เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 681 อำนาจในมือ
บทที่ 681 อำนาจในมือ
“คิดไม่ถึง…..”
ทุกคนต่างพากันหันไปมองประธานหล่อน
หล่อนเจี้ยนกั๋วเอ่ยพูดต่อ : “คิดไม่ถึงเลยว่าทั้งชีวิตที่ฉันทำงานที่บริษัทตระกูลหล่อน หลายปีขนาดนี้ก็เพื่อที่จะแย่งผลประโยชน์และตำแหน่งที่สูงยิ่งขึ้นกว่าเดิม พยายามจะปีนขึ้นไปให้สูงขึ้น แต่สุดท้ายกลับมาพ่ายแพ้ให้กับเด็กอย่างเธอ”
“จะโทษก็ต้องโทษที่ฉันประมาทเองตั้งแต่แรก!”
เขากัดฟันพลางเอ่ยขึ้น
ถ้าหากตอนนั้นเขาไม่ได้กำหนดข้อตกลงกับเวินเที๋ยนเที๋ยน หรือก่อนหน้านั้นที่การแข่งขันยังไม่เสร็จสิ้น เขาไม่รีบร้อนยักยอกเงินบริษัทไปก่อน ก็คงไม่เกิดเรื่องเช่นเดียวกับในตอนนี้
แต่ตอนนี้มาเสียใจภายหลังในทุกๆอย่าง ก็สายไปเสียแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูท่าทางของเขา ในใจนั้นรู้สึกปลง
ก่อนหน้านี้เธอเองก็เคยได้ยินคุณนายหล่อนเคยพูดไว้
ถึงแม้ว่าประธานหล่อนจะชอบความมีอิทธิพลอำนาจมาก อยากจะเป็นประธานของตระกูลหล่อนตลอดเวลา นั่งอยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่าคนเป็นหมื่นๆคน
แต่ความทุ่มเทของเขาที่มีต่อบริษัทนั้นมีมากอยู่จริงๆ บริษัทสามารถพัฒนาได้ใหญ่ขนาดนี้ หนึ่งในนั้นก็มีแรงกำลังจากเขาด้วยเช่นกัน
แต่คิดไม่ถึงว่า ยิ่งเขาอายุมาก ก็จะยิ่งมีความโลภมากยิ่งขึ้นไปเสียอีก
ดังคำกล่าวที่ว่า โลภมากมักลาภหายนั่นเอง
สุดท้ายแล้วก็กลับเป็นการทำร้ายตัวเอง
เวินเที๋ยนเที๋ยนให้โอกาสเขาแล้ว แต่หล่อนเจี้ยนกั๋วกลับไม่คว้าเอาไว้ กลับยิ่งอวดดีเย่อหยิ่ง ก็ไม่สามารถที่จะมาโทษว่าเธอลงมือไม่ได้
และยิ่งไปกว่านั้น ข้อมูลมากมายขนาดนี้ไม่ใช่ว่าเธอเพียงคนเดียวก็จะสามารถจัดการแก้ไขได้ เรื่องนี้เป็นการเกี่ยวข้องกับกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น ทันใดนั้นประตูห้องประชุมก็ถูกเปิดออกจากทางด้านนอก ตำรวจในชุดเครื่องแบบสามสี่คนเดินเข้ามา
ในมือของตำรวจคนที่เดินอยู่ตรงหน้าสุดนั้นถือใบรายการอยู่ใบหนึ่ง สายตานั้นกวาดตามองไปยังทุกคน แล้วเดินมาอยู่ตรงหน้าของประธานหล่อน แล้วแกว่งข้อมูลในมือตรงหน้าเขา
“คุณคือหล่อนเจี้ยนกั๋ว? ทางเราได้รับการแจ้งมาว่าคุณมีการยักยอกเงิน ขอเชิญคุณกลับไปให้ปากคำกับพวกเราด้วยครับ”
หล่อนเจี้ยนกั๋วเห็นพวกเขาเข้ามา ก็ไม่ได้มีอาการตื่นตระหนก ราวกับว่านี่คือผลลัพธ์ที่เขาคาดคิดเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
เขาพยักหน้าลง พลางเอ่ยขึ้นมาอย่างตรงไปตรงมา : “ฉันเดาเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าผลจะต้องออกมาเป็นแบบนี้”
พูดจบแล้ว เขาก็ยกมือขึ้นมา ให้ตำรวจสองคนนั้นใส่กุญแจมือ
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากที่ออกมาจากคฤหาสน์ ผู้จัดการหยางได้เตือนเธอเอาไว้ว่าให้แจ้งตำรวจก่อน ให้ตำรวจได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงการต่อต้าน
ไม่คิดว่าพวกเขาจะมากันเร็วขนาดนี้
เขาเดินตามตำรวจออกไปยังด้านนอก และเพิ่งจะเดินไปไม่กี่ก้าว ยังไม่ถึงหน้าประตูเลยนั้น ก็หันกลับมามองเวินเที๋ยนเที๋ยนอีกครั้ง
