เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 738 เขาจะยอมตีเธอได้ยังไง
บทที่ 738 เขาจะยอมตีเธอได้ยังไง
“ฉันเชื่อ วันที่เดินแบบจริงๆ คุณต้องทำให้ทุกคนในนี้ตะลึงแน่เลย ทุกคนจะยอมแพ้ให้กับกระโปรงทักทิมของคุณแน่ๆ!”
บนหน้าของหลวนจื่อแดงเล็กน้อยและพูดอย่างเขินอาย: “คุณก็พูดเกินไปแล้ว”
เคอเหยียนรุ่ยพูดอย่างมั่นใจ: “เชื่อฉันสิ คุณแค่สังเกตดูแววตาของพนักงานทั้งหมดที่อยู่ข้างนอก ก็จะรู้ว่าที่ฉันพูดไม่เกินเลยสักนิด!”
พูดแล้ว เคอเหยียนรุ่ยก็อดใจไม่ไหวที่จะดึงตัวเธอไปด้านหลังเวที
“ช่วงนี้ฉันออกแบบเสื้อมาใหม่อีกหลายตัว คุณช่วยลองใส่ให้ฉันดูหน่อยได้ไหม?”
หลวนจื่อตอบตกลงด้วยความดีใจและเดินตามเข้าไปด้วยกัน
เดินอยู่หลายรอบ จนหลวนจื่อค่อยๆเข้าที่เข้าทาง ทั้งสองคนถึงจะกลับ
นึกถึงนางแบบพวกนั้น แววตาที่อิจฉาริษยาของพวกเขาคอยจ้องมองบนตัวหลวนจื่อตลอดเวลา เวินเที๋ยนเที๋ยนทนไม่ได้ที่จะต้องตักเตือน
“เดินแบบครั้งนี้ยังไงคุณก็ต้องระวังหน่อยนะ”
หลวนจื่อได้ยินแล้วตอบว่า: “ที่คุณพูดหมายถึงนางแบบคนอื่นๆงั้นหรือ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
“คุณเห็นแล้วเหรอ?”
“ถึงจะไม่เห็นก็รู้”
หลวนจื่อทำปากจู๋และตอบ: “วงการเดินแบบก็แบบนี้แหล่ะ คุณว่าใจเถอะ เมื่อก่อนก็เคยเกิดเรื่องแบบนี้ ฉันจะระมัดระวัง”
เห็นเธอก็คอยระวังตัวเอง เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงรู้สึกวางใจหน่อย
ยังเตือนด้วยว่า: “คุณระวังหน่อย ถ้าหมินอันเกอกลับมา เห็นคุณขนหลุดไปหนึ่งเส้น ต้องตีฉันตายแน่”
“เขาจะยอมตีคุณได้ยังไง……”
หลวนจื่อพูดเสียงเบาๆหนึ่งคำ แล้วพูดต่ออีกว่า: “คุณวางใจเถอะน่า ฉันได้กลับมาบนเวทีไม่ใช่ง่ายๆ ต้องระวังอย่างแน่นอน ถ้ายังไม่ให้ฉันออกมาเดินข้างนอกบ้าง ฉันคงจะต้องอึดอัดตายในบ้านแน่ๆ”
ในการฝึกซ้อมสองสามครั้งถัดไป เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังรู้สึกไม่วางใจ ไปฝึกซ้อมกับหลวนจื่อด้วยทุกครั้ง
จนอีกหนึ่งอาทิตย์ก็จะเดินแบบอย่างเป็นทางการแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินได้รับการ์ดเชิญไปงานแฟชั่นโชว์ด้วย จึงต้องแยกห่างจากหลวนจื่อในวันงานแฟชั่นโชว์ แต่อากาศลดอุณหภูมิลงกะทันหัน
ตอนแรกเวินเที๋ยนเที๋ยนอยากจะใส่ชุดเดรสไปร่วมงาน แต่ยังไม่ทันออกจากประตู ก็ถูกจี้จิ่งเชินคลุมเสื้อให้ตั้งหลายตัว คลุมจนแน่นไปทั้งตัว
ยังใส่หมวกและผ้าพันคอ เหลือแต่สองตาที่อยู่ข้างนอก ถึงจะยอมให้เธอออกเดินทาง
เธอมองดูเสื้อผ้าบนตัวของตนเอง ในใจแอบบ่นนิดๆ
วันนี้คือวันที่จะไปดูงานแฟชั่นโชว์นะ รูปร่างและหุ่นของนางแบบเหล่านั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนไปซ้อมเดินกับหลวนจื่อวันก่อนก็เห็นแล้ว หุ่นของแต่ละคนดีขนาดไหน
อีกอย่างไม่เพียงแค่นางแบบ แม้แต่ดาราและแขกรับเชิญทั้งหลายต่างก็แต่งตัวสวยๆงามๆไปร่วมงานกันทั้งนั้น
บอกว่าไปดูงานเดินแบบแฟชั่น แต่ที่จริงแล้วก็คือมาแข่งเรื่องความสวยความงามนั่นแหละ
ถึงแม้เวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่อยากไปแข่งกับพวกเขา แต่เห็นทุกคนต่างก็ใส่ชุดเดรสกระโปรงยาว ตนเองกลับใส่เสื้อกันหนาวขนเป็ดหนาๆอย่างนี้ รู้สึกแปลกๆ
หลังจากที่พ่อบ้านและแม่ครัวรู้ว่าเธอจะไปงานแฟชั่น ก็เตรียมเสื้อผ้าให้เธออย่างกระตือรือร้น
แต่นึกไม่ถึง สุดท้ายกลับถูกจี้จิ่งเชินเอาไปเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าหมด แล้วหาเสื้อกันหนาวขนเป็ดที่อุ่นที่สุดมาใส่ให้เธอด้วยตนเอง เวินเที๋ยนเที๋ยนเบะปากประท้วงอย่างเงียบๆ
ไปถึงงานแฟชั่นโชว์ จี้จิ่งเชินลงมาจากรถก่อน เห็นเธอยังนั่งอยู่บนรถไม่ยอมลงมา จึงหันเดินไปหน้ารถแล้วก้มเอวลงนิดๆ
ในขณะนี้ ด้านนอกมีนักข่าวและสื่อมวลชนมาล้อมรอบรถกันแล้ว เห็นจี้จิ่งเชินออกมาจากรถ ต่างก็หันกล้องมาทางนี้
ข้อมูลที่พวกเขาได้รับมาในตอนแรกคือ จี้จิ่งเชินและเวินเที๋ยนเที๋ยนจะถึงงานพร้อมกัน แต่ตอนนี้ไม่เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนออกมาจากรถสักที จึงต่างพากันแปลกใจ
จี้จิ่งเชินกำลังก้มตัวอยู่หน้ารถและมองดูเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ยังนั่งงอนอยู่ในรถ
เห็นแก้มของเธอตุ้ยขึ้นมา เขาแอบอมยิ้มออกมาเล็กน้อย
“เที๋ยนเที๋ยน ถึงแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินดังนั้น หันหน้ามองไปด้านนอก เห็นนักข่าวกำลังหันกล้องมาทางนี้แล้ว และยังเห็นดารานักแสดงไม่น้อยที่มาถึงงานแล้วเช่นกัน เห็นพวกเค้าใส่ชุดกอดอกและกระโปรงยาว รูปร่างสูงหุ่นดี กำลังให้สัมภาษณ์อยู่
แล้วก็ก้มมองดูตนเอง ใส่เสื้อขนเป็ดหนาๆ ทันใดนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา
ทำไม?
เสื้อผ้าที่เธอเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ สุดท้ายกลับใส่ชุดขนเป็ดหนาๆแบบนี้เข้ามาร่วมงาน?
ในใจของเธอไม่ค่อยพอใจ ไม่ยอมขยับตัว
จี้จิ่งเชินอธิบายอย่างอ่อนโยน: “อากาศหนาวเกิน เวินเที๋ยนเที๋ยนถ้าไม่ใส่แบบนี้ อาจจะป่วยได้ คุณก็ไม่อยากกินยาบ่อยๆใช่ไหมครับ?”
“แต่ว่า……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองๆดูคนอื่น ก็ยังลังเล
ในเวลานี้ จี้จิ่งเชินก้มตัวยื่นหน้าเข้ามาในรถ แล้วจับมือของเวินเที๋ยนเที๋ยน
“ถ้าเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ออกมาล่ะก็ งั้นเรากลับบ้านกันแล้วนะ”
พูดแล้วทำท่าทางจะขึ้นรถอีกครั้ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบขวางเขาไว้
“ช่างเถอะ ฉันออกไปละกัน ก่อนหน้านั้นฉันรับปากหลวนจื่อไว้ ว่าจะมาดูเธอเดินแบบ……”
จี้จิ่งเชินยิ้มเบาๆแล้วพูด: “เที๋ยนเที๋ยนไม่ต้องกังวล พรุ่งนี้ถ้ามีสำนักข่าวไหนว่าคุณไม่ดี ผมจะซื้อบริษัทนั้นเลย”
“ถ้าว่าทั้งหมดล่ะ?”
“งั้นก็ซื้อให้หมด” จี้จิ่งเชินพูดเบาๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนจ้องเขาอย่างไม่พอใจ จากนั้นค่อยเดินออกมาด้วยท่าทางเขินอาย
นักข่าวที่รออยู่ข้างนอกเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนออกมา รีบยกกล้องขึ้นมาส่องเธอตรงๆ
แต่พอเห็นการแต่งตัวบนร่างกายของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว แม้แต่พวกเค้าก็ยังตะลึง
ในขณะที่ทุกคนต่างก็พยายามแต่งตัวให้สวยงามที่สุดนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมาด้วยชุดแบบนี้……
พอเวินเที๋ยนเที๋ยนลงจากรถ ก็รู้สึกว่าทุกคนต่างกำลังใช้สายตาที่แปลกใจมองบนตัวเธอ จึงรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
จี้จิ่งเชินยืนอยู่ข้างๆเวินเที๋ยนเที๋ยนและจับมือเธอไว้แน่นๆ สายตาที่แหลมคมจ้องไปทั่ว ดั่งมีดที่แหลมคมเต็มไปด้วยเลือด
นักข่าวและสื่อมวลชนทั้งหลายต่างตกใจกลัวจนขนลุก รีบหันหน้ากลับมา ถึงกับไม่กล้าถ่ายอีกต่อไป จากนั้นรีบเดินออกจากตรงนั้น
ทีนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนค่อยรู้สึกโล่งใจหน่อย แล้วเดินตรงไปข้างหน้า เห็นดาราคนอื่นๆไม่น้อย
เห็นแต่พวกเค้าสู้ทนกับความหนาวเย็น สวมเสื้อผ้าบางๆแล้วโพสต์ท่าต่อหน้ากล้องถ่ายรูป พอเห็นการแต่งตัวของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว ก็อดใจไม่ไหวที่จะมองด้วยความประหลาดใจ
คนที่อยู่ตรงหน้าใส่ชุดกระโปรงที่สวยงาม แต่บนร่างกายนั้นหนาวจนตัวซีด แม้แต่สีหน้าก็ยังแข็งและเฉื่อยชา อีกทั้งยังเห็นมือของพวกเค้าสั่น แม้แต่ตอนพูดจาก็ยังหนาวจนปากสั่นและพูดติดอ่าง
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นพวกเค้าหนาวจนเป็นสภาพอย่างนี้แล้ว เอามือจับเสื้อกันหนาวขนเป็ดของตัวเอง รู้สึกอบอุ่นไปทั้งตัว ไม่รู้สึกว่าหนาวเลยสักนิด
ในเวลานี้ เห็นด้วยกับการตัดสินใจของจี้จิ่งเชินมาก
ถ้าเมื่อกี้เธอใส่ชุดเดรสมาจริงๆ แล้วนั่งอยู่ในงานแฟชั่นอีกหนึ่งชั่วโมงกว่า ต้องหนาวจนกลายเป็นเสาน้ำแข็งแล้วมั้ง?
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังยิ้ม ในใจรู้สึกเบาใจไม่น้อย เดินขึ้นมาอย่างมีพลัง เดินด้วยกันกับจี้จิ่งเชินไปด้านหน้า
จี้จิ่งเชินมองเห็นความเปลี่ยนแปลงของเธอ มุมปากยิ้มขึ้นมากว้างๆ
“เที๋ยนเที๋ยน”
เขาเอียงตัวเข้าไปใกล้ๆหูของเวินเที๋ยนเที๋ยน พูดหยอกล้อเธอ: “ตอนนี้รู้สึกอบอุ่นแล้วใช่ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนแก้มแดงขึ้นมาเล็กน้อย ดึงตัวจี้จิ่งเชินเดินเข้าไปข้างในด้วยความเขินอาย
แขกรับเชิญในงานแฟชั่นโชว์ต่างก็นั่งกันเกือบเต็มที่นั่งแล้ว มองไปไกลๆแล้ว ทุกคนต่างก็แต่งตัวใส่เสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยสีสัน สวยงามมาก ดึงดูดสายตาผู้ที่นั่งอยู่รอบข้างไม่น้อย