เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 846 ผมจะทำทุกวิถีทาง
บทที่ 846 ผมจะทำทุกวิถีทาง
จี้จิ่งเชินยกมือขึ้นรวบเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามากอด “ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่านี่คือห้องนอนของเรา อยากให้ทุกคนเห็นรูปแต่งงานของเราจะตายไป”
ได้ยินจี้จิ่งเชินพูดแบบนี้แล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนที่ใจคอไม่ดีจึงผ่อนคลายลง
เธอกอดตอบจี้จิ่งเชินเบาๆ “ดีแล้ว แล้วคุณทำไมท่าทางเหมือนไม่ค่อยดีใจ?”
จี้จิ่งเชินเข้าห้องมาด้วยสีหน้าหนักหน่วง เธอยังคิดว่าเขากำลังโกรธ เพราะสีหน้าของเขาไม่น่ามองเลย
จี้จิ่งเชินเงียบไปครู่หนึ่ง ยังไม่นำคำพูดของหมอบอกกับเวินเที๋ยนเที๋ยน
เขาเพียงยิ้มออกมา “อาจเพราะสองวันมานี้เหนื่อยมากเกินไป”
ความเหนื่อยล้าในดวงตาของเขาอยู่ในสายตาเวินเที๋ยนเที๋ยน ทำให้เธอรู้สึกปวดใจ
หลายวันมานี้ เธอถูกลักพาตัว ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
ดูแล้วเหมือนเธอน่าเวทนามาก
แต่เพื่อช่วยเธอและดูแลเธอจี้จิ่งเชินไม่ได้พักผ่อนมาหลายวันแล้ว
ประโยค “เหนื่อยมาก” ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนปวดใจเป็นที่สุด
“คุณชอบบอกให้ฉันพักผ่อน แต่แล้วคุณล่ะ? ถ้าคุณล้มป่วยไป ใครจะมาดูแลฉันกับลูก?”
เวินเที๋ยนเที่ยนประท้วงอย่างอ่อนโยน
การประท้วงแบบนี้เป็นสิ่งที่ผู้ชายไม่มีทางปฏิเสธได้ ยิ่งกว่านั้นเป็นจี้จิ่งเชินที่รักเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างลึกซึ้ง
“ผมรับปากคุณ ผมจะพักผ่อนให้ดี”
จี้จิ่งเชินลูบผมยาวของเวินเที๋ยนเที๋ยน รวบเธอเข้ามากอดเบาๆ
เพียงแค่แววตายังคงมีความกังวลอยู่
เที๋ยนเที๋ยน คุณจะเป็นอะไรไปไม่ได้เด็ดขาด
เพื่อความปลอดภัยของคุณ ผมจะทำทุกวิถีทาง
ทางหล่อนเจียนีเองก็รู้แล้วว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมาอย่างปลอดภัย พังสิ่งของในห้องด้วยความลนลาน
“ทำไมเธอถึงได้ดวงแข็งนัก? แม้แต่เวินหงไห่ก็เก็บกวาดเธอไม่ได้?”
