เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 703 ความมืดมิดหายไปในชั่วพริบตา
บทที่ 703 ความมืดมิดหายไปในชั่วพริบตา
แต่ครั้งนี้จะอย่างไรเวินหมิงเฮ่าก็ไม่ฟังแล้ว ร้องไห้ไปพลางตะโกนร้องออกมาแล้วพุ่งตัวเข้าไปด้วย
“อย่าตีแม่! อย่าตีแม่!”
เวินหงไห่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้แล้ว เห็นหมิงเฮ่ายืนอยู่ตรงเหยาเย้น ความโมโหที่หมุนวนอยู่ภายในใจ เขาจึงยกมือขึ้นมาเหวี่ยงออกไป
ร่างของหมิงเฮ่าสั่น ราวกับว่าวที่เชือกขาดลอยออกไปอย่างไรอย่างนั้น แล้วชนเข้ากับกำแพงเสียงดังตึง
เหยาเย้นตกใจเสียจนแทบหยุดหายใจ รีบยันตัวเองลุกขึ้นแล้วกอดเขาเอาไว้
หน้าผากของเวินหมิงเฮ่ากระแทกเข้ากับกำแพง มีเลือดไหลออกมา
เขาลืมตาขึ้นมาด้วยความยากลำบาก แล้วร้องไห้โฮออกมา
ในใจของเหยาเย้นนั้นเจ็บปวดราวกับถูกฉีกออกอย่างไรอย่างนั้น เธอหันกลับมาจ้องเวินหงไห่ด้วยความเกลียดชัง
“แม้แต่หมิงเฮ่าคุณก็ทำร้าย คุณมันบ้า!”
เวินหงไห่ยังคงไม่ไหวติง พลางด่าว่า : “ของที่คุณเอาไปในตู้เซฟนั่นเอาออกมาให้ผมเดี๋ยวนี้!”
เห็นมือของหมิงเฮ่าแล้ว เหยาเย้นไม่อยากทำให้สถานการณ์เลวร้ายกว่านี้ กลับหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา
“คุณกลัวแล้วใช่ไหม? กังวลว่าของที่อยู่ในตู้เซฟนั้นหากว่ารั่วไหลออกมาแล้ว จะทำลายทั้งตระกูลเวินให้พังลงอย่างนั้นใช่หรือเปล่า?”
“ได้เห็นท่าทางกลัวของคุณแบบนี้แล้ว ถึงแม้ว่าฉันต้องตายฉันก็ยอม ฉันจะบอกคุณให้นะ ข้อมูลพวกนั้นถูกฉันส่งออกไปหมดแล้ว ไม่นานก็จะมีคนมาตรวจสอบที่ตระกูลเวิน แล้วถึงตอนนั้นพวกคุณก็จะไม่สามารถหนีไปได้เลยแม้แต่คนเดียว!”
ได้ยินคำพูดนี้แล้ว เวินหงไห่ยิ่งโมโหมากขึ้นไปกว่าเดิม กัดฟันด้วยความแค้น
“ก่อนที่พวกเขาจะมา ผมก็คงฆ่าคุณไปแล้วเหมือนกัน!”
ว่าแล้วนั้น เขาก็พุ่งตัวเข้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วจับที่เสื้อของเหยาเย้น ดึงเธอขึ้นมาจากพื้น ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ ยกหมัดขึ้นมาเตรียมที่จะทุบไปยังศีรษะของเหยาเย้น!
และเวลานี้เอง เสียงหนึ่งก็ดึงขึ้นจากทางด้านหลังเขา!
ทันใดนั้นประตูห้องใต้ดินถูกคนเปิดออกมาจากทางด้านนอก แสงอาทิตย์สว่างสาดส่องเข้ามา
ความมืดมิดหายไปในชั่วพริบตา!
จิตใต้สำนึกทำให้เวินหงไห่ต้องหันไป เห็นคนที่มีร่างสูงใหญ่พุ่งตัวเข้ามาจากทางด้านนอก ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นในทันที เต็มไปด้วยความหวาดกลัว มือของเขายังคงการเคลื่อนไหวเมื่อครู่นี้เอาไว้อยู่ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“เหยาเย้น เหยาเย้น คุณอยู่ข้างในไหม?”
เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านนอก เวินเที๋ยนเที๋ยนออกมาจากทางด้านหลังของกลุ่มคนนั้น แล้วตามหาอย่างรีบร้อน
และเมื่อเห็นท่าทางของเหยาเย้นกับเวินหงไห่ในเวลานี้แล้ว ตกใจจนหัวใจแทบหล่นไปอยู่ตรงตาตุ่ม
เมื่อครู่ที่พวกเขาได้รับข้อมูลมา ก็แยกกันไปสองทาง ทางหนึ่งให้คนเอาข้อมูลไปให้กับเหยียนเจิ้ง อีกทางหนึ่งก็พาคนมาที่นี่กับจี้จิ่งเชิน เพื่อดูว่าจะสามารถช่วยเอาตัวพวกเธอออกไปได้ก่อนหรือไม่
ไม่คิดว่าเมื่อมาถึงตระกูลเวินแล้วจะพบว่าสถานการณ์จะร้ายแรงขนาดนี้
คนทั้งตระกูลเวินพากันตื่นตระหนก หลังจากที่สอบถามจากสายตำรวจคนก่อนนี้แล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้หาห้องใต้ดินที่ซ่อนเอาไว้แห่งนี้เจอ แล้วจึงเปิดประตูเข้ามาอย่างรวดเร็ว
คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาช้าไป
เวลานี้ร่างกายของเหยาเย้นนั้นได้รับบาดเจ็บเต็มไปหมด เป็นที่น่าตกใจยิ่งนัก
เวินหมิงเฮ่าที่นอนอยู่ที่พื้นนั้นบนหน้าผากของเขามีแผลใหญ่อยู่หนึ่งแผล เลือดไหลไม่หยุด และตกอยู่ในสภาวะไม่ได้สติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เวินหงไห่ยังคงง้างหมัดขึ้นสูง ยังอยากที่จะตบตีต่อไป
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบว่าออกมาเสียงดัง แล้วรีบตะโกนไปยังบอร์ดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ : “รีบไปช่วยเขาออกมา!”
บอร์ดี้การ์ดได้ยินแล้ว จึงรีบเข้าไปควบคุมตัวเวินหงไห่เอาไว้ แล้วช่วยคนออกมา
เหยาเย้นได้รับการปล่อยตัวให้เป็นอิสระแล้ว ก็ไม่ได้สนใจบาดแผลของตัวเองเลย รีบเข้าไปกอดลูกเอาไว้ด้วยความตื่นตระหนก มือหนึ่งกดอยู่ตรงแผลบนหน้าผากของเขา ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาและเลือดปนเปกันไปหมด
“เที๋ยนเที๋ยน พาเด็กไปโรงพยาบาลก่อน!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นท่าทางของเวินหมิงเฮ่าแล้ว รีบพาเธอเดินออกมาด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“พวกเราจะไปกันเดี๋ยวนี้แหล่ะ คุณวางใจได้ จะต้องไม่มีอะไรอย่างแน่นอนค่ะ แผลบนร่างกายของคุณก็ต้องระวังด้วยเหมือนกันนะคะ”
แต่ตอนนี้ทั้งใจของเหยาเย้นนั้นได้อยู่ที่เวินหมิงเฮ่าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ได้สนใจสถานการณ์ในตอนนี้ของตัวเองเลย
ส่วนอีกทางด้านหนึ่ง เวินหงไห่ที่ถูกบอร์ดี้การ์ดจับตัวเอาไว้อยู่นั้นกำลังดิ้นรนอยู่ เห็นว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา จึงตวาดขึ้น
“พวกแกเป็นใคร? ถึงได้กล้าบุกรุกเข้ามาที่ตระกูลเวิน! รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ไม่เชื่อล่ะก็ฉันจะทำให้พวกแกได้รับรู้ถึงผลที่จะตามมา”
เขาด่าออกมาไม่หยุด แต่กลับไม่มีใครสนใจเขา
บอร์ดี้การ์ดทั้งสองคนฟังเพียงแค่คำสั่งของเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินเท่านั้น แล้วลากเขาออกมาจากห้องใต้ดิน
เห็นว่าคำขู่ของตัวเองไม่ได้ผล เวินหงไห่ก็ยิ่งรู้สึกโมโห พูดออกมาอย่างไม่คิด
“พวกแกปล่อยฉัน ไอ้พวกไม่รู้จักเจียมตัว รอให้ฉันออกไปก่อนแล้วก็……”
เขาเพิ่งจะเอ่ยพูดได้เพียงครึ่งเดียวนั้นก็ถูกทั้งสองคนนั้นลากออกมาจากห้องใต้ดิน เห็นสถานการณ์ด้านนอกแล้วนั้นจึงหยุดเสียงลงทันที และแม้แต่การเคลื่อนไหวก็หยุดลงด้วยเช่นกัน สีหน้าซีดเผือดขึ้นมาทันที
