เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 719 จะอยู่ที่นี่ตลอดไป
บทที่ 719 จะอยู่ที่นี่ตลอดไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนหน้าแดง อยากให้คนสวนรื้อตุ๊กตาสองตัวที่กำลังจูบกันนั้นเสีย
แต่จี้จิ่งเชินนั้นกลับพอใจเป็นอย่างมาก ถึงกับขอให้คนสวนที่คอยดูแลอยู่ทุกวัน ก่อนที่ฤดูหนาวจะผ่านไป อย่าให้ตุ๊กตาหิมะทั้งคู่ละลายเด็ดขาด ต้องเติมหิมะใหม่เพิ่มเขาไปทุกวัน ตุ๊กตาหิมะสองตัวนี้จึงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้ทุกครั้งที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินผ่านสวน หน้าแดงอย่างห้ามไม่ได้
แม่ครัวกลับเป็นห่วงเล็กน้อยเอ่ย: “คุณหนูถึงแม้ว่าช่วงนี้จะอยู่ปราสาทเก่าตลอด แต่ในเมื่อเป็นงานแต่งงาน กำหนดการที่ต้องไปก็อย่าลืม ส่งไปที่ตระกูลหล่อนก่อนจะดีมาก จะได้ไม่เป็นขี้ปากคนอื่น”
จี้จิ่งเชินแม้จะไม่อยากให้เวินเที๋ยนเที๋ยนออกจากปราสาทเก่าไปไหน แต่ได้ยินแม่ครัวพูดว่านี่อาจจะไม่เป็นผลดีต่อเวินเที๋ยนเที๋ยน จึงได้แต่ตกลง
นับตั้งแต่เวินเที๋ยนเที๋ยนย้ายออกจากคฤหาสน์ของตระกูลหล่อน ก็ไม่เคยกลับไปอีกเลย ต่อมาคุณนายหล่อนและเวินหงหยู้แยกไปอยู่ที่วิลล่าบนเขา ฉวีผิงและคนอื่นๆ ไม่ได้ติดตามมาด้วย แต่กลับอยู่คอยดูแลที่คฤหาสน์
คฤหาสน์แห่งนี้เป็นมรดกของตระกูลหล่อนเมื่อร้อยปีก่อน มูลค่าสูงถึงร้อยล้าน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสมบัติหายากที่เก็บสะสมไว้ข้างใน ยิ่งไม่ธรรมดา
เดิมคิดว่าเหลือเพียงพ่อบ้านฉวีผิงและอีกไม่กี่คน คฤหาสน์จะเงียบสงบ
แต่เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังเดินเข้าประตูใหญ่ของตระกูลหล่อน ได้ยินเสียงหัวเราะดังลอยมาจากข้างใน
เธอแปลกใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าพ่อบ้านชั้นดีพวกเขาคุ้นเคยกับชีวิตตอนนี้เป็นอย่างดี
เวินเที๋ยนเที๋ยนยกเท้าก้าวเข้าไปอย่างเบาใจ เสียงพูดคุยนั้นดังขึ้นเรื่อยๆ พร้อมเสียงหัวเราะอย่างไม่ทันระวัง
ไม่คุ้นเคยกับเสียงของทั้งสองเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์ของตระกูลหล่อน ก็เหมือนว่าจะไม่เคยได้ยินมาก่อน
หรือว่าจะเป็นคนมาใหม่?
