เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 844 ไม่มียาถอนพิษ
บทที่ 844 ไม่มียาถอนพิษ
เมื่อออกจากปราสาทเก่า จี้จิ่งเชินก็นั่งรถตรงไปถึงที่โรงงานร้างแห่งหนึ่ง
ตอนนั้นท้องฟ้าก็มืดลงแล้ว สามารถมองเห็นไฟในโรงงานได้อย่างรางๆ
จี้จิ่งเชินลงจากรถ สายตาเย็นชาเคร่งขรึม ไม่เจือเศษเสี้ยวอารมณ์ใดๆ
กลุ่มบอดี้การ์ดเห็นจี้จิ่งเชิน พากันโค้งทักทาย
“เวินหงไห่ล่ะ?”
น้ำเสียงของจี้จิ่งเชินเต็มไปด้วยความมาดร้าย
บอดี้การ์ดคนหนึ่งออกมานำทางให้เขา เวินหงไห่ถูกขังไว้ในห้องเล็กๆ ห้องหนึ่งของโรงงานร้าง
ห้องนี้ปิดทึบ สิ่งเดียวที่เชื่อมต่อกับโลกภายนอกคือประตูหนึ่งบาน
เมื่อจี้จิ่งเชินเดินเข้าไป ก็ได้พาแสงลำใหญ่ส่องเข้าไปด้วย
เขามองเวินหงไห่ที่นอนนิ่งฟุบอยู่บนพื้น สายตาไม่มีสักเสี้ยวของความเห็นใจ
“ยังไม่ยอมบอก?”
จี้จิ่งเชินยกเท้าขึ้นเหยียบที่แขนของเวินหงไห่ จากนั้นใช้ปลายเท้าบดที่หลังมือของเขา
“อ๊าก!”
เวินหงไห่ร้องตะโกนราวกับหมูที่ถูกเชือด
บอดี้การ์ดเก็บไม้กระบองเหล็กข้างๆ ขึ้นมาเกยคางเขาขึ้น
“เวินหงไห่ ฉันจะให้โอกาสแก”
เขาส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดเอาไม้กระบองเหล็กวางบนหัวเข่าของเวินหงไห่ “ไม่พูด ฉันก็จะหักขาแกซะ แกมีโอกาสสี่ครั้ง รักษาไว้ให้ดี”
สามารถสัมผัสได้ถึงความเย็นเข้ากระดูกของโลหะผ่านเนื้อผ้า
ทำให้เวินหงไห่ลืมตาขึ้นอย่างรู้สึกไม่สบาย
“บอกฉันมา คนสมรู้ร่วมคิดแกเป็นใคร?”
จี้จิ่งเชินเอ่ยเสียงเย็น
“จี้จิ่งเชิน มึงอย่าฝัน กูไม่บอก อ๊าก!”
เสียงของกระดูกแตกดังขึ้น
ใต้คำสั่งของจี้จิ่งเชิน บอดี้การ์ดหักขาเวินหงไห่
ความเจ็บปวดแสนสาหัสนั้น แทบจะทำให้เวินหงไห่สลบไป
เสียดายที่มีปิศาจร้ายอย่างจี้จิ่งเชินอยู่ จะสลบไปก็ดูเป็นเรื่องที่หวังมากไป
“แกยังมีโอกาสอีกสามครั้ง”
น้ำเสียงเย็นเยือกเข้ากระดูกดังขึ้นบนหัวของเขา
เวินหงไห่มองเขาอย่างหวาดๆ ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
“แกฆ่าฉันเลยสิ!”
เขาคำรามด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว “ฆ่าฉันเลย!”
จี้จิ่งเชินลดสายตาลงมามองเขา ราวกับกำลังมองมดตัวหนึ่ง
ริมฝีปากบางของเขาเผยอขึ้น น้ำเสียงเย็นชาราวกับน้ำแข็ง “แกคิดว่าฉันไม่กล้า?”
“ใช่ แกไม่กล้า ถ้าฉันตาย ไม่นานเวินเที๋ยนเที๋ยนก็จะลงมาอยู่กับฉัน”
เขามองขึ้นไปราวกับลืมความเจ็บปวด ทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะราวกับเป็นบ้าไปแล้ว
“พูดให้มันดีๆ!”
