เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 676 แพ้หรือชนะ
บทที่ 676 แพ้หรือชนะ
ดูเหมือนว่า ถ้าหากพลิกผลสำเร็จ อาจจะสามารถข้ามผ่านหลายคนก่อนหน้านี้ คว้ารางวัลที่ห้ามาได้สำเร็จ!
ความคิดนี้พึ่งปรากฏขึ้นมาในหัว อยู่ ๆ จอบนเวทีก็กะพริบ
จอดับ!
เมื่อไฟสว่างขึ้นมาอีกครั้ง ทุกคนก็เจอจุดที่ผิดปกติ
ตัวเลขผู้กำกับคนอื่นไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง แต่คะแนนใต้ชื่อของผู้กำกับเฉินชุน กลับลดลงเกินครึ่งอย่าน่าตกใจ!
คะแนนโหวตกว่าหนึ่งแสนโหวต หายไปอย่างคาดไม่ถึงท่ามกลางสายตาของผู้ชม!
เมื่อสักครู่สองแสนกว่าตกลงมาเหลือไม่ถึงหกหมื่น!
ความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนนี้ ผู้ชมทุกคนล้วนเห็นได้อย่างแจ่มแจ้ง เสียงอื้ออึงดังขึ้นในทันที
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“เมื่อกี้ตอนฉันเห็น ไม่ใช่ว่ายังมีสองแสนกว่าเหรอ? ตอนนี้หายไปเยอะขนาดนี้ หรือว่าคิดว่าพวกเราจะมองไม่ออก?”
“เพราะระบบป้อนผิด หรือว่ามีคนเปลี่ยนแปลงตัวเลข? ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้?”
“ถ้าใช้ตัวเลขเมื่อกี้นี้ ผู้กำกับเฉินชุนต้องชนะแน่แล้ว? ถ้าคิดแบบนี้ พวกเขาก็จะคว้ารางวัลที่ห้าได้ ที่เดิมพันไว้กับประธานหล่อนก็ชนะแล้ว หรือว่า….”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ การแสดงออกบนสีหน้าแตกต่างกันไป
ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ตัวเลขใต้ชื่อผู้กำกับเฉินชุนเกิดผิดพลาดกะทันหัน ลดลงอย่างแปลกประหลาด มีสาเหตุมาจากอะไร ทำให้คนคิดไปถึงที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเดิมพันกับประธานหล่อนได้ไม่ยาก
หรือว่าแม้แต่อันนี้ ประธานหล่อนก็ยังสามารถแอบลงมือได้?
เขาควบคุมบริษัทหล่อนซื่อทั้งหมดก็เท่านั้น คิดไม่ถึงว่าเทศกาลภาพยนตร์โบ๋หยู่ที่ขึ้นชื่อเรื่องเป็นธรรมและยุติธรรมมาตลอด เขาก็ยังมีอิทธิพล
ทำไมถึงเปลี่ยนแปลงตัวเลขอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้ หรือว่าคิดว่าทุกคนที่นี่โง่จริง ๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนตอนมองเห็นคะแนนโหวตจากชาวเน็ต ก็ดีใจแทบตาย
คะแนนโหวตจากออนไลน์มากมายขาดนี้ พูดตามเหตุผล ต่อให้ผู้กำกับเฉินชุนได้คะแนนโหวตจากกรรมการไม่สูง แต่ด้วยคะแนนโหวตจำนวนมากจากชาวเน็ตสามารถโค่นล้มผลการตัดสินของพวกเขาได้ในที่สุด
แต่ตอนที่เธอกำลังคิด ยังไม่ทันได้ดีใจกับจี้จิ่งเชินที่อยู่ข้าง ๆ กลับเห็นตัวเลขที่เปลี่ยนแปลงกะทันหันบนจอ
เธอตกใจจนค้างอยู่ที่เดิมอยู่นานกว่าจะมีเสียงเล็ดลอดออกมาจากปาก
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ตัวเลขเมื่อกี้ล่ะ ทำไมหายไปแล้ว?”
ไม่ใช่แค่เวินเที๋ยนเที๋ยน ทุกคนในงานล้วนก็ไม่เข้าใจ
ตอนที่คะแนนโหวตสองแสนกว่าปรากฏนั้น ก็ดึงดูดสายตาขอผู้ชม ทุกคนล้วนเห็นอย่างชัดเจน แต่ตอนนี้ภายใต้สายตาของผู้ชมกลับกลายเป็นหกหมื่น ไม่แปลกที่ทุกคนจะสงสัย
พิธีกรก็ไม่ได้คาดถึงการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ไว้ ชะงักไป
โทษที่เขาเมื่อสักครู่พูดสั้นเกินไป เปิดเผยข้อมูลก่อนโดยไม่คาดคิด ยังไม่ทันให้เจ้าหน้าที่แก้ไขเสร็จ เขาก็เปิดเผยก่อนแล้ว
เผชิญหน้ากับข้อสงสัยของทุกคน พิธีกรก็กังวลขึ้นมา แต่เมื่อนึกถึงที่กรรมการหลายคนบอกเขาเมื่อสักครู่ เขาพยายามสงบสติอารมณ์ แล้วยิ้มออกมาอย่างฝืดฝืน
เขายิ้มกระอักกระอ่วนให้คนอื่น ๆ
“ต้องขออภัยจริง ๆ เมื่อสักครู่ระบบของทางเรามีปัญหา ผลลัพธ์ตอนนี้คือผลลัพธ์ที่แท้จริง”
“เป็นไปได้อย่างไร?”
ได้ยินคำอธิบายนี้ ผู้ชมต่างแสดงออกว่าไม่เข้าใจอย่างยอมรับไม่ได้
บอกว่าระบบมีปัญหา ใครจะเชื่อ?
และภายใต้การโหวตที่ละเอียดรอบคอบ ยังมีการยืนยันตัวตนที่ยุ่งยากซับซ้อนจนอยากเขวี้ยงบัตรประจำตัวทิ้ง แต่ละโหวตสามารถโหวตได้หลังจากได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วเท่านั้น
แต่ตอนนี้ พวกเขากลับพูดว่าหนึ่งแสนกว่าโหวตนั้นเสียเปล่า ใครจะเชื่อความข้างเดียวของเขา?
ในสายตาสงสัยของทุกคน พิธีกรสีหน้านั้นไม่น่าดู แต่เมื่อมีคำสั่งจากเหล่ากรรมการ จึงกัดฟันพูดต่อไป
“ตอนนี้เชิญระบบของพวกเรานำผลโหวตของกรรมการและผลโหวตจากชาวเน็ต เข้าสู่การคำนวณเทียบครั้งสุดท้าย เพื่อหาผู้ชนะ”
แต่คนด้านล่างเวทีกลับยังไม่ยอมรับผลนี้ เมื่อสักครู่พวกเขาเห็นความแตกต่างของคะแนนโหวตข้างบนอย่างชัดเจน เสียงโหวตมากมายถูกกลืนหายไปในชั่วข้ามคืน จะไม่ให้คำอธิบายสักคำเลยเหรอ?
ผู้ชมไม่ยอมรับผลลัพธ์นี้ พูดอย่างหนักแน่น: “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่? หรือว่าพวกคุณกลืนคะแนนโหวตจริง ๆ กุเรื่องหลอกลวงเหรอ?”
เทศกาลภาพยนตร์โบ๋หยู่ถือได้ว่าเป็นงานพิธีมอบรางวัลภาพยนตร์ที่ยุติธรรมมาโดยตลอด ถ้าหากแม้แต่คะแนนโหวตจากชาวเน็ตยังปลอมแล้วล่ะก็ หลังจากนี้พวกเขาจะวางใจมาร่วมได้อย่างไร?
และไม่รู้ว่าหลายปีก่อนหน้านี้ตอนที่ตนเองมารับรางวัล ไม่ใช่มาจากการลงมือลับหลัง ถูกแย่งรางวัลไป?
เห็นความคิดเห็นคนด้านล่างเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่พอใจขึ้นเรื่อย ๆ พิธีกรเครียดจนไม่รู้จะทำอย่างไร เลียริมฝีปาก ยกมือขึ้นแล้วกดลงด้านล่าง ให้ทุกคนหยุดก่อน
แต่ไม่มีใครคำเขาตั้งแต่แรกแล้ว พิธีกรเลยต้องพูดกลั้วหัวเราะ: “เมื่อสักครู่ระบบของพวกเราเกิดความผิดพลาด ขอทุกคนอย่าเข้าใจผิด พวกเราประกาศคะแนนอย่างยุติธรรมเหมือนตลอดมา ไม่ผิดอย่างแน่นอน”
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นก็แสดงจอแสดงคะแนนข้างหลังเวทีของพวกคุณให้พวกเราดู ก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
“คะแนนโหวตเยอะขนาดนั้นอยู่ ๆ ก็หายไป คุณจะให้พวกเราเชื่อคุณได้อย่างไร?”
ได้ยินข้อเรียกร้องนี้ พิธีกรกลับลังเล
แน่นอนว่าเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคะแนนโหวตที่หายไปพวกนั้น แต่ว่าเรื่องพวกนี้จะเปิดเผยให้คนอื่น ๆ รู้ได้อย่างไร?
ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็ ชื่อเสียงทั้งหมดของเทศกาลภาพยนตร์โบ๋หยู่คงได้พินาศลงในพริบตา
ขณะนั้น งานพิธีมอบรางวัลล้วนถ่ายทอดสดผ่านทางอินเทอร์เน็ตและโทรทัศน์ คะแนนโหวตเปลี่ยนแปลงเมื่อสักครู่ทุกคนก็เห็นในเวลาเดียวกัน
ในหน้าเว็บการถ่ายทอดสด ก็มีคนแสดงความคิดเห็นสงสัยและไม่พอใจไม่หยุด ชาวเน็ตจำนวนมากค่อย ๆ แสดงความคิดเห็นด้านล่าง ว่าที่จริงแล้วโหวตให้กับ“แสงจางๆ”และผู้กำกับเฉินชุน ทำไมสุดท้ายแล้วคะแนนโหวตของพวกเขากลับน้อยขนาดนี้?
โพสต์แบบนี้ปรากฏขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อจะยืนยันคำพูดของพวกเขา ยังแนบรูปยืนยันการโหวตของตนเองอีกด้วย
คนที่แสดงหลักฐานที่ตอนนี้เกิดหนึ่งแสนแล้ว บวกกับคนที่ยังไม่แสดงตัวอีก เกินคะแนนที่งานพิธีมอบรางวัลประกาศไปไกลตั้งนานแล้ว
บางคนที่มีความเชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ก็จัดทำสถิติ เอาหลักฐานที่ทุกคนยืนยันว่าตนเองได้โหวตให้เฉินชุนรวมเข้าด้วยกัน ก็เลยหกหมื่นไปไกลแล้ว!
ไม่มีอะไรให้น่าสงสัยอีกแล้ว พิธีมอบรางวัลครั้งนี้ ผู้ผลิตต้องหักคะแนนโหวตของผู้กำกับเฉินชุนโดยพลการ ต้องการเปลี่ยนตัวผู้ได้รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม!
งานพิธีมอบรางวัลใหญ่ขนาดนี้ ยังปรากฏฉากเบื้องลึกเบื้องหลังโดยไม่คาดคิด ผู้ชมชาวเน็ตยิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
คนจำนวนมากเป็นแฟนตัวยงของเทศกาลภาพยนตร์โบ๋หยู่ คิดอยู่ตลอดว่าเป็นงานประกาศรางวัลใหญ่ที่ยุติธรรมที่สุด
แต่คิดไม่ถึงว่า ในเทศกาลภาพยนตร์แบบนี้ยังสามารถฉ้อโกงปลอมแปลง ทั้งยังอ่อนหัดจนถูกทุกคนจับได้แล้วยังไม่ยอมรับ!
ในขณะนั้น ชาวเน็ตทุกคนล้วนแสดงออกว่าไม่พอใจ ทยอยแสดงความคิดเห็นว่า ถ้าหากไม่อธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจน พวกเขาก็จะไม่ยอมรับผลของรางวัลในครั้งนี้