เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 801 พนันกันสักเกม
บทที่ 801 พนันกันสักเกม
“เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเที๋ยนเที๋ยน ฉันสามารถจดจำมันได้อย่างยาวนาน เพียงแค่มีความเกี่ยวข้องกับคุณ ฉันไม่มีทางลืมได้”
จี้จิ่งเชินที่กำลังสอนจังหวะการเต้นรำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ จากนั้นก็ได้อาศัยช่วงที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเต้นรำจึงกล่าวคำพูดเหล่านี้ออกไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนเกือบจะลื่นล้ม ยังดีที่จี้จิ่งเชินจับเธอไว้อย่างแน่นอยู่ตลอด
“ทำไมคุณถึงไม่รอที่จะพูดในตอนนี้หล่ะ? จะต้องพูดออกมาในขณะที่ฉันกำลังหมุนตัวอยู่ จะก่อกวนจิตใจของฉันงั้นเหรอ? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจ้องไปที่เขาแล้วต่อว่า
เมื่อสักครู่เธอเกือบที่จะล้มลงแล้ว หากไม่ใช่เป็นเพราะจี้จิ่งเชิน เธอคงจะต้องเสียหน้าเป็นแน่
แม้นับได้ว่าจี้จิ่งเชินได้ช่วยเธอเอาไว้……
แต่จุดเริ่มเรื่องไม่ใช่เพราะที่เขากล่าวคำพูดเหล่านั้น คำพูดที่ทำให้คนเขินอายไม่ใช่เหรอ?
“หากพูดแบบนี้ แสดงว่าเวลาที่คุณเต้นรำกับฉันไม่ค่อยจะมีความตั้งใจ? ”
จี้จิ่งเชินสามารถจับจุดคำพูดของเธอได้และพูดโต้ตอบกลับไป
เธอไม่กล้าที่จะมองจี้จิ่งเชินด้วยความเชื่อมั่น อะไรที่เรียกว่าคนผิดเป็นผู้ฟ้องร้องก่อน ซึ่งมันก็คือแบบนี้นี่เอง
“เที๋ยนเที๋ยน คุณรู้ไหมเวลาที่ฉันสอนเต้นรำให้คุณ ฉันคิดอะไรอยู่? ”
จี้จิ่งเชินพูดขึ้นทันที ทำให้เบี่ยงเบนความสนใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนในชั่วพริบตา
“คิดอะไรอยู่เหรอ? ”
ครั้งแรกที่พวกเขาเต้นรำด้วยกันนั้น จี้จิ่งเชินน่าจะยังมองไม่ออกว่าเธอคือใคร
ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ก็เป็นแบบไม่ค่อยเต็มใจ แต่คงไม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือใส่กัน
คิดอะไรได้งั้นเหรอ?