เธอกำลังสงสัย เดินเข้าห้องรับแขกไป เมื่อมองเห็นทั้งสองที่นั่งอยู่ข้างใน ก็คิ้วขมวดในทันที
“พวกคุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
คนที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกตอนนี้ คือลูกสาวและภรรยาของหล่อนเจี้ยนกั๋ว หล่อนยเจียนีกับหลิวเหม่ยหลัน
ตอนเวินเที๋ยนเที๋ยนพนันกับหล่อนเจี้ยนกั๋ว เพื่อที่จะช่วยพ่อของเธอหล่อนเจียนีได้ไปหาเรื่องที่กองถ่ายหลายครั้ง ดังนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนจึงคุ้นเคยกับเธอดี
แต่หลิวเหม่ยหลันที่อยู่ข้างๆ ถึงแม้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่เคยเจอมาก่อน แต่ก็เคยอ่านข้อมูลของเธอมาก่อน
หลังจากเรื่องที่หล่อนเจี้ยนกั๋วยักยอกเงินบริษัทถูกเปิดโปงแล้วติดคุกนั้น ทั้งสองคนก็หายไป คิดไม่ถึงว่าจะเห็นพวกเขาที่คฤหาสน์ของตระกูลหล่อน
หลิวเหม่ยหลันตรงหน้าเธอนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ไม้แบบโบราณ ทั้งสองคนพูดไปหัวเราะไปพลางแทะเมล็ดแตงโม เปลือกเรี่ยราดเต็มพื้น
เมื่อสักครู่เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้ามาจากข้างนอกก็ได้ยินเสียงหัวเราะของทั้งสองคนที่กำลังคุยกัน
พวกเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
และตนเองก็ไม่ได้รับข่าวสารใดๆ มาก่อน
หล่อนเจียนีกับหลิวเหม่ยหลันอาศัยความสัมพันธ์ของตนกับตระกูลหล่อน ใช้อำนาจบีบบังคับอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลหล่อน ไล่ยังไงก็ไม่ไป
พ่อบ้านฉวีผิงพยายามใช้วิธีต่างๆ แล้วหมดหนทางที่จะไล่ทั้งสองคนไป
หลังจากทั้งสองคนย้ายเข้ามา ยิ่งไปกว่านั้นทำราวกับคฤหาสน์ตระกูลหล่อนเป็นบ้านของตนเอง ทำทุกอย่างตามอำเภอใจ ทำให้หลายคนลำบากจนพูดไม่ออกแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
เดิมคิดว่ารอให้ทั้งสองคนเล่นจนพอใจแล้วจากไปเอง แต่ไม่คิดว่าพวกเขายิ่งอยู่ยิ่งไม่สั่นคลอน ไม่ได้มีความคิดที่จะไปตั้งแต่แรก
ในตอนนี้นั่นเอง ที่เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบกลับมาเพราะเรื่องงาน จึงเจอพวกเขาพอดี
หล่อนเจียนีและหลิวเหม่ยหลันได้ยินเสียง จึงหันกลับมามอง เมื่อเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนก็กัดฟันกรอดทันที มองเธออย่างจงเกลียดจงชัง
“เวินเที๋ยนเที๋ยน!”
หล่อนเจียนีกัดฟันลุกขึ้นจากเก้าไม้โบราณ พุ่งมาทางเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอี้ยวตัวหลบเลี่ยงเธอ
เธอมองทั้งสองคน
“พวกคุณเข้ามาได้อย่างไร? ออกไป!”
หล่อนเจียนีคว้าได้เพียงอากาศ เกือบจะล้มลงบนพื้น ก็ยิ่งกัดฟันกรอด
“คุณมีสิทธิ์อะไรมาไล่พวกเราไป? ฉันก็เป็นลูกหลานตระกูลหล่อนเหมือนกัน แน่นอนว่ามีสิทธิ์ที่จะอยู่ที่นี่! คุณทำลายครอบครัวของฉัน ฉันก็จะอยู่ในบ้านของคุณ!”
“ทำไม? หรือแม้แต่ฉัน คุณก็อยากส่งเข้าไปในคุก?”
หลิวเหม่ยหลันเองก็จำได้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือเวินเที๋ยนเที๋ยน ยิ่งเคียดแค้นชิงชังเธอ พูดเสียงแข็ง: “คุณเองอยู่ที่บ้านของคนอื่น กินอยู่สบาย ยังไม่ยอมให้พวกเราเข้ามาอยู่ ถ้าผู้อาวุโสของตระกูลหล่อนรู้เข้า ว่าผู้นำคนปัจจุบันเป็นแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะโกรธตายไหม?”
