เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 688 ผู้หญิงคนนี้จะไม่รักได้อย่างไร
บทที่ 688 ผู้หญิงคนนี้จะไม่รักได้อย่างไร
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น จี้จิ่งเชินกลับพบว่า มือทั้งสองข้างของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นเอาไพล่หลังเอาไว้ตลอด ดูผิดปกติ
การเคลื่อนไหวของเขานั้นหยุดชะงักไปเล็กน้อย ริ้วรอยปรากฏขึ้นตรงหว่างคิ้วนั้นค่อยๆหายไป
และวินาทีต่อมานั้น จี้จิ่งเชินก็เดินเข้ามาหาแล้วดึงมือเวินเที๋ยนเที๋ยนออกมาวางเอาไว้ตรงหน้า
หลังมือข้างขวาของเวินเที๋ยนเที๋ยน มีรอยแดงๆจากการถูกลวกจากคราบน้ำมันอยู่!
อาหารที่เธอถนัดคือพวกน้ำซุปและโจ๊ก แต่สำหรับของทอดแล้วเธอกลับได้ทำน้อยมาก
เมื่อครู่นี้จี้จิ่งเชินเห็นว่าบนโต๊ะมีอาหารที่จะต้องใช้น้ำมันทอดอยู่สองอย่าง ในใจนั้นรู้สึกกังวล ตอนนี้เห็นมือที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเอาซ่อนไว้ข้างหลังตลอดแบบนี้แล้วจึงยิ่งมั่นใจ
คิดไม่ถึงเลยว่า เพื่อที่จะทำอาหารพวกนี้ ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บขนาดนี้!
บนผิวขาวเนียนนั้นมีร่องรอยของแผลไหม้อยู่หลายจุด เห็นแล้วทำให้รู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วขึ้นมา ใบหน้าปรากฏสีหน้าท่าทางไม่สบายใจออกมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่คิดว่าตัวเองซ่อนมือเอาไว้ดีแล้ว จะยังถูกจับได้อยู่ดี
เธอรู้สึกผิดขึ้นมาบ้าง คิดอยากจะดึงมือกลับ แต่จี้จิ่งเชินกลับจับไว้แน่น
“จี้จิ่งเชิน พี่….”
จี้จิ่งเชินเม้มปาก ไม่รอให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยพูดจบ ก็ดึงตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไปอีกทางด้านหนึ่ง
การเคลื่อนไหวของเขานั้นมีความระมัดระวังเป็นอย่างมาก กลัวว่าตัวเองจะทำให้เธอเจ็บ นิ้วมือพยายามหลีกเลี่ยงออกเพราะกลัวว่าจะไปโดนตรงรอยแผลไหม้ตรงนั้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกตกใจกับท่าทางของเขา จึงรีบเอ่ยขึ้น : “ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆค่ะ ทำอาหารก็จะต้องเจ็บตัวบ้างอยู่แล้ว”
“ไม่ได้ครับ!”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ : “ต่อไปไม่อนุญาตให้คุณทำอาหารเองอีกแล้วนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว จึงรีบส่ายหน้า
“ครั้งนี้ยกเว้นสิคะ พี่ก็เห็นว่าก่อนหน้านี้ฉันก็ไม่ได้รับบาดเจ็บเสียหน่อย”
แต่จี้จิ่งเชินกลับไม่ยอม
“ต่อไปไม่อนุญาตให้สัมผัสกับน้ำมันอีกแล้วนะครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบพยักหน้าลง
เธอไม่ถนัดทางด้านนี้จริงๆ เพื่อทำอาหารสองอย่างนี้ ยังให้แม่ครัวสอนเธอเป็นพิเศษอีกด้วย ถึงได้ทำอาหารทั้งสองอย่างนี้ออกมาสำเร็จ
แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ ก็ยังคงได้รับบาดเจ็บอยู่ดี
แต่แผลเล็กๆแบบนี้ตัวเธอเองนั้นรู้สึกว่าไม่มีอะไรอยู่แล้ว แต่ท่าทางของจี้จิ่งเชินนั้นกลับจริงจังเป็นอย่างมาก
เขาดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนให้มานั่งตรงโซฟาอย่างระมัดระวัง แล้วหยิบเอายาทาที่รักษาแผลไหม้ออกมา
จี้จิ่งเชินก้มหน้าลง ขมวดคิ้ว แล้วดึงมือเธอขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ฆ่าเชื้อตรงบริเวณแผลไหม้ของเธอใหม่อีกครั้ง แล้วทายาเย็นๆลงไป
แผลที่แสบร้อนอยู่นั้นรู้สึกเย็นขึ้นมาในทันที สบายขึ้นมามาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนก้มลงมองจี้จิ่งเชินที่กำลังทายาให้เธอ ด้วยหัวใจที่รู้สึกอบอุ่น
“อีกมือนึงครับ” คิดไม่ถึงว่าจี้จิ่งเชินที่เพิ่งจะทาเสร็จมือหนึ่งนั้น จะพูดสั่งขึ้นมาอีก
ราวกับเวินเที๋ยนเที๋ยนนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว
เห็นการกระทำของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว ในใจของจี้จิ่งเชินนั้นก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี ขมวดคิ้วยิ่งกว่าเดิม แม้กระทั่งใบหน้าของเขาก็ยังปรากฏความโมโหเหมือนกับในweiboอีกด้วย
เขายกมือขึ้นมา แล้วดึงมือที่ซ่อนอยู่ทางด้านหลังเธอออกมา
เมื่อเห็นรอยแผลบนหลังมือเธอแล้ว ก็ใจหายขึ้นมาในทันที
มือข้างขวาของเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นแผลไหม้ ในสายตาของจี้จิ่งเชินนั้นก็สาหัสมากแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่า มือข้างซ้ายจะยังซ่อนรอยแผลใหญ่แบบนี้เอาไว้อีก!