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังคิดอยู่ และแสดงออกถึงท่าทีของการถามคำถาม
“ฉันกำลังคิดอยู่ว่า ไม่นึกเลยว่าฉันจะมีความอดทนที่สอนเต้นรำให้กับคนโง่แบบนี้ ฉันบ้าไปแล้วจริง ๆ”
จี้จิ่งเชินยิ้มเล็กน้อย และได้นำเอาความคิดของเขาเมื่อครู่นี้บอกให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยน
ได้ยินดังนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็แสดงท่าทีว่าเป็นอย่างนี้นี่เอง
เธอเองก็รู้อยู่แก่ใจแล้วว่า ในตอนแรกนั้นจี้จิ่งเชินก็คงคิดเรื่องที่ไม่ดีอย่างแน่นอน
“แล้วในตอนนี้หล่ะ? ”
เมื่อเทียบกับในตอนแรกแล้ว เธอต้องการรู้มากกว่าว่าในตอนนี้จี้จิ่งเชินกำลังคิดอะไรอยู่
“ตอนนี้เหรอ ฉันกำลังคิดว่า ในตอนนั้นสอนคุณเต้นรำจังหวะวอลซ์ เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
จริง ๆ ”
“ที่จริงในตอนนั้น ฉันก็ถูกเธอดึงดูดเข้าให้แล้ว เพียงแต่ว่าฉันยังไม่รับรู้เท่านั้น”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกระพริบตา และรับฟังน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำของจี้จิ่งเชิน ภายในใจรู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน
ในที่สุด พวกเขาตอนนี้ก็ได้แต่งงานเป็นสามีภรรยากันเรียบร้อยแล้ว
ที่ผ่านมาแม้จะประสบความทุกข์ทรมานและมีอุปสรรคล้มเหลวมากเพียงใด ทั้งหมดก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว
ชีวิตของพวกเขา ก็เหมือนกับจังหวะเต้นรำของเธอ
จากที่ตะกุกตะกัก จนมาถึงวันนี้ที่เป็นธรรมชาติไม่มีความสะทกสะท้าน
จากที่เธอเคยล้ม ก็คลานลุกขึ้นมาได้
โชคดีที่ว่า เส้นทางนี้มีจี้จิ่งเชินอยู่ข้างเธอมาโดยตลอด
เมื่อเต้นรำจบลงไปหนึ่งเพลง ทั้งสองคนกลับไปที่โซนไวน์ ชิมไวน์และพูดคุยไปด้วยกัน
ดูมีความสุขสบายใจอย่างมาก
เพียงแต่ว่าจะมีคนบางคน ชอบที่จะโผล่ออกมาหาเรื่องเวลาที่คนอื่นกำลังมีความสุข
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นว่ามีผู้ชายชาวต่างชาติหลายคนเดินพุ่งตรงเข้ามาหาพวกเขา สีหน้าท่าทีดูไม่ค่อยจะดีนัก
เธอจำได้ว่า ชายหนึ่งคนในนั้นเมื่อสักครู่เตรียมที่จะกระโจนเข้ามาหาเธอ แต่กลับถูกจี้จิ่งเชินถีบกระเด็นออกไป
เธอจึงรีบมองไปยังจี้จิ่งเชินทันที
จี้จิ่งเชินก็เห็นพวกเขาแล้ว คิ้วที่คมกริบขมวดเข้าด้วยกันเพราะความเอือมระอา
“มีเรื่องอะไรเหรอ? ”
จี้จิ่งเชินสอบถาม
ใช้ภาษาอังกฤษที่คล่องแคล่วในการพูด
“ใช่แกที่ทำร้ายเพื่อนรักของฉันใช่ไหม? ”
ชาวต่างชาติผู้ที่เป็นผู้นำในมือถือท่อเหล็กท่อนหนึ่ง
ท่อเหล็กที่หนักและหนาแกว่งไปแกว่งมาที่ด้านหน้าของจี้จิ่งเชิน
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นแล้วอกสั่นขวัญหาย กลัวว่าท่อเหล็กนี้จะทุบตีไปที่ตัวเขาอย่างไม่ทันระวัง
จี้จิ่งเชินฮัมเพลง และลุกขึ้นยืน ท่าทางที่เย็นชาของเขาทำให้ชาวต่างชาติพวกนั้นไม่กล้าที่สบตากับเขา
“ใช่กูเอง มีอะไรเหรอ? ”
แววตาอันเยือกเย็นของจี้จิ่งเชินจ้องมองไปที่พวกเขา
พวกเขารู้สึกได้ว่าเหมือนถูกแช่แข็งในทันที
จากนั้น พวกเขาพูดปรึกษากันเล็กน้อย
เวินเที๋ยนเที๋ยนลุกขึ้นยืนตามจี้จิ่งเชิน แต่ว่าเธอก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้สักอย่าง
เธอเพียงได้ยินแว่ว ๆ ว่าพวกเขาเหล่านั้นเหมือนกำลังหวาดกลัวจี้จิ่งเชิน
เมื่อพวกเขาปรึกษากันเสร็จสิ้น คนที่เป็นผู้นำพูดกับจี้จิ่งเชินว่า: “การชกต่อยเป็นเรื่องที่คนป่าเถื่อนเขากระทำกัน พวกเราต่างเป็นคนที่มีอารยธรรม ไม่อย่างนั้นเรามาพนันกันสักครั้งดีไหม? ”
“พนันอะไรยังไง? ”
“ง่ายมาก รอให้งานเต้นรำสวมหน้ากากจบลง ที่นี่ก็จะเปิดบ่อนพนัน เมื่อนั้นแกกับฉัน พนันกันแบบตัวต่อตัว”
การไม่ลงรอยกันของพวกเขาเหล่านี้ได้ดึงดูดความสนใจจากผู้อื่นอย่างรวดเร็ว ชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยรวมตัวกันเข้ามามุงดู
จากนั้นพวกเขาก็ได้เห็นคุณผู้ชายชาวตะวันออกผู้ลึกลับ ที่กล้าตอบตกลงรับคำท้าการพนันกับ Lauren!
พระเจ้า เขาบ้าไปแล้วงั้นเหรอ ถึงกล้าที่จะรับคำท้าทายของ Lauren!
เวลานั้น เสียงเรียกร้องพระเจ้าดังสนั่นกันอย่างไม่หยุด
Lauren คือผู้ที่มีประสบการณ์จัดจ้านบนเรือสำราญ ใช้ชีวิตหมกมุ่นอยู่ที่นี่มาโดยตลอด คอยหาพวกคนมีเงินเพื่อหลอกเล่นการพนันเสมอ
วิธีการของเขาก็มีเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น ให้ลูกน้องวางแผนการต่าง ๆ ยั่วยุเพื่อทำให้ฝ่ายตรงข้ามเกิดความโมโห จากนั้นก็เสนอการท้าพนัน
โดยทั่วไปเศรษฐีที่มองว่าตนเองสูงส่งก็จะไม่สนใจเงินจำนวนเล็กน้อยที่ใช้ในการเล่นพนัน
จากนั้นบนโต๊ะพนัน เขาจะใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อหลอกล่อให้เศรษฐีวางเงินเดิมพัน
แต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ จนถึงบัดนี้เขายังไม่เคยแพ้พนันใครเลยสักครั้งเดียว!
ทุกคนต่างเริ่มที่จะพากันเห็นใจชายชาวตะวันออกผู้นี้แล้ว
พวกเขาคิดในใจว่า เกรงว่าผู้นี้ก็คงจะกลายเป็นลูกแกะที่น่าสงสารอีกรายหนึ่งที่ถูก Lauren หลอกหลวง
“ใจถึงจริง ๆ! ”Lauren หัวเราะดังลั่น “วิธีการพนันเป็นแบบไพ่เท็กซัส เงินเดิมพันไม่มีจำกัด กล้าหรือไม่กล้า? ”
จี้จิ่งเชินเหมือนกับว่ากำลังมองดูพวกตุ่นและมดที่ไม่ประมาณตน มองดู Laurenที่กระหยิ่มยิ้มย่อง
เขาขยับมุมปากเป็นการดูถูกเล็กน้อยขณะที่ขึ้นไปบนเวที และพยักหน้าทักทายให้กับ Lauren
Lauren มีแววตาที่เปล่งประกายอย่างมาก “ก็ขอให้คุณไม่แพ้พนันจนหมดเนื้อหมดตัวแล้วกัน! ”
พูดจบ เขาก็พาทุกคนเดินไปอย่างสง่าผ่าเผย
ถึงแม้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่เข้าใจว่าเหตุการณ์มีที่มาที่ไปอย่างไร แต่เมื่อมองเห็นแววตาที่มีความสงสารของผู้ที่อยู่รอบข้างแล้ว ก็พอทายออกบ้างเล็กน้อย
เธอมองไปที่จี้จิ่งเชินอย่างเป็นกังวล “จี้จิ่งเชิน คุณไม่ต้องไปหรอก……”
จี้จิ่งเชินส่งสายตาที่แสดงถึงความสบายใจให้แก่เธอ “ไม่เป็นไรหรอก ก็แค่ประลองฝีมือ”
“การพนัน? ”
เมื่อได้ยินดังนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนแสดงท่าทีที่งุนงง “คุณเล่นพนันเป็นเหรอ? ”
เท่าที่เธอทราบ จี้จิ่งเชินไม่เคยเล่นการพนันมาก่อนเลย
เป็นไปตามนั้นจริง ๆ จี้จิ่งเชินส่ายหัวไปมา “เล่นไม่เป็น”
“แต่ว่าฉันรู้กติกาวิธีการเล่น”
เกรงว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะกังวล จี้จิ่งเชินก็พูดเสริมขึ้น
แต่คำพูดนี้จะพูดหรือไม่พูด ที่จริงก็ไม่ได้มีความแตกต่างอะไรเป็นสำคัญ
ชาวต่างชาติผู้นี้กล้าขนาดที่ออกมาท้าให้เล่นพนัน แน่นอนว่าจะต้องชำนาญในด้านนี้
จี้จิ่งเชินรู้เพียงแค่กติกาการเล่น จะเล่นพนันเอาชนะผู้ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการนี้มากี่สิบปีได้เหรอ?
จี้จิ่งเชินรับรู้อย่างชัดเจนว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนกังวลอะไรอยู่ เขานำมือไปคลายรอยย่นระหว่างคิ้วของเธอ
“คุณควรที่จะเชื่อมั่นในตัวสามีของคุณให้มากกว่านี้ คุณนายจี้”
เขายิ้มอย่างอ่อนโยน แต่ในรอยยิ้มนั้นมีความเย้ยหยันอยู่เล็กน้อย
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูเขาอย่างหงุดหงิด ความกังวลในแววตาสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นความจริง “ถึงเวลานี้แล้ว คุณยังยิ้มหัวเราะได้อีกเหรอ หากเล่นพนันแพ้แล้วจะว่ายังไง? ”
“ไม่แพ้หรอก”
“เขาพูดอย่างมั่นใจ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่รู้ว่าทำไมเขาจึงมีความมั่นใจมากมายขนาดนั้น แต่ว่าน้ำเสียงที่แน่วแน่ของเขา ก็ทำให้เธอเบาใจลงได้บ้าง
“คุณคิดว่าจะพนันแบบไหน ต้องการให้ฉันช่วยไหม? ”
แม้ว่าจะพูดออกไปอย่างนี้ แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองจะช่วยเหลืออะไรได้เลย
จี้จิ่งเชินอย่างน้อยยังรู้กติกาการเล่นพนัน ส่วนเธอกลับไม่รู้กติกาการเล่นพนันเลยแม้แต่น้อย
ไม่ต้องพูดถึงว่าจะช่วยอะไรเขาเลย ไม่สร้างปัญหาเพิ่มก็นับว่าดีที่สุดแล้ว
สิ่งที่เวินเที๋ยนเที๋ยนครุ่นคิดอยู่ภายในใจ ทั้งหมดปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอแล้ว
ต่อให้มีหน้ากากปิดบังอยู่ แต่จี้จิ่งเชินเข้าใจเธอเป็นอย่างดี สามารถทายได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
เขายกมือไปวางพาดที่ไหล่ของเวินเที๋ยนเที๋ยน
อุณหภูมิอบอุ่นของฝ่ามือได้ส่งผ่านทางการสัมผัสที่ผิวหนังไปถึงร่างกายของเวินเที๋ยนเที๋ยน
“ไม่ต้องกังวล ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน”