เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 746 นับวันระยะห่างยิ่งไกลออกไป
บทที่ 746 นับวันระยะห่างยิ่งไกลออกไป
หลวนจื่อคิด แต่ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นเคาะประตู
จากนั้น ก็มีน้ำเสียงผู้หญิงดังขึ้น
“ใคร?”
หลวนจื่อได้ยินแล้ว เป็นเสียงของหลิ่วเฟยเฟย
เมื่อได้ยินเสียงนี้ ความโชคดีเพียงอย่างเดียวของหลวนจื่อในใจของเธอก็สลายไปทันที
เธอยืนอยู่หน้าประตู ไม่รู้ว่าจะเข้าไปดีหรือไม่
ถ้าหมินอันเกอกับหลิ่วเฟยเฟยอยู่ในนั้นจริงๆ …
เพียงแค่คิดถึงความเป็นไปได้นี้ ในใจของหลวนจื่อก็รู้สึกเจ็บปวด ราบกับถูกคมมีดกรีด
หมินอันเกอ เขาอยู่ในนั้นจริงๆ หรือ?
ในใจของหลวนจื่อเต็มไปด้วยความกลัว จนไม่แม้แต่จะกล้าตอบกลับหลิ่วเฟยเฟย และหันกลับออกมา
แต่ในเวลานั้นเอง ประตูตรงหน้าเธอกลับถูกเปิดออก
หลวนจื่อหันกลับไปอย่างรีบร้อนและเห็นหลิ่วเฟยเฟยยืนอยู่ที่ประตูด้านใน
เธอสวมเสื้อคลุมอาบน้ำที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ และดูเหมือนเพิ่งอาบน้ำ
หลวนจื่อยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี
แต่กลับเป็นหลิ่วเฟยเฟยที่หัวเราะให้เธอก่อน
“คุณมาหาหมินอันเกอหรือ? พอดีเลย เขาหลับไป คุณพาเขากลับไปเถอะ”
หลวนจื่อได้ยินก็เม้มริมฝีปากของเธอ
“หมินอันเกอเขาอยู่ที่นี่?”
หลิ่วเฟยเฟยพยักหน้าและพูดด้วยท่าทางกึ่งยิ้ม “เพียงแต่เขายังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า คุณเข้ามากับฉันเถอะ”
ประโยคนี้ดูเหมือนจะจุดชนวนระเบิดปรมาณูโดยตรงในความคิดของ หลวนจื่อ!
เธออ้าปากค้างไม่รู้จะพูดอะไรยกเท้าขึ้นโดยไม่รู้ตัวแล้วเดินตามเข้าไป
เมื่อเข้าไปด้านใน จู่ๆ หลวนจื่อก็รู้สึกคิดผิดขึ้นมาอยู่มา แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นหมินอันเกอกำลังหลับสนิทอยู่บนเตียง
เขาไม่ได้สวมเสื้อผ้าใด ๆ บนร่างกายมีแค่เพียงผ้านวมปกคลุมเอาไว้ระหว่างเอว และส่วนสำคัญ
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า หลวนจื่อก็ตกตะลึงไป ความหวังในใจของเธอต่อให้มีมากมายแค่ไหน มาตอนนี้มันกลับแตกสลายลงทั้งหมด
“เขา…”
หลวนจื่ออ้าปาก นึกอยากถามอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็พูดไม่ออก
เห็นภาพตรงหน้านี้แล้ว เธอยังจะถามอะไรได้อีก?
