เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 748 สุดท้ายคุณจะต้องอยู่คนเดียวไปจนแก่
บทที่ 748 สุดท้ายคุณจะต้องอยู่คนเดียวไปจนแก่
แม่ครัววางแก้วน้ำผลไม้ไว้ตรงหน้าเธอและเอ่ยปลอบ “คุณหมินไม่น่าจะใช่คนแบบนั้น นี่เป็นการใส่ร้ายหรือเปล่า?”
หลวนจื่อก้มหน้าเล็กน้อย เธอยิ้มแต่กลับไม่ตอบ และทำเพียงแค่จิบน้ำผลไม้
แม่ครัวถอนหายใจและมองเธอด้วยความปวดใจ
เธอนั่งต่อไปสักพัก จนกระทั่งฉวีผิงมาถึง เธอถึงค่อยไปส่งหลวนจื่อขึ้นรถ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หลวนจื่อมาที่บ้านพักตระกูลหล่อน ดูเหมือนว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะสั่งสมาชิกคนอื่นๆ ในตระกูลหล่อนไว้ล่วงหน้า
ทันทีที่หลวนจื่อลงรถ เธอก็เห็นคนหลายคนกำลังรออยู่ที่ประตู
เธอโค้งตัวเล็กน้อยและเอ่ยขอโทษ “อีกกี่วันนี้ฉันจะมาอยู่ที่นี่ รบกวนทุกคนแล้ว”
หลายคนรู้ว่าเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเวินเที๋ยนเที๋ยน ดังนั้นจึงต้อนรับเธออย่างยิ้มแย้ม
“คุณหนูหลวน คุณอยู่อย่างสบายใจเถอะค่ะ มีอะไรพวกเราช่วยคุณเอง”
“ขอบคุณ”
หลวนจื่อเดินเข้าไป เตรียมจะไปที่ห้องนั่งเล่น แต่ฉวีผิงกลับก้าวขึ้นมาหยุดเธอไว้
“คุณหนูหลวน คุณไปทางนี้จะดีกว่า”
หลิวเหม่ยหลันและหล่อนเจียนีอยู่ในห้องนั่งเล่น ฉวีผิงไม่ต้องการให้พวกนั้นได้เจอ
ตอนนี้หลวนจื่อกำลังตั้งครรภ์ อีกทั้งยังเพิ่งผ่านเรื่องพวกนั้นมา หากได้พบกับสองแม่ลูกนั่นพูดจายุแหย่อะไรเข้าเกรงว่าจะแย่
หลวนจื่อไม่ได้คิดมาก เธอพยักหน้าและเดินตามเขาไปด้านหลัง
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้สั่งให้คนมาทำความสะอาดห้องไว้ก่อนแล้ว คนรับใช้หลายคนช่วยเธอเก็บของ
หลวนจื่อมองไปที่คนเหล่านั้นและเอ่ย “พวกคุณไปทำธุระเถอะค่ะ ฉันขอพักผ่อนสักครู่ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับฉัน”
มีหลายคนที่ยังคงทำงานในมือไม่เสร็จ แต่เมื่อเห็นหลวนจื่อพูดเช่นนั้น ก็ได้แต่หันหลังจากไป
หลวนจื่อนั่งอยู่ในห้อง รอจนรอบข้างเงียบลง ถึงค่อยแค่ถอนหายใจออกมา
เมื่อวางของเสร็จและเตรียมออกไปเดินเล่น ทันทีที่เพิ่งออกมาก็ได้ยินเสียงดังขึ้น
“ได้ยินว่าห้องข้างๆ ถูกทำความสะอาดแล้ว มีคนจะมาอยู่ ไม่รู้ว่าเป็นใคร”
“นั่นสิ ฉันถูกเสียงดังของพวกเขาปลุกให้ตื่นเมื่อเช้า ไม่รู้ว่านายใหญ่คนไหนมา ที่นี่ถึงได้ต้องต้อนรับขับสู้ขนาดนั้น”
“แม่ แม่ว่าจะเป็นจี้จิ่งเชินหรือเปล่า?”