เวลานี้คฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลเวิน มีรถตำรวจจอดอยู่ตรงลานกว้าง ตำรวจที่อยู่ในชุดเครื่องแบบสิบกว่านายกำลังยืนอยู่ตรงด้านนอก
และตอนที่เขากำลังตะลึงงงงวยอยู่นั้น แม้แต่เวินฉี่ก็ถูกตำรวจพาตัวออกมาจากในห้องด้วยเช่นกัน
เหยียนเจิ้งได้เปลี่ยนไปใส่ชุดเครื่องแบบของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ดูดีขึ้นมาก เขาสะบัดหมายค้นที่อยู่ในมือออกมา
แล้วเอ่ยพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง : “เราได้รับการแจ้งว่าพวกคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต ตอนนี้ขอให้พวกคุณไปกับพวกเราเพื่อรับการตรวจสอบด้วยครับ”
สีหน้าของเวินฉี่นั้นดูแย่มาก เขาเม้มปาก ถึงแม้จะไม่ได้เอ่ยพูดออกมา แต่ก็ยังสามารถเห็นได้ถึงสีหน้าที่ดูซีดเล็กน้อยของเขา แล้วเดินขึ้นรถตามนายตำรวจสองคนนั้นไป
และส่วนทางเวินหงไห่นั้นก็ตกใจอึ้งไปตั้งแต่แรกแล้ว
เมื่อครู่ที่ห้องใต้ดิน เหยาเย้นบอกกับเขา ว่าข้อมูลเหล่านั้นส่งออกไปแล้ว เขายังไม่เชื่อเลยเสียด้วยซ้ำ
ถึงแม้จะส่งออกไปแล้วจริงๆ คำนึงถึงหน้าตาของตระกูลเวิน ทางฝ่ายนั้นก็ไม่กล้าจะทำอะไรหุนหันพลันแล่นเช่นกัน และยิ่งไปกว่านั้น คดีใหญ่แบบนี้ จะเป็นต้องใช้เวลาเป็นสิบวันหรือครึ่งเดือนกว่าจะมีหนังสือออกมาอย่างเป็นทางการได้ ดังนั้นเขาจึงทำอะไรได้อย่างตามอำเภอใจ
แต่คิดไม่ถึงว่าการเคลื่อนไหวของพวกเขาจะรวดเร็วขนาดนี้
หรือจะมีการวางแผนเอาไว้เป็นอย่างดีแล้ว?
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ตำรวจสองสามคนเดินเข้ามา พลางเอ่ยขึ้น : “เวินหงไห่ คุณก็ไปกับพวกเราด้วยครับ”
ว่าแล้วก็เตรียมพาเขาขึ้นรถ
เวินหงไห่ที่อยู่ในระหว่างอาการใจลอยนั้น นึกอะไรขึ้นมาได้ในทันที จึงหันไปมองยังอีกทางด้านหนึ่ง
เห็นเหยาเย้นกำลังอุ้มเวินหมิงเฮ่ากำลังเตรียมตัวขึ้นรถพยาบาลอยู่ จึงระเบิดความโมโหนี้ขึ้นมาในทันที
เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้!
เธอจะต้องสมรู้ร่วมคิดกับพวกตำรวจ ทรยศตระกูลเวิน
“เหยาเย้น! เวินเที๋ยนเที๋ยน! ฝากไว้ก่อนเถอะ!”
เขาตะโกนขึ้นเสียงสูง เหยาเย้นและเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินเสียงนี้ขึ้น
เมื่อเห็นสายตาของเขาแล้ว เหยาเย้นตกใจเสียจนรีบถอยหลังไป แล้วกอดเวินหมิงเฮ่าเอาไว้แน่น ไม่กล้าเอ่ยพูดออกมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปยังด้านหน้า ขวางอยู่ตรงด้านหน้าของทั้งสองคน มองไปยังแววตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นของเวินหงไห่
ตำรวจได้ยินที่เวลานี้เขายังคงกล้าข่มขู่คนอื่น จึงผลักเขาให้เข้าไปในรถเลยทันที
รอจนไปกันแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้หันกลับมา แล้วเอ่ยพูดขึ้นกับเหยาเย้นที่ตกใจอยู่ขึ้นมา : “ไม่เป็นไรนะ พวกเราไปโรงพยาบาลกันก่อนดีกว่า”
ว่าแล้ว ก็พาเธอขึ้นรถโรงพยาบาลไป เพื่อมุ่งหน้าตรงไปไปที่โรงพยาบาล
ทุกคนของตระกูลเวินนั้นไม่มีใครคิดว่าเรื่องราวจะกะทันหันเช่นนี้
เรื่องที่ตำรวจสองสามคนพุ่งตรงเข้ามา แล้วพาตัวสองพ่อลูกตระกูลเวินไปนั้น ไม่นานก็แพร่กระจายไปทั่วทุกตรอกทุกซอย รู้กันแทบจะทุกคนเลยก็ว่าได้
ครั้งนี้ตระกูลเวินเผชิญกับความยุ่งยากครั้งใหญ่แล้ว
แต่เนื่องจากสถานะที่แตกต่างกัน กลับไม่มีใครกล้าพูดกันถึงเรื่องนี้อีก