เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่1076 ขิงก็ราข่าก็แรง โจรเจอนักเลง
เวินเที๋ยนเที๋ยนมายังออฟฟิศ แล้วมองพิจารณาบริเวณรอบๆ บนโต๊ะยังมีหนังสือวางอยู่บ้าง ดูแล้วคงจะเป็นของที่ภัณฑารักษ์คนก่อนทิ้งเอาไว้
นึกถึงคำพูดเมื่อครู่นี้ของหวางเจี้ยนยิน เธอก็รู้สึกจริงจังขึ้นมาทันที
ในเมื่อก่อนหน้านี้ที่เธอตัดสินใจรับงานนี้ ก็มีการวางแผนเอาไว้แล้ว ว่าจะต้องดูแลพิพิธภัณฑ์นี้ให้ดี
เธอรีบหยิบเอาบันทึกของภัณฑารักษ์คนก่อนขึ้นมาอ่าน
เนื้อหาที่รวมอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาตินั้นเกินกว่าที่เวินเที๋ยนเที๋ยนคาดการณ์เอาไว้มาก ทุกๆวันจะต้องรับแขกนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และในขณะเดียวกันต้องติดต่อกันกับพิพิธภัณฑ์อื่น การบำรุงรักษาวัตถุโบราณและวิธีการจัดนิทรรศการ แต่ละจุดที่จะต้องระมัดระวัง
เวินเที๋ยนเที๋ยนเพลิดเพลินโดยไม่รู้ตัว แม้แต่ท้องฟ้าค่อยๆเปลี่ยนสีไปแล้วก็ยังไม่รู้สึกเลยเสียด้วยซ้ำ
หกโมง
อา!
บูกัตติ เวย์รอนคันสีดำจอดตรงประตูหน้าพิพิธภัณฑ์ ดึงดูดสายตาของคนจำนวนไม่น้อยขึ้นมาในทันที
เวลานี้เป็นเวลาที่พิพิธภัณฑ์ปิดแล้ว นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่เดินออกมาทางด้านนอก ต่างก็พากันหยุดเดินแล้วมองมา แล้วคาดเดาว่าเจ้าของรถคันนี้จะเป็นใคร
ประตูรถเปิดออก ขาเรียวยาวก้าวออกมา ชุดสูทแฮนด์เมดสีดำ เนคไทสีแดงมืด
จี้จิ่งเชินมองตรงไปยังด้านหน้า ไม่แม้แต่จะมองผู้คนรอบๆเลยเสียด้วยซ้ำ แล้วเดินเข้าไปยังด้านในทันที
รอให้เขาเดินไปแล้วนั้น คนกลุ่มหนึ่งมารู้ตัวอีกทีนั้นถึงได้ส่งเสียงอุทานออกมาอย่างประหลาดใจ
“ดูเหมือนจะเป็นจี้จิ่งเชินใช่ไหม?”
“ใช่ ก่อนหน้านี้ฉันเคยเห็นเขากับเวินเที๋ยนเที๋ยนปรากฎตัวขึ้นด้วยกัน เขามาได้ยังไงน่ะ?”
“เธอไม่รู้หรือ? ก่อนหน้านี้เวินเที๋ยนเที๋ยนได้เป็นภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติแล้ว เขาคงจะมารับเวินเที๋ยนเที๋ยนเลิกงานหรือเปล่า?”
สองสามคนนั้นพยักหน้าลง เพิ่งจะออกปากไปนั้น แล้วโรลส์-รอยซ์คนหนึ่งก็มาด้วยความเร็วพอๆกัน และจอดลงอยู่ตรงหน้าประตูพิพิธภัณฑ์ด้วยเช่นกัน
จอดอยู่ตรงข้ามกับบูกัตติ เวย์รอนคันนั้นพอดี
ประตูรถเปิดออก เด็กน้อยน่าหน้าตาหน้ารัก ใบหน้าคล้ายคลึงกับจี้จิ่งเชิน และกลับดูจริงจังเป็นอย่างมากนั้นกระโดดลงมาจากเบาะ
เมื่อเขามองเห็นรถที่จอดอยู่ทางอีกฝั่งหนึ่งแล้ว จึงเอ่ยพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ : “ไม่คิดว่าพ่อจะแย่งมาถึงก่อนแล้ว!”
ว่าแล้ว ก็รีบเดินเข้าไปยังด้านใน
ในใจของจี้หยู๋ชิงหงุดหงิด ขาสั้นๆนั้นเดินไปอย่างรวดเร็ว
วันนี้เพื่อเป็นคนแรกที่จะรับแม่กลับ เขายังเพิ่มความเร็วในการเรียน และเสร็จสิ้นก่อนเวลาแล้วก็รีบมาเลยทันที
แต่คิดไม่ถึงเลย ว่าจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง
เขาเดินไปพลาง แล้วบ่นกับพ่อบ้านที่อยู่ทางด้านหลังไปด้วย
“คุณปู่พ่อบ้าน คุณปู่บอกว่าวันนี้คุณพ่อมีงานสำคัญ จะกลับมาช้าไม่ใช่หรือครับ?”
พ่อบ้านพยักหน้า ก่อนหน้านี้เขาได้รับข่าวมาเป็นแบบนี้ไม่ผิดแน่
“อาจจะเป็นเพราะคุณผู้ชายเสร็จงานก่อนเวลาก็ได้นะครับ?”
เมื่อจี้หยู๋ชิงได้ยินแล้ว ก็ทำแก้มป่องขึ้นมาทันที
เวลานี้คนที่พิพิธภัณฑ์ไม่มากแล้ว เขามายังพื้นที่ออฟฟิศเลยโดยตรง แล้วเงยหน้าขึ้นมามองป้ายด้านบนประตู
“อันไหนเป็นห้องของภัณฑารักษ์ครับ?”
เขาหารอบหนึ่งแล้วแต่กลับไม่เห็นเลย
“แบบนี้ พ่อจะต้องเอาตัวไปแล้วแน่ๆเลย! คุณปู่พ่อบ้าน พวกเราแยกกันหาเถอะครับ!”
พ่อบ้านเอ่ยขึ้นมาอย่างลำบากใจ : “ไม่ได้ครับ ให้ผมอยู่กับคุณหนูดีกว่า……”
“พวกคุณเป็นใคร?” และเวลานี้เอง เสียงหนึ่งกลับดังขึ้นมาจากที่ไม่ไกลนัก : “ที่นี่เป็นพื้นที่สำนักงาน คนนอกไม่สามารถเข้ามาได้นะ!”
จี้หยู๋ชิงหันหน้าไปเห็นคนอายุเยอะคนหนึ่งไว้หนวดเคราสีขาวยืนอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ไกล ใบหน้าเต็มไปด้วยความจริงจัง คงจะเป็นพนักงานของพิพิธภัณฑ์
เขาดีใจ แล้วรีบเดินเข้าไปหา
“คุณปู่ครับ คุณปู่รู้ว่าออฟฟิศของภัณฑารักษ์อยู่ที่ไหนไหมครับ?”
หวางเจี้ยนยินขมวดคิ้วขึ้น มองเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าอาการที่มีความจริงจัง
“เธอจะหาภัณฑารักษ์ทำไม?”
จี้หยู๋ชิงยิ้มออกมาเล็กน้อย มุมปากปรากฏลักยิ้มน่ารักทั้งสองข้าง
“คุณปู่ ภัณฑารักษ์คือแม่ของผมเองครับ! ผมมารับแม่!”
หวางเจี้ยนยินได้ยินแล้ว ก็เบิกตาขึ้นมาทันที
แล้วมองพิจารณาจี้หยู๋ชิงอย่างละเอียด รู้สึกคุ้นตามากจริงๆ คงจะเป็นตอนที่เห็นการถ่ายทอดสดของการแข่งขันของเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้า
จี้หยู๋ชิงกระโดดจับมือของเขาเอาไว้ แล้วเดินไปทางด้านหน้า
“คุณปู่พาผมไปหาคุณแม่หน่อยนะครับ”
ถ้าหากไม่เร็วกว่านี้ล่ะก็ แม้แต่หน้าแม่ก็อาจจะไม่ได้เห็นเลยเสียด้วยซ้ำ ก็จะถูกแย่งตัวไปแล้ว
หวางเจี้ยนยินถูกดึงให้เดินไปทางด้านหน้า ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี
“ช้าๆหน่อย อย่ารีบร้อนสิ ฉันว่าเธอน่าจะไม่ได้อยู่ในออฟฟิศแล้วนะ”
“แต่ว่าคุณพ่อไปก่อนแล้ว เขาจะต้อง……”
จี้หยู๋ชิงหันมา พูดได้เพียงแค่ครึ่งเดียว จู่ๆก็เห็นหนังสือในมือของหวางเจี้ยนยิน จึงยื่นหน้าเข้ามา ยิ้มพลางเอ่ยขึ้น : “นี่คือ สารานุกรมคุณค่าวัตถุโบราณของประเทศจีนใช่ไหมครับ?”
หนังสือของหวางเจี้ยนยินถูกเขากอดเอาไว้ ปรากฏออกมาเพียงแค่มุมหนึ่งเท่านั้น ไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะจำได้
จึงเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ : “เธอรู้ได้ยังไง?”
จี้หยู๋ชิงเอ่ยขึ้นอย่างพอใจ : “คุณแม่อ่านเล่มนี้บ่อยๆครับ ข้างในมีบันทึกเอาไว้เยอะเลย”
หวางเจี้ยนยินเบิกตาขึ้น
“แม่ของเธออ่านหนังสือแบบนี้ด้วยหรือ?”
