เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่1022 คุณจะไม่แพ้
แม้ว่าตอนนี้นิวมั้นจะถูกคัดออกไปแล้ว แต่ระวังไว้ก่อนจะดีกว่า
ถ้าครั้งนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนแพ้ มีแค่ปรมาจารย์จอห์นที่เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ถึงตอนนั้นเขาจะทำเรื่องอะไรขึ้นมา ใครก็ไม่สามารถรู้ได้
ทางที่ปลอดภัยที่สุด คือเวินเที๋ยนเที๋ยนต้องเข้ารอบไปให้สำเร็จ
ในด้านนี้เขาเชื่อเพียงเวินเที๋ยนเที๋ยนเท่านั้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ถึงความกังวลในใจของอาจารย์ฉู่ จึงพยักหน้า
“ฉันจะพยายาม”
ปรมาจารย์จอห์นหัวเราะเสียงเย็น
“การแข่งขันแบบนี้ไม่ใช่แค่เธอพูดว่าพยายามก็จะเอาชนะได้ อีกฝ่ายทั้งในและต่างประเทศมีชื่อเสียงเป็นรองแค่ปรมาจารย์จอห์น ฉันว่าเธอจะแพ้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย!”
ได้ยินดังนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงเงยหน้ามองทางเขา แล้วย้อนถาม “ไม่รู้ว่าทำไม ตั้งแต่เริ่มการแข่งขัน ปรมาจารย์จอห์นถึงได้เฝ้ารอให้ฉันแพ้อยู่ตลอด แปลกจริง คุณไม่ได้อยู่ทีมเดียวกับฉันเหรอ?”
ปรมาจารย์จอห์นได้ยินเธอพูดดังนั้นก็มีสีหน้าลนลานขึ้นมาเล็กน้อยทันที รีบเอ่ย “ฉันพูดตามความเป็นจริง ในเมื่อตัวเองทำไม่ได้ จะกลัวคนอื่นว่าให้อีกเหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยกยิ้มบางอย่างไม่รีบร้อน
“ถ้าอย่างนั้นคุณวางใจเถอะ ครั้งนี้ฉันชนะแน่”
เดินเข้าไปแค่นหัวเราะเสียงเย็น
“เป็นแบบนั้นได้จะดีที่สุด”
แล้วเขาก็ไม่พูดอะไรอีก สีหน้ามืดครึ้มลง
แม้ว่าเพราะนิวมั้นถูกจับได้ว่าโกงก่อนหน้านี้ จึงต้องถอนตัวออกจากการแข่งขันทั้งหมด แต่ข้อตกลงก่อนหน้านี้ของพวกเขาไม่ได้เป็นโมฆะ
เพียงแค่ตนเองสามารถทำให้ทีมของนิวมั้นชนะได้ เขาก็จะสามารถเข้าไปเป็นภัณฑารักษ์ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติได้
เพียงแต่ว่าเขาคิดว่าพวกนิวมั้นนั้นกังวลเกินไป
ทีมของประเทศของพวกเขามีปรมาจารย์จอห์นอยู่ จะแพ้ได้อย่างไร?
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกคัดออกก่อนเข้ารอบชิงชนะเลิศจะดีที่สุด รอเขาเข้ารอบสุดท้ายไปแล้วล่ะก็ จะจงใจแพ้ให้กับจอห์นอย่างแน่นอน
เขาวางแผนขณะที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินขึ้นเวทีไป แล้วเริ่มการแข่งขันของวันนี้
คนที่อยู่ที่นี่จำนวนไม่น้อยกลายเป็นแฟนคลับของเธอ ตะโกนส่งเสียงเชียร์เธอ
และปรมาจารย์จินลัยที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แม้ว่าจะไม่มีใครให้กำลังใจเขา แต่สีหน้าท่าทางกลับเยือกเย็นสุขุมเป็นอย่างมาก ไม่หุนหันพลันแล่น ไม่รีบร้อนลนลาน แต่กลับมองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างชื่นชม พร้อมพยักหน้าให้เธอเล็กน้อย
“เธอคือเวินเที๋ยนเที๋ยนใช่ไหม ก่อนหน้านี้ฉันคาดหวังมาตลอด อยากเห็นทักษะการบูรณะของเธอ ในที่สุดคราวนี้ก็สมหวังแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนโค้งตัวให้เขาอย่างถ่อมตัว
“ครั้งนี้ก็ขอให้อาจารย์แนะนำด้วย”
ปรมาจารย์จินลัยเอ่ย “ไม่กล้าแนะนำหรอก แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันจะดีที่สุด การแข่งขันครั้งนี้ไม่ใช่แพ้ชนะ แต่เป็นการแลกเปลี่ยน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่แข่งมานาน เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับอาจารย์ที่ไม่สนใจผลแพ้ชนะก็ยิ้มออกมา รู้สึกผ่อนคลายลงทันที
“ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มกันเถอะ”
ทั้งสองคนเลือกของในมือด้วยความรวดเร็ว และเป็นดังที่คาดไว้ ทั้งสองคนล้วนเลือกเครื่องเคลือบ
สนามแข่งเงียบเชียบ ผู้ชมในสนามต่างคิดว่าการแข่งขันรอบนี้น่าเบื่อเป็นอย่างมาก
เพราะก่อนหน้านี้มักจะมีเหตุการณ์วางแผนหลอกล่อ เอะอะโวยวายหรือทะเลาะกัน แต่ครั้งนี้กลับไม่มีอะไรเลย จึงน่าเบื่อมากจริงๆ
แต่คนนอกดูแค่ความสนุก คนในดูวิธีการ
มีเพียงแค่นักบูรพาวัตถุโบราณและเหล่ากรรมการที่อยู่ในสนามเท่านั้น ที่สามารถมองออกว่าการแข่งขันครั้งนี้นั้นยากเย็นและอันตรายแค่ไหน
แม้เวินเที๋ยนเที๋ยนกับปรมาจารย์จินลัยจะไม่ได้พูดคุยอะไรกัน เอาแต่ก้มหน้าก้มตาบูรณะ แต่กลับสามารถมองออกได้ว่ากำลังไล่ตามกันอย่างดุเดือด
แม้กระทั่งเหล่ากรรมการยังกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว รวบรวมสมาธิแล้วสังเกตอย่างละเอียดรอบคอบ
ยิ่งใกล้จบการแข่งขัน เพราะทักษะของทุกคนนั้นต่างเก่งกาจมากๆ เพื่อที่จะจัดลำดับสูงต่ำ ความยากของวัตถุโบราณที่ต้องบูรณะก็ยิ่งยากมากยิ่งขึ้น และเวลาที่ใช้ในการบูรณะก็ยิ่งนานมากยิ่งขึ้น
การแข่งขันครั้งนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนเช้า ทั้งสองคนไม่กินไม่ดื่ม เอาแต่บูรณะจนถึงตอนเย็น ในที่สุดก็จบลงในตอนที่ท้องฟ้าเปลี่ยนสีแล้ว
เมื่ออาจารย์บูรณะขั้นตอนสุดท้ายเสร็จแล้ว ก็ถอนหายใจออกมา วางวัตถุโบราณในมือลง ในขณะเดียวกันเวินเที๋ยนเที๋ยนก็บูรณะของตัวเองเสร็จแล้วเช่นกัน
ทั้งสองคนแทบจะเสร็จสิ้นพร้อมๆ กัน!
ผู้ชมและกรรมการทุกคนไม่ได้ผละออกไปกลางทาง ร่วมเป็นพยานการบูรณะที่ยาวนานครั้งนี้จนถึงตอนนี้ ในที่สุดทุกคนก็ถอนหายใจออกมา
แต่ไม่นานก็เริ่มตื่นเต้นขึ้นมาอีกครั้ง
เพราะต่อไปเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุด
ใครจะเป็นผู้ชนะกัน?
ในการแข่งขันเมื่อสักครู่ ทั้งสองคนฝีมือพอฟัดพอเหวี่ยงกัน และทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
นี่เป็นการแข่งขันครั้งสุดท้ายก่อนรอบชิงชนะเลิศ และเป็นการแข่งขันครั้งสำคัญ ผู้ที่ชนะจะสามารถเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และร่วมแข่งขันชิงแชมป์ได้
แต่ผู้แพ้ การแข่งขันครั้งนี้ก็จบลงเพียงเท่านี้แล้ว
ทุกคนต่างตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งกรรมการที่ใจเย็นสุขุมมาแต่ไหนแต่ไร ในตอนนี้ก็ควบคุมความตื่นเต้นในใจไว้ไม่ได้ เพิ่มความเร็วที่เดินเข้าไป แล้วเริ่มเปรียบเทียบประเมินผลงานครั้งนี้อย่างรวดเร็ว
เช่นเดียวกับการแข่งขัน การประเมินครั้งนี้ใช้เวลานาน
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินลงเวทีไป อาจารย์ฉู่ก็ตามมาอย่างตื่นเต้น
“เป็นอย่างไรบ้าง? มั่นใจไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูมือไปมา เพราะทำงานเป็นเวลานาน นิ้วของเธอเหนื่อยเกินไปจึงสั่นเล็กน้อย
ครุ่นคิดแล้วเอ่ย “แม้จะพูดไม่ได้ว่ามั่นใจ แต่ฉันพยายามเต็มที่แล้ว”
เมื่อไม่ได้ยินคำตอบที่แน่นอนจากปากเวินเที๋ยนเที๋ยน อาจารย์ฉู่ก็ขมวดคิ้วทันที รู้สึกกังวลในใจเล็กน้อย
แต่ก็เอ่ยแนะนำ “ไม่เป็นไร ทำเต็มที่ก็ดีแล้ว อีกฝ่ายเก่งกาจเกินไปจริงๆ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังจะนั่งลง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เมื่อหยิบออกมาดู เป็นจี้จิ่งเชินที่โทรเข้ามา
ปกติตอนเวินเที๋ยนเที๋ยนแข่งขัน จี้จิ่งเชินจะพาจี้หยู๋ชิงไปที่บริษัทด้วยกัน แล้วดูถ่ายทอดสดการแข่งขันที่บริษัท
เพื่อไม่ให้กระทบการแข่งขัน น้อยมากที่เขาจะติดต่อมาก่อนที่ผลการแข่งขันจะออก
แต่วันนี้คิดไม่ถึงว่าจะเป็นฝ่ายโทรเข้ามาเอง
น่าจะเพราะเห็นสถานการณ์การแข่งขันผ่านการถ่ายทอดสด เลยร้อนใจและเป็นห่วงจึงโทรเข้ามา?
เวินเที๋ยนเที๋ยนกดรับสาย กำลังจะพูดขึ้น
“ยียียายาคุณแม่!”
เสียงของจี้หยู๋ชิงก็ดังมาจากปลายสาย
เวินเที๋ยนเที๋ยนชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าปรากฏความอ่อนโยน
“คุณแม่!”
จี้หยู๋ชิงยังคงพูดคำศัพท์ที่พึ่งจะหัดพูดเป็น แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจน แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาทันที
ตอนจี้หยู๋ชิงกำลังพูดอย่างตื่นเต้น
เป๊าะ!
ทันใดนั้นเสียงราวกับมีคนใช้นิ้วดีดลงบนหน้าผากอย่างไรอย่างนั้นดังขึ้นขัดคำพูดของเขา
ตามด้วยโทรศัพท์ถูกหยิบไปแล้วเสียงของจี้จิ่งเชินก็ดังขึ้นมาในเวลาเดียวกัน
“เที๋ยนเที๋ยน เป็นอย่างไรบ้าง? การแข่งขันเมื่อสักครู่ราบรื่นดีไหม?”
จี้จิ่งเชินพูดพลางไม่สนใจการต่อต้านอย่างเดือดดาลของจี้หยู๋ชิงที่อยู่ข้างหลังเลยแม้แต่น้อย
เวินเที๋ยนเที๋ยนปรายตามองเหล่ากรรมการที่ตอนนี้กำลังทำการประเมินอยู่บนเวที
“ไม่แน่ใจ แต่วันนี้ฉันทำเต็มที่ที่สุดตั้งแต่แข่งมาเลย”
ในน้ำเสียงของเธอเจือด้วยความดีใจและตื่นเต้น
แม้ว่าจะเหนื่อยมาก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เวินเที๋ยนเที๋ยนได้สัมผัสถึงความรู้สึกที่ได้แข่งขันกับอาจารย์ที่แท้จริง ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก จนกระทั่งตอนนี้ก็คลื่นในใจก็ยังโหมกระหน่ำ
จี้จิ่งเชินที่อยู่อีกฝั่งได้ยินประโยคนั้นก็ยิ้มออกมาบางเบา
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ การแข่งขันครั้งนี้ก็คุ้มค่าแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น……”
จี้จิ่งเชินปรายตามองหน้าจอคอมพิวเตอร์ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ “คุณจะไม่แพ้”