เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 726 ทุบคุณจนกลายเป็นหัวหมู
บทที่ 726 ทุบคุณจนกลายเป็นหัวหมู
เวินเที๋ยนเที๋ยนละสายตาแล้วหันกลับมา แล้วกล่าว“คอยระวังหล่อนเจียนีเอาไว้ ต่อไปอย่าให้เธอเข้ามาใกล้ห้องหนังสือนี้อีก”
“ห้องหนังสือ?”
พ่อบ้านมองไปทางห้องหนังสือ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
“เธอได้……….”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า “ยังดีที่ฉันมาทัน เธอยังไม่เข้าไป”
ในห้องหนังสือของตระกูลหล่อนถึงแม้จะไม่เหมือนตู้เซฟของตระกูลเวิน ที่ซ่อนหลักฐานไว้มากมาย แต่ก็มีเอกสารและแผนงานที่สำคัญอยู่ไม่น้อย ที่รั่วไหลไม่ได้เด็ดขาด
เมื่อพ่อบ้านได้ยินว่าหล่อนเจียนีตั้งใจจะเข้าไปในห้องหนังสือ สีหน้าของเขาก็นิ่งขรึมขึ้นมาทันที
“ครับ คุณหนูต่อไปผมจะระวังไว้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า แล้วในที่สุดจึงเปิดประตู แล้วเดินเข้าไป
อีกฝั่ง หล่อนเจียนีที่แผนการพังลงกลับไม่พอใจ
ตอนแรกเธออยากเข้าไปในห้องหนังสือ เพื่อดูว่ามีอะไรที่สามารถนำมาข่มขู่เวินเที๋ยนเที๋ยนได้บ้าง โดยคิดไม่ถึงว่าจะล้มเหลว
เช้าวันต่อมา เธอเรียกคนสวนทั้งหมดออกมาด้วยความโกรธ เตรียมจะทำเสียงดังเพื่อให้เวินเที๋ยนเที๋ยนตื่นแบบเมื่อวาน
แต่ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนได้กำชับกับคนในบ้านไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ต่อไปไม่ต้องฟังคำสั่งของหล่อนเจียนีและหลิวเหม่ยหลันอีก ไม่ว่าทั้งสองคนจะพูดข่มขู่ยังไงก็ไม่มีผลต่อคนงานในคฤหาสน์หลังนี้ ดังนั้นทุกคนจึงได้วางใจ
ตอนนี้รู้ถึงท่าทีที่เวินเที๋ยนเที๋ยนมีต่อสองคนนั้นแล้ว ก็ยิ่งไม่มีทางที่จะช่วยพวกเธอรบกวนเวลาพักผ่อนของเวินเที๋ยนเที๋ยนอีก
เมื่อได้ยินเสียงเอะอะของหล่อนเจียนี ทุกคนต่างก็กลอกตา ไม่มีท่าทีที่จะขยับ แล้วก็ปิดประตูโดยตรง ปิดกั้นเสียงเอะอะโวยวายของหล่อนเจียนีที่อยู่ด้านนอก
เธอยังคงเรียกคนอื่นๆต่อไป ทุกคนล้วนทำกับเธอเหมือนเธอเป็นแค่อากาศ หล่อนเจียนีโมโหจนเดินไปทางห้องครัว
ทำลายเวลาพักผ่อนของเขาไม่ได้ งั้นก็ไปทำให้เธอไม่มีข้าวกิน!
หล่อนเจียนีจะผลักประตู แต่กลับพบว่าประตูของห้องครัวถูกล๊อค
ตัวเธอเองไม่มีกุญแจ ก็เข้าไปไม่ได้
“น่ารังเกียจ!”
เธอยกขาขึ้นแล้วเตะออกไปด้วยความโกรธ แต่ประตูใหญ่ก็ไม่ขยับแม้แต่น้อย ทำให้เธอยิ่งโมโหขึ้นไปอีก
นั่งรออยู่ตรงประตูจนกว่าแม่ครัวจะมา เริ่มเตรียมอาหารเช้าตามเวลาปกติ
เดิมทีเธอต้องการจะเข้าไปทำให้ห้องครัวยุ่งเหยิงเหมือนเมื่อวาน แต่แม่ครัวได้ให้บอดี้การ์ดสองสามคนมายืนเฝ้าหน้าประตู เพื่อไม่ให้เธอได้เข้าไป
เมื่อฟ้าเพิ่งจะสว่าง จี้จิ่งเชินก็มาถึงที่หน้าด้านนอกของคฤหาสน์
ฉวีผิงได้รับคำสั่งจากเวินเที๋ยนเที๋ยนมาก่อนแล้ว จึงพาจี้จิ่งเชินเข้าบ้าน
ตอนเดินผ่านห้องรับแขก มองเห็นหล่อนเจียนีที่กำลังโกรธนั่งอยู่บนโซฟา
จี้จิ่งเชินชำเลืองมองเธอไปแวบหนึ่ง
พอหล่อนเจียนีเห็นจี้จิ่งเชินเข้ามา เธอก็รีบนั่งให้ดี แล้วเปลี่ยนสีหน้าทันที กลายเป็นรอยยิ้มหวานๆ แล้วมองไปที่เขา
แต่จี้จิ่งเชินกลับมองแค่ผ่านๆ แววตาแฝงไปด้วยความรังเกียจและความเย็นชา เดิมทีก็ไม่ได้เห็นเธออยู่ในสายตาอยู่แล้ว
ถามฉวีผิงที่อยู่ข้างๆ “เที๋ยนเที๋ยนล่ะ?”
“คุณหนูยังพักผ่อนอยู่ครับ”
จี้จิ่งเชินพยักหน้า ไม่ต้องให้คนอื่นนำทาง หันกายไปทางป่าต้นเมเปิ้ล แล้วเดินไปที่ห้องของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เมื่อเข้ามาแล้ว จี้จิ่งเชินอดไม่ได้ที่จะทำตัวสบายๆ แล้วเดินไปที่เตียงอย่างเบาๆ
พบว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังนอนหลับสนิท มองดูใบหน้ารูปไข่ของเธอที่กำลังหลับอย่างผ่อนคลาย ใบหน้าของจี้จิ่งเชินก็ค่อยๆอ่อนโยนขึ้น รอยยิ้มปรากฏบนปากของเขา
อดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไป ลูบไล้แก้มของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังพูดกับจี้จิ่งเชินในความฝัน รู้สึกได้ถึงสัมผัสเบาๆบนใบหน้า พอลืมตา ก็เห็นใบหน้าของจี้จิ่งเชินปรากฏอยู่ตรงหน้าเธออีก
สะลึมสะลือ ยังคิดว่าเป็นความฝัน
ยิ้มเล็กน้อย แล้วยื่นมือออกไป
“จี้จิ่งเชิน กอดฉัน”
มองดูเวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังยิ้มอย่างไม่มีอะไรป้องกันอยู่ตรงหน้า ใบหน้ายังมีความมึนงงและไร้เดียงสาอย่างเห็นได้ชัด กลับพูดคำพูดที่ทำให้เลือดในตัวเขาพลุ่งพล่าน
ร่างกายของจี้จิ่งเชินเกร็งขึ้นมากะทันหัน กล้ามเนื้อที่อยู่ภายใต้สูทแน่นและยืดตัวขึ้น
เปลวไฟในม่านตาของเขาเหมือนถูกจุดขึ้นทันที
มือของเขาขยับเล็กน้อย บีบคางของเวินเที๋ยนเที๋ยนเบาๆ
“ได้สิ” เขาตอบอย่างรวดเร็วทันใจ
ตามมาด้วย ยืนขึ้นมา จะถอดเสื้อผ้า
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินเสียงของจี้จิ่งเชิน ในที่สุดก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ ตกใจตื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว เบิกตากว้าง
มองจี้จิ่งเชินที่อยู่ตรงหน้า ถึงจะทำให้นึกออกว่าเมื่อครู่ตัวเองเพิ่งพูดอะไรไป หน้าก็แดงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“จี้จิ่งเชิน?”
“ไม่ดีไม่ดี เมื่อกี๊ฉันฝันไป”
จี้จิ่งเชินที่ทำท่าจะปลดก็หยุดลง ก้มหน้า เผชิญกับใบหน้าที่ทั้งกลัวทั้งตกใจของเวินเที๋ยนเที๋ยน ใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มออกมา
“หมายความว่า เที๋ยนเที๋ยนฝันถึงผมเหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า นึกถึงภาพที่อยู่ในฝัน หน้าก็แดงทันที
จี้จิ่งเชินมองเห็นความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของเธอ ก็เหมือนจะเดาได้นิดหน่อย ในแววตาของเขามีความกรุ้มกริ่ม
“เที๋ยนเที๋ยนฝันว่าอะไร?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนฟังแล้ว ก็รีบส่ายหัว จงใจพูด “ฉันฝันว่าฉันทุบตีคุณจนกลายเป็นหัวหมู”
จี้จิ่งเชินได้ฟัง เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ขยับเข้าไปใกล้ มองเธออย่างใกล้ชิด ในม่านตาลึกๆของเขาเต็มไปด้วยเงาสะท้อนของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เสียงของเขาที่ทุ้มต่ำ ราวกับมีเวทมนตร์
“เที๋ยนเที๋ยนทำได้ลงคอเหรอ?”
“ฉัน……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเม้มปาก มองใบหน้าหล่อขั้นเทพที่อยู่ตรงหน้า กลับพูดไม่ออก
เธอ……ทำไม่ลง
จี้จิ่งเชินมองสีหน้าของเธอ ก็ยิ้มอย่างอารมณ์ดี ยื่นมือออกไปอุ้มคนที่อยู่บนเตียงขึ้นมา
“แม่ครัวเริ่มเตรียมอาหารเช้าแล้ว รีบตื่นเถอะ”
ขณะที่พูด ก็ได้อุ้มเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไปทางห้องน้ำ
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบพูด “คุณวางฉันลงก่อนสิคะ”
“ผมมาช่วยคุณ เป็นบริการปลุกจากคู่หมั้น ฟรีครับ”
ฟรีถ้าอย่างนั้นไม่เอาได้ไหม?
เวินเที๋ยนเที๋ยนอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา แต่ก็ยังถูกอุ้มเข้าห้องน้ำไป
ผ่านไปครู่หนึ่ง ก็มีเสียงการสนทนาส่งออกมา
“ผมช่วยคุณเอง”
“ไม่ต้อง ฉันแปรงฟันเองได้ ล้างหน้าก็ไม่ต้อง……”
“เด็กดี”
เสียงต่อต้านค่อยๆหายไป
ผ่านไปครู่เดียว ก็มีเสียงกระซิบของจี้จิ่งเชิน
“อื้ม เที๋ยนเที๋ยนใช้ยาสีฟันกลิ่นสตรอว์เบอร์รี”
สิบนาทีผ่านไป เวินเที๋ยนเที๋ยนที่หน้าแดงเดินออกมาจากห้องนอนกับจี้จิ่งเชิน ไปยังห้องอาหาร
หล่อนเจียนีเพิ่งจะถูกจี้จิ่งเชินเมิน เวลานี้กำลังโมโหอยู่ในห้องรับแขก
ตอนนี้เห็นทั้งสองคนเดินเคียงคู่กันมา ใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงแดงระรื่น คิดก็พอจะรู้ว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น ก็ยิ่งโมโหขึ้นไปอีก
จี้จิ่งเชินชอบเวินเที๋ยนเที๋ยนตรงไหน?
ทั้งคู่ต่างก็ไม่สนใจหล่อนเจียนีที่อยู่ข้างหน้า เดินตรงเข้าห้องอาหารไป
แม่ครัวรู้ว่าจี้จิ่งเชินจะอยู่ทานข้าวเช้าด้วย ยังเตรียมชุดรับประทานอาหารไว้ให้เขาเป็นพิเศษ
มองดูทั้งคู่นั่งด้วยกัน เพลิดเพลินไปกับอาหารเช้าที่แสนอร่อยอย่างมีความสุข หล่อนเจียนีก็กัดฟันด้วยความโกรธ
หลิวเหม่ยหลันเดินลงมาจากชั้นบนพอดี มองเห็นหมินอันเกอที่เลือนรางก็ตกใจนิดหน่อย หันไปขยิบตาให้หล่อนเจียนีอย่างต่อเนื่อง ให้เธอขึ้นไป
แต่เช้าวันนี้แผนการของหล่อนเจียนีไม่ค่อยจะราบรื่น เดิมทีก็ไม่มีอารมณ์จะกินข้าวอยู่แล้ว
ทำเสียงฟึดฟัด แล้วกระแทกรองเท้าส้นสูงเดินขึ้นไปชั้นบน ไม่ได้สนใจหลิวเหม่ยหลันเลย