เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 845 อีกสถานการณ์ที่เลวร้าย
บทที่ 845 อีกสถานการณ์ที่เลวร้าย
“ฉันรู้ ฉันพาเธอไปดูห้องพักแขก?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนลากหลวนจื่อไปทางห้องพักแขก
“เรื่องไปห้องพักแขกไม่รีบ” หลวนจื่อยิ้มอย่างมีเลศนัย “ไปดูห้องของเธอกับจี้จิ่งเชินก่อน!”
“แต่ว่า……”
“ทำไมล่ะ?”
“ไม่ ไม่มีอะไร……” เวินเที๋ยนเที๋ยนใบหูร้อนขึ้นทันที “แค่ไม่สะดวกนิดหน่อย”
“ไม่สะดวก?”
หลวนจื่อกับหมินอันเกอสบตากัน เห็นถึงความสงสัยในดวงตาของอีกฝ่าย
“ทำไมถึงไม่สะดวกล่ะ? เที๋ยนเที๋ยน เธอมีความลับอะไรปิดบังฉันอยู่ใช่ไหม?”
มองเวินเที๋ยนเที๋ยนพยายามปกปิด ความอยากรู้ของหลวนจื่อก็ยิ่งเพิ่มมากยิ่งขึ้น
เกรงว่าหลวนจื่อจะคิดอะไรไปเรื่อย เธอจึงรีบพูดกับหลวนจื่อ “เพราะ เพราะ……”
สบเข้ากับสายตาสงสัยของหลวนจื่อ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็พูดไม่ออก
เมื่อไม่มีทางเลี่ยง เธอจึงต้องพาหลวนจื่อเข้าไปในห้องนอน “เธอดูเอาเองเถอะ”
หลวนจื่อเดินเข้าไป
สิ่งที่ดึงดูดสายตาคือภาพแต่งงานที่เต็มทั้งผนัง
“พระเจ้าช่วย!” หลวนจื่ออ้าปากกว้าง “เที๋ยนเที๋ยน เธอ……ฮะฮะฮะ!”
เธอหัวเราะอย่างไม่รักษามาด
หมินอันเกอก็ยกมุมปากขึ้น ไม่สามารถปกปิดแววตาขบขันได้
“เธอรู้แล้วใช่ไหมว่าทำไมฉันไม่อยากพาพวกเธอเข้ามา?”
ถูกเห็นรูปแต่งงานขนาดใหญ่ เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงไร้ทางเลือก ปล่อยให้หลวนจื่อเยี่ยมชมไปตามใจอยาก
หลวนจื่อจุปาก “เที๋ยนเที๋ยน ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจี้จิ่งเชินที่ดูเย็นชาแบบนั้น คิดไม่ถึงว่าส่วนตัวแล้วจะฉูดฉาดขนาดนี้”
“หึ คำนี้อธิบายได้ดี”
เวินเที๋ยนเที๋ยนทนไม่ไหวจึงหัวเราะออกมา
“แต่ว่าพวกเธอทุกวันตอนเข้านอนตรงกันข้ามกับรูปแต่งงานขนาดเท่าตัวจริงแบบนี้ ไม่รู้สึกแปลกๆ เหรอ?”
หลวนจื่อมองรูปแต่งงานรูปนั้น
ต้องบอกว่ารูปแต่งงานตรงหน้าไม่ว่าจะเป็นแสงหรือมุมล้วนลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
แค่คิดก็รู้แล้วว่าจี้จิ่งเชินต้องเลือกจากรูปเป็นพันๆ ถึงจะเลือกรูปแต่งงานรูปนี้ออกมาได้
ความรู้สึกที่เขามีต่อเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นสามารถประจักษ์ได้ด้วยสายตา
ใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนแดงขึ้นช้าๆ
“เพราะเห็นจนชินแล้วมั้ง ฉันถึงไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนอะไร ถูกพวกเธอมาเห็นถึงได้รู้สึกอายนิดหน่อย”
เธอปราดตามองหลวนจื่อ “ดูพอหรือยัง?”
หลวนจื่อทำสีหน้าน้อยใจ “ฉันพึ่งดูได้นิดเดียวเอง เธอก็จะไล่ฉันออกไปแล้ว?”
“มีสามีแล้วลืมเพื่อนซี้จริงๆ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหน้าแดงเล็กน้อย “หลวนจื่อ!”
“ก็ได้ ฉันพูดเล่นเอง!”
หลวนจื่อเดินมาข้างๆ เวินเที๋ยนเที๋ยน คล้องแขนเธออย่างมีความสุข “แค่นี้ก็พอแล้ว ถ้าเราเกิดเด็กผู้หญิงหนึ่งเด็กผู้ชายหนึ่ง ก็หมั้นหมายพวกเขาไว้กัน ถ้าพวกเราเกิดเด็กชายทั้งคู่หรือเด็กหญิงทั้งคู่ ต่อไปเข้าเรียนก็จะสามารถดูแลกันและกันได้แล้ว!”
ถ้าคิดตามเวลา ลูกของเวินเที๋ยนเที๋ยนอายุน้อยกว่าลูกของหลวนจื่อประมาณหกเดือน
บางทีอาจจะเข้าเรียนพร้อมกันได้
“ได้ แต่เรื่องแต่งงานของเด็กๆ ต้องให้พวกเขาตัดสินใจเอง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมีความคิดของตัวเอง เธอเห็นโศกนาฏกรรมของการแต่งงานมากมาย
เหยาเย้นเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แม้แต่รุ่นพ่อแม่ของเวินเที๋ยนเที๋ยน จี้จิ่งเชินก็เป็นเหยื่อของการแต่งงาน
เธอหวังว่าลูกของเธอ จะพบกับอีกครึ่งหนึ่งที่ชอบด้วยตัวเองได้
“นี่เกี่ยวอะไรกัน ถ้าพวกเขาไม่ยอมก็ยกเลิกไป อย่างไรเสียก็เป็นข้อตกลงด้วยวาจาขำๆ ”
แน่นอนว่าหลวนจื่อรู้ถึงความกังวลของเวินเที๋ยนเที๋ยน
ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ขอให้เด็กๆ ต้องยอมรับการหมั้นหมายนี้
ได้ยินดังนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงปล่อยวางแล้วยิ้มออกมา “งั้นก็ตามใจเธอ”
ขณะที่กำลังพูดกัน เสียงกริ่งประตูของปราสาทเก่าก็ดังขึ้น
อยู่ๆ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็นึกอะไรออก จึงรีบเอ่ยกับหลวนจื่อและหมินอันเกอ “ฉันเคยพูดกับจี้จิ่งเชินไว้ว่าจะไม่พาคนอื่นเข้ามาในห้องนอน”
หลวนจื่อชะงักไป ก้มหน้าลงมองที่ที่พวกเธอยืนอยู่
“ฉันลืมเรื่องนี้ไป……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองพวกเขาอย่างเคืองๆ
“ไม่เป็นไร พวกเราไม่หักหลังเธอ”
หลวนจื่อจับมือหมินอันเกอ เดินออกมาจากห้องของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนตามออกมาด้วยทันที กลับเห็นสีหน้ากระอักกระอ่วนของหลวนจื่อกับหมินอันเกอ และยังมีจี้จิ่งเชินที่ยืนอยู่หน้าพวกเขา
“กลับ กลับมาแล้วเหรอ……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดในใจ แย่แล้ว!แต่บนหน้ากลับดูเหมือนไม่มีอะไร รีบจับมือจี้จิ่งเชินอย่างเป็นธรรมชาติ
จี้จิ่งเชินกุมมือกลับทันที
“เอ่อ เที๋ยนเที๋ยน ฉันกับอันเกอกลับก่อนนะ”
เมื่อเห็นจี้จิ่งเชินมาถึงแล้ว หลวนจื่อที่เมื่อสักครู่บอกว่าจะช่วยกลับส่งสายตาบอกว่าช่วยอะไรไม่ได้แล้วให้เวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วดึงหมินอันเกอเตรียมตัวจะกลับ
จี้จิ่งเชินยิ้มตามมารยาท “ทั้งสองท่านไม่ทานอาหารเย็นที่นี่ก่อนค่อยกลับ?”
