เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 730 สาบานด้วยชีวิต
บทที่ 730 สาบานด้วยชีวิต
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้รีบปฏิเสธ แต่มองไปที่เครื่องเคลือบที่อยู่ตรงหน้าอย่างละเอียด
“นี่ถูกเผาด้วยเตาเผาของทางการในราชวงศ์ถังใช่ไหม?”
ท่านเปิงพยักหน้า
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดต่อ “ฉันจำได้ว่าเตาเผาของทางการนี้ผลิตเครื่องกระเบื้องเคลือบออกมาน้อยมาก คิดไม่ถึงว่าจะได้เห็นกับตา แต่เสียดายตอนนี้แตกหักจนกลายเป็นแบบนี้ ต้องใช้เวลานานในการบูรณะ”
ท่านเปิงคิดถึงข้อนี้ตั้งแต่แรก เขาลูบเครา
“ไม่เป็นไร ฉันได้พูดกับเจ้าของเครื่องเคลือบแล้ว ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ขอแค่เธอเห็นด้วยก็เป็นอันตกลง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เครื่องเคลือบที่สวยงามแบบนี้ ถ้าไม่ได้ถูกบูรณะ จะไม่ยิ่งเสียหายรุนแรงเหรอ? ถ้าหากไม่ได้จำกัดเวลา ฉันก็อยากจะลองดู”
“เที๋ยนเที๋ยน……” จี้จิ่งเชินได้ยิน ก็อดที่จะพูดไม่ได้
“ไม่เป็นไร” เวินเที๋ยนเที๋ยนดึงเขาไว้ ตกปากรับคำ “คุณวางใจเถอะ ฉันจะไม่ฝืนตัวเอง ถ้าหากคุณไม่วางใจ ก็แค่ดูแลฉัน”
ท่านเปิงได้ยิน ก็หัวเราะออกมาอย่างพอใจ
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ในที่สุดฉันก็ได้ข้อสรุป พวกเธอตอนนี้ไม่ใช่กำลังจะแต่งงานกันเหรอ? เรื่องนี้ไม่ต้องรีบร้อน”
พอท่านจางกับคนอื่นๆได้ฟัง ก็ตกใจ “พวกเธอจะแต่งงานกันแล้ว?”
ขณะที่พูด ก็ตื่นเต้นล้อมกันเข้ามา ดูท่าทางน่าจะดีใจกว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนเสียอีก
ในใจของพวกเขา มองเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นลูกสาวคนหนึ่งมาตั้งนานแล้ว เมื่อได้ยินว่าในที่สุดเธอกับจี้จิ่งเชินจะลงเอยกัน ก็ยิ่งดีใจเข้าไปอีก แต่ละคนต่างก็แสดงออกว่าอยากจะช่วย
จี้จิ่งเชินถึงกับพูดไม่ทัน ยิ่งถูกคนแก่พวกนี้เบียดจนออกมาข้างนอก
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกพวกเขาล้อมเอาไว้ ถามถึงเรื่องแต่งงาน
คนแก่นิสัยเด็กพวกนี้ ปกติก็ชอบความครื้นเครงอยู่แล้ว มีเรื่องที่น่ายินดีแบบนี้มีหรือจะพลาด?
มองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยนที่ถูกคนหลายคนล้อมอยู่ตรงกลาง หน้าแดงระเรื่อ แต่ก็ยังตั้งใจตอบคำถามพวกเขาอย่งจริงจัง จี้จิ่งเชินก็ไม่ได้เข้าไปใกล้อีก เพียงแค่ยืนอยู่ข้างนอก
มองดูเวินเที๋ยนเที๋ยน ปากยกขึ้นเล็กน้อย ด้วยสีหน้าที่เอ็นดู
ในตอนนี้ มีร่างหนึ่งขยับเข้ามาจากด้านข้าง
ไม่รู้ว่าท่านเปิงเดินเข้ามาถึงตัวเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ น้ำเสียงนิ่งขรึมจริงจัง
“ในเมื่อตัดสินใจจะแต่งงานแล้ว ก็อย่าทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเสียใจเป็นอันขาด”
น้ำเสียงของเขาทั้งจริงจังและข่มขู่
เมื่อจี้จิ่งเชินได้ยิน ก็รู้สึกจริงจังตามไปด้วย
เขาพูดอย่างเด็ดเดี่ยว “ผมสาบานด้วยชีวิต ผมไม่มีทางจะทำให้เธอเสียใจ”
ท่านเปิงถึงพยักหน้า “ถ้าหากยังเกิดเรื่องเหมือนเมื่อก่อนอีก ยังทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนร้องไห้อีก ฉันจะไม่มีทางปล่อยคุณ”
ท่านเปิงที่เข้าข้างมาโดยตลอด ถึงแม้จะไม่ได้พูดเรื่องของเวินเที๋ยนเที๋ยนเหมือนท่านจาง แต่กลับมองเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นลูกสาวคนหนึ่งมาโดยตลอด
เมื่อก่อนตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเสียใจ พวกเขามองด้วยตา แต่เจ็บที่หัวใจ
ถ้าหากไม่ใช่เพราะเวินเที๋ยนเที๋ยนชอบจี้จิ่งเชินจนเข้ากระดูก และในใจของจี้จิ่งเชินก็มีเที๋ยนเที๋ยน พวกเขาจะไม่ปล่อยให้ เวินเที๋ยนเที๋ยนคบกับจี้จิ่งเชินให้ถูกรังแก
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนออกจากวงล้อม แล้วกลับมาอีกครั้ง ท่านเปิงก็พูดถึงเรื่องที่ควรระวังในขั้นตอนการซ่อมแซม
เมื่อฟ้าใกล้จะมืด ทั้งสองคนก็จากไปในที่สุด
รถจอดข้างนอกของคฤหาสน์ตระกูลหล่อน จี้จิ่งเชินอยากจะเข้าไปส่งเธอ แต่กลับถูกเวินเที๋ยนเที๋ยนปฏิเสธ
“ไม่ต้องแล้ว คุณกลับไปก่อนเถอะ พักผ่อนเยอะๆ พรุ่งนี้แล้วค่อยเจอกัน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนโบกมือให้เขา
ทันใดนั้นจี้จิ่งเชินก็นึกขึ้นได้: “วันนี้แม่ครัวบอกว่าเธอเตรียมอาหารแบบใหม่ไว้ พรุ่งนี้เธอไปชิมที่ปราสาทด้วยกันสิ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว พูด: “แค่ทานข้าวเหรอ?”
จี้จิ่งเชินเลิกคิ้ว แล้วถามกลับ “งั้นเที๋ยนเที๋ยนอยากทำอะไรล่ะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยิน ก็หน้าแดง
“พรุ่งนี้ฉันจะเตรียมตัวรอ”
จี้จิ่งเชินยืนอยู่ที่เดิม มองเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าประตูใหญ่ ผ่านไปสักครู่หนึ่ง จึงได้จากไป
ตอนนี้หล่อนเจียนีที่กำลังวางแผนว่าจะต้องทำยังไงถึงจะแย่งจี้จิ่งเชินมาจากเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ มองเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนถือกล่องสีแดงเดินเข้ามา
มองเห็นท่าทางที่ระมัดระวังของเธอ ก็สงสัยทันที
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามาก็เรียกพ่อบ้านไว้ สั่งให้พ่อบ้านทำความสะอาดห้องไว้ห้องหนึ่ง ไว้ใช้เป็นห้องทำงาน
ครู่เดียวฉวีผิงก็ขึ้นมาบนตึกกับคนอีกหลายคน หล่อนเจียนีก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ
“ของในมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนคืออะไร? ดูเหมือนจะมีค่ามาก”
หลิวเหม่ยหลันมองดู นึกถึงเรื่องวันนี้บนโต๊ะอาหาร ที่เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดกับจี้จิ่งเชิน
“วันนี้ตอนเช้าแม่ได้ยินหล่อนพูดกับจี้จิ่งเชินว่า มีคนอยากให้หล่อนบูรณะวัตถุโบราณ ในกล่องนั้นจะต้องเป็นของที่มีค่ามากแน่ๆ?”
หล่อนเจียนีฟังแล้ว ก็ขมวดคิ้ว
แน่นอนว่าก่อนหน้านี้เธอรู้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนสามารถบูรณะวัตถุโบราณได้ แต่พอเห็นท่าทางที่ทะนุถนอมของเวินเที๋ยนเที๋ยน ของในกล่องนั่นต้องเป็นของที่มีราคาไม่น้อย?