“ไม่มั้ง…”
หลวนจื่อได้ยินเสียงก็อดไม่ได้ที่จะออกมาและเห็นว่าคนสองคนยืนอยู่ที่ประตูพร้อมกับฝักบัวในมือ
พวกเขาไม่ได้เคลื่อนไหวต่อ แต่กลับยืนคุยกัน
หลวนจื่อมองดู และรู้สึกว่ารูปลักษณ์ของพวกเขาช่างคุ้นเคยอยู่บ้าง
หลังจากมองอีกสักพัก เธอถึงค่อยพบว่าพวกเธอก็คือหล่อนเจียนีและหลิวเหม่ยหลัน ที่อาศัยอยู่ในตระกูลหล่อน
นึกถึงเช้าวันนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนเตือนเธอเอาไว้ เหลวนจื่อจึงยิ่งรู้สึกอยากมองพวกเธออีกสักหน่อยด้วยความสนใจ
คดีของหล่อนเจี้ยนกั๋ว หลวนจื่อเองก็รู้อยู่บ้าง แต่เธอไม่ค่อยเข้าใจนิสัยของหล่อนเจียนีและหลิวเหม่ยหลัน
ทันทีที่เธอออกมา คนที่กำลังยืนคุยอยู่ตรงหน้าเธอก็หันมามองและหยุดพูดลง
“เป็นคุณ?”
หล่อนเจียนีหัวเราะขึ้นมา
“ฉันก็คิดว่าเป็นใครใหญ่โตที่ไหน? ที่แท้ก็คุณนี่เอง”
“ทำไม? ถูกหมินอันเกอทั้งก็เลยมาหาเวินเที๋ยนเที๋ยน?”
“ก่อนหน้านี้แย่งเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้ ตอนนี้ทำไมถึงยังแย่งไม่ได้อีกล่ะ ฉันจำได้ ตอนแรกคนที่หมินอันเกอชอบก็คือเวินเที๋ยนเที๋ยนใช่ไหม? เวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นศัตรูหัวใจของเธอไม่ใช่หรือไง? แบบนี้แล้ว ยังจะมาขอความช่วยเหลือจากเธออีก?”
หลิวเหม่ยหลันได้ยิน ก็หันไปมองเธอ
นึกถึงข่าวที่เธอเห็นเมื่อเช้านี้ หลิวเหม่ยหลันก็พูดอย่างประหลาดใจ “นี่คือแฟนของหมินอันเกอหรือเนี่ย”
พูดไป เธอก็จุ๊ปาก “ท้องโตแล้วยังถูกคนทิ้ง ช่วงเป็นเรื่องน่าเศร้าเสียจริงๆ เห็นทีต่อให้เป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลหล่อนก็ไม่ต่างกัน ไม่ได้ดีไปสักเท่าไหร่”
พูดจบ ทั้งสองก็หัวเราะ
หลวนจื่อขมวดคิ้ว ก็ไม่ได้ไปต่อและหยุดลงอยู่กับที่ จากนั้นจึงนิ่งไปชั่วครู่แล้วเตรียมจากไป
แต่หล่อนเจียนีที่อยู่ด้านหลังเห็นเข้าก่อน และรีบหยุดเธออย่างรวดเร็ว
“หลวนจื่อ คุณไม่อยากแย่งเอาหมินอันเกอกลับมาหรือไง?”
เมื่อเห็นหลวนจื่อชะงักลง เธอก็เอ่ยต่อ “คุณเต็มใจที่จะมองเขาอยู่ในอ้อมแขนของผู้หญิงคนอื่นหรือ?”
หลวนจื่อส่ายหัว จากนั้นจึงหันกลับมา แต่สีหน้าของเธอกลับสงบลงอย่างรวดเร็ว
“เรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับคุณนี่?”
“ไม่มีอะไรเกี่ยวกับฉันจริงๆ นั่นแหละ” หล่อนเจียนีเดินเข้ามาและเอ่ย “ก็แค่เห็นว่าตอนนี้เธอท้องโตแล้ว แต่หมินอันเกอกลับออกไปเที่ยวกับผู้หญิงคนอื่น ฉันก็แค่ทวงความอยุติธรรมไว้คุณ”
“ฉันว่าคุณมีจุดประสงค์อื่นมากกว่า?” น้ำเสียงเยียบเย็นของหลวนจื่อมองออกถึงความคิดของเธอ
เธอหันหน้ามาและพูดว่า “คุณเอาแต่อยู่ที่บ้านตระกูลหล่อนมาโดยตลอด คิดจะทำอะไร?”
“ฉันไม่ได้อยู่บ้านคุณสักหน่อย คุณยุ่งอะไรด้วย?” หล่อนเจียนีถูกจี้ใจดำ จึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ ฉันคงได้แต่ดูคุณให้กำเนิดลูก แล้วก็อยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยวไปจนแก่ ถึงตอนนั้นหมินอันเกอคงไม่แม้แต่จะมองคุณด้วยซ้ำ”
หลวนจื่อได้ยิน ในใจก็รู้สึกเจ็บปวดราวกับมีดกรีด คล้ายว่าบาดแผลเมื่อวานกำลังปริแตกอีกครั้ง
เธอเม้มริมฝีปาก สีหน้าเปลี่ยนเป็นขาวซีดจนเกือบม่วง เธอไม่ได้เอ่ยอะไรต่อและหันหลังจากไป
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมาจากบริษัท เธอก็ได้รู้ว่าหลวนจื่อเอาแต่อยู่ในห้องทั้งวันและแทบจะไม่ออกมาเลยนอกจากเวลาทานอาหาร
หลังจากถามพ่อบ้าน ฉวีผิงถึงค่อยบอกเธอว่าระหว่างรับประทานอาหาร สองแม่ลูกสาวตระกูลหล่อนเอาแต่เยาะเย้ยใส่หลวนจื่อ ทั้งยังเอ่ยพูดจาไม่น่าฟังสักนิด
หลวนจื่อไม่ได้เอ่ยพูด แต่สีหน้ากลับย่ำแย่อย่างยิ่ง หลังจากรับประทานอาหารเสร็จก็รีบออกไปทันที และไม่ออกมาจากห้องอีก
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วด้วยความโกรธ เธอพาหลวนจื่อมาที่นี่ ก็เพื่อที่จะดูแลเธออย่างดี
แต่เดิมเธอเคยคิดว่าระหว่างหลวนจื่อและสองแม่ลูกตระกูลหล่อนไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรต่อกัน อย่างนั้นสองคนนั้นก็จะรู้ว่าควรต่างคนต่างอยู่
คิดไม่ถึงเลยว่า หลวนจื่อมาได้แค่วันเดียว ก็ได้รับความลำบากแบบนี้
สีหน้าของเธอเคร่งขึ้น
“ฉันจำได้ ว่างานที่จัดให้พวกเธอไม่ใช่งานสบายๆ ทำไมถึงยังมีเวลามารบกวนหลวนจื่อได้ขนาดนี้อีก?”
ฉวีผิงเมื่อได้ยิน ก็เอ่ยอย่างทุกข์ใจ “คุณหนู สองคนนั้นไม่ทำ ไม่ทำไม่ว่า แถมยังเอาแต่ก่อเรื่อง ตอนนี้ไม่มีใครเต็มใจที่จะใช้พวกเธอ”
“ถ้าพวกเขาว่างมากขนาดนั้น ก็ให้งานอื่นๆ ไป ให้คนสวนคอยจับตาดูพวกเขาตลอดเวลา อย่าให้มีเวลาว่างมารบกวนหลวนจื่อ”
“ครับ คุณหนู”
ฉวีผิงพยักหน้าและรีบเดินเข้าไปข้างใน พร้อมมอบหมายงานให้คนอื่น
เวินเที๋ยนเที๋ยนมาที่หน้าประตูห้องของหลวนจื่อ เธอเคาะประตูจากนั้นจึงเดินก็เข้าไป
หลวนจื่อกำลังนั่งอยู่ที่หน้าหน้าต่างและมองออกด้านนอก
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไป
“ทำไมไม่ออกไปเดินเล่นสักหน่อย?”
หลวนจื่อหันมามองเธอ และส่ายหัวเล็กน้อย
“ไม่ไปแล้ว”
“เพราะพวกหล่อนเจียนี?” เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยเข้าประเด็น
หลวนจื่อกลับไม่ตอบ
วันนี้หลังจากที่เธอมาที่บ้านตระกูลหล่อน เธอคิดอยากจะออกไปเดินเล่นอยู่หลายครั้ง แต่ทุกครั้งล้วนได้พบกับ หล่อนเจียนีและหลิวเหม่ยหลัน
ขอแค่ได้พบกัน พวกนั้นก็จะเยาะเย้ยเธอ และพูดถึงเรื่องของตนกับหมินอันเกออย่างไม่หยุด จนทำให้เธอปวดหัวและซ่อนตัวอยู่ในห้องตลอดเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงพวกเขา