เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 770 เลือกแหวน
บทที่ 770 เลือกแหวน
เมื่อเห็นว่าหล่อนเจียนีเป็นคนโทรมา จิตใต้สำนึกของหลวนจื่อก็อยากที่จะตัดสายทิ้ง
หล่อนเจียนีรีบถามขึ้นว่า:“เป็นยังไงบ้าง?วันนั้นหมินอันเกอได้ไปหาเวินเที๋ยนเที๋ยนไหม?คุณถามชัดหรือยัง?”
เมื่อหลวนจื่อได้ยินประโยคนี้ ก็ขมวดคิ้วขึ้นชั่วขณะ
“เกี่ยวอะไรกับคุณ?”
หล่อนเจียนีเมื่อได้ยินคำตอบนั้น ก็พอที่จะเดาคำตอบได้ จึงหัวเราะขึ้นอย่างได้ใจ
เป็นอย่างที่หล่อนคิดไว้ไม่มีผิด หมินอันเกอไม่ได้บอกเรื่องนี้กับหล่วนจื่อ
หล่อนพูดขึ้นอย่างได้ใจว่า:“เขาบอกว่าไม่ได้ไปใช่ไหม?ในเมื่อเขาไม่ได้มา แล้วรูปภาพที่ฉันถ่ายไว้หมายความว่ายังไง?”
หลวนจื่ออยากที่จะวางสายลง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะโต้ตอบ
“อาจจะเป็นเพราะว่าคุณตัดต่อ หรือไม่ก็เป็นเพราะว่าคุณประกบรูปภาพ คุณหลอกฉันไม่ได้หรอก ฉันไม่มีทางเชื่อคุณ”
“เป็นแบบนี้จริงๆเหรอ?”
ราวกับหล่อนเจียนีกำลังจี้จุดที่บอกบางที่สุดในใจของหลวนจื่อ ถามโต้กลับว่า:“นี่เป็นของจริง คุณยังคงหลอกตัวเองอยู่?”
หลวนจื่อนิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกมา
หล่อนเจียนีคู่สายกลับถามว่า:“งั้นวันนี้ล่ะ หมินอันเกอได้บอกไหมว่าเขาไปไหนมา?”
หลวนจื่อกัดฟันพูดขึ้นว่า:“วันนี้หมินอันเกอไปกองถ่าย”
“กองถ่าย?”หล่อนเจียนีหัวเราะออกมาอย่างสามหาว
“เขาบอกกับคุณแบบนั้นเหรอ?”
“คุณหมายความว่ายังไง?”หลวนจื่อถามกลับ
หล่อนเจียนีหัวเราะพลางพูดขึ้นว่า:“เขาไม่ได้ไปกองถ่ายสักหน่อย ฉันว่านะ คงมีแต่คุณเท่านั้นแหละที่หลับหูหลับตาเชื่อเขา”
“จะเป็นไปได้ยังไง?”หลวนจื่อขมวดคิ้วพลางพูดขึ้นว่า:“หากไม่ได้ไปกองถ่าย เขาจะสามารถไป ……”
เมื่อพูดได้ครึ่งหนึ่ง เหมือนกับจู่ ๆ เธอก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงเงียบลง
หล่อนเจียนีหัวเราะพลางพูดขึ้นว่า“ใช่ เป็นแบบที่คุณคิดนั้นแหระ เขาอยู่ด้วยกันกับเวินเที๋ยนเที๋ยน”
“คุณพูดโกหก!”หลวนจื่อต้องการโต้แย้งหล่อน
หล่อนเจียนีจึงรีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็วว่า:“ฉันรู้ว่าคุณต้องไม่เชื่อแน่ๆ งั้นคุณก็ลองมาถามด้วยตนเองสิ ร้านค้าชั้นสองของอาคางปิงไห่อ่อ ใช่แล้ว เป็นร้านขายแหวน”
“ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมพวกเขาทั้งสองต้องมาดูแหวนกัน?”
เมื่อหล่อนเจียนีพูดจบ ก็วางสายลงโดยไม่ยอมให้หลวนจื่อได้มีโอกาสโต้แย้ง
ขณะฟังเสียงสายไม่ว่างจากลำโพง ใจของหลวนจื่อร้อนรนเป็นอย่างมาก เกิดความกลัวเพิ่มมากขึ้น
ทำไมหล่อนเจียนีพูดราวกับสาบาน?ทำไมถึงมั่นใจนักว่าหมินอันเกอกับเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ด้วยกัน?
แม้ว่าแต่ก่อนหมินอันเกอจะเคยชอบเวินเที๋ยนเที๋ยน แต่ว่าตอนนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนก็มีจี้จิ่งเชินแล้ว อีกทั้งหมินอันเกอก็ยังเคยพูดว่า ……
เขาเคยพูดว่า……
หลวนจื่อบอกตนเองในใจ แต่ว่าก็ต้องหยุดลง
จู่ๆเธอก็พบว่าหมินอันเกอเคยบอกว่าความสัมพันธ์ของพวกเราไม่ใช่เป็นแบบพี่น้อง ไม่ใช่เพื่อน แต่เขาก็ไม่เคยพูดว่าเป็นรูปแบบความรักของชายหญิง……
หรือว่าตลอดมานี้เธอปรารถนาแต่ฝ่ายเดียว?
แต่ว่าถ้าหากเป็นแบบนั้น แล้วทำไมหมินอันเกอไม่บอกเธอ?
เมล็ดพันธุ์ที่หว่านก่อนหน้านี้ ตอนนี้เริ่มเติบโตแล้ว เวลาเพียงไม่นานก็กลับทำให้หลวนจื่อรู้สึกวิองไวและเจ็บใจ
เธอนั่งอยู่ไม่สุข ในหัวคิดถึงแต่คำพูดที่หมินอันเกอกับเวินเที๋ยนเที๋ยนเคยพูด สลับกับเสียงหัวเราะของหล่อนเจียนีที่แทรกเข้ามา ทำให้เธอลนลาน
ครู่หนึ่ง หลวนจื่อก็ลุกขึ้น
ก็แค่ไปดู เธอพูดกับตัวเอง
หากพวกเขาไม่ได้อยู่ที่นั้น แสดงว่าหล่อนเจียนีโกหกเธอ
แต่หากพวกเขาอยู่ที่นั้นจริงๆ เธอก็สามารถถามต่อหน้าพวกเขาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เธอเชื่อใจหมินอันเกอ และก็เชื่อใจเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วย
เธอบอกตนเองพลางก้าวเท้าออกไปข้างนอก
เมื่อขึ้นรถ ท่าทีของหลวนจื่อยังคงเหมือนโดนสะกดจิต
เมื่อรถมาถึงด้านล่างของอาคางปิงไห่ ใจของเธอก็รู้สึกเสียใจภายหลังเล็กน้อย
หากตนเห็นหมินอันเกอกับเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังดูแหวนด้วยกันจริงๆแล้วล่ะก็ จะทำยังไงดี?
เธอสูดหายใจลึกและก้าวเท้าออกไป
เมื่อถึงหน้าร้านชั้นสอง ยังไม่ทันเข้าไปก็เห็นเงาหลังของหมินอันเกอกับเวินเที๋ยนเที๋ยน
พวกเขากำลังอยู่บริเวณหน้าเค้าเตอร์ กำลังก้มหน้า แหวนเพชรในเค้าเตอร์ประกายวับวาว เงยหน้าขึ้นมายิ้มพลางพูดคุยอยู่บ่อยครั้ง ท่าทางสนิทสนมกันมาก
ร้านค้าแห่งนี้มักมีดารามาชมสินค้าอยู่บ่อยๆ เมื่อพนักงานในร้านเห็นภาพเช่นนั้นก็ไม่รู้สึกตื่นตระหนก แต่กลับแนะนำสินค้าที่ตนเองออกแบบให้พวกเขา
เวินเที๋ยนเที๋ยนหยิบแหวนแบบหนึ่งขึ้นมาลองที่นิ้วของตน เงยหน้าขึ้นไม่รู้ว่าพูดอะไรกับหมินอันเกอ หมินอันเกอยิ้มอย่างเอ็นดู
หลวนจื่อยืนอยู่บริเวณใกล้ๆทางเข้า เมื่อเห็นฉากนี้ ในใจก็รู้สึกเจ็บปวด ราวกับถูกมีดทิ่มแทง เจ็บจนจู่ ๆ เธอหายใจแทบไม่ออก หน้าขาวซีด และค่อยๆเขียวขึ้นเล็กน้อย
เธออยากจะเข้าไปถาม แต่เธอมีสิทธิ์อะไรหล่ะ?
เดิมทีหมินอันเกอชอบเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่แล้ว
พวกเขาโตด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ในใจของทั้งสอง ไม่มีอะไรที่จะมาแทนที่ได้
อีกทั้ง หมินอันเกอรอคอยเวินเที๋ยนเที๋ยนมานานหลายปี
แต่การที่หมินอันเกออยู่ข้างๆเธอในตอนนี้ก็เพราะตอนนั้นเขาทำความผิดบางอย่าง
ช่วงเวลานี้เธอใช้ความผิดพลาดนี้ผูกมัดหมินอันเกอให้อยู่ข้างกายเธอ ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะคืนเขา……
แม้ว่าเธอจะเอ่ยถาม แล้วจะมีประโยชน์อะไรล่ะ?
เธอถอยหลังออกไปก้าวหนึ่ง ในเวลานี้จู่ ๆ โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าก็ดังขึ้น
พอรับสาย เสียงของหล่อนเจียนีก็ดังขึ้น
“เป็นยังไงบ้าง?เห็นหรือยัง?”
หลวนจื่อมองผ่านกระจก มองดูหมินอันเกอกับเวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังสนิทสนมใกล้ชิดกัน ทำให้เธอตาร้อนชั่วขณะ น้ำตาก็ไหลอาบแก้มมาตั้งนานแล้ว
เธอสูดหายใจเข้าลึก พยายามทำให้เสียงของตัวเองไม่มีอะไรผิดปกติ พลางพูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า:“เห็นแล้ว แล้วทำไมล่ะ ?เที๋ยนเที๋ยนกับจี้จิ่งเชินใกล้จะแต่งงานกันแล้ว เขาคงกำลังช่วยเที๋ยนเที๋ยนเลือกแหวนอยู่”
“พวกเขาบอกคุณแบบนั้นหรือว่าคุณคิดเองอยู่ฝ่ายเดียว?” หล่อนเจียนีพูดจี้จุดที่อยู่ในใจเธอ พลางหัวเราะอย่างเย้ยหยัน
“เป็นแบบนั้นจริงๆเหรอ?คุณอย่าลืมนึกถึงนิสัยของจี้จิ่งเชิน เขาจะยอมให้เวินเที๋ยนเที๋ยนกับหมินอันเกอไปซื้อแหวนด้วยกันเหรอ?หากเป็นความจริง ที่พวกเขากำลังเลือกแหวนแต่งงาน จี้จิ่งเชินจะต้องพามาเลือกด้วยตนเอง ไม่ใช่ให้ศัตรูมาเลือกแทน”
น้ำเสียงของหล่อนเจียนีได้ใจขึ้นเรื่อยๆ:“คุณโง่เกินไป?คุณคงคิดว่าจี้จิ่งเชินโง่เกินไป?”
“คุณจะมาบอกเรื่องพวกนี้กับฉันทำไม ……”ใจของหลวนจื่อสั่นระรัว
หล่อนเจียนียิ้มพลางพูดขึ้นว่า:“ก็แค่คิดว่าคุณกับฉันหัวอกเดียวกัน แค่อยากจะเตือนคุณสักประโยค ฉันเคยบอกคุณแล้วว่า เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ใช่คนง่ายๆ คุณคิดว่าแค่จี้จิ่งเชินคนเดียวก็จะทำให้หล่อนพอใจงั้นเหรอ?”
“แม้แต่แฟนของเพื่อนรักก็คิดจะแย่ง รู้ทั้งรู้ว่าฉันกับแม่อาศัยอยู่ที่ตระกูลหล่อน ก็ยังรับคุณไปอยู่ด้วย วันนั้นที่คุณตกบันได ก็เป็นแผนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนวางไว้แต่แรก”
“แม้แต่ข้อมูลที่อยู่ในห้องหนังสือก็เป็นข้อมูลที่หล่อนบอกฉัน แต่คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะถูกคุณเจอพอดี คุณยังมาขวางฉันเพื่อหล่อน จนเกิดเหตุไม่คิดคิดขึ้น ไม่เช่นนั้นพ่อบ้านและคนอื่น ๆ ที่ปกติจะดูความเรียบร้อยอยู่ที่ห้องรับแขกทำไมไม่มีใครปรากฏตัวอยู่เลยล่ะ?