“เธอมีบุคลิกที่เหมือนคุณนายหล่อนอย่างที่คิดจริงๆสินะ”
ว่าแล้ว เขาก็ส่ายหน้าอีกครั้งหนึ่ง พลางเปลี่ยนคำพูด : “หรือบางที เธอจะสามารถประสบความสำเร็จได้มากกว่าคุณนายหล่อนก็ได้”
ความจริงเป็นเช่นนี้ คุณนายหล่อนดูแลบริษัทของตระกูลหล่อนมาเป็นเวลายี่สิบกว่าปี
ถึงแม้จะรู้ว่าเขาใช้อำนาจในบริษัทไปไม่น้อย แล้วก็เคยยักยอกเงินไปจำนวนมาก แต่กลับไม่ได้ลงมือทำอะไรมาโดยตลอด ทั้งยังยอมอดทนเอาไว้ ซึ่งเป็นเพราะคุณนายหล่อนไม่อยากทำลายความสงบสุขของบริษัทนั่นเอง
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไม่สามารถยอมอดทนกับเรื่องนี้ได้ จึงทำลายความสงบนี้ลง
ส่วนคนที่เป็นผู้นำที่แท้จริงนั้น จำเป็นจะต้องมีพลังที่ดุเดือดเช่นนี้ ไม่เกรงกลัวกับเรื่องอื่นๆ
หล่อนเจี้ยนกั๋วสูดหายใจเข้า ฝืนยิ้มด้วยความเจ็บปวด : “ฉันไม่สามารถเอาชนะพวกเธอได้จริงๆสินะ”
พูดจบแล้ว เขาก็ส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ แล้วหมุนตัวกลับออกไปจากออฟฟิศ
หลังจากที่เขาไปแล้วนั้น ประตูห้องประชุมก็ถูกปิดลงอีกครั้ง
ภายในห้อง กรรมการบริษัทคนอื่นๆตอนที่เห็นตำรวจเดินเข้ามานั้น ต่างก็พากันกลั้นหายใจเอาไว้ เม้มปากไม่กล้าเอ่ยพูดออกมา
ในกรรมการบริษัทที่อยู่ตรงนั้น จะมีใครที่ร่างกายสะอาดบ้างกัน?
ใครที่จะไม่เคยใช้อำนาจของตัวเอง เพื่อสวัสดิการของคนอื่นในบริษัทบ้างกัน?
เพียงแต่พวกเขาไม่ได้มีความกล้าเหมือนกับหล่อนเจี้ยนกั๋ว แล้วก็ไม่ได้มีความโลภเช่นเขาอีกด้วย แต่ความละอายใจที่มีอยู่ภายในใจมาโดยตลอดนั้น พอเห็นตำรวจเดินเข้ามา ก็อดที่จะรู้สึกกังวลขึ้นมาไม่ได้ กังวลว่าพวกเขาจะถูกพาตัวไปด้วยกัน
จนกระทั่งตำรวจออกไปจากห้องประชุมแล้ว ถึงได้รู้สึกโล่งใจขึ้นมา
แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ ก็มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆผุดขึ้นมาอยู่ตรงหน้าผากด้วยเช่นกัน ในใจรู้สึกหวาดกลัว
สองสามคนหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดบนหน้าผาก ราวกับหนีพ้นแล้วเสียอย่างนั้น
สายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนกวาดตามองไปบนร่างของพวกเขา แล้วมองสังเกตการแสดงออกของทุกคน
บุคคลที่เหลืออยู่ตรงหน้านี้ ก็ไม่ใช่คนที่ใสสะอาดหมดจดเท่าไรนัก แต่ถ้าหากผ่านเรื่องนี้ไปแล้วทำให้พวกเขาตื่นตัวขึ้นมาได้ ต่อไปก็คงจะทำให้การกระทำของพวกเขานั้นลดความทะเยอทะยานลงได้ แล้วก็ถือเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูได้ด้วยเช่นกัน
คิดเช่นนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เดินไปยังด้านหน้าสุดของห้องประชุมอีกครั้ง แล้วค่อยๆเอ่ยพูดขึ้น
“ประธานหล่อนได้ถูกตำรวจพาตัวไปแล้ว ส่วนเรื่องราวที่เป็นรูปธรรมต่อไปนั้นก็จะส่งต่อให้กับทางตำรวจเป็นฝ่ายจัดการต่อ ตอนนี้พวกเราก็มาดำเนินการกันต่อกับการเดิมพันกันก่อนหน้านี้เถอะค่ะ”
ว่าแล้วนั้น เธอก็เอาข้อมูลฉบับหนึ่งออกมา ด้านบนคือรายได้จากการจำหน่ายตั๋วภาพยนตร์และรายการรางวัลของภาพยนตร์เรื่อง“แสงจางๆ”