“ไม่ ไม่ต้องแล้ว……”
หลวนจื่อยิ้มแข็งทื่อ
หมินอันเกอพยุงเธอ พูดอย่างขำๆ “คราวหน้าผมกับหลวนจื่อมีโอกาสจะมาอีก เที๋ยนเที๋ยนยังต้องการพักผ่อน พวกเราไม่รบกวนแล้ว”
“เดินทางกลับดีๆ”
จี้จิ่งเชินพยักหน้าเล็กน้อย มองตามหลังพวกเขาออกปราสาทเก่าไป
เมื่อประตูใหญ่ปิดลงแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองจี้จิ่งเชินอย่างกระอักกระอ่วน “เอ่อ ฉันอธิบายได้”
“ไม่รีบ ตรวจก่อน”
จี้จิ่งเชินลูบมือเธอแล้วจูงเธอเดินกลับเข้าห้องไป
ไม่นาน หมอชราที่ขมับขาวหมดแล้วก็เดินเข้ามาพร้อมแม่บ้านที่หิ้วกล่องเครื่องมือให้เขา
เวินเที๋ยนเที๋ยนทำการตรวจตามคำแนะนำของหมอชรา
จี้จิ่งเชินให้เธอพักอยู่ในห้อง เขาไปส่งหมอกลับจากปราสาทเก่า
“ร่างกายของคุณเวินเที๋ยนตรวจไม่พบสารพิษ เพราะเธออาจจะไม่ได้รับสารพิษ หรือสารพิษอาจถูกร่างกายขับออกไปด้วยการเผาผลาญตามธรรมชาติแล้ว”
จี้จิ่งเชินได้ยินที่หมอพูด ก็ชื่นใจขึ้นมาทันที แต่เมื่อได้ยินที่หมอพูดต่อ “แต่ก็ยังมีอีกสถานการณ์ที่เลวร้าย”
“เชิญพูด”
“เพราะคุณเวินตั้งครรภ์ ในตอนนี้ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก เพราะไม่รู้ว่าเป็นพิษอะไร ดังนั้นจึงยังไม่สามารถตรวจได้หรืออาจมีระยะฟักตัว”
หมอชรามองจี้จิ่งเชิน “เพื่อความปลอดภัย ต่อไประยะหนึ่งยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดจะดีที่สุด ถ้ามีเหตุการณ์อะไร เตรียมตัวไว้ก่อนให้ดี”
จี้จิ่งเชินขมวดหัวคิ้วแน่น “อันตรายไหม?”
“ไม่แน่ใจ” หมอเอ่ย “คุณจี้ไม่ต้องกังวล ผมแค่คาดคะเนเท่านั้น บางทีอาจจะไม่ได้ถูกพิษตั้งแต่แรก หรือต่อให้เป็นเรื่องจริง ในช่วงตั้งครรภ์จะมีปฏิกิริยาค่อนข้างรุนแรง ถึงตอนนั้นค่อยใช้มาตรการก็ยังไม่สาย”
“ผมเข้าใจแล้ว”
จี้จิ่งเชินส่งหมอกลับไป นัยน์ตาเต็มไปด้วยความกังวล
เขารู้จักเวินเที๋ยนเที๋ยนดี ถ้าเธอรู้เรื่องนี้เข้า ต้องทุกข์ใจมากแน่นอน
และหมอก็บอกแล้วว่า ตอนนี้ยังตรวจไม่พบสารพิษ
ที่เวินหงไห่พูดไม่จำเป็นว่าจะเป็นเรื่องจริง บางทีมันแค่อยากเห็นผลลัพธ์ที่ลูกของเขาแท้ง
จี้จิ่งเชินกลับมาที่ห้องด้วยสีหน้าที่ดีขึ้นมาก
เพียงแต่ยังคงคิ้วขมวดอยู่เล็กน้อย
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดว่าเขาโกรธ จึงรีบนั่งลงข้างเขา พูดอย่างระมัดระวังว่า “คุณโกรธฉันจริงๆ เหรอ?” “โกรธ?” จี้จิ่งเชินมองเธออย่างสงสัย “ผมจะโกรธคุณได้อย่างไร?”
“คุณไม่โทษที่ฉันพาหลวนจื่อกับหมินอันเกอเข้ามาในห้องของเราเหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้นมองด้วยความประหลาดใจ
“ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง ผมจะโทษคุณได้อย่างไร?”