาเบี่ยงตัวเดินออกมาไม่กี่ก้าว ยืนอยู่กลางเวที โค้งคำนับเล็กน้อยให้กับคนที่อยู่ด้านล่างเวที แล้วหมุนตัวกลับออกมา
กลับมาถึงในห้องวีไอพี ในดวงตาของเขายังคงมีแสงประกายระยิบระยับ
ก่อนหน้านี้ตอนถ่ายทำภาพยนตร์ในกองถ่าย เวินเที๋ยนเที๋ยนมักได้เห็นสีหน้าท่าทางเหงาหงอยของหมินอันเกออยู่บ่อยครั้ง
แม้ว่าจะกลับเข้าวงการบันเทิงแล้ว แต่สถานการณ์ของหมินอันเกอนั้นแตกต่างจากเมื่อก่อน
แต่ในตอนนี้ เธอได้เห็นความมีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยพลังจากหมินอันเกอ ก็รู้สึกโล่งใจไปด้วย
ต่อมารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมก็เป็นอย่างที่เวินเที๋ยนเที๋ยนได้พูดไว้ ไม่มีนักแสดงนำหญิงอย่างภาพยนตร์“แสงจางๆ”จึงไม่ได้เสนอชื่อเข้าชิงอยู่แล้ว
รางวัลสุดท้ายก็ตกไปที่นักแสดงหญิงที่ผลงานการแสดงล้ำเลิศในปีนี้ ตอนนี้เหลือเพียงรางวัลสุดท้ายรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี
รางวัลนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นรางวัลที่สำคัญที่สุดในเทศกาลภาพยนตร์โบ๋หยู่ ทั้งยังเป็นการยืนยันการประเมินผลสูงสุดสำหรับนักแสดงของภาพยนตร์เรื่องนั้น ผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้างและผู้ประพันธ์บท