“ถูกต้อง อย่างไรซะฉันก็จะอยู่ที่นี่ ใครก็อย่าคิดที่จะมาไล่”
พูดจบ หล่อนเจียนีก็หมุนตัวกระแทกกระทั้นนั่งลงบนเก้าอี้โดยไม่ยอมขยับ
ฉวีผิงและคนอื่นๆ ที่ได้ยินเสียงจึงรีบเข้ามา เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่ในห้องรับแขก สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที
เดิมพวกเขากะว่าจะไม่รบกวนเวินเที๋ยนเที๋ยนและคุณนายหล่อน ไล่ทั้งสองคนออกไปเองก็พอแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าแม่ลูกคู่นี้จะหน้าหนาเกินกว่าที่เขาคิดไว้ วิธีที่ตนเองคิดนั้นไม่ได้ผล ยืดเยื้อมาจนถึงตอนนี้
วันนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนมาแล้ว จึงรีบร้อนเดินเข้าไป
เห็นเปลือกเมล็ดแตงโมบนพื้น สีหน้าก็ยิ่งน่าเกลียด
หลายวันมานี้หล่อนเจียนีกับหลิวเหม่ยหลันอยู่ในคฤหาสน์ หาเรื่องเดือดร้อนให้เขาไม่น้อย วางของเรี่ยราดก็แล้ว ยังทำของตกทอดจากบรรพบุรุษแตกอีก
ทุกคนล้วนถูกทำให้ลำยากจนอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ แต่พวกเขาจนถึงตอนนี้กลับไม่มีแม้สักเสี้ยวของความสำนึกผิด
เขารีบร้อนเดินเข้าไป โค้งให้เวินเที๋ยนเที๋ยน เอ่ยขอโทษ: “ขออภัย คุณหนู ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้แจ้งเรื่องนี้กับคุณ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นฉวีผิงมาแล้ว จึงสอบถาม: “เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาสองคน?”
ฉวีผิงปรายตามองแม่ลูกคู่นั้น เอ่ยอย่างลำบากใจ: “พวกเขาสองคนมาที่นี่วันที่ประกาศโทษหล่อนเจี้ยนกั๋ว เพื่อจะไม่รบกวนวันหยุดของคุณกับคุณนายหล่อน จึงไม่ได้แจ้งพวกคุณแต่ว่าจะไล่อย่างไรก็ไม่ไป…..”
“คุณหนู เป็นความผิดของพวกเราเอง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนโบกมือ
“ไม่เกี่ยวกับพวกคุณหรอก”
ความไร้เหตุผลของหล่อนเจียนี เวินเที๋ยนเที๋ยนเคยประสบพบเจอมันมาก่อน
เพราะสถานะของฉวีผิงทำให้ไม่กล้าเอ่ยตามตรง จึงได้เพียงแต่พูดออกมาอย่างอ้อมๆ
แต่ตามนิสัยของหล่อนเจียนีกับหลิวเหม่ยหลันแล้ว ต่อให้ฟังน้ำเสียงของฉวีผิงออกว่าหมายความว่าอย่างไร ก็ไม่มีทางออกไปเด็ดขาด
เมื่อเห็นท่าทางของพวกเธอที่ตัดสินใจว่าจะอยู่ที่นี่อยู่แล้ว
ฉวีผิงได้โทษตนเองเป็นอย่างมาก ตอนที่คุณนายหล่อนไป ได้มอบหมายให้เขาดูแลเวินเที๋ยนเที๋ยนให้ดี ไม่ให้เธอโดนรังแก
แต่ตอนนี้ ตนเองแม้แต่คฤหาสน์หลังนี้ก็ปกป้องไว้ไม่ได้ ยังต้องให้เวินเที๋ยนเที๋ยนออกหน้า…..
เขาถอนหายใจ พูด: “ผมดูแล้วเหมือนพวกเธอต้องการจะอยู่ที่นี่ตลอดไปเลย ทำอย่างไรดี?”
“แน่นอนว่าจะอยู่ที่นี่ตลอดไป!” ได้ยินที่ฉวีผิงพูดแล้ว หลิวเหม่ยหลันที่นั่งอยู่อีกด้านก็แทรกขึ้นมา พูดไปตามตรง: “นี่เป็นคฤหาสน์ที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษตระกูลหล่อน พวกเราเป็นของตระกูลหล่อน ก็ต้องอยู่ที่นี่ได้แน่นอน ทำไมเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ที่นี่ได้ พวกเราจะอยู่ไม่ได้?”
“อย่าลืมว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนอีกครึ่งหนึ่งเป็นเลือดผสม แต่เป็นตระกูลเวิน หล่อนเจียนีของพวกเราถึงเป็นคนตระกูลหล่อนอย่างแท้จริง ที่เวินเที๋ยนเที๋ยนจะมาเทียบไม่ได้”
พูดพลางปราดตามองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างไม่พอใจ
“ใครจะรู้ว่าต่อไปเธอจะยกของตระกูลให้พวกฝั่งตระกูลเวินหรือเปล่า?”