หล่อนเจียนีกัดฟันบ่น
หลิวเหม่ยหลันมองของที่เรี่ยราดอยู่บนพื้นอย่างกังวล ในใจยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้น
“เธอว่าจี้จิ่งเชินจะสงสัยพวกเราไหม”
หล่อนเจียนีกัดฟันแล้วครุ่นคิด “ต่อให้สงสัย เขาก็ไม่มีหลักฐาน ไม่สามารถมาวุ่นวายฉันได้ตามใจ”
“ฉันคิดว่า พวกเราต้องวางแผนไว้ก่อน”
หลิวเม่ยหลันนั้นรอบคอบ เธอคิดว่าถึงแม้จี้จิ่งเชินจะไม่มีหลักฐาน ก็สามารถจัดการพวกเธอได้
อย่างน้อยก็ต้องเฝ้าติดตามพวกเธอ
“แม่ แม่กลัวอะไร?” หล่อนเจียนีปราดตามองเธอย่างไม่เห็นด้วย
“ฉันแค่กลัวว่าเวินหงไห่สารภาพถึงเธอด้วย”
“ไม่หรอก เขาไม่มีโอกาสได้พูดหรอก”
สายตาเลือดชา ความเกลียดชังในตัวของหล่อนเจียนี ทำให้หลิวเหม่ยหลันรู้สึกหวาดกลัว
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ลูกสาวในความทรงจำของเธอได้เปลี่ยนไปแล้ว
แต่ตอนนี้พวกเธอลงเรือลำเดียวกันแล้ว จึงได้แต่ต้องไปต่อแล้ว
ไม่อย่างนั้น สุดท้ายแล้วพวกเธออาจจะมีจุดจบเช่นเดียวกันกับเวินฉี่
ความน่ากลัวของจี้จิ่งเชิน พวกเธอรู้ดี
เรื่องที่เวินเที๋ยนเที๋ยนตั้งครรภ์ ไม่นานก็มาถึงหูคนตระกูลหล่อน และคุณนายหล่อน
ไม่ช้าคนในตระกูลหล่อนก็มาเยี่ยม แสดงความยินดีกับเวินเที๋ยนเที๋ยน
แต่กลับถูกจี้จิ่งเชินขวางเอาไว้ทั้งหมด
ทำให้หลายคนไม่พอใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร
จี้จิ่งเชินแทบจะอยู่ข้างๆ เธอตลอดเวลา บังคับเวินเที๋ยนเที๋ยนช่วงนี้ให้พักฟื้นร่างกายในปราสาทเก่า
คุณนายหล่อนได้ยินว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนท้องแล้ว เดิมก็อยากมาเยี่ยมด้วยตัวเองกลับถูกจี้จิ่งเชินขวางไว้
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดว่าร่างกายตัวเองสบายดี ให้จี้จิ่งเชินปิดบังเรื่องถูกลักพาตัวไว้ ไม่อยากให้พวกเขาเป็นห่วง
จี้จิ่งเชินยอมตกลงแต่โดยดี
วันต่อมา เวินเที๋ยนเที๋ยนพึ่งตื่นนอน ทันทีที่ลงมาข้างล่างก็เห็นแม่ครัวกำลังเตรียมผักหนึ่งกล่อง
ผักหลากชนิดมีน้ำค้างอยู่ด้านบนเต็มไปหมด
“คุณออกไปแล้วกลับมาเร็วขนาดนี้เลย?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปดูอย่างแปลกใจ
ผักสดพวกนี้ดูดี อาจจะเพราะมีหยดน้ำเกาะอยู่ ดูแล้วใสๆ แวววาว
“ไม่ใช่นะ คุณนาย!”
แม่ครัวยิ้มอย่างรู้สึกเป็นเกียรติ “ผักพวกนี้ เป็นของที่คุณชายแล้วก็คุณนายปลูกเอง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนแปลกใจเล็กน้อย
“พวกเขามาเหรอ?” เธอรีบถาม
“คุณชายกับคุณนายไม่ได้มา พวกเขาแค่ให้คนส่งของมาให้”
ได้ยินดังนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยจึงมองผักพวกนั้นอย่างละเอียด เป็นผักที่เคยเห็นที่รีสอร์ตจริงๆ
ต้องรู้ว่าเธอท้องแล้วเป็นห่วงจึงให้คนส่งของมาให้
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มออกมา รู้สึกอบอุ่นขึ้นในใจ
แม้ว่าพ่อแม่จะไม่อยู่ข้างๆ แต่เธอสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของครอบครัวเหมือนกัน
แม่ครัวเป็นห่วงว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะทุกข์ใจ จึงรีบพูดให้สบายใจ “คุณชายกับคุณชายรู้ว่าคุณตั้งครรภ์แล้วดีใจมาก โทรมาแล้วหลายครั้งแต่คุณจี้กลัวว่าจะรบกวนคุณพักผ่อน จึงไม่ได้บอกคุณ”
“จริงเหรอ?”
มิน่าเธอถึงได้รู้สึกว่าจี้จิ่งเชินมีเรื่องที่ปิดบังเธออยู่ ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง
ขณะกำลังพูดอยู่นั้น พ่อบ้านก็เดินเข้ามาพร้อมกับ《พจนานุกรมชิงหวา》ทันทีที่เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนนัยน์ตาก็เป็นประกายขึ้นทันที
“คุณนาย ช่วงนี้ผมอ่านเจอคำที่ดีคำหนึ่ง คุณคิดว่าคำนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
พ่อบ้านพูดพลางส่งพจนานุกรมส่งให้เวินเที๋ยนเที๋ยน มือเขาชี้ไปที่คำว่า “ห้าว”
“คำนี้ทำไมเหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกคำพูดของพ่อบ้าน
แม่ครัวที่อยู่ข้างๆ พูดหัวเราะเยาะ “คุณนาย คุณไม่ต้องสนใจเขา หลายวันมานี้เขากับจี้ผิงกำลังคุยกันเรื่องตั้งชื่อให้คุณชายน้อยว่าอะไร จะเป็นบ้าแล้ว”
“เธอจะเข้าใจอะไร ตั้งชื่อเป็นเรื่องใหญ่ จะตั้งลวกๆ ไม่ได้!”
พ่อบ้านพูดด้วยสีหน้าจริงจัง จากนั้นหันไปมองเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยสายตาเอาใจ “คุณนาย ผมว่าชื่อนี้ก็ดี ข้างบนเป็นดวงอาทิตย์ ข้างล่างเป็นท้องฟ้า หมายถึงสง่างามและกล้าหาญ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ “จี้ห้าว?นั่นไม่กลายเป็นเครื่องหมายเหรอ?”
“……”
พ่อบ้านตะลึงไปทันที แล้วรีบออกไปพร้อมกับพจนานุกรม
เหลือเพียงเวินเที๋ยนเที๋ยนกับแม่ครัวมองหน้ากันไปมา
“นั่นเขา……” เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่เข้าใจ
แม่ครัวเอ่ยกลั้วหัวเราะ “เขา คงจะไปหาชื่อดีๆ ชื่ออื่นแล้ว”
เพื่อที่จะตั้งชื่อ พ่อบ้านเองก็ทุ่มสุดแรง
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้าขำ
คืนนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนเอนหลังอยู่บนเตียง ทันใดนั้นก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา
“จี้จิ่งเชิน พวกเราตั้งชื่อให้ลูกดีไหม?”
เธอพูดอย่างเต็มไปด้วยความคาดหวัง
“ยังไม่รู้เลยว่าลูกผู้ชายหรือผู้หญิง”
ได้ยินดังนั้นจี้จิ่งเชินจึงวางเอกสารในมือลง แล้วมานั่งลงข้างเวินเที๋ยนเที๋ยน
เขายื่นมือไปรวบเธอเข้ามาในอ้อมกอดอย่างเป็นธรรมชาติ
หนุนอยู่บนอกกว้างของจี้จิ่งเชิน เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยปนขำ “งั้นก็ตั้งสองชื่อ ผู้ชายหนึ่งชื่อ ผู้หญิงหนึ่งชื่อ”
“ไม่เยอะเกินไปเหรอคุณ”
จี้จิ่งเชินเล่นนิ้วมือของเวินเที๋ยนเที๋ยน ก้มลงจูบบนเส้นผมของเธอ
“ไม่เยอะ พวกเราคิดคนละชื่อ แบ่งหน้าที่กัน”
ไม่รู้ว่าทำไม เวินเที่ยนเที๋ยนรู้สึกว่าจี้จิ่งเชินเหมือนไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้
เธอเงยหน้าขึ้นมองสีหน้าของจี้จิ่งเชิน
กลับไม่มีอะไรผิดปกติ
“เรื่องตั้งชื่อพวกเราไม่ต้องเป็นห่วง” จี้จิ่งเชินลูบผมยาวของเธอ “หน้าที่คุณตอนนี้ คือพักผ่อนให้ดี”
“อย่าให้ผมเป็นห่วง”
เขากุมมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้ในมือ
ครู่ใหญ่ ไม่ได้ยินเวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยตอบ
“เที๋ยนเที๋ยน?”
จี้จิ่งเชินก้มลงมองอย่างสงสัย กลับพบว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนได้หลับไปในอ้อมกอดของตัวเองแล้ว
เขาขมวดคิ้วอย่างแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแค่ว่าเธออาจจะเหนื่อยเกินไป
จี้จิ่งเชินปรับท่าทางที่สบายขึ้นให้เธอเบาๆ แล้วห่มผ้าให้
จากนั้นก็กอดเธอแล้วค่อยๆ เข้าสู่ห้วงนิทรา