คิดพลาง หล่อนเจียนีก็หัวเราะออกมา แล้วมองไปทางชั้นสอง
วันต่อมา ไม่รู้ว่าเพราะการถูกขัดขวางจากเมื่อวานหรือเปล่า เช้านี้หล่อนเจียนีไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ แค่นั่งอ่านนิตยสารอยู่ในห้องรับแขก
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนออกไป เธอก็รีบวางลงอย่างรวดเร็วเดิมก็เปิดดูนิตยสารไปไม่กี่หน้า เดินขึ้นชั้นสองไป
เธอจำได้ เมื่อวานห้องที่พวกพ่อบ้านเก็บกวาด จะต้องอยู่ข้างในนี้
หล่อนเจียนีเดินจนมาถึงข้างหน้าของห้องนั้น แล้วผลัก แต่คิดไม่ถึงว่าประตูกลับล๊อก
หลายห้องของตระกูลหล่อน นอกจากห้องหนังสือแล้วห้องที่สำคัญอื่นๆ จะต้องมีกุญแจสำรองไว้ถึงจะถูก ต้องอยู่ที่พ่อบ้านนั่นแน่ๆ
คิดพลาง หล่อนเจียนีมองออกไปข้างนอก กำลังจะไปหาพ่อบ้าน
ทันทีที่พ่อบ้านได้ยินว่าเธอจะเปิดห้องที่เวินเที๋ยนเที๋ยนทำความสะอาดไว้ใช้เป็นห้องทำงาน ก็ยิ่งปฏิเสธเธอ และยังเก็บกุญแจที่เพิ่งดึงออกมาเก็บเข้าไปไว้เป็นอย่างดี
เมื่อวานเวินเที๋ยนเที๋ยนได้กำชับไว้แล้ว ไม่ให้ใครเข้าออกห้องนั้นตามอำเภอใจ กังวลว่าจะมีใครทำของสะสมที่เก็บไว้แตกโดยไม่ทันระวัง
ตอนนี้จู่ๆหล่อนเจียนีกลับมาพูดถึงความต้องการแบบนี้ จะต้องมีแผนการไม่ดีแน่ ฉวีผิงจะเห็นด้วยได้ยังไง
หลังจากปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ก็เดินจากไป
หล่อนเจียนียังยืนอยู่ที่เดิม กระทืบเท้าด้วยความโกรธ
ยิ่งเห็นพวกเขาระมัดระวังขนาดนี้ เธอก็ยิ่งสังเกตเห็นถึงความสำคัญของสิ่งของที่อยู่ในนั้น
เธอจะต้องเข้าไปให้ได้!
เวินเที๋ยนเที๋ยนมาถึงบริษัท ก็ไปดูความคืบหน้าที่ท่าเรือกับผู้ช่วย
เนื่องจากช่วงนี้บริษัทเตรียมตัวที่จะตีตลาดในประเทศ งานที่เวินเที๋ยนเที๋ยนต้องควบคุมด้วยตัวเองก็มีไม่น้อย โครงการและข้อเสนอบางส่วนก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป
เรื่องที่ควรแก่การพูดถึงก็คือ ผู้จัดการยังบอกเธอเป็นพิเศษ การประมูลต่างๆต่อไปนี้ บริษัทหล่อนซื่อจะต้องเจอกับบริษัทเอ็มไอกรุ๊ป
เดิมทีผู้จัดการหยางอยากให้เวินเที๋ยนเที๋ยนคุยกับจี้จิ่งเชิน ออมมือให้หน่อย
เวินเที๋ยนเที๋ยนฟังแล้ว กลับมีแรงผลักดันมากขึ้น กระตือรือร้น อยากจะประลองฝีมือกับบริษัทเอ็มไอกรุ๊ป
ตอนแรกเธออยากลงมือทำแบบเงียบๆ แต่พอหลังเลิกงาน เพิ่งจะขึ้นรถของจี้จิ่งเชิน กลับได้ยินเขาเริ่มพูดถึงเรื่องนี้ก่อน
“ได้ยินว่าวันนี้ตอนบ่าย คนของบริษัทหล่อนซื่อกำลังรวบรวมข้อมูลของบริษัทเอ็มไอกรุ๊ปอยู่ใช่ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยิน ก็ตกใจแล้วหันไปมองเขา
ตอนแรกพวกเขาคิดว่าได้กระทำการกันอย่างระมัดระวังมากพอแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถรอดพ้นสายตาของจี้จิ่งเชินได้