เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 751 รีบไปจากที่นี่เร็ว
บทที่ 751 รีบไปจากที่นี่เร็ว
หมินอันเกอได้ยินคำพูดนี้แล้ว ก็มีร่องรอยความตกตะลึงพาดผ่านนัยน์ตาไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยต่อว่า “คุณคิดดูให้ดี ถ้าหากว่าไม่มีความรู้สึกอื่นอีกล่ะก็ อาจจะ…….อาจจะ……..”
ยังไม่ทันจะเอ่ยจบ หมินอันเกอที่เดาได้บางส่วน ก็มีร่องรอยลนลานพาดผ่านนัยน์ตาไป
ผ่านไปครู่หนึ่ง ถึงได้ค่อยๆกลับมาสงบนิ่งเหมือนเดิม
“ผมรู้แล้ว ผมจะพิจารณาให้ดี”
เอ่ยจบแล้ว ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความหดหู่แล้วหมุนตัวจากไป
หลังจากที่หลวนจื่อได้รู้ปฏิกิริยาตอบสนองของหมินอันเกอแล้ว ก็ไม่ได้วางใจเสียทีเดียว แต่คอยติดตามความเคลื่อนไหวทางอินเทอร์เน็ตมาโดยตลอด
ข้อมูลข่าวคราวของหลิ่วเฟยเฟยหมินอันเกอถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์แล้ว แทบจะไม่มีใครที่ไม่รู้
บนบัญชีของหลวนจื่อ จะต้องมีคนมาด่าว่าเสียดสีทุกวัน บอกว่าเธอหลอกลวงหมินอันเกอ ใช้ลูกมาบีบบังคับหมินอันเกอ เพื่อขังเขาไว้ข้างกาย
หลวนจื่อเห็นคำพูดเหล่านี้แล้วก็ไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไรดี
ยิ่งไปกว่านั้น กระทั่งตัวหลวนจื่อเอง ก็รู้สึกว่าตัวเองผูกรั้งอนาคตของหมินอันเกอเอาไว้ แล้วจะตอบโต้พวกเขาได้อย่างไรกัน
ตอนนี้มีหลิ่วเฟยเฟยที่มีความรู้ความสามารถ รูปร่างหน้าตาดีและได้รับการชื่นชอบจากแฟนคลับเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง คนในโลกออนไลน์เกือบทั้งหมดล้วนรู้สึกแบบเดียวกันว่า หมินอันเกอกับหลิ่วเฟยเฟยต่างหากถึงจะเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากที่สุด เธอต่างหากที่ใช้ประโยชน์จากลูก เข้าไปแทรกกลางความรู้สึกของผู้อื่น เป็นผู้หญิงที่ต่ำช้าไร้ยางอายคนหนึ่งเท่านั้นเอง
นับตั้งแต่งานเลี้ยงปิดกล้องในครั้งนั้น หลิ่วเฟยเฟยก็ไม่ได้ลงข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับตัวเองและหมินอันเกออีก แต่สำหรับเรื่องข่าวคราวอื้อฉาวก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ตอบโต้เช่นกัน
อาศัยเรื่องราวในครั้งนี้ ทำให้เธอโด่งดังยิ่งกว่าแต่ก่อนเล็กน้อย โฆษณาและแบรนด์แอมบาสเดอร์ล้วนได้รับจนมือไม้อ่อนไปหมด
ทางด้านหมินอันเกอก็ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวอะไร
ภายใต้สถานการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายแสดงออกถึงความนิ่งเงียบนั้น ผู้คนล้วนยอมรับว่าพวกเขาคบกันแล้วมากขึ้นเรื่อยๆ
ตอนแรกที่ได้เห็นข่าวพวกนี้นั้น หลวนจื่อยังคงรู้สึกเจ็บปวดใจ ทรมาน ไปจนถึงมีโทสะ
แต่ในไม่ช้า จิตใจของเธอก็เปลี่ยนเป็นด้านชา
ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้ามาในห้องของเธออีกครั้งหนึ่งนั้น ก็เห็นหลวนจื่อกำลังตรวจดูข้อมูลของหมินอันเกอ จึงส่งเสียงกระแอมไอไปครั้งหนึ่ง
ฝ่ายตรงข้ามที่ได้ยินเสียง ก็รีบพับโน้ตบุ๊คแล้วแอบซ่อนอย่างรวดเร็ว อย่างไม่ต้องการให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นห่วง
เมื่อสายตาเวินเที๋ยนเที๋ยนเบนผ่านไป หัวใจก็หนักอึ้งเล็กน้อย เดินเข้ามา พลางเอ่ยว่า “ฉันคุยกับอันหมินเกอเรียบร้อยแล้ว ทางด้านบริษัทก็แจ้งเรียบร้อยแล้วเช่นกันว่าจะไม่ให้เขาทำเรื่องโง่ๆ”
หลวนจื่อพยักหน้า เงียบไปครู่หนึ่ง ก็ถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ว่า “ในภายหลัง……..อันหมินเกอยังมาอีกไหม”
“ดูเหมือนว่าจะยุ่งกับเรื่องอื่นๆอยู่ล่ะมั้ง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นความหดหู่บนใบหน้าของเธอ ก็เอ่ยอย่างเสียใจว่า “ขอโทษด้วย หลายวันมานี้ทางบริษัทมีโครงการใหญ่ ฉันปลีกตัวมาไม่ได้ เดิมควรจะให้ฉันมาดูแลเธอ”
เนื่องจากบริษัทหล่อนซื่อเริ่มการเคลื่อนทัพภายในประเทศอย่างเป็นทางการ ในไม่ช้าก็ต้องเข้าร่วมการประชุมประมูลแข่งขันราคาครั้งแรก
แม้ว่าก่อนหน้านี้จี้จิ่งเชินจะให้ข้อมูลเธอมาบ้างแล้ว แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังคงเป็นกังวลอยู่ดี
สองสามวันมานี้ คนทั้งบริษัทล้วนเตรียมตัวกันอย่างสุดความสามารถ ต้องการจะประสบความสำเร็จจากการลงสนามภายในประเทศเป็นครั้งแรก เวินเที๋ยนเที๋ยนที่มีฐานะเป็นถึงประธานบริษัท จึงไม่สามารถประมาทเลินเล่อได้
จนถึงตอนนี้ ในที่สุดก็สามารถหาเวลาว่างมาที่นี่ได้
หลวนจื่อมองดูแล้วผอมลงไปพอสมควร ทำให้คนรู้สึกสงสารจริงๆ
“ฉันรู้แล้ว” หลวนจื่อมุมปากกระตุก ฝืนเผยรอยยิ้มบางๆออกมา
“เธอยุ่งวุ่นวายกับเรื่องในบริษัทไปก็พอ ฉันตัวคนเดียวก็สบายดีมาก ผู้ดูแลฉวีผิงกับพวกแม่ครัวล้วนดูแลฉันเป็นอย่างดี มีอะไรที่ต้องการ ตัวเองยังไม่ทันจะคิดถึง พวกเขาก็ส่งมาให้ก่อนแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ย “แต่ว่าเธอไม่สามารถอุดอู้อยู่ในบ้านทั้งวันทั้งคืนได้นะ ต้องออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกบ้างใช่ไหม แบบนี้ถึงจะดีต่อเด็กด้วย”
“เธอวางใจเถอะ” หลวนจื่อหัวเราะ เอ่ยว่า “เธอไม่ต้องกังวล”
ตอนที่อยู่กับอันหมินเกอก่อนหน้านี้สองสามเดือน เนื้อหนังเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยได้ไม่ง่ายเลย ภายในระยะเวลาสั้นๆเพียงไม่กี่วัน ก็ซูบผอมลงไปเยอะมากอีกแล้ว แบบนี้ จะทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนวางใจได้อย่างไรกัน
หลวนจื่อเห็นเธอไม่พูดก็อะไร จึงได้แต่เอ่ยว่า “แบบนั้นก็ดีแล้ว หลังจากนี้ฉันจะออกไปเดินเล่นทุกวัน ให้ผู้ดูแลบ้านดูแลฉัน ตอกบัตรเข้างานทุกวัน แบบนี้เธอคงจะวางใจได้แล้วสินะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกท่าทางจริงจังของเธอทำให้ตลกจนหัวเราะออกมา แต่ก็ยังคงพยักหน้า
“เป็นแบบนั้น แน่นอนว่าดี แต่ต้องระวังความปลอดภัยด้วย”
เธอขมวดคิ้ว คิดถึงคนในบ้านอีกสองคน จึงเอ่ยอย่างกังวลว่า “ทางด้านหล่อนเจียนีกับหลิวเหม่ยหลันนั้น เธอเลี่ยงได้ก็เลี่ยงเถอะ สองวันนี้ฉันจะให้ผู้ดูแลบ้านช่วยหางานอื่นให้พวกเธอ หลังจากยุ่งขึ้นมาแล้ว จะได้ไม่มีเวลามารบกวนเธอ แต่ยังคงต้องระวังไว้อยู่ดี”
หลวนจื่อพยักหน้า
มิน่าล่ะ นับตั้งแต่วันนั้นที่หล่อนเจียนีพูดสิ่งเหล่านั้นแล้ว ก็หายตัวไปเลย
เธอไม่ได้เล่าคำพูดพวกนั้นของหล่อนเจียนีให้เวินเที๋ยนเที๋ยนฟัง ตอนนี้อาศัยอยู่ที่ตระกูลหล่อน ก็สร้างความวุ่นวายให้พวกเขาไม่น้อยแล้ว เธอไม่อยากทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนลำบากใจเพราะตัวเองอีก
“ไม่เป็นไร เธอวางใจเถอะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดคุยกับเธอสักพักหนึ่ง จนกระทั่งฉวีผิงเข้ามาแจ้งว่าจี้จิ่งเชินมาถึงแล้ว เธอถึงได้จากไปในที่สุด
“รอเรื่องของบริษัทครั้งนี้จบลง ฉันก็มีเวลาอยู่เป็นเพื่อนเธอแล้ว ถึงตอนนั้นจะได้ออกไปผ่อนคลายข้างนอกกับเธอ” เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยอย่างไม่อาจวางใจ
“รู้แล้ว เธอรีบไปเถอะ ไม่อาจให้จี้จิ่งเชินรอนานไปกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะบุกเข้ามาเลยก็ได้” หลวนจื๋อเอ่ยด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยแววหยอกล้อ
เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้เดินกลับไปยังห้องรับแขก เมื่อเดินเข้ามา ก็เห็นว่าหล่อนเจียนีนั่งอยู่ที่นั่นด้วย และกำลังหาโอกาสเข้าใกล้จี้จิ่งเชินอยู่
หลายวันมานี้ หล่อนเจียนีมีความคิดอะไรในใจ เวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นชัดเจนนานแล้ว
เพียงแต่คิดไม่ถึงว่า เธอยังคงไม่ยอมแพ้มาโดยตลอด ถึงจะล้มเหลวทุกครั้งแต่ก็ยังสู้ไม่ถอย
ขอเพียงแค่คว้าโอกาสได้เล็กน้อย ก็จะคิดหาสารพัดวิธีการเพื่อเข้าใกล้จี้จิ่งเชิน
ในตอนนี้จี้จิ่งเชินกำลังนั่งคิ้วขมวดเป็นปมอยู่บนโซฟา บนใบหน้าแฝงไปด้วยความแข็งกระด้าง ไม่ให้ใครเข้าใกล้
แต่ในมือของหล่อนเจียนีประคองกาแฟอยู่ถ้วยหนึ่ง เขยิบเข้าไปใกล้ด้านหน้าเขา ใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้ม
“คุณจี้ คุณลองชิมสักหน่อยนะคะ นี่เป็นกาแฟที่ฉันชงให้คุณเองกับมือเลย จะต้องอร่อยมากแน่นอน คุณชอบเพิ่มน้ำตาลกี่ก้อนหรือคะ”
สีหน้าของจี้จิ่งเชินไม่น่ามองขึ้นเรื่อยๆ ดำจนเหมือนก้นหม้อ แต่หล่อนเจียนีกลับไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
เธอยังคงขยับเข้าไปข้างๆเขาด้วยใบหน้าอบอุ่นจริงใจ หัวเราะอย่างรื่นเริง พลางเอ่ยว่า “ฉันชอบเพิ่มสองก้อน แต่ฉันคิดว่าคนแบบคุณ น่าจะชอบเพิ่มก้อนหนึ่งหรือไม่เพิ่มเลยสินะคะ”
จี้จิ่งเชินไม่ขยับเขยื้อน จนกระทั่งเธอวางกาแฟถ้วยนั้นไว้ด้านหน้าจี้จิ่งเชิน เขาถึงได้ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว
เพราะการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นเร็วเกินไป หล่อนเจียนีจึงถูกทำให้สะดุ้งตกใจ จนเกือบจะทำถ้วยกาแฟในมือคว่ำ
“ผมไม่สนใจกาแฟของคุณ และคุณด้วย”
เสียงของจี้จิ่งเชินเย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็ง พูดแล้วก็ถอยไปก้าวหนึ่ง เพิ่มระยะห่างกับเธอ นัยน์ตาไร้ซึ่งความอบอุ่นใดๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ปรากฏตัวขึ้นในตอนนี้พอดี
“จี้จิ่งเชินหรือ”
เมื่อเธอเอ่ยพูด ทั้งสองคนก็หันหน้ามาพร้อมกัน
ใบหน้าจี้จิ่งเชินเผยความรู้สึกโล่งใจออกมา สีหน้าค่อยๆผ่อนคลายลง
เขาเดินอ้อมด้านหน้าหล่อนเจียนีไปถึงหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน
“ออกเดินทางได้หรือยัง” เขาเอ่ยถามอย่างอดทนรอไม่ไหวอยู่บ้าง แทบอยากจะไปจากที่นี่ตอนนี้ทันที เพื่อสลัดคนที่อยู่ด้านหลังทิ้งไป