หลังมือถูกลวกเสียจนเป็นรอยแดง และบวมขึ้นมาเล็กน้อย
คงจะเจ็บมากๆเลยหรือเปล่า?
สีหน้าของจี้จิ่งเชินนั้นเคร่งขรึม รอยแผลบนมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นชัดเจนมาก ทำให้หัวใจรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก
ไม่คิดว่าเธอจะอดทนไว้ตลอดแบบนี้……
จี้จิ่งเชินยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกโกรธ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ลดต่ำลงไปอีก : “ต่อไปไม่อนุญาตให้เข้าครัวอีกแล้วนะครับ!”
เมื่อครู่นี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพูดให้จี้จิ่งเชินยอมได้แล้ว ไม่คิดว่าตอนนี้จะกลับแบบเดิมอีก
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบเอ่ยขึ้นมา : “แต่ว่าเมื่อกี้ไม่ใช่ว่าพี่บอกว่า ขอแค่ไม่ไปสัมผัสกับของทอดที่ต้องใช้น้ำมันก็ได้แล้วไม่ใช่หรือคะ?”
“ตอนนี้ผมเปลี่ยนใจแล้ว”
ใบหน้าของจี้จิ่งเชินนั้นเต็มไปด้วยความโมโห โกรธเวินเที๋ยนเที๋ยน และยิ่งโกรธตัวเองมากกว่า
โกรธตัวเองที่ว่าถ้าหากตอนนั้นไม่พูดออกไปว่าชอบอาหารสองอย่างนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็จะไม่ต้องมาเจ็บตัวแบบนี้
เห็นสีหน้าที่ดูแย่ของเขาแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงไม่ได้แยกแยะ ยื่นมือออกไป แล้วเอาวางไว้ตรงหน้าเขาด้วยท่าทางที่น่าสงสาร พลางกระพริบตาลง
“เจ็บ จี้จิ่งเชิน พี่ช่วยทายาให้ฉันหน่อยนะ”
“คุณไม่รู้จักเจ็บหรอก!” จี้จิ่งเชินเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ
ถึงแม้น้ำเสียงจะดูดุ แต่เห็นท่าทางที่น่าสงสารของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว ก็ยังคงถอนหายใจออกมา แล้วเป่าลงที่แผลของเธออย่างระมัดระวัง
ลมเย็นๆพัดมายังรอยแผลเบาๆ ทำให้รู้สึกเย็นขึ้นมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนหยีตาลงด้วยความรู้สึกสบาย
“ยังเจ็บอยู่ไหมครับ?” จี้จิ่งเชินเอ่ยถาม
“ไม่เจ็บแล้วค่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหัวเราะ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะถูกจี้จิ่งเชินถลึงตาใส่
การกระทำของจี้จิ่งเชินนั้นอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น ช่วยฆ่าเชื้อที่แผลบนมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างเบามือ แล้วทายาลงบนแผลให้
“ต่อไปผมจะไม่กินอาหารสองอย่างนั่นแล้ว”
“ทำไมล่ะคะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเบิกตาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
กว่าเธอทำอาหารสองอย่างนั้นสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ลงแรงไปตั้งมากขนาดนั้น ทำไมจี้จิ่งเชินถึงจะไม่กินแล้วกัน?
คิดได้เช่นนี้ ในใจของเธอนั้นก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมา
จี้จิ่งเชินเอ่ยพูดขึ้นมาด้วยความโกรธ : “ถ้าหากเป็นอาหารที่ทำให้คุณต้องเจ็บตัว ผมไม่กินดีกว่า”
“แต่ว่าฉัน….”
เวินเที๋ยนเที๋ยนอธิบายอย่างร้อนใจ
จี้จิ่งเชินเห็นท่าทางที่ตื่นเต้นขนาดนี้ของเธอแล้ว อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
“แต่วันนี้อาหารสองอย่างนี้เที๋ยนเที๋ยนทำเพื่อผมทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ผมก็จะต้องลิ้มรสมันอยู่แล้วล่ะครับ เพียงแต่ว่าต่อไปไม่อนุญาตให้คุณทำอีกแล้วนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว ความกังวลที่มีอยู่ก็เปลี่ยนเป็นความดีใจขึ้นมาในทันที เธอพยักหน้าลงด้วยความดีใจ แล้วรีบลุกขึ้นยืน
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปกันเถอะค่ะ”
อาหารบนโต๊ะนั้นยังร้อนอยู่ กลิ่นหอมลอยเตะจมูก ทำให้อยากอาหารยิ่งนัก
เวินเที๋ยนเที๋ยนให้จี้จิ่งเชินนั่งลง แล้วตัวเองหันหลังไปเตรียมถ้วยชามกับตะเกียบ
แต่เพิ่งจะเดินไปได้เพียงก้าวเดียวนั้น กลับถูกจี้จิ่งเชินดึงตัวเอาไว้
“คุณกลับมานั่งครับ”
ว่าแล้ว เขาก็ลุกขึ้นยืน แล้วประคองไหล่ของเวินเที๋ยนเที๋ยนให้มานั่งลงตรงที่ของตัวเอง
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาอย่างงงๆ สายตาของจี้จิ่งเชินนั้นมองไปยังมือที่เป็นแผลของเธอ
“ตอนนี้คุณเป็นคนเจ็บอยู่ นั่งพักตรงนี้รักษาแผลตัวเองนี่แหล่ะครับ อย่าให้ยาที่ทาอยู่บนมือหลุดออกนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยกมือขึ้นมา แล้วมองอย่างลำบากใจ
รู้สึกว่าจี้จิ่งเชินทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เสียจริงๆ ตอนนี้สองมือของเธอนั้นทายาเอาไว้เต็มไปหมด จะไม่ให้ยาหลุดออกเวลากินข้าว จะเป็นไปได้อย่างไรกัน?
เห็นท่าทางที่ดูลำบากใจของเธอแล้ว มุมปากของจี้จิ่งเชินจึงยกขึ้นมา แต่กลับไม่ยอม
เขาเอื้อมมือไปหยิบถ้วยชามกับตะเกียบมา แล้วนั่งลงข้างๆเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังจะหยิบตะเกียบนั้น กลับถูกจี้จิ่งเชินเอาหลบไปเสียก่อน
จี้จิ่งเชินถือตะเกียบเอาไว้ในมือ พลางเอ่ย : “อยากกินอะไรครับ?”
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาต้องการจะช่วยเธอ
แท้ที่จริงแล้วนี่ก็เป็นวิธีที่จะทำให้ยาไม่หลุดออกจากมือเธอนั่นเอง
เวินเที๋ยนเที๋ยนลังเลอยู่บ้าง ตัวเองสบายดีทุกอย่าง ไม่ได้เจ็บป่วยอะไรเลย จะให้คนมาป้อนข้าวได้อย่างไรกัน?
แต่สายตาของจี้จิ่งเชินนั้นกลับยืนกรานเป็นอย่างมาก เห็นว่าเธอไม่ยอม จึงคุมเชิงอย่างเข้มงวด
ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกันอยู่พักหนึ่ง จนเวินเที๋ยนเที๋ยนจึงเป็นฝ่ายต้องยอมแพ้
“พี่ลองชิมโจ๊กปลาที่ฉันทำก่อนสิคะ พี่ชอบที่สุดเลยไม่ใช่หรือ?”
จี้จิ่งเชินพยักหน้า แล้วจึงหยิบช้อนขึ้นมา แต่สุดท้ายแล้วกลับไม่ได้ให้ตัวเอง แต่ยื่นมาตรงปากของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่คิดว่าเขาจะให้เธอกินก่อน จากเดิมที่คิดจะปฏิเสธ แต่เมื่อสบตาเข้ากับจี้จิ่งเชินแล้ว จึงสะดุ้งแล้วทำได้เพียงอ้าปากอย่างว่าง่าย