เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่1071 คุณครู 11คน
“เมื่อกี้ลูกบอกว่าคืนนี้จะมานอนกับเรา เจ้าเด็กนี่จะต้องตั้งใจแน่ๆ”
สีหน้าของจี้จิ่งเชินดูแย่มาก
กว่าจะรอให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเสร็จสิ้นการแข่งขันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว ก็จะต้องเร่งรีบในการเริ่มทำงานอีก มีเวลาให้กับจี้จิ่งเชินเพียงแค่ไม่กี่วัน
เขาเองก็ยังรู้สึกว่าไม่พอเลยเสียด้วยซ้ำ เจ้าเด็กเมื่อวานซืนคนนั้นยังกล้าเข้ามาแทรก แย่งเธอไปจากเขาอีก
จะตีก็ตีไม่ได้ จะแตะต้องก็ไม่ได้ และยังจะต้องคอยโอ๋อีก เป็นความทุกข์ที่พูดออกมาได้ยากจริงๆ
คิดมาถึงตรงนี้แล้ว จี้จิ่งเชินก็เอ่ยพูดขึ้น : “ช่วงนี้พวกหนังสือที่ผมเตรียมไว้พวกนั้นลูกอ่านไปหมดแล้ว ดูแล้วจะต้องถึงเวลาที่ต้องให้เขาไปโรงเรียนแล้วสิ”
“ไม่เอา!”
จี้จิ่งเชินเพิ่งจะพูดจบนั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา
จากนั้น ขาสั้นๆของจี้หยู๋ชิงก็รีบวิ่งเข้ามา แล้วกอดที่ต้นขาของเวินเที๋ยนเที๋ยน
“ไม่ไปโรงเรียนนะครับ!”
จี้จิ่งเชินเห็นสถานการณ์แล้ว ก็เลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย เห็นแล้วว่าเด็กนี่แอบฟังที่พวกเขาคุยกันอยู่ข้างๆเมื่อครู่นี้
เขายกมือขึ้น แล้วจับท้ายทอยของจี้หยู๋ชิงเพื่อดึงตัวเขามา
“เราไม่มีสิทธิค้านนะ ก่อนหน้านี้หนังสือที่พ่อซื้อให้พวกนั้น ลูกอ่านจบหมดแล้วไม่ใช่หรือ? พอดีจะได้อาศัยโอกาสนี้เรียนรู้ให้มากกว่านี้ ลูกชอบไม่ใช่หรือ?”
จี้หยู๋ชิงส่ายหน้า
เขาไม่หลงกลหรอก ถ้าหากตัวเองไปโรงเรียน พ่อก็จะต้องยึดเอาเวลาแม่ไปหมดแน่ๆ อีกทั้งเขาแทบจะทนไม่ได้กับการที่ต้องอยู่ที่โรงเรียนตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงแบบนั้น
ไม่ไปหรอก!
และยิ่งไปกว่านั้นอยู่ที่บ้านก็สามารถเรียนรู้ได้มากมายเหมือนกัน
เขายังคิดวางแผนเอาไว้ว่าจะไปทำงานที่พิพิธภัณฑ์กับแม่อีกด้วย!
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นสถานการณ์นี้แล้ว ก็รู้สึกลังเลอยู่บ้างเช่นกัน เพราะถึงอย่างไรแล้วจี้หยู๋ชิงก็อายุเพียงแค่ขวบกว่าๆเท่านั้น ยังอายุน้อยอยู่มาก
ถึงแม้เขาจะฉลาดมากจริงๆ แต่มีที่ไหนกันที่จะเริ่มเรียนรู้ตอนที่ยังเด็กอยู่แบบนี้?
จี้จิ่งเชินเอ่ยพูดออกมาอย่างมั่นใจ : “ตอนอายุเท่าลูกผมก็เริ่มเรียนแล้วนะ”
จี้หยู๋ชิงไม่ได้รับการดึงดูดนี้เลยแม้แต่นิดเดียว พลางเอ่ยขึ้นอย่างมุ่งมั่น : “ไม่อยากไป หนูอยู่ที่บ้านก็สามารถเรียนรู้ได้ดีเหมือนกัน”
จี้จิ่งเชินมองเขา ด้วยสีหน้าที่ดูอึมครึม
แล้วซักพักหนึ่งถึงได้เอ่ยพูดขึ้น : “ได้สิ ในเมื่อลูกอยากจะเรียนที่บ้านล่ะก็ เดี๋ยวพ่อจะหาคุณครูซักสองสามคนมาสอนลูกก็แล้วกัน”
ได้ยินเขายินยอมแล้วนั้น จี้หยู๋ชิงก็รู้สึกสงสัยขึ้นมา
เขายอมให้ตัวเองอยู่ที่บ้านจริงๆหรือ?
จี้จิ่งเชินยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ด้วยอารมณ์ที่ดูขัดแย้งกันมาก
“แน่นอนว่าถึงตอนนั้นแล้วลูกก็จะรู้เอง”
เห็นส่วนโค้งที่มุมปากของเขาแล้ว จี้หยู๋ชิงก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ราวกับว่ามีแผนร้ายอะไรที่กำลังรอเขาอยู่อย่างไรอย่างนั้น
วันรุ่งขึ้น หลวนจื่อและโดว์โดว์เตรียมตัวจะออกเดินทาง เวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินพาจี้หยู๋ชิงมาส่งด้วยเช่นกัน
หลวนจื่อสวมเสื้อโค้ทสีครีม ดูแล้วช่างดูมีประสบการณ์และมีความสามารถยิ่งนัก ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาไม่น้อย และส่วนโดว์โดว์ที่อยู่ในอ้อมกอดของเธอนั้นก็น้ำตาคลอ จับเสื้อของจี้หยู๋ชิงเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“ชิงชิง ชิงชิง ต้องรอเรากลับมานะ”
เธอเอ่ยพูดเบาๆ และไม่คิดว่าจี้หยู่ชิงจะไม่สะบัดเธอออก แต่กลับพยักหน้าลง
คิดไม่ถึงว่าโดว์โดว์จะร้องไห้ออกมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนโอ๋เธอไปพลางเอ่ยขึ้น : “ในเมื่อโดว์โดว์ตัดใจทิ้งหยู๋ชิงไม่ได้ ก็อยู่ที่นี่สิคะ อยู่ด้วยกันกับจี้หยู๋ชิงนี่แหล่ะ”
“จริงหรือคะ?”
ดวงตาโดว์โดว์เป็นประกายขึ้นมาทันที และจะหันหน้ามานั้น ก็นึกถึงหลวนจื่อที่อยู่ทางด้านหลัง จึงส่ายหน้า แล้วกอดคอหลวนจื่อเอาไว้
“ไม่ได้ค่ะ โดว์โดว์จะต้องอยู่กับคุณแม่ โดว์โดว์จะต้องดูแลคุณแม่ด้วย”
หลวนจื่อจึงยิ้มออกมาอย่างพอใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปรอบๆ ก็ยังคงไม่เห็นหมินอันเกอปรากฎตัวขึ้นมาเช่นเดิม
ดูแล้วหลวนจื่อจะปิดบังเขามาโดยตลอดจริงๆ
“สายแล้ว พวกเราต้องไปแล้ว” ราวกับว่ามองเห็นความคิดในใจของเธอ หลวนจื่อจึงเอ่ยพูดขึ้น
เธอหันไปพยักหน้าให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินเล็กน้อย โดยไม่มีการอาลัยอาวรณ์ใดๆ แล้วหันหลังพาโดว์โดว์ไปทางช่องเช็คอิน
เธอไปอย่างตัดขาดไร้เยื่อใย เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับรู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้าง
ไม่รู้ว่าหลังจากที่หมินอันเกอพบว่าหลวนจื่อจากไปแล้ว จะมีปฏิกิริยาเป็นอย่างไร
จี้จิ่งเชินยื่นมือมาจับเธอไว้
“ไม่ต้องกังวลหรอกครับ นี่เป็นเรื่องของพวกเขา ต้องให้พวกเขาเป็นคนจัดการกันเอง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
จี้จิ่งเชินถึงได้เอ่ยพูดขึ้น : “คุณครูที่เชิญมาถึงแล้วนะครับ กลับไปดูหน่อยไหม?”
เมื่อวานนี้จี้จิ่งเชินบอกว่าจะเชิญคุณครูมา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะรวดเร็วขนาดนี้
“คุณครูเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงคะ?”
จี้จิ่งเชินเอ่ยพูดขึ้นเพียงแค่ : “เดี๋ยวกลับบ้านไป คุณก็รู้ครับ”
ภายในคฤหาสน์
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นคุณครูสิบกว่าคนที่อยู่ตรงหน้า จึงเบิกตาขึ้น เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
คุณครูที่อยู่ตรงหน้าเหล่านี้บางคนก็เป็นอาจารย์ที่อายุหกสิบต้นๆ บางคนก็อายุยี่สิบกว่าๆ ทั้งหมดยืนอยู่ในห้องรับแขก คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีถึง11คน!
