เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่1042 คุณแม่มีอันตราย
ในตอนนั้นเองผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งก็เดินออกมา
เขาลังเลอยู่นาน แล้วจึงยื่นมือควานหาในกล่องอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ตัดสินใจได้
เมื่อพิธีกรหยิบฉลากไปเปิดดูก็มีสีหน้าชอบใจขึ้นมาทันที แล้วหันไปประกาศกับคนด้านล่างเวที “การแข่งขันแรก คนที่ถูกจับฉลากได้คือ เวินเที๋ยนเที๋ยน!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะถูกจับได้ตั้งแต่การแข่งขันแรก
ได้ยินว่าเธอต้องเข้าแข่งขัน จี้จิ่งเชินที่อยู่ข้างๆ ก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีก
“แข่งเร็วหน่อยก็ไม่เลว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดพลางลุกขึ้นยืน
จี้จิ่งเชินกลับเอ่ย “แม้ว่าจะมีการจำกัดเวลา ความสามารถของอีกฝ่ายก็ไม่สูง ไม่จำเป็นต้องทุ่มเทเกินไป ต่อไปยังมีการแข่งขันอื่นอีก ดังนั้นอย่าเหนื่อยเกินไป”
ความเป็นห่วงของเขา เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไม่ได้ใส่ใจ
เธอเอ่ยพลางโบกมือไปมา “ไม่เป็นไร คุณสบายใจเถอะ จบการแข่งขันรอบนี้แล้ว ฉันสามารถพักได้ครู่หนึ่ง”
พูดพลางหันไปทางจี้หยู๋ชิงที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง
“เสี่ยงหยู๋ชิง อย่าลืมเป็นกำลังใจให้แม่นะ มีลูกให้กำลังใจ แม่ต้องทำสำเร็จแน่ๆ!”
“อืม! สู้ๆ!”
จี้หยู๋ชิงกำหมัดเล็กแน่น เอ่ยอย่างตื่นเต้น ราวกับว่าการให้กำลังใจเป็นภารกิจสำคัญลำดับที่หนึ่ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนโน้มตัวลงเล็กน้อย จูบลงบนหน้าผากเขา แล้วจึงเดินไปทางบนเวที
เมื่อหน้าผากถูกพรหมจูบ จี้หยู๋ชิงก็หน้าแดงเล็กน้อย มองเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นเวทีไปด้วยสีหน้าเคารพรักใคร่
แต่ไม่นานก็นึกถึงคุณพ่อขี้หึงของตัวเอง
คราวนี้คุณแม่จูบตัวเอง เขาต้องโกรธอีกอย่างแน่นอน!
แต่ว่าตัวเองก็ไม่ได้กลัวเขา!
แต่ครั้งนี้รออยู่ครู่หนึ่งแล้ว จี้หยู๋ชิงกลับไม่ได้รับการดุด่าจากจี้จิ่งเชินอย่างที่คาดการณ์ไว้
จึงหันไปมองอย่างสงสัย กลับเห็นจี้จิ่งเชินขมวดคิ้วแน่น แววตาฉายแววความกังวล
“คุณพ่อ?”
เขาเรียกออกไปอย่างไม่เข้าใจเล็กน้อย
จี้จิ่งเชินกลับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกดโทรออกอย่างรวดเร็ว
สายตาของเขาอยู่ที่เวินเที๋ยนเที๋ยนที่บนเวทีอย่างไม่ละสายตา แววตาลุ่มลึกยิ่งมืดและลุ่มลึกมากยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อรับสาย ก็พูดขึ้นมาทันที “ตรวจสอบจางลัยยี่ นิวมัน พวกเขากับกลุ่มผู้จัดการแข่งขันใหญ่ว่ามีความสัมพันธ์อะไรกัน ให้คำตอบกับผมโดยที่เร็วที่สุด”
เมื่อวางสายโทรศัพท์แล้ว สีหน้าของจี้จิ่งเชินก็ไม่ได้ดีขึ้น กลับมองเวินเที๋ยนเที๋ยนบนเวทีอย่างเป็นห่วงมากยิ่งขึ้น
ทันใดนั้นจี้หยู๋ชิงที่อยู่ข้างๆ ก็ยกมือขึ้นมาจับเขาไว้ด้วยสายตาเป็นกังวล
“คุณแม่ มีอันตราย?”
จี้จิ่งเชินปรายตามองเขา
“รอเดี๋ยวก็จะรู้ชัดแล้ว”
ในขณะเดียวกัน ทั้งสองคนบนเวทีก็เริ่มการแข่งขันกันแล้ว
แม้ว่ากำหนดเวลาเพียงสามชั่วโมง กติกาในการแข่งขันก็มีมากมาย แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนที่เป็นคนจริงจังตั้งแต่ไหนแต่ไรมา จะต้องทุ่มเทความพยายามทั้งหมดบูรณะของในมือให้เสร็จสิ้นอย่างแน่นอน
ในเวลาสามชั่วโมง ที่เวินเที๋ยนเที๋ยนจดจ่ออยู่นั้น
การแข่งขันยังไม่ทันจบลง จี้จิ่งเชินก็ได้รับคำตอบของคำสั่งก่อนหน้านี้
เขาฟังรายงานของปลายสาย สายตาที่มองเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ตลอดก็หรี่ลงเล็กน้อยฉายแววความเย็นชาและแหลมคม
จี้หยู๋ชิงที่อยู่ข้างๆ ก็สังเกตถึงบางอย่างได้จากท่าทางของจี้จิ่งเชิน จึงมองเขาอย่างตึงเครียด
หลังจากวางสายโทรศัพท์แล้ว เขาก็รีบดึงเสื้อของจี้จิ่งเชินเพื่อสอบถามทันที
จี้จิ่งเชินมองเขาด้วยสายตาราบเรียบ แววตาล้ำลึกเป็นประกายมาดร้าย
“จางลัยยี่กับผู้จัดรายการแข่งขันครั้งนี้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เมื่อวานดูเหมือนมีการติดต่อกันอย่างลับๆ”
ทันทีที่จี้หยู๋ชิงได้ยินดังนั้นก็อ้าปากเล็กน้อย
หรือว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนกติกาการแข่งขันอย่างกะทันหันวันนี้?
ขณะกำลังครุ่นคิด เวลาก็ครบสามชั่วโมงตามที่กำหนดไว้แล้ว ทั้งสองคนบนเวทีจึงหยุดการเคลื่อนไหวในมือพร้อมๆ กัน
พิธีกรพูดพอเป็นพิธีอยู่ไม่กี่ประโยค เหล่ากรรมการก็เดินขึ้นเวทีไปแล้วเริ่มตรวจสอบ
แม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้ข่าวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงกติกาการเลยแม้แต่น้อย และไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้ยังคงถ่ายทอดสด ต่อให้ไม่พอใจ ก็ไม่ได้แสดงท่าทีออกมา ต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่
เวินเที๋ยนเที๋ยนยกมือขึ้นเช็ดเม็ดเหงื่อที่ซึมตามหน้าผากของเธอ
การแข่งขันครั้งนี้ยากกว่าที่เธอคิดไว้เล็กน้อย เป็นอย่างที่คิดไว้ คนที่สามารถมาร่วมการแข่งขันครั้งนี้ล้วนไม่ใช่นักบูรพาวัตถุโบราณทั่วไป
ถ้าหากไม่ทุ่มเทพลังทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็เป็นไปได้อย่างมากว่าจะพ่ายแพ้
เธอเงยหน้าขึ้น เห็นจี้จิ่งเชินและจี้หยู๋ชิงทั้งสองคนที่นั่งอยู่ด้านล่างเวทีส่งยิ้มบางมาให้เธอ
แต่เพราะระยะห่างค่อนข้างไกล เธอจึงมองไม่ออกว่าทั้งสองคนในตอนนี้ล้วนมีแววตาเป็นกังวล
หลังจากเหล่ากรรมการพิจารณาแล้วก็ได้ผลการตัดสินอย่างรวดเร็วว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นผู้ชนะ
เวินเที๋ยนเที๋ยนถอนหายใจออกมา เตรียมเดินลงเวทีไป
ในตอนนั้นเองพิธีกรก็พานักบูรพาวัตถุโบราณคนที่สองที่กลับเข้าสู่การแข่งขันขึ้นมาบนเวที แล้วเริ่มจับฉลาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่พึ่งเสร็จจากการแข่งขันไป แม้จะพูดว่าไม่เหนื่อย แต่ก็เพลียเล็กน้อย
เพื่อการแข่งขันอย่างเป็นทางการอีกสักครู่แล้ว จึงต้องพักผ่อนให้ดี
รบกวนจี้จิ่งเชินช่วยนวดให้เธอก็ได้แล้ว
เธอคิดพลางยกเท้าเดินลงบันไดขั้นแรก กลับได้ยินเสียงพิธีกรด้านหลังพูดต่อว่า “ยอดเยี่ยม ได้ผู้เข้าแข่งการแข่งขันรอบที่สองแล้ว ซึ่งก็คือเวินเที๋ยนเที๋ยน!”
ทันทีที่เขาเอ่ยขึ้น ไม่เพียงแค่เวินเที๋ยนเที๋ยนเท่านั้น แม้กระทั่งทุกคนที่นี่ล้วนชะงักไป!
ทำไมเป็นเวินเที๋ยนเที๋ยนอีกแล้ว?
ไม่ใช่ว่าเธอพึ่งจะเสร็จจากการแข่งขันไปเหรอ?
เวินเที๋ยนเที๋ยนชะงักฝีเท้าทันที หยุดยืนอยู่ที่เดิม ขมวดคิ้วแน่น
ทุกคนต่างพากันเริ่มกระซิบกันขึ้นมา
เดิมคิดว่าเหตุผลที่เพิ่มการแข่งขันนี้ขึ้นมา เพียงแค่เพื่อให้ผู้ชมได้รับความสนุกสนานเพียงเท่านั้น แม้ว่าจะบอกว่าเป็นการจับฉลาก แต่สุดท้ายควรเป็นผู้เข้าแข่งขันทั้งสามคนขึ้นเวทีไปแข่งขันคนละหนึ่งครั้ง
แบบนี้ถึงจะยุติธรรม
แต่คิดไม่ถึงว่าไม่ใช่แบบนั้นเลย!
พิธีกรชะงักไปครู่หนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจะจับได้เวินเที๋ยนเที๋ยนทั้งสองครั้ง จึงหัวเราะแห้งๆ ออกมา
“ตอนนี้เรียนเชิญคุณเวินเที๋ยนเที๋ยน กลับขึ้นเวทีอีกครั้ง ดูเหมือนทุกคนจะชอบคุณจริงๆ”
กล้องทุกตัวจึงจับภาพไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนจำต้องหมุนตัวกลับไปที่ตำแหน่งของตัวเองอีกครั้ง
ทะลุผ่านเวทีทั้งหมดไป สายตาเธอมองไปที่จางลัยยี่ที่อยู่ด้านล่างเวที แม้ว่าจะไกลแต่กลับสามารถมองเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาได้อย่างรางเลือน
นี่คือเป้าหมายของเขาอย่างนั้นเหรอ?
จัดการแข่งขันนี้ขึ้นกะทันหัน เพื่อจะทำให้เธอหมดแรง?
เป็นวิธีที่ทั้งง่ายและไร้ศีลธรรมดีจริงๆ
แม้ว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชม หรือว่ากรรมการล้วนตกใจเพราะเรื่องนี้ แต่การแข่งขันก็ต้องดำเนินต่อไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองผลงานในมือ แล้วก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว จดจ่อกับมันอีกครั้ง
การแข่งขันกลับเข้าสู่สนามครั้งนี้ ไม่เพียงแค่ต้องการให้ตัวเองหมดแรง ถ้าหากระหว่างการแข่งขันเธอเกิดผิดพลาดขึ้นแม้นิดเดียว คงต้องถูกคัดชื่อออกจากการแข่งขันอย่างแน่นอน
พวกเขาทำทุกวิถีทางจริงๆ เพื่อที่จะทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนพ่ายแพ้
เมื่อจี้จิ่งเชินได้ยินรายชื่อการแข่งขันครั้งที่สอง คิ้วก็ยิ่งขมวดแน่นขึ้นไปอีก
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!
จี้หยู๋ชิงที่อยู่ข้างๆ ตกใจจนจับแขนเสื้อของเขาไว้แน่น
“คุณพ่อ ทำอย่างไรดี?”
จี้จิ่งเชินมองเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเก็บสายตากลับมา
ในแววตาดำสนิทล้ำลึกนั้น คลื่นใต้น้ำกำลังซัดกระหน่ำ
เขาสีหน้าเข้มขึ้น อุ้มจี้หยู๋ชิงขึ้นมา
“พวกเราไปดูกันเถอะ”