เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 734 ให้ตายก็ไม่ยอมรับ
บทที่ 734 ให้ตายก็ไม่ยอมรับ
ได้ยินคำพูดนี้แล้ว ทุกคนต่างถอนหายใจลึกๆ มองดูเศษซากที่แตกกระเจิงอยู่บนพื้นอย่างตกใจ
มีแต่หล่อนเจียนีที่ยิ้มขึ้นมาอย่างได้ใจ ที่แท้ของชิ้นนี้มีค่ามากถึงเพียงนี้ ถ้าอย่างนั้นแล้ว ถ้าเขารู้ว่าเครื่องเคลือบลายครามชิ้นนี้ถูกเวินเที๋ยนเที๋ยนทำแตก เจ้าของเครื่องเคลือบชิ้นนี้ต้องโกรธแน่ แล้วโทษเธอที่ทำผิดพลาดเช่นนี้
ในขณะที่คิดอยู่นั้น ได้ยินเวินเที๋ยนเที๋ยนพูดต่อไปอีกว่า: “วันนี้ฉันเรียกให้ทุกคนมานี่ ก็เพื่ออยากจะให้ทุกคนเป็นพยาน คนที่ทำให้เครื่องเคลือบลายครามชิ้นนี้แตกจนเสียหายขนาดนี้ ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย อีกทั้งยังต้องชดใช้เงินในราคาที่เท่ากัน”
ทุกคนได้ยินดังนั้น ซุบซิบคุยกันขึ้นมา
พวกเขาเป็นแค่คนงานอยู่ที่นี่ จะมีเงินชดใช้ของสะสมที่แพงขนาดนี้ได้ไง?
อีกอย่างพ่อบ้านก็บอกว่ากุญแจหายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ? ถ้าหาคนทำผิดไม่ได้จริงๆ จะให้พวกเขาช่วยกันชดใช้ค่าเสียหายหรือเปล่า?
เวินเที๋ยนเที๋ยนดูความกังวลของพวกเขาออก จึงพูดอธิบาย: “วางใจเถอะ ฉันมีวิธีที่จะหาคนที่ทำให้เครื่องเคลือบลายครามชิ้นนี้แตกได้”
พูดแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนตั้งใจมองไปบนตัวของหล่อนเจียนี
ยกมือขึ้นมาแล้วหันไปทางฉวีผิง: “เริ่มได้แล้ว”
พ่อบ้านพยักหน้า เดินหน้าหนึ่งก้าวและเอ่ยปากพูด: “สิ่งที่ทุกคนไม่รู้คือ ตอนที่คุณหนูเตรียมจะใช้ห้องนี้เป็นห้องทำงาน คุณหนูได้สั่งให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดในห้องนี้ มีคนขโมยกุญแจแล้วบุกรุกเข้ามาทำลายเครื่องเคลือบชิ้นนี้จนแตกเป็นชิ้นๆ ภาพนั้นได้ถูกบันทึกไว้ในกล้องวงจรปิดหมดแล้ว”
“ตอนนี้ที่ให้ทุกคนเข้ามา ก็เพื่อให้มาเป็นพยานและช่วยกันพิสูจน์และยืนยันว่าคนๆนั้นที่อยู่ในกล้องคือใคร”
ได้ยินคำพูดนี้แล้ว ทุกคนต่างพยักหน้า
“มีกล้องวงจรปิด งั้นฉันค่อยโล่งใจหน่อย ต้องหาคนที่เข้ามาทำลายของให้ได้!”
“ใช่ ห้ามปล่อยมันเด็ดขาด!”
มีคนพูดแล้ว หันไปมองทางหล่อนเจียนี เห็นได้ชัดว่า แน่ใจว่าเธอก็คือคนที่ทำให้เครื่องเคลือบลายครามแตก
หล่อนเจียนีได้ยินคำพูดของพ่อบ้านแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
ในห้องนี้มีกล้องวงจรปิด?
เธอทำไมไม่รู้?
พูดจบ หล่อนเจียนีรีบร้อนมองดูรอบๆ
หรือว่า ภาพที่เธอเข้ามาก่อนหน้านั้น ก็ถูกบันทึกไว้ด้วย?