รายได้จากการจำหน่ายตั๋วภาพยนตร์ทั้งหมดสองพันล้าน และรางวัลสำคัญอีกห้ารางวัล ได้ชนะการเดิมพันครั้งนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ถึงแม้ว่าประธานหล่อนจะถูกพาตัวไปแล้ว แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังคิดอยากที่จะดำเนินเรื่องนี้ต่อไป
ผ่านจากเหตุการณ์ตกใจเมื่อครู่นี้แล้ว กรรมการบริษัทเหล่านั้นกล้าก้าวก่ายกับการกระทำของเวินเที๋ยนเที๋ยนเสียที่ไหนกัน
อีกทั้งทุกความคืบหน้าของการเดิมพันก่อนหน้านี้ พวกเขาเองก็ให้ความสนใจมาตลอด โดยไม่ต้องดูข้อมูลตรงหน้าก็แน่ใจได้แล้วว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะได้รับชัยชนะจากการเดิมพันในครั้งนี้ตั้งแต่แรกแล้ว
กรรมการบริษัทเหล่านั้นพยักหน้า แล้วมองเธออย่างประจบสอพลอ
“แน่นอนครับ แน่นอน พวกเราไม่ต้องดูเลย”
“พวกเราทุกคนต่างก็ให้ความสนใจกับภาพยนตร์ของคุณมาตลอด คุณชนะการเดิมพันครั้งนี้ตั้งแต่แรกแล้ว”
“ตอนแรกพวกเราได้รับการปิดบังความจริงจากประธานหล่อน ไม่คิดเลยว่าเขาจะยักยอกเงินของบริษัทไปเป็นจำนวนมากขนาดนี้ คนเรานี่รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ”
“คุณเวิน ครั้งนี้คุณทำถูกแล้ว ควรจะกำจัดพนักงานของบริษัทจริงๆเสียที!”
ได้ยินแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าลง แล้วถือโอกาสเอ่ยพูดขึ้น : “จริงๆแล้ว นอกจากประธานหล่อนแล้ว ยังมีคนจำนวนอีกไม่น้อยที่จะถูกตรวจสอบกันใหม่นะคะ”
เพียงประโยคเดียว ทำให้ทุกคนเงียบลงในทันที กลัวว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนหันทิศทางในการโจมตีมาที่พวกเขา
คิดแล้ว จึงรีบเอ่ยขึ้นมาเอง : “ในเมื่อตอนนี้การเดิมพันสิ้นสุดลงแล้ว ผมคิดว่ากรรมการบริษัทเองก็สามารถถอนตัวออกมากันได้สำเร็จเสียที”
“ใช่แล้ว ความสามารถคุณเวินก็เพียงพอที่จะดูแลบริษัทของตระกูลหล่อนได้แล้ว คนอายุมากๆอย่างพวกเราก็สามารถที่จะเกษียณอายุกันได้แล้วล่ะ”
ว่าแล้วนั้นแต่ละคนก็พากันพยักหน้า
“จริงๆนั่นแหล่ะ ตอนนี้เป็นเวลาของคนรุ่นใหม่ๆแล้ว พวกเราไม่ควรจะแทรกมือเข้ามายุ่งแล้วจริงๆ”
ไม่รอให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยปากพูด ก็มีคนเสนอขึ้นมาเองแล้ว
“ตอนนี้พวกเราให้ถอนอำนาจของพวกเราออกมา แล้วมอบให้กับคุณเวินดีกว่า ต่อไปคุณก็จะเป็นประธานเพียงหนึ่งเดียวของบริษัทตระกูลหล่อนแล้ว”
เอ่ยพูดจบแล้ว ไม่กี่คนตรงนั้นก็ยืนขึ้นมา แล้วหันไปโค้งตัวให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยน เพื่อเป็นการโค้งคำนับ
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าลง ใบหน้าไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆออกมา แต่ในใจกลับยังคงรู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้าง ฝ่ามือที่อยู่ข้างๆลำตัวนั้นมีเหงื่อออก
เมื่อครู่นี้ที่รีบร้อนเอาข้อมูลของผู้จัดการหยางออกมาจากคฤหาสน์ เธอก็คิดมาตลอดทางว่าจะบริหารจัดการกับพวกกรรมการบริษัทตรงหน้าเหล่านี้อย่างไร ไม่คิดว่าครั้งนี้จะราบรื่นเช่นนี้