จี้จิ่งเชินดึงคอเสื้อของมัน นัยน์ตาสีดำขลับทั้งคู่เต็มไปด้วยน้ำค้างแข็ง
เวินหงไห่พูดอย่างลำพองใจ “แกยังไม่รู้ล่ะสิ ฉันวางยาพิษเธอ แกคิดว่าช่วยเธอกลับไปก็ไม่เป็นไรแล้ว?”
วางยา?
ใช่ ตรวจพบสารพิษในเศษอาหารพวกนั้นจริงๆ
แต่ต่อมาโรงพยาบาลตรวจแล้ว กลับไม่พบว่าในร่างกายเวินเที๋ยนเที๋ยนมีสารพิษ
โรงพยาบาลวินิจฉัยผิดพลาดหรือเวินหงไห่กำลังหลอกเขากันแน่?
จี้จิ่งเชินไม่กล้าตัดสินใจง่ายๆ เขาลังเลอยู่สักพักจึงเอ่ย “แล้วยาถอนพิษล่ะ? ส่งมา!”
“ยาถอนพิษ เหอะ ไม่มียาถอนพิษ”
หน้าผากของมันเต็มเหงื่อจากความเจ็บปวดที่รุนแรง
แต่สายตาของมันกลับเต็มไปด้วยความสุขที่ได้แก้แค้น
จี้จิ่งเชินสีหน้าหนักอึ้งถลึงตามองมัน แล้วเอ่ยกับบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ “เค้นถามต่อไป”
แล้วจึงหมุนตัวออกไป
ท่าทางที่เวินหงไห่แสดงออกไม่ใช่การแสดง สภาพบ้าคลั่งของเขาไม่ใช่สิ่งที่จะเลียนแบบแสดงออกมาได้ตามใจ
เขาต้องพาเวินเที๋ยนเที๋ยนไปตรวจร่างกายดูอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทำไมเวินหงไห่ถึงมั่นใจถึงขนาดนี้?
แต่หมอบอกว่าในร่างกายเวินเที๋ยนเที๋ยนตรวจไม่เจอพิษอะไรตั้งแต่แรก
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
……
เวินเที๋ยนเที๋ยนทานอาหารที่แม่ครัวเตรียมให้เสร็จแล้ว ก็เตรียมตัวกลับไปพักที่ห้อง
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนมาถึงหน้าบันได เธอถึงเห็นว่าบันไดมีการปูพรมหนาๆ ไว้หนึ่งชั้น
พ่อบ้านยืนอยู่ข้างๆ เธอ แล้วมองเธอราวกับเป็นศัตรู
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมมองฉันแบบนี้?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถามอย่างไม่เข้าใจ
“คุณนาย ต้องการขึ้นบันไดใช่ไหม?” พ่อบ้านถามเสียงเบา “ถ้าหากว่าเป็นไปได้ ไม่รู้ว่าจะให้ผมพยุงคุณขึ้นไปไหม?”
พยุงเธอขึ้นไป?
เดินขึ้นบันไดเท่านั้นเอง เธอยังต้องให้คนอื่นพยุงอีกเหรอ?
“ไม่ต้องแล้ว……”
เมื่อพูดสามคำนี้ออกไป สีหน้าของพ่อบ้านก็ปรากฏความเศร้า
ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจไปทันที “พ่อบ้านเป็นอะไรไป?”
“ก่อนคุณชายจะออกไปได้สั่งไว้ว่าต้องดูแลคุณนายดีๆ แต่คุณนายกลับรังเกียจคนแก่อย่างผม……”
“ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น” เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบโบกมือ “ได้ๆ คุณขึ้นไปเป็นเพื่อนฉันเถอะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนออกตัวจูงมือพ่อบ้าน
พ่อบ้านถึงยิ้มออกมาอย่างพอใจ พยุงเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินขึ้นไปข้างบน
เมื่อกลับมาถึงห้อง แม่ครัวก็ยกโจ๊กรังนกเข้ามาหนึ่งชาม
“แม่ครัว ฉันทานไม่ไหวแล้วจริงๆ!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปที่โจ๊กรังนกชามนั้นที่กำลังแผ่ไอร้อนด้วยสายตาหวาดๆ
“เที๋ยนเที๋ยน คุณไม่กินลูกก็ต้องกินนะ ระหว่างตั้งครรภ์ผู้หญิงควรกินให้มากขึ้น”
เวินเที๋ยนเที๋ยนร้องไห้ไม่มีน้ำตามองพวกเขา “พวกคุณทำเหมือนฉันเป็นสมบัติของชาติไปแล้วจริงๆ เหรอ?”
“เป็นไปได้ที่ไหนกัน!” แม่ครัวหัวเราะ “สมบัติของชาติไม่มีค่าเท่าคุณหรอก”
พ่อบ้านช่วยเสริม “ใช่แล้ว เที๋ยนเที๋ยน รีบทานตอนร้อนๆ เถอะ”
ถูกทั้งสองคนจ้องด้วยสายตากระตือรือร้น เวินเที๋ยนเที๋ยนจะทำอะไรได้อีก?
ได้แต่ทานโจ๊กรังนกลงไปอย่างเชื่อฟัง
ในตอนนั้นเองเสียงออดประตูของปราสาทเก่าก็ดังขึ้น
“ผมไปเปิดเอง”
พ่อบ้านส่งสายตาให้เวินเที๋ยนเที๋ยนวางใจ แล้วรีบวิ่งไปทางประตู
“คุณหลวนกับคุณหมินนี่เอง เชิญเข้ามาด้านใน”
พ่อบ้านเชิญทั้งคู่เข้ามา ในขณะเดียวกันก็รับเอาของในมือของพวกเขามา
“หลวนจื่อ อันเกอ!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนโบกมือให้พวกเขา
หลวนจื่อกับหมินอันเกอเงยหน้าขึ้น ถึงจะเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยน
“เที๋ยนเที๋ยน เธอยืนอยู่ตรงนั้นอย่าขยับ ฉันกับอันเกอขึ้นไปหาเธอเอง”
หลวนจื่อเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนต้องการลงมาก็รีบหยุดเธอไว้
เที๋ยนเที๋ยนพูดอย่างระอา “หลวนจื่อ ฉันพึ่งท้อง ทำไมถึงคิดว่าต้องระวังมากกว่าเธอ?”
“ใช่น่ะสิ สามเดือนแรกเป็นช่วงที่ต้องระวังที่สุด”
หลวนจื่อเดินขึ้นมา เอ่ยตักเตือนเธอด้วยความหวังดี “ฉันอ่านข้อมูลมาเยอะมาก แล้วก็ถามหมอมามากมาย พวกเขาล้วนบอกว่าสามเดือนแรกนั้นอันตรายที่สุด”
“พึ่งเกิดเรื่องขึ้นกับเธอ ตอนร่างกายกำลังอ่อนแอจะประมาทไม่ได้เลย!”
หลวนจื่อแนะนำด้วยสีหน้าจริงจัง ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนขำ
“ได้ๆ ฉันเถียงไม่สู้เธอ” เวินเที๋ยนเที๋ยนจับมือของหลวนจื่อ “ไปนั่งในห้องกันเถอะ”
“เอาสิ!”
หลวนจื่อมาครั้งนี้ นอกจากเอาของมาให้เวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว เธอยังวางแผนที่จะมาเยี่ยมชมห้องใหม่ของเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วย
ก่อนหน้านี้เวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้จิ่งเชินไปฮันนีมูน เธอฝากครรภ์อยู่บ้าน ไม่ได้เดินทางมาเลย
ในที่สุดครั้งนี้ก็ได้มาที่บ้านเวินเที๋ยนเที๋ยน เธอต้องเยี่ยมชมให้ดี
สุดท้ายเวินเที๋ยนเที๋ยนเสียใจกับคำที่พูดออกมา
เธอนึกไปถึงรูปแต่งงานขนาดใหญ่รูปนั้น ถ้าถูกหลวนจื่อกับหมินอันเกอเห็นเข้า……
ให้ตาย ขายหน้าเกินไปแล้ว!
“เอ่อ ฉัน ฉันเตรียมต้องพักแขกให้พวกเธอแล้ว คืนนี้ไม่ต้องกลับแล้ว อยู่คุยเป็นเพื่อนฉัน!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเกิดความคิดคิดมาอย่างฉับพลัน จึงเอ่ยข้อเสนอแนะแบบนี้ออกไป
“ได้สิ! แต่เที๋ยนเที๋ยน เธอต้องพักผ่อนให้มากๆ”
หลวนจื่อเป็นห่วงสุขภาพของเวินเที๋ยนเที๋ยนมาก
เรื่องที่ถูกลักพาตัวก่อนหน้านี้ ถึงตอนนี้เธอก็ยังรู้สึกหวาดกลัว