เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 706 เอาตุ๊กตาภาพวาดมงคลหนึ่งโหล
บทที่ 706 เอาตุ๊กตาภาพวาดมงคลหนึ่งโหล
“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นนะคะ”
ว่าแล้ว เหยาเย้นก็หันไปยิ้มกับเวินเที๋ยนเที๋ยน นัยน์ตานั้นเต็มไปด้วยความหวังที่จุดประกายขึ้นมาอีกครั้ง
เห็นท่าทางที่มีชีวิตชีวาของเธอแล้วนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกดีใจตามไปด้วย
ที่ผ่านมาสามสิบกว่าปี ชีวิตของเหยาเย้นนั้นถูกบังคับมาโดยตลอด ถูกจัดการเรื่องชีวิตแต่งงาน ถูกควบคุมชีวิต ถูกคนจำนวนไม่น้อยที่ควบคุมเอาไว้ในมือ
ตอนนี้ผ่านเรื่องราวที่ยากลำบากมามากมายขนาดนี้แล้ว ในที่สุดก็สามารถควบคุมชีวิตตัวเองได้จริงๆอีกครั้ง
สำหรับคนอื่นๆส่วนมากนับว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับเหยาเย้นแล้ว กลับเป็นประสบการณ์ครั้งแรก และเป็นความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดให้กับเธอด้วยเช่นกัน
ชีวิตของคนคนหนึ่งมีเพียงตอนที่สามารถควบคุมด้วยมือของตัวเองเท่านั้น ถึงจะสามารถผลิบานแสงแวววาวของตัวเองได้
หลังจากเยี่ยมเวินหมิงเฮ่าที่ฟื้นขึ้นมาแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้จิ่งเชินถึงได้กลับไป
ในขณะเดียวกันนั้นเรื่องราวเกี่ยวกับตระกูลเวินก็ได้แพร่กระจายไปทั่ว คนทั้งประเทศไม่มีใครไม่รู้เรื่องนี้
ทุกคนต่างก็พากันคาดเดาถึงบทสรุปของตระกูลเวิน ตระกูลเวินที่ควบคุมเมืองหลวงมากว่าร้อยปีจะถอนตัวออกจากเวทีประวัติศาสตร์เพราะเรื่องนี้หรือไม่?
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม จากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ สภาพประเทศที่แบ่งเป็นสามก๊กนั้นได้สลายตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผู้ยิ่งใหญ่สามตระกูลในตอนนั้นเหลือเพียงแค่สองตระกูลเพียงเท่านั้น แต่เนื่องจากความสัมพันธ์ที่พิเศษของเวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้จิ่งเชิน ทั้งสองตระกูลใหญ่จึงรวมกันเป็นหนึ่งเดียว กลายเป็นเพียงตระกูลเดียวที่อยู่เหนือคนอื่นๆ เป็นตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงที่ไม่มีใครทำให้สั่นคลอนได้
ในขณะที่ทีมสอบสวนกำลังตรวจสอบเรื่องของตระกูลเวินอย่างเข้มข้นนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ได้กลับมาถึงคฤหาสน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ใกล้ช่วงสิ้นปี งานของกิจการก็เข้าสู่ช่วงปลาย นับว่าเป็นเรื่องยากที่จะสามารถผ่อนคลายลงมาได้
หลังจากที่หิมะตกหนักมาเป็นเวลาหลายวันติดต่อกัน ตรงลานกว้างนั้นถูกปกคลุมไปด้วยสีขาวทั้งผืน ห่อหุ้มด้วยสีเงิน ชวนให้นึกถึงสถานที่ในเทพนิยายยิ่งนัก
เวินเที๋ยนเที๋ยนตื่นขึ้นมาแต่เช้า จากการยืนกรานของจี้จิ่งเชินให้เธอใส่ชุดให้แน่นหนา แล้วจึงมาเริ่มกวาดหิมะกับพวกพ่อบ้าน
กำแพงดอกกุหลาบจะต้องคลุมด้วยพรมเพื่อรักษาอุณหภูมิใหม่อีกครั้ง รอจนช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะผลิดอกขึ้นมาอีกครั้ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนห่อหุ้มเสียจนเหมือนกับลูกบอลหิมะ กระโดดโลดเต้นวิ่งไปมาอยู่ในสวนดอกไม้ และยื่นโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปเป็นครั้งคราว
จี้จิ่งเชินมองลงมาจากทางชั้นสอง สายตาของเขามองตามก้อนกลมๆสีแดงที่วิ่งไปวิ่งมาอยู่บนพื้นหิมะ ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดู
ตอนที่กวาดหิมะอยู่นั้นจะเห็นดอกกุหลาบนอกฤดูกาลที่ขึ้นอยู่ตรงบางมุม และมีบางดอกที่เป็นดอกตูมอีกด้วย
เวินเที๋ยนเที๋ยนถ่ายรูปด้วยใบหน้าที่รู้สึกเซอร์ไพรส์ หันมาเพื่อเตรียมจะวิ่งเข้ามายังด้านในคฤหาสน์ ก็เห็นจี้จิ่งเชินที่กำลังมองลงมา
เธอเงยหน้าขึ้น แล้วมองไปยังจี้จิ่งเชินที่ยืนอยู่ตรงหน้าต่างของห้องหนังสือชั้นสอง แล้วรีบโบกมือให้เขา
จี้จิ่งเชินมองเธออยู่ไกลๆ ภาพในช่วงปีใหม่ปรากฏขึ้นมาในหัวอย่างไม่ตั้งใจ ที่คนสมัยก่อนมักจะชอบเอาภาพวาดตุ๊กตามงคลมาติดไว้ที่กระจก มุมปากยกขึ้นมาเล็กน้อย
เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเริ่มเดินกลับเข้ามาแล้ว จึงหันมาหยิบเอาเสื้อคลุมแล้วเดินออกมา เพื่อต้อนรับเธอตรงหน้าประตู
เวินเที๋ยนเที๋ยนวิ่งเข้ามาด้วยความดีอกดีใจ
“จี้จิ่งเชิน ปีนี้ฉันหาดอกไม้เจออีกแล้วนะคะ”
เธอชูโทรศัพท์มือถือในมือขึ้นมาให้จี้จิ่งเชินดูรูปถ่ายพลางเอ่ยขึ้น : “ครั้งนี้จะต้องดูแลให้ดีๆนะคะ ถ้าหากได้รับความเย็นอีกอาจจะเฉาตายก็ได้”
จี้จิ่งเชินยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ดอกกุหลาบในรูปนั้นยังคงเป็นดอกตูมอยู่ กลีบดอกยังไม่บานออก ด้านบนยังมีเกล็ดหิมะหล่นลงมา แล้วเอ่ยพูดขึ้น : “มีคนสวนดูอยู่ ไม่เป็นอะไรหรอกครับ”
ว่าแล้ว เขาก็ยื่นมือดึงมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามา แล้วลูบเบาๆ แล้วจึงขมวดคิ้วขึ้น
ตอนเช้าที่เวินเที๋ยนเที๋ยนบอกว่าจะไปขุดหิมะตรงลานบ้าน จี้จิ่งเชินก็ให้เธอคลุมตัวเองอย่างแน่นหนาตั้งแต่หัวจรดเท้า ใส่ถุงมือหนาและหมวก มีเพียงแค่ดวงตาที่ปรากฏออกมาทางด้านนอกเท่านั้น กลัวว่าเธอจะหนาวเสียจนเป็นหวัดไปเสียก่อน
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าให้เธอปกป้องตัวเองอย่างแน่นหนาเช่นนี้แล้ว ถึงมือก็ยังคงชื้นอยู่ดี
เมื่อครู่ดูเหมือนเวินเที๋ยนเที๋ยนจะเล่นหิมะอยู่พักหนึ่ง หลังจากหิมะละลายแล้วถุงมือจึงเปียกชื้น กลายเป็นความเย็นขึ้นมา
จี้จิ่งเชินยกมือขึ้น แล้วถอดถุงมือออกมาจากมือของเธอ แล้วลูบดู รู้สึกถึงความเย็นตรงฝ่ามือของเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ
“เล่นหิมะไม่ได้นะครับ ถุงมือเปียกแล้วก็ต้องรีบเปลี่ยน ไม่อย่างนั้นจะบาดเจ็บได้จากอากาศหนาวๆนี้นะครับ”
ว่าแล้วก็ถอดถุงมือของตัวเองออก แล้วสวมให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดู มือของจี้จิ่งเชินใหญ่ แม้แต่ถุงมือก็ใหญ่กว่าของเธอหนึ่งเบอร์ มือของตัวเองที่ว่างอยู่ด้านในนั้นดูโล่งๆ
เธอแกว่งมือไปมา เห็นมือทั้งสองข้างของจี้จิ่งเชินอยู่ในอากาศหนาวๆเช่นนี้แล้ว จึงถึงมือเขาเข้ามา พลางยิ้มและเอ่ยขึ้น : “เราใช้ด้วยกันนะคะ”
ว่าแล้ว ก็เอามือของจี้จิ่งเชินยัดลงไปด้วย
ถุงมือใหญ่ขนาดนี้ ไม่คิดว่าจะสามารถบรรจุมือของทั้งสองคนเอาไว้ได้ ถึงแม้จะแน่นไปเสียหน่อย แต่ก็เป็นการใกล้ชิดกันอย่างเห็นได้ชัด
และประกอบกับมือของจี้จิ่งเชินนั้นมีความอบอุ่นเป็นอย่างมาก ราวกับเป็นเตาผิงขนาดใหญ่อย่างไรอย่างนั้น มือของเขาห่อหุ้มมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้
และไม่นานนิ้วมือเย็นๆนั้นก็อบอุ่นขึ้นมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนหรี่ตาลงด้วยความรู้สึกสบายๆ “งานเสร็จแล้วหรือคะ?”
“ใกล้แล้วล่ะครับ รายการของบริษัททางนั้นถึงขั้นตอนสุดท้ายของเคลียร์บัญชีแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าลง หันมาสบตาแล้วความคิดหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาทันที
จู่ๆเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ก้มลง แล้วเก็บหิมะบนพื้นขึ้นมาปั้นเป็นลูกกลมๆ พลางเอ่ยขึ้น : “แบบนี้เรามาเล่นสงครามขว้างหิมะกันดีกว่าค่ะ”
ว่าแล้วก็ชูลูกบอลหิมะในมือขึ้นมา แล้วขว้างไปยังแม่ครัวและคนขับรถที่อยู่ไม่ไกล
ลูกบอลหิมะหล่นลงตรงหัวไหล่ของคนขับรถพอดี แล้วล่วงกระจายลงที่พื้น
คนคนนั้นอึ้งไปพักหนึ่งถึงได้มีปฏิกิริยาตอบกลับมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบหลบตรงด้านหลังของจี้จิ่งเชิน แล้วเอ่ยพูดกับพวกเขา : “เรามาเล่นขว้างหิมะกันดีกว่า ฉันอยู่ทีมเดียวกับจี้จิ่งเชิน ใครชนะปีใหม่ก็จะได้อังเปาซองใหญ่!”
ว่าแล้วเธอก็หยิบลูกบอลหิมะขึ้นมา ซ่อนเอาไว้ด้านหลังของจี้จิ่งเชินแล้วใช้แรงขว้างออกไป
แม่ครัวและคนขับรถได้ยินแล้ว ก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที แล้วต่างก็พากันก้มลงหยิบเกล็ดหิมะบนพื้นขึ้นมา
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นอาศัยการเคลื่อนไหวที่คล่องตัว และยังมีจี้จิ่งเชินที่เต็มใจเป็นเกราะป้องกัน เป็นทั้งฝ่ายรุกและฝ่ายรับ
ทันใดนั้นไม่คิดว่าแม่ครัวและคนขับรถจะต่อรอง ดึงเอาบอร์ดี้การ์ดและพ่อครัวที่ดูพวกเขาเล่นกันอยู่ข้างๆเข้ามาร่วมทีมด้วย
ตรงลานกว้างนั้นดูวุ่นวาย มีเสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่เพิ่งจะโยนลูกบอลหิมะออกไปนั้น ก็รีบหลบอยู่ทางด้านหลังของจี้จิ่งเชินอีกครั้ง
แต่คนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นก็ยิ่งมีมากขึ้น ทั้งสองคนจึงไม่สามารถรับมือได้เลย
และเพิ่งจะยื่นหน้าออกมาเพื่อตอบโต้นั้น กลับพบว่าทั้งสองคนถูกล้อมเอาไว้แล้วเสียอย่างนั้น ลูกบอลหิมะถูกโยนมาจากรอบทิศ
แย่แล้ว พวกเขาอาจจะถูกหิมะกลบเอาได้
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น จี้จิ่งเชินยื่นมือออกมาแล้วโอบเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามากอดเอาไว้ แล้วกอดเธอเอาไว้แน่น
ตุบ ลูกบอลทั้งหมดขว้างมาหล่นโดนร่างของจี้จิ่งเชิน
คนในคฤหาสน์ตอนนี้ไม่ได้กลัวจี้จิ่งเชินอยู่แล้ว เห็นเขาบังอยู่ด้านหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยนควรจะโจมตีก็ต้องตีต่อ
และไม่นาน ใต้เท้าของจี้จิ่งเชินก็มีหิมะกองอยู่เป็นชั้น และศีรษะของเขานั้นก็เติมไปด้วยเกล็ดหิมะ และบนคิ้วของเขาก็มีน้ำแข็งละเอียดๆติดอยู่อีกด้วย เขาหลุบตาลงเล็กน้อย ไม่ขยับเขยื้อน เต็มใจที่จะเป็นเกราะกำบังที่แข็งแกร่งที่สุดให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยน