เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 711 วิธีการทางวิทยาศาสตร์
บทที่ 711 วิธีการทางวิทยาศาสตร์
“ผมพูดความจริงทุกอย่าง”
จู่ๆ จี้จิ่งเชินก็เอ่ยขึ้นมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ เห็นจี้จิ่งเชินไม่ได้หลอกเธออยู่จริงๆ ก็รู้สึกอายขึ้นมา หลบเลี่ยงสายตาไม่หยุด ใบหน้าเริ่มแดงระเรื่อขึ้นอย่างช้าๆ
สายตาของจี้จิ่งเชินมองเธออยู่ตลอดเวลา เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งถูกมองก็ยิ่งประหม่า รีบร้อนนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างแล้วหยิบเบ็ดตกปลาขึ้นมา
ลนลานพูด “ในเมื่อหยิบเหยื่อตกปลามาแล้ว ก็รีบตกปลาเถอะ เย็นมากแล้ว ถ้าตกปลาไม่ได้ ตอนเย็นจะไม่มีอะไรทาน”
เธอรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างรวดเร็ว จี้จิ่งเชินรู้ทันความคิดของเธอ แต่ก็ไม่ได้ทักท้วง กลับยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย มองเวินเที๋ยนเที๋ยนที่หน้าเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ
เขาเดินเข้ามานั่งข้างเวินเที๋ยนเที๋ยน มองอีกฝ่ายที่จ้องแต่คันเบ็ดของตัวเองอย่างประหม่า ท่าทางสงบเสงี่ยมเรียบร้อย ดูจริงจังกว่าใคร
จี้จิ่งเชินจึงเอื้อมมือไปจับมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนมา สิบนิ้วสอดประสานกันกุมไว้ในมือ
“เที๋ยนเที๋ยน…..”
เขาเอ่ยปาก แต่กลับไม่ได้พูดอะไรต่อ เรียกชื่อเธอหนึ่งครั้งและหยุดไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนประหม่าเล็กน้อย แม้จะไม่พูด แต่หน้ากลับยิ่งแดงขึ้นเรื่อยๆ
ในทะเลสาบนี้มีปลาอาศัยอยู่ไม่น้อยทั้งยังเซ่อซ่า
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่ตกปลาเป็นครั้งแรก เพียงไม่นานก็ตกปลาขนาดพอๆ กับฝ่ามือได้ ใส่ลงไปในถังที่วางอยู่ข้างๆ ที่เตรียมไว้อยู่ก่อนแล้ว
เธอเข้าไปดูใกล้ๆ อย่างชอบใจ จี้จิ่งเชินก็ตกปลาได้อีกหนึ่งตัวแล้ว ดูท่าแล้วอาหารเย็นมือนี้ของพวกเขาคงไม่ต้องอดแล้ว
นั่งอยู่ริมทะเลสาบสักพัก จนกระทั่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตก คนจำนวนมากมากเริ่มเดินทางกลับบ้าน ในถังมีปลาอยู่สามตัวแล้ว ทำเป็นอาหารมื้อเย็นได้พอดี ทั้งสองจึงเก็บอุปกรณ์ตกปลาแล้วกลับไปที่เต็นท์
เตรียมของที่ต้องย่างเสร็จ ก่อนออกเดินทางคุณนายหล่อนยังช่วยเตรียมอาหารปรุงสุกและเนื้อหมักให้พวกเขา รวมๆ กันแล้วก็มีของอยู่ไม่น้อย เหลือเฟือสำหรับอาหารเย็นหนึ่งมื้อแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองปลาสามตัวที่นำกลับมาด้วย กำลังเตรียมหยิบไปล้างให้สะอาดที่ริมทะเลสาบ แต่จี้จิ่งเชินขวางเธอเอาไว้ก่อน
“น้ำเย็นเกินไป ผมไปเอง”
“คุณ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนลังเลเล็กน้อย
จี้จิ่งเชินไม่ชอบปลา ทนกลิ่นคาวปลาไม่ได้ ขนาดปลาที่ปรุงสุกแล้วเขาก็ยังทนไม่ได้ แล้วกลิ่นคาวของปลาสดๆ จะไม่ยิ่งหนักกว่าหรือ?
และก่อนหน้านี้ที่ปราสาทเก่า จี้จิ่งเชินมีประสบการณ์ทำอาหารเพียงไม่กี่ครั้ง เธอจึงสงสัยเล็กน้อย
แต่จี้จิ่งเชินมุ่งมั่นมาก เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงได้แต่เอ่ย: “ก็ได้ ล้างแค่สองตัวก็พอแล้ว คุณนายหล่อนยังช่วยเตรียมของกินไว้ให้พวกเราไม่น้อย ล้างเยอะก็อาจจะทานไม่หมด เหลือไว้หนึ่งตัวให้คุณนายหล่อนพรุ่งนี้เถอะ”
จี้จิ่งเชินพยักหน้า หยิบปลาขึ้นมาสองตัวแล้วเดินไปที่ริมทะเลสาบ
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงไม่วางใจ หลังจากเห็นเขาเดินไปแล้วก็เดินตามไปอย่างระมัดระวัง
เห็นจี้จิ่งเชินนั่งอยู่ที่ริมทะเลสาบ มือข้างหนึ่งถือมีดอยู่ แต่คิ้วกลับย่นเข้าหากันแน่น ภาพจ้องปลาที่หายใจพะงาบอยู่ในกะละมังเขม็งท่าทางเอาจริงเอาจัง สีหน้าเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก ราวกับกำลังตัดสินใจเรื่องใหญ่
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่มองอยู่ไกลๆ อดไม่ได้จะหัวเราะให้กับท่าทางนั้นของจี้จิ่งเชิน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแอบถ่ายรูปไว้ เตรียมเอากลับไปให้พวกพ่อบ้านดู
ที่จริงแล้วก่อนมาจี้จิ่งเชินได้อ่านข้อมูลมามากมาย หนึ่งรายการในนั้นคือเกี่ยวกับวิธีจัดการกับปลาสด
ตอนนี้มองปลาที่อยู่ตรงหน้า กลิ่นคาวปลาเข้มข้นทะลุเข้าจมูกตลอดเวลา ในสมองของเขาปรากฏขั้นตอนวิธีการต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์อย่างรอบคอบไม่หยุด
หลังจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่างในหัวแล้ว จี้จิ่งเชินจึงลงมีดแล่ปลาเป็นสองท่อน
เวินเที๋ยนเที๋ยนี่มองเขาจากที่ไกลๆ เห็นการเคลื่อนไหวของเขาที่ถือว่ายังชำนาญอยู่ จึงหมุนตัวกลับไปที่เต็นท์ หยิบอาหารและเนื้อหมักที่คุณนายหล่อนช่วยเตรียมให้พวกเขาออกมา
จี้จิ่งเชินไม่ค่อยชอบทานปลา น่าจะชอบทานเนื้อย่างมากกว่า เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดพลางรีบทาน้ำจิ้มลงไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อจี้จิ่งเชินกลับมา ปลาทั้งสองตัวก็ถูกล้างจนสะอาด นอนอยู่บนจานอย่างเรียบร้อย
แต่สีหน้าของจี้จิ่งเชินก็เคร่งขรึมเช่นกัน เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นเขาเดินเข้ามา แวบแรกในหัวปรากฏภาพของทหารที่กลับจากสนามรบมาถึงบ้าน
แค่ฆ่าปลาตัวหนึ่งก็เท่านั้น ยังเคร่งขรึมเสียขนาดนี้
นำปลาหมักพักไว้ข้างๆ เวินเที๋ยนเที๋ยนส่งเนื้อย่างที่เตรียมเสร็จก่อนนี้มาให้ตรงหน้าจี้จิ่งเชิน
“คุณลองชิมดู รสชาติเป็นอย่างไรบ้าง?”
จี้จิ่งเชินไม่ได้ยกมือขึ้นมา ลดศีรษะลงมาเล็กน้อยชิมจากที่ส่งเวินเที๋ยนเที๋ยนส่งให้
“ใช้ได้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนอารมณ์ดีในทันใด พูดอย่างดีใจ: “ไม่ได้มีแค่เนื้อ ยังมีผักสดอีก ถึงตอนนั้นสามารถย่างด้วยกันได้”
ทานผักและเนื้อย่างไปเล็กน้อย รอจนปลาหมักได้ที่แล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงนำไปย่างบนเตา
ถ่านไฟสีแดงร้อนแรงแผ่ความร้อนออกมาตลอดเวลา ย่างจนส่วนที่เป็นน้ำในเนื้อปลาแห้งไปแล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง เสียงของที่ย่างอยู่ดังขึ้น ทำให้คนที่ได้ยินถึงกับน้ำลายสอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนทาซอสปรุงรสสองชั้นลงไปด้านบน หลังจากพลิกไปมาไม่กี่ครั้งก็พลิกได้อย่างคล่องมือ
เดิมยังเป็นห่วงจี้จิ่งเชินจะไม่ชอบกลิ่นคาวของปลาย่าง แต่คิดไม่ถึงว่าจี้จิ่งเชินชิมไปเพียงคำเดียวกลับรู้สึกว่าก็ไม่เลว
อาจจะเพราะกลิ่นคาวปลาในทะเลสาบนั้นไม่แรงมาก บวกกับซอสที่ปรุงเป็นพิเศษกลบกลิ่นคาวไป จี้จิ่งเชินจึงทานอย่างชอบใจไปหนึ่งตัว
แต่เทียบกับเนื้อวัวแล้ว ตอนนี้จี้จิ่งเชินชอบอย่างหลังมากกว่า กวาดกินเนื้อย่างที่เวินเที๋ยนเที๋ยนทำจนเกลี้ยง
ท้องฟ้าเริ่มมืดลง สองคนจึงช่วยกันจัดการทำความสะอาด เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปดูในเต็นท์ กังวลเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะนอนกันสองคนได้หรือไม่
เธอคิดพลางลองนอนลงไป ผ้านวมอ่อนนุ่มมีกลิ่นหอมของไอแดด เวินเที๋ยนเที๋ยนดมๆ แล้วหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
จี้จิ่งเชินเดินเข้ามา มองเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนที่นอนกอดผ้านวมกำลังหลับลึก จำได้ว่าวันนี้ตอนค่ำยังมีกิจกรรมอื่นอีก จึงไม่ได้ปลุกเธอและช่วยห่มผ้าให้เธอ แล้วหมุนตัวเดินออกไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อถูกจี้จิ่งเชินปลุก
“เที๋ยนเที๋ยน เวินเที๋ยนเที๋ยน”
น้ำเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นข้างหูไม่หยุด เวินเที๋ยนเที๋ยนยังง่วงอยู่เล็กน้อย รู้สึกอุ่นสบายไปทั้งตัว ดิ้นไปดิ้นมา หาตำแหน่งสบายเพื่อนอนต่อ
แต่เมื่อดิ้นได้สักครู่ กลับรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“เที๋ยนเที๋ยน? ตื่นแล้วเหรอ?”
เสียงของจี้จิ่งเชินดังขึ้นที่ข้างหูอีกครั้ง เวินเที๋ยนเที๋ยนจำต้องลืมตาขึ้น แล้วจึงเห็นใบหน้าของจี้จิ่งเชินอยู่ตรงหน้าตนเอง
ตนเองตอนนี้ไม่ได้นอนอยู่ในเต็นท์ แต่ถูกจี้จิ่งเชินอุ้มออกมา โดยมีผ้าห่มพันรอบตัวไว้ด้วย
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่พันเป็นก้อน ถูกจี้จิ่งเชินอุ้มไว้ในอ้อมแขน
เธอง่วงนอนเล็กน้อย ขยี้ตามองจี้จิ่งเชิน
“ตอนนี้กี่โมงแล้ว?”
“เช้ามืดตีสาม”
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยิน ก็มองเขาอย่างแปลกใจ นัยน์ตาปรากฏความงงงวย
จี้จิ่งเชินลดศีรษะลงจูบลงบนหางตาของเธอ
“ยังจำเซอร์ไพรส์ที่ผมบอกคุณได้ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าอย่างงุนงง ก่อนออกเดินทาง จี้จิ่งเชินเคยบอกไว้ว่าหลังจากมาถึงที่ตั้งแคมป์แล้วยังมีเซอร์ไพรส์อีกอย่างรอเธออยู่