“นี่เป็นคุณครูที่เชิญมาทั้งหมดเลยหรือคะ?” เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ
จี้จิ่งเชินพยักหน้าลง
“แต่ละคนมีความถนัดในวิชาที่ไม่เหมือนกัน ผมก็เลยเชิญมาทั้งหมดเลย”
“แต่11คนนี่มันเยอะเกินไปหรือเปล่า?” เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกลังเล
“ไม่หรอกครับ” จี้จิ่งเชินเอ่ยพูดอย่างเด็ดเดี่ยว : “ผมจะให้พวกเขาจัดเวลาให้มีความสมเหตุสมผล และยิ่งกว่านั้น ความสามารถอย่างจี้หยู๋ชิง ถ้าหากจัดให้น้อยเกินไป ลูกจะกลับรู้สึกว่ามันง่ายเกินไปด้วยซ้ำ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเขาโน้มน้าวเข้าแล้ว
“ต่อให้เป็นแบบนี้ ก็จะให้จี้หยู๋ชิงเหนื่อยเกินไปก็ไม่ได้นะคะ จะต้องระวังเรื่องเวลาพักผ่อนให้สมดุลกันด้วย ทำตามในสิ่งที่ลูกชอบ”
“แน่นอนอยู่แล้วครับ ผมคุยกับเขามาก่อนหน้านี้แล้ว” จี้จิ่งเชินกล่าว
จี้หยู๋ชิงมองคนจำนวนมากขนาดนี้ที่อยู่ตรงหน้าอย่างพูดไม่ออก
ก่อนหน้านี้ตอนที่จี้จิ่งเชินบอกว่าจะเชิญคุณครูมานั้น เคยถามเขาว่าชอบทางด้านไหนมากที่สุดอยู่จริงๆ
เขาจำได้ว่าตอนนั้น ตัวเองเลือกหนังสือออกมาสองสามเล่ม
เนื่องจากสิ่งที่เขาชอบนั้นมีขอบเขตที่ค่อนข้างกว้างมาก ดังนั้นจึงหาออกมาจำนวนไม่น้อย เดิมทีคิดว่าทางนั้นจะช่วยเลือกคุณครูมาให้เขาซักสองสามคน ถึงตอนนั้นหลังจากที่เสร็จวิชานั้นแล้วก็จะสามารถไปเกาะติดอยู่ข้างๆเวินเที๋ยนเที๋ยนได้
แต่คิดไม่ถึงเลย ว่าจะเชิญคุณครูมาเป็นสิบคนมาทีเดียวแบบนี้!
ถึงแม่คุณครูแต่ละคนจะสอนเพียงแค่ชั่วโมงเดียว หนึ่งวันก็11ชั่วโมง จะมีเวลาไปอยู่กับเวินเที๋ยนเที๋ยนได้เสียที่ไหนกัน?
จี้หยู๋ชิงมองไปทางจี้จิ่งเชินอย่างไม่พอใจ ดวงตานั้นเต็มไปด้วยอาการที่กำลังฟ้องร้องออกมา
แท้ที่จริงแล้วเขาคิดหาวิธีนี้เอาไว้แล้วนี่เอง!
ถึงแม้ว่าเขาจะต้องเรียนอยู่ที่บ้าน แต่ก็จะยุ่งเสียจนไม่มีเวลาไปสนใจเวินเที๋ยนเที๋ยนนั่นเอง
คนไม่ดี!
สายตาที่ไม่พอใจของจี้หยู๋ชิง ทำให้จี้จิ่งเชินหันกลับมามองเขาแวบหนึ่ง ใช้วิธีการยั่วยุเพื่อให้เกิดความฮึกเหิมย้อนถามกลับไป : “ทำไม? รู้สึกว่าตัวเองจะทำไม่ได้ใช่ไหม? วางใจได้เลย พ่อจะให้พวกเขาแบ่งเป็นสองกลุ่ม ทุกวันวันละห้าชั่วโมง”
จี้หยู๋ชิงถูกระตุ้นเข้าหน่อย จึงรีบเอ่ยขึ้น : “ผมทำได้!”
เดิมทีเวินเที๋ยนเที๋ยนยังรู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้าง เห็นว่าทั้งสองคนมีความเห็นตรงกันแล้ว จึงทำได้เพียงพยักหน้าลง
ลองดูก่อนได้ ถ้าหากจี้หยู๋ชิงไม่สามารถปรับตัวได้ ค่อยปรับเปลี่ยนใหม่อีกครั้ง
จี้หยู๋ชิงรู้สึกอัดอั้นตันใจ แต่หลังจากที่เรียนเสร็จวันแรกนั้น เขาก็รู้สึกมาเสียใจภายหลังที่พบว่าตัวเองติดกับแผนของพ่อเข้าเสียแล้ว!
แต่เด็กตัวเล็กกลับอยากจะรักษาหน้าตัวเอง ในเมื่อตัวเองพูดไปก่อนหน้านี้แล้วก็จะต้องทำให้ได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยุ่งกับการเตรียมของจำเป็นสำหรับพิพิธภัณฑ์
ส่วนอีกทางด้านหนึ่ง เสร็จสิ้นงานถ่ายทำของตัวเองแล้ว ในที่สุดหมินอันเกอก็กลับบ้านแล้วเข้ามาหาในห้องรอบหนึ่ง แต่กลับไม่พบเงาของหลวนจื่อและโดว์โดว์เลย
ตอนแรก เขายังคิดว่าหลวนจื่อพาโดว์โดว์ออกไปข้างนอก และกำลังจะโทรหา
จากนั้นกลับเห็นจดหมายฉบับหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะ
เขาเดินเข้าไปด้วยความสงสัย แล้วหยิบจดหมายฉบับนั้นขึ้นมา ด้านบนเขียนชื่อตัวเองเอาไว้
–ถึงหมินอันเกอ