เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 807 คุณนายจี้สู้สู้
บทที่ 807 คุณนายจี้สู้สู้
จี้จิ่งเชินรู้ดีว่าตัวเองผิด จึงทำได้เพียงแค่แตะลูบที่หลังของเธอไปมา พูดปลอบใจว่า: “ขอโทษ ทำให้คุณเป็นกังวล ฉันไม่ได้เป็นอะไร”
“คุณรู้ไหมว่าฉันเกือบจะคิดว่าเกิดอันตรายขึ้นกับคุณแล้ว! ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนผลักออกมาจากอ้อมกอดของเขา และจ้องมองไปที่เขาด้วยสองดวงตาที่ขุ่นมัวด้วยน้ำตาและแสดงอาการที่อยากจะต่อว่า
“จำเป็นต้องทำให้เธอกลัวขนาดนี้เลยเหรอ? ”
ดวงตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงมีน้ำตาคลอ แม้ว่าปากจะกำลังดุด่า แต่ทั้งสองมือกลับจับที่ตัวจี้จิ่งเชินอย่างแน่น กลัวว่าเขาจะหายตัวไปอีก
“ขอโทษ ฉันควรที่จะบอกกับคุณตั้งแต่แรก”
จี้จิ่งเชินเช็ดน้ำตาที่หางตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยความเจ็บปวด “กระดานโต้คลื่นจำเป็นที่จะต้องผ่านระยะทางช่วงหนึ่งเพื่อเร่งความเร็ว จึงสามารถที่จะรองรับน้ำหนักของเราทั้งสองคนได้”
“ฉันก็อยู่ข้างหลังของคุณตลอด”
ได้ยินที่พูด เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงสังเกตเห็นว่า ระหว่างที่จี้จิ่งเชินพูดก็ยังคงหอบอยู่ถี่ ๆ คาดว่าหลังจากได้ยินเสียงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือของเธอแล้ว จึงรีบว่ายน้ำมาหาอย่างรวดเร็ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนเม้มริมฝีปาก แม้ว่าจะรู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ยังไม่ยอมที่จะปล่อยเขา จิตใจยังคงหวาดผวา
จี้จิ่งเชินมองออกว่าในใจเธอยังคงเป็นกังวล ยิ้มแล้วพูดว่า: “วางใจเถอะ ครั้งนี้จะไม่เกิดเรื่องแล้ว”
ขณะพูด เขาก็กระโดดขึ้นกระดานโต้คลื่น
กระดานโต้คลื่นลอยอยู่บนท้องทะเลโยกสั่นไปมา เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจจนตะโกนออกมา และรีบกอดเขาเอาไว้
“ระวังนะ! ”
“ไม่ต้องเป็นห่วง” จี้จิ่งเชินโอบไปที่เอวของเธอและพูดปลอบขวัญ
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงกอดเขาอย่างแนบแน่น ไม่กล้าที่จะปล่อยมือ
ผ้าพันคอบนตัวของเธอถูกน้ำทะเลซัดจนเปียกปอนไปตั้งนานแล้ว ติดอยู่ที่ตัว สามารถมองเห็นผิวพรรณที่ขาวผ่องได้อย่างชัดเจน
ในความขมุกขมัว ยิ่งทำให้อยากเข้าใกล้มากยิ่งขึ้น
คิดไม่ถึงว่าการสูดลมหายใจลึก ๆ เพียงเท่านี้ ต้องใช้กำลังความตั้งใจของตนเกือบทั้งหมด
จึงจะสามารถรักษาให้มือของตนเองไม่เคลื่อนไหว
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไม่รู้ว่าเวลานี้ตนเองได้สร้างผลกระทบอะไรให้เกิดขึ้น
เหมือนกับว่าตกใจกลัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ จึงกอดจี้จิ่งเชินอย่างแนบแน่นโดยไม่ยอมปล่อยมือ เกาะติดอยู่ด้วยกันกับเขา
เวลานี้จี้จิ่งเชินรู้สึกเสียใจในภายหลังบ้างทันที ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าคิดอะไรทำไมตนเองจะต้องพาเวินเที๋ยนเที๋ยนมาโต้คลื่นด้วย
นี่ก็คงเหมือนกับเป็นการลงโทษตัวเอง
เวินเที๋ยนเที๋ยนรออยู่สักพักแล้ว ก็เห็นว่าจี้จิ่งเชินยังไม่เข้าใจ แปลกใจจึงได้หันศีรษะกลับไปมองเขา
“จี้จิ่งเชิน? ยังไม่เริ่มต้นอีกเหรอ? ”
เมื่อพูดจบ ก็เห็นสายตาของจี้จิ่งเชินในเวลานี้ ดวงตาเบิกกว้างอย่างรวดเร็ว
ในลูกตาดำของจี้จิ่งเชิน ปรากฏคลื่นที่ซัดโหมกระหน่ำ
เวินเที๋ยนเที๋ยนร่างกายแข็งทื่อ ไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหว
จี้จิ่งเชินเห็นสถานการณ์นั้น ก็หัวเราะเบา ๆ
“กลัวอะไร? ”
ขณะที่พูด ก็ได้เอามือดึง เอาผ้าพันคอที่เปียกบนร่างของเวินเที๋ยนเที๋ยนดึงลงมา ทิ้งลงในน้ำ
“คุณทำอะไร? ” เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจ
จี้จิ่งเชินยิ้มและพูดว่า: “เปียกปอนหมดแล้ว เดี๋ยวยิ่งจะไม่สะดวก ถ้าหากตกน้ำ ถูกพันที่ตัวแล้วก็จะยิ่งอันตราย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนก็หน้าแดงอีก
“อืม……”
เธอก้มศีรษะลง จึงไม่เห็นรอยยิ้มที่ดวงตาแสดงอาการเจ้าเล่ห์แวบหนึ่งของจี้จิ่งเชิน
“กอดฉันให้แน่นนะ เที๋ยนเที๋ยน”
จี้จิ่งเชินพูดที่ข้างหูของเธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินดังนั้นหูก็ร้อนขึ้น ยังไม่ทันที่จะตอบสนอง ก็เห็นคลื่นลูกหนึ่งซัดเข้ามา ตกใจจนรีบกอดที่ด้านหลังของจี้จิ่งเชิน
กระดานโต้คลื่นที่อยู่ใต้เท้าคล้ายกับเรือโดดเดี่ยวลำหนึ่งที่ลอยอยู่บนท้องทะเล
มันเป็นเพียงแค่เรือโดดเดี่ยวลำหนึ่งเท่านั้น แต่กลับสามารถที่จะพุ่งทะยานทะลุคลื่นที่โหมซัดกระหน่ำได้
ดวงตาที่ปิดสนิทของเวินเที๋ยนเที๋ยนค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ด้านหน้าคือคลื่นยักษ์ ซัดโหมกระหน่ำเข้ามา ส่วนจี้จิ่งเชินที่อยู่ด้านหลังยืนอยู่บนกระดานโต้คลื่นอย่างชำนาญ นำพาเธอโต้คลื่นรับลม
เสน่ห์อันงดงามของทะเลปรากฏให้เห็นชัดเจน ณ ช่วงเวลานี้
และสิ่งที่ทำให้คนยิ่งหลงใหลก็คือความสุขสนุกสนานที่สามารถพิชิตทะเลได้
คลื่นจำนวนมากซัดกระหน่ำไปมาอยู่ด้านหน้าของเธอ เสียงดังครึกโครม แต่กลับถูกจี้จิ่งเชินเหยียบเอาไว้ที่ใต้ฝ่าเท้า
กลายเป็นแรงผลักดันทำให้กระดานโต้คลื่นของเขาเคลื่อนที่
เวินเที๋ยนเที๋ยนอดไม่ได้ที่จะร้องตะโกนด้วยความดีใจ “ยอดเยี่ยมไปเลย! ”
จี้จิ่งเชินก็มีรอยยิ้มด้วยเช่นกัน
“แม้ว่าต้องการที่จะพาคุณเล่นด้วยกันต่อไป แต่ตอนนี้ถึงช่วงเวลาน้ำขึ้นแล้ว”
ช่วงเวลาน้ำขึ้น?
เวินเที๋ยนเที๋ยนจำได้ลาง ๆ ว่า เวลาน้ำขึ้นและน้ำลงของทุกวันนั้นจะไม่เหมือนกัน
“คิดอะไรอยู่เหรอ? ”
จี้จิ่งเชินสังเกตได้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จึงรีบถามไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่ได้ปิดบังเขา “ฉันคิดอยู่ว่า ฉันจำได้ว่าเวลาน้ำขึ้นจะมีการเปลี่ยนแปลงเวลาในทุก ๆ วัน”
หรือว่าฉันอาจจะจำผิดไปเองก็เป็นได้
“คุณจำไม่ผิดหรอก มันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ”
ขณะที่จี้จิ่งเชินพูด ก็กอดเธอไว้แล้วทำท่าหมุนตัวซึ่งเป็นท่าที่ยาก
กระดานโต้คลื่นเคลื่อนที่อยู่บนยอดของคลื่นหนึ่งรอบ
กระตุ้นในทุกอวัยวะที่รับรู้ความรู้สึกของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เธอหัวเราะอย่างสนุกสนาน
“ใช่แล้ว เมื่อครู่คุณพูดอะไร”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกท่าหมุนตัวที่ยอดเยี่ยมดึงดูดความสนใจทุกอย่างไปทั้งหมด จึงไม่ได้สนใจคำพูดของจี้จิ่งเชินก่อนหน้านี้
เขาจึงต้องพูดซ้ำอีกครั้งหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ฉันพูดว่า เวลาน้ำขึ้นของทุกวันจะมีการเปลี่ยนแปลง”
“อ๋อ……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเพิ่งมีสติกลับคืนมาจากการดื่มด่ำความรู้สึกการโต้คลื่น “แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่าใกล้จะเกิดน้ำขึ้น? ”
หรือว่าจี้จิ่งเชินเข้าใจถึงการคำนวณเวลาน้ำขึ้น?
งั้นไม่ใช่มีเพียงแค่คุณลุงหงที่เป็นชาวประมงอาวุโส จึงจะมีความชำนาญในด้านนี้หรอกเหรอ?
“เจ้าเด็กโง่ ฉันไม่ได้บอกคุณเหรอ ฉันเอาใจใส่ในการฮันนีมูนครั้งนี้มากแค่ไหน? ”
จี้จิ่งเชินก้มศีรษะลง ลูกตาที่ดำมืดจ้องมองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยน
เธอมองเห็นความอบอุ่นอย่างมากจากภายใน
“ดังนั้นคุณได้เตรียมทำการบ้านมาก่อนทั้งหมดแล้วงั้นเหรอ? ”
ในที่สุดเวินเที๋ยนเที๋ยนก็เข้าใจได้ว่าทำไมจี้จิ่งเชินจึงมีฝีมือในการตกปลา และทำไมจึงโต้คลื่นได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นนี้
แท้ที่จริง เขาได้เตรียมความพร้อมทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกหวานชื่นในจิตใจ ราวกับถูกหมักเอาไว้ในขวดน้ำผึ้งอย่างไรอย่างนั้น
จี้จิ่งเชินอุ้มเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับขึ้นไปบนฝั่ง
บริเวณอีกด้านหนึ่งของชาดทราย ข้าง ๆ หาดทรายสีขาว ก็คือบริเวณที่เต็มไปด้วยโขดหินดำ
เรียงรายอยู่บนหาดทราย ครึ่งหนึ่งฝังอยู่ในน้ำทะเลสีฟ้าคราม
คลื่นซัดกระทบมายังโขดหิน มีเสียงดังชัดที่ไพเราะ และละอองน้ำสีขาวสาดกระเซ็นออกมา
“คุณพาฉันมาที่นี่ทำไมเหรอ? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไปพร้อมกันกับจี้จิ่งเชิน ข้างหลังหลงเหลือเพียงแนวยาวที่เป็นรอยเท้าของพวกเขาทั้งสอง
ลมทะเลยิ่งพัดรุนแรงขึ้น ผมของเวินเที๋ยนเที๋ยนพลิ้วไสวไปมา
จี้จิ่งเชินช่วยเธอรวบเก็บผมที่ถูกพัดอย่างกระเซอะกระเซิง แล้วยืนบังกันลมทะเล พูดว่า: “เตรียมวัตถุดิบสำหรับทำอาหารมื้อเย็นกันเถอะ”
“วัตถุดิบ ที่คฤหาสน์ไม่มีหรอกเหรอ? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาด้วยความสงสัย
“ก่อนที่จะมาที่นี่ฉันสั่งให้พวกเขาเตรียมเอาไว้บ้างแล้ว แต่ไม่มาก ในช่วงไม่กี่วันนี้พวกเราจะต้องจัดการเตรียมกันเอาเอง วันนี้ไปตกปลากันก่อนเถอะ”
เขาพาเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินต่อไป หยิบถังน้ำและเบ็ดตกปลาออกมาจากข้าง ๆ โขดหิน
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาด้วยความตกใจ
“ตกปลา? แต่ว่า คุณจะทำอย่างไร? ”
ตัวเธอเองไม่มีปัญหา แต่จี้จิ่งเชินไม่ชอบกินปลา ถ้าหากในช่วงไม่กี่วันนี้จะต้องกินแต่ปลา จี้จิ่งเชินจะเป็นอย่างไร?
จี้จิ่งเชินหัวเราะอย่างเบา ๆ พูดว่า: “เพียงแค่เที๋ยนเที๋ยนเป็นคนลงมือ ก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหน้าแดงเล็กน้อย รู้สึกค่อนข้างตื่นเต้น
ถ้าตนเองทำได้ไม่ดี อย่างนั้นจี้จิ่งเชินก็คงต้องหิวเป็นแน่?
“ช่วงเที่ยงพวกเราคงไม่ต้องหิวกันใช่ไหม? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปที่โขดหินที่อยู่ด้านหน้า ไม่รู้ว่าจะสามารถตกปลาได้หรือไม่
เห็นใบหน้าของเธอที่มีความกังวล จี้จิ่งเชินก็ยิ้ม แสดงใบหน้าท่าทีที่ผ่อนคลาย
“งั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับความพยายามของเที๋ยนเที๋ยนแล้ว”
“ฉัน? แล้วคุณหล่ะ? ” เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดอย่างงุนงง
จี้จิ่งเชินเม้มปากยิ้มเยาะ พูดว่า: “คุณนายจี้สู้สู้”