ทุกอย่างล้วนอยู่ตรงหน้า
หลิ่วเฟยเฟยที่ยืนอยู่ด้านข้างเมื่อเห็นใบหน้าของเธอเปลี่ยนจากความตกใจเป็นความผิดหวัง มุมปากก็ยกยิ้มขึ้น เผยสีหน้าพึงพอใจ
“ตอนนี้บรรดาผู้จัดการและสื่อน่าจะรู้เรื่องที่พวกเรามาจัดงานเลี้ยงฉลองที่นี่แล้ว อีกเดี๋ยวพอลงไปข้างล่างก็จะมีคนเห็นพวกเราแน่นอน ถ้ามีคนเห็นว่าฉันกับเขาไปมาด้วยกัน จะต้องเกิดข่าวลือจากสื่อแน่”
เธอเอ่ยอย่างยิ้มๆ “คุณพาเขากลับไปก่อนเถอะ ส่วนเรื่องวันนี้ ฉันหวังว่าคุณจะเก็บเป็นความลับสำหรับพวกเรา”
หลวนจื่อไม่ตอบสนอง หลังจากได้ฟังคำพูดเหล่านี้ เธอรู้สึกเพียงว่าหัวใจของเธอราวกับถูกมีดกรีด
ตอนนี้ทุกๆ ฉากในห้องนี้ ทุกวินาทีล้วนทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของเธอจนเธอเจ็บปวดแทบหยุดหายใจ
ผ่านไปเนิ่นนาน ในที่สุดเธอก็สูดลมหายใจเข้าลึก จากนั้นใบหน้าก็กลับมาสงบลงอีกครั้ง แต่น้ำเสียงของเธอกลับเย็นชา
“ไม่จำเป็น ในเมื่อเขามาที่นี่เอง พวกคุณก็ไปส่งเข้ากลับเถอะ ฉันกับเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน”
พูดจบ เธอก็หันหลังจากไปอย่างไม่แยแส และเดินตรงไปที่ประตูโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
ทันทีที่เธอจากไปหลิ่วเฟยเฟยที่ยังยืนอยู่ที่เดิมก็ยิ้มสมใจ เธอถอดเสื้อคลุมอาบน้ำที่สวมอยู่ข้างนอกออก แต่ด้านในกลับยังคงแต่งตัวมิดชิด ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
หลิ่วเฟยเฟยหันไปมองหมินอันเกอที่ยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง เธอยิ้ม และเอื้อมมือไปลูบที่ใบหน้าของเขา
“แย่จัง ดูเหมือนว่าเพื่อนสาวตัวน้อยของคุณจะเข้าใจคุณผิดไปเสียแล้ว เพื่อประโยชน์ของภาพยนตร์ฉันและคุณควรเสียสละสักหน่อย”
พูดไปหลิ่วเฟยเฟยก็หัวเราะด้วยความพึงพอใจ
คนบนเตียงยังคงนอนหลับ และไม่ได้รับรู้เลยสักนิดว่าเกิดอะไรขึ้นตรงหน้าพวกเขา
หลวนจื่อออกจากโรงแรมอย่างเร่งรีบ หัวใจของเธอกำลังยุ่งเหยิง สิ่งที่อยู่ในใจของเธอตลอดเวลาก็คือภาพปรากฏของหมินอันเกอที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงและเสียงกระซิบของหลิ่วเฟยเฟยที่ข้างหูของเธอ
เธอรู้จักกับหมินอันเกอมานานขนาดนี้ ชอบเขามาก็นานหลายปี แต่นี่กลับเป็นครั้งแรกที่พบว่าระยะห่างระหว่างทั้งสองนั้นช่างห่างไกลอย่างยิ่ง ไกลจนกระทั่งแม้อีกฝ่ายอยู่ตรงหน้า หลวนจื่อก็ยังไม่กล้าเอ่ยปากพูด
ต่อให้เธอชอบเขาจริงๆ แต่เรื่องเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเธอ เธอจะโกหกตัวเองและเชื่อเขาต่อไปได้งั้นหรือ?
หลังออกจากโรงแรมลิ่เทียน หลวนจื่อก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ
จากนั้นเธอก็เห็นทีมงานเดินออกมา นักข่าวที่กำลังยืมรออยู่รอบๆ ก็รีบพุ่งเข้าไปเพื่อสัมภาษณ์นักแสดง
เมื่อเห็นหลิ่วเฟยเฟยช่วยประคองหมินอันเกอออกมา ผู้นักข่าวสองสามคนก็ตาเป็นประกาย และรีบถ่ายภาพตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
หลิ่วเฟยเฟยไม่มีท่าทีเขินอายหรือปกปิด แต่กลับยังเงยหน้าขึ้นยิ้ม และช่วยประคองหมินอันเกอเข้าไปในรถของตนอย่างเปิดเผย
หลวนจื่อยืนอยู่ที่มุมๆ หนึ่ง มองดูพวกเขาจากไป สุดท้ายเธอก็ไม่ได้เข้าไปและมองดูพวกเขาจากไปอย่างเงียบ ๆ
ในเวลานี้ เธอยิ่งรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าระยะห่างระหว่างตนเองกับหมินอันเกอนับวันยิ่งไกลออกไปแล้ว
บางที ตอนแรกที่เธอใช้ลูกในการรั้งเขาเอาไว้ แต่เดิมก็เป็นทางเลือกที่ผิด
ความรู้สึกที่ขโมยมา สักวันหนึ่งมักย่อมต้องหายไป
เรื่องนี้ เธอรู้ตั้งนานแล้วนี่ ไม่ใช่หรือไง?
หลวนจื่อหัวเราะกับตัวเอง แต่เธอกลับไม่รู้ว่าตนเองสมควรจะไปที่ไหนในเวลานี้
กลับบ้านหรือ? นั่นคือบ้านของหมินอันเกอ ตอนนี้ที่นั่นไม่ใช่ที่ของเธอแล้ว
หลวนจื่อยิ้มอย่างขมขื่น และนั่งนิ่งอยู่บนรถ
จนกระทั่งเมื่อได้สติกลับมา เธอก็พบว่าตนเองมายังปราสาทของจี้จิ่งเชินแล้ว
ตอนนี้เป็นเวลาดึกแล้ว ถ้าตนเองเข้าไปตอนนี้ ไม่รู้ว่ามันจะรบกวนพวกเขาหรือเปล่า?
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้กลับมาที่ปราสาทสักพักหนึ่งแล้ว ทันทีที่มาเธอก็นึกถึงกล่องเครื่องมือที่เคยวางไว้ที่นี่ได้
เมื่อนึกถึงกระเบื้องเคลือบที่แตกไปของตระกูลหล่อน เวินเที๋ยนเที๋ยนใช้เวลาที่มีอยู่ในการหามันออกมา
ไม่ง่ายเลยกว่าที่จี้จิ่งเชินจะนำคนกลับมาได้ แต่เมื่อเขาทำได้แค่เพียงมองดูเวินเที๋ยนเที๋ยนยุ่งอยู่ในสตูดิโอของตัวเองตาปริบ เขาก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินอยู่บ้าง
หลังจากพยายามสงบจิตใจ แต่สุดท้าย จี้จิ่งเชินก็พาคนกลับไปที่ห้องนอนอย่างอดทนไม่ไหวอีกต่อไป และเตรียมที่จะพักผ่อน
แต่ในวินาทีต่อมา ประตูห้องนอนกลับก็ถูกเคาะขึ้นทันที
เสียงของพ่อบ้านดังเข้ามาจากนอกประตู
“คุณชาย คุณหนู มีแขกมาเยี่ยม”
ได้ยินดังนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่เข้าใจอยู่บ้าง
ใครกันจะมาเวลานี้?
เวินเที๋ยนเที๋ยนเหลือบดูเวลา ตอนนี้ใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว เกือบจะเป็นศูนย์แล้ว หากไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ก็คงจะไม่มาแน่
เธอคิด จากนั้นจึงเอ่ยถาม “ใคร?”
พ่อบ้านตอบ “คุณหนูหลวนจื่อ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยิน ก็ตาค้างด้วยความประหลาดใจ
“หลวนจื่อ เธอมาได้อย่างไร? ”
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในงานเดินแบบบ่ายวันนี้ เธอก็รู้สึกกังวลเล็กน้อยและลุกขึ้นนั่งอย่างรีบร้อน
“หรือว่าจะทะเลาะกับหมินอันเกอจริงๆ?”
ตอนบ่าย เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกกังวลแล้ว อีกทั้งยังยืนยันว่าจะไปดู
แต่จี้จิ่งเชินกลับบอกว่าหลวนจื่อไม่เป็นไร แต่ตอนนี้ หลวนจื่อกลับมาหาตนดึกๆ ดื่นๆ
ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอแน่
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบออกไปทันที
จี้จิ่งเชินได้ยินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเช่นกัน
เท่าที่เขารู้ แม้ว่าต่อให้หมินอันเกอจะโกรธมาก แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะขับไล่หลวนจื่อออกมากลางดึก
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?