นึกถึงเช่นนี้แล้ว เธอเริ่มกลัวขึ้นมา สีหน้าซีดเซียวเล็กน้อย
แววตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปที่ตัวเธอ แล้วสั่งการ: “ฉวีผิง เปิดวีดีโอออกมา”
“ครับ คุณหนู”
พ่อบ้านตอบแล้วรีบเปิดคอมพิวเตอร์ที่อยู่ข้างๆขึ้นมา
ผ่านไปไม่กี่วินาที บนหน้าจอก็ปรากฏภาพในห้องทำงานนั้นขึ้นมาจริงๆ
เห็นเวลาที่ปรากฏมุมขวาด้านบน เหมือนจะเป็นเวลาค่ำเมื่อวาน
เห็นตรงนี้แล้ว หล่อนเจียนีสีหน้าซีดมาก มีกล้องวงจรปิดจริงๆ!
เห็นเวลานั้น อีกไม่กี่นาที ตนเองก็จะเดินเข้ามาแล้ว…….
หล่อนเจียนีตกใจจนถอนหายใจแรงๆ รีบพุ่งตัวเข้าไป
“ไม่ต้องดูแล้ว! มีอะไรน่าดู ต้องเป็นคนที่อยู่ในนี้แน่นอน!”
“พูดมา ใครที่ทำให้ของชิ้นนี้แตก จะมาใส่ร้ายให้คนอื่น?”
“ฉันงานยุ่งจะตาย ไม่มีเวลาพูดมากกับพวกคุณตรงนี้หรอกนะ!”
พูดแล้ว เธอจะรีบเดินออกไปด้านนอก
เพิ่งจะหันตัว กลับถูกคนงานทำสวนที่ยื่นอยู่หน้าประตูขวางไว้
ส่วนอีกข้าง คอมพิวเตอร์ก็ยังเปิดภาพวีดีโอที่ถูกถ่ายบันทึกไว้ได้
ผ่านไปแค่ไม่กี่วิ ประตูในห้องทำงานได้ถูกคนผลักออกจริงๆ จากนั้น มีคนเดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง
ตอนนั้นแสงไฟในห้องจะมืดหน่อย ทุกคนยังดูหน้าของเธอไม่ออก
แต่พอหล่อนเจียนีมองเห็นภาพนี้ ตกใจกลัวจนหน้าซีดตั้งแต่แรกแล้ว ในสมองมีแต่คำพูดที่เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดเมื่อสักครู่นี้……
แจกันชิ้นนั้นมีมูลค่าตั้งหกสิบล้าน! จะให้เธอชดใช้จริงๆเหรอ?
ตอนนี้ในมือเธอไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว…….
หล่อนเจียนีคิดจะหนี เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบเรียกเธอกะทันหัน
“หล่อนเจียนี คุณคิดจะไปไหน? ไม่อยากอยู่ดูสักหน่อยเหรอ? ว่าตกลงใครกันแน่ที่เป็นคนทำแจกันเคลือบลายครามชิ้นนี้แตก”
“ฉันไม่สนใจ”
พูดจบ หล่อนเจียนีหันหลังและอยากจะวิ่งหนี
ในขณะที่เธอกำลังหันพอดีนั้น คนที่อยู่ในภาพนั้นได้เดินเข้ามาตรงที่มีแสงไฟสว่าง หน้าตาปรากฏให้ทุกคนเห็นต่อหน้าอย่างชัดเจน
ทุกคนต่างหายใจลึกๆ
“นี่มันใช่คนหล่อน!”
“ใช่เธอ!”