“ใช่ครับ อ่านจบแล้วด้วย”
จี้หยู๋ชิงเอ่ยขึ้น แล้วดึงหวางเจี้ยนยินให้เดินเข้าไปด้านใน
ในใจของหวางเจี้ยนยินนั้นเต็มไปด้วยความตกตะลึง
หนังสือเล่มนี้เขียนเอาไว้อย่างลึกซึ้งมาก สามารถพูดได้ว่าเป็นหนังสือที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะเป็นนักบูรพาวัตถุโบราณ แต่ก็มุ่งเน้นไปที่วัตถุโบราณ สำหรับเงื่อนไขการมองคุณค่าของวัตถุโบราณนั้นไม่ได้สูง ไม่คิดว่าเธอจะอ่านจบแล้วอย่างนั้นหรือ?
หนังสือชุดนี้มีเกินกว่าสิบเล่ม อีกทั้งแต่ละเล่มความหนาก็เป็นที่น่าตกใจมากเช่นกัน!
ภายใต้เงื่อนไขที่อ่านได้หมด ไม่คิดว่าในนั้นจะยังมีบันทึกเอาไว้อีกมากด้วย?
อายุอย่างเวินเที๋ยนเที๋ยน เธอสามารถทำได้จริงๆอย่างนั้นหรือ?
หวางเจี้ยนยินคิดไปพลาง และพาจี้หยู๋ชิงมายังหน้าประตูออฟฟิศของภัณฑารักษ์ด้วย
ดวงตาของจี้หยู๋ชิงเป็นประกาย แล้วรีบเดินเข้าไป
และเวลานี้เอง ประตูออฟฟิศกลับถูกเปิดออก
จี้จิ่งเชินเดินออกมา
จี้หยู๋ชิงที่กำลังดีใจอยู่นั้น เมื่อเห็นคนตรงหน้า ก็อึ้งไปทันที
“ลูกช้าไปสิบนาทีนะ”จี้จิ่งเชินเอ่ยขึ้นด้วยแววตาที่แสดงความพอใจออกมา
จี้หยู๋ชิงทำหน้ามุ่ยด้วยความไม่พอใจ ถ้าหากไม่ใช่เพราะเขาหลงทาง จะต้องมาถึงเร็วกว่านี่แน่!
“ใครช้าคะ?”เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินเสียงแล้วจึงยื่นหน้าออกมา
เห็นจี้หยู๋ชิงที่อยู่ด้านนอกแล้วจึงเบิกตาขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“หยู๋ชิง หนูมาได้ยังไงครับ?”
จี้หยู๋ชิงเดินเข้ามา แล้วเบียดจี้จิ่งเชินที่อยู่ตรงหน้าออก เพื่อมาอยู่ข้างๆเวินเที๋ยนเที๋ยน
“คุณแม่ครับ ผมมาพาคุณแม่กลับบ้าน”
“ได้สิครับ……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเพิ่งจะเอ่ยออกไปนั้น จู่ๆจี้จิ่งเชินกลับเดินเข้ามา แล้วแทรกเข้าตรงกลาง เพื่อแยกจี้หยู่ชิงกับเวินเที๋ยนเที๋ยนออกจากกัน
เขาก้มหน้าลง แล้วมองลงมา : “ขอโทษนะครับ ผมมาก่อน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างงงๆ : “เราอยู่บ้านเดียวกันไม่ใช่หรือคะ?”
จี้จิ่งเชินยกมือขึ้น แล้วโอบเอวเธอไว้อย่างเบามือ พลางเอ่ยขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ : “ผมจองร้านอาหารเอาไว้แล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นก็พาหยู๋ชิงไปด้วยกันสิคะ”
จี้จิ่งเชินยิ้ม แววตาปรากฏความชั่วร้ายออกมา แล้วตั้งใจเอ่ยขึ้น : “ร้านอาหารร้านนั้นไม่สามารถพาเด็กอายุต่ำกว่าสิบขวบไปได้ครับ”
จี้หยู๋ชิงได้ยินแล้ว ก็เบิกตาขึ้นอย่างไม่พอใจ
ตั้งใจ!
ตั้งใจแน่ๆ!
คนไม่ดี ไม่คิดว่าจะจองร้านอาหารเอาไว้ก่อนล่วงหน้า ขวางเขาเอาไว้ให้อยู่ข้างนอกแบบนี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเห็นทั้งสองคนด้วยท่าทางตาต่อตาฟันต่อฟันแล้วจึงยิ้มออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ : “ถ้าเป็นแบบนี้ ไม่อย่างนั้นก็กลับคฤหาสน์กันดีกว่าค่ะ”