หล่อนเจียนีได้ยินดังนั้น ทั้งตัวหยุดนิ่งๆอยู่กับที่ทันที
หันกลับไปและกัดฟันพูด: “พวกคุณอย่าพูดมั่วๆนะ ใส่ร้ายฉัน”
แต่มือของพวกเขาชี้ไปที่ภาพบนจอนั้น
“นี่มันใช่คุณหล่อนจริงๆนี่ คุณเป็นคนขโมยกุญแจของพ่อบ้าน แล้วเข้ามาทำลายของ”
หล่อนเจียนีหันหน้ากลับมา ในเวลานี้ภาพกำลังหยุดอยู่ตอนที่เธอกำลังปล่อยมือออกจากแจกันเคลือบลายครามชิ้นนั้นพอดี หน้าตาของเธอมองเห็นได้อย่างชัดเจน มองไม่ผิดอย่างแน่นอน
หล่อนเจียนีตกใจกลัวจนถอยหลังออกไปหนึ่งก้าว สังเกตเห็นสายตาของทุกคนต่างกำลังจ้องมองเธออยู่
พูดจาออกมาด้วยน้ำเสียงที่น่าเกลียดมาก: “มองอะไร? มีอะไรน่ามองรึไง? ฉันก็แค่เข้ามาดูเท่านั้น ฉันไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย”
เธอพูดอย่างไร้เหตุผล ในภาพเห็นสีหน้าท่าทางของเธอในตอนที่ปล่อยมือออกจากแจกันเคลือบลายครามได้ชัดเจน อีกทั้งยังจงใจใช้เท้าเหยียบให้มันแตกอีก
ทุกคนที่อยู่ในนี้ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอเลยสักคน
น้ำเสียงของเวินเที๋ยนเที๋ยนเคร่งขรึมมากขึ้น
“ไม่ว่าจะจงใจหรือไม่ ในเมื่อคุณเป็นคนทำแตก ก็ต้องเป็นคุณที่จะต้องชดใช้”
“เป็นไปไม่ได้! คุณฝันไปเถอะ!” หล่อนเจียนีพูดอย่างไม่พอใจ: “ก็แค่แจกันที่แตก จะมีมูลค่ามากถึงหกสิบล้านได้ไง? ฉันว่าคุณตั้งใจจะให้ร้ายฉันซะมากกว่า”
พูดแล้ว เธอหันไปจับหลิวเหม่ยหลัน
“แม่ เราไปกันเถอะ”
แต่ว่ายังเดินไม่ถึงประตู คนที่ยืนอยู่ตรงประตูรีบขวางพวกเขาไว้
หล่อนเจียนีจ้องมองพวกเขาและตะโกนด่า: “พวกแกกล้าขวางฉันเหรอ? หลีกไป!”
แต่คนพวกนั้นไม่ขยับเลยสักนิด
“ในเมื่อคุณหล่อนเป็นคนทำแจกันแตก ก็ควรจะให้คุณเป็นคนชดใช้ค่าเสียหาย นี่เพิ่งจะตกลงกันเมื่อกี้เอง คุณคิดจะหนีเหรอ?”
“แก แกกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร? ใครจะไปรู้ว่าวีดีโอนี้ใช่ของจริงหรือเปล่า!”
หล่อนเจียนีตะโกนด่า: “เค้าใส่ร้ายฉัน ตั้งใจทำวีดีโอปลอมนี้ขึ้นมา!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นเธอถึงตอนนี้แล้วยังไม่ยอมรับผิด ตอบโต้อย่างไร้เหตุผล
น้ำเสียงเคร่งขรึมอย่างรวดเร็ว เยือกเย็นเหมือนธารน้ำแข็งอย่างนั้น
“ตกลงใช่หรือไม่ใช่ของจริง รอฉันแจ้งความก่อน รอให้ตำรวจมาตรวจสอบแล้ว น่าจะรู้ว่ามันเป็นของจริงหรือของปลอม”
“คุณจะแจ้งความ?”
หล่อนเจียนีตกใจกลัวจนรีบหันหน้ากลับมา มองหน้าเธออย่างตกตะลึง
เวินเที๋ยนเที๋ยนกล่าว: “ในเมื่อไม่มีคนยอมรับ เกี่ยวเนื่องกับทรัพย์สินที่มีมูลค่าเยอะมาก ต้องแจ้งความอยู่แล้ว รอให้ตำรวจมาพิสูจน์ ก็รู้ความจริงแล้วไม่ใช่เหรอ?”
หลิวเหม่ยหลันที่อยู่ข้างๆฟังแล้ว สีหน้าเปลี่ยนไปกะทันหัน คนในภาพคือหล่อนเจียนีจริงๆไม่มีผิด
หล่อนเจี้ยนกั๋วตอนนี้ยังอยู่ในคุก ถ้าหล่อนเจียนีถูกส่งเข้าไปขังอีกคน งั้นคงจะจบจริงๆ
เธอรีบดึงตัวหล่อนเจียนีที่ใจร้อน แล้วหันหน้าไปทางเวินเที๋ยนเที๋ยน: “เที๋ยนเที๋ยน เจียนีก็ไม่ได้ตั้งใจทำผิด เราต่างก็เป็นครอบครัวเดียวกัน อย่าเอาเรื่องกันเลยนะ ส่วนเรื่องชดใช้ค่าเสียหายต่างๆ? เราจะพยายามให้ถึงที่สุด ดูว่าหาเงินมาได้เท่าไหร่”
“อย่างแจ้งความเลยนะ? ถ้าเรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกสู่ภายนอก ก็ไม่ดีต่อชื่อเสียงตระกูลหล่อนด้วย คุณว่าจริงไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังทันพูดจบ หล่อนเจียนีก็พูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ: “แม่ ไปขอร้องเค้าทำไม? ฉันไม่มีอะไรต้องกลัว”