เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่1077 ปัญหาของพิพิธภัณฑ์
“ถ้าเป็นแบบนี้ ไม่อย่างนั้นก็กลับคฤหาสน์กันดีกว่าค่ะ”
จี้จิ่งเชินได้ยินแล้ว จึงขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย มองไปยังจี้หยู๋ชิงด้วยความไม่พอใจ
แก้มของจี้หยู๋ชิงป่องเหมือนปลาปักเป้า แล้วรอจี้จิ่งเชินโดยไม่ถอยไปเลยแม้แต่นิดเดียว
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูทั้งสองคนแล้วก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร
ถ้าหากไม่ระวัง อาจจะตีกันขึ้นมาก็ได้
ผ่านไปซักพักหนึ่ง จู่ๆท่าทีของจี้จิ่งเชินก็ดูอ่อนลง
“ถ้าอย่างนั้นก็กลับกันเถอะครับ”
เขายื่นมือออกมาโอบเอวของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วเดินไปยังด้านหน้า
“เดี๋ยวก่อนครับ ผม…….”
จี้หยู๋ชิงที่ถูกทิ้งเอาไว้กำลังจะคัดค้าน แล้วจู่ๆจี้จิ่งเชินที่เดินอยู่ทางด้านหน้านั้นก็หันกลับมา แล้วหิ้วตัวเขาขึ้นมาอุ้มเอาไว้
จี้หยู๋ชิงอึ้งไปพักหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นฝ่ายอุ้มตัวเองขึ้นมาเองแบบนี้
“คิดว่าพ่อจะทิ้งเราไว้ใช่ไหม?”เห็นอาการบนใบหน้าของเขาแล้ว จี้จิ่งเชินจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ
จี้หยู๋ชิงรู้สึกลำบากขึ้นมาบ้างในทันที แล้วหันไปมองอีกทางด้านหนึ่งอย่างไม่พอใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นทั้งสองคนเถียงกันแล้ว ในใจก็อดที่จะแอบยิ้มออกมาไม่ได้
ถึงแม้ว่าปกติแล้วพวกเขามักจะเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน แต่ความจริงแล้วก็แคร์อีกฝ่ายหนึ่งเป็นอย่างมาก
และยิ่งไปกว่านั้น สามารถเห็นได้ว่าอารมณ์ที่แสดงออกมาบนใบหน้าของจี้หยู๋ชิงนั้นนับวันก็ยิ่งมากขึ้น ไม่เหมือนกับที่คุณหมอคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้ ว่าจะเปลี่ยนไปอย่างไม่มีความรู้สึก ทำให้รู้สึกโล่งใจยิ่งนัก
“เอาล่ะค่ะ พวกเรากลับไปด้วยกันนี่แหล่ะ”
จี้จิ่งเชินพยักหน้าลงเล็กน้อย
“พรุ่งนี้ผมค่อยพาคุณไปที่ร้านอาหารแล้วกันนะครับ”
จี้หยู๋ชิงได้ยินแล้ว จึงรีบเอ่ยพูดขึ้น : “ผมเองก็ด้วยครับ!”
สองสามคนที่ยืนกันอยู่ในออฟฟิศมองเบื้องหลังที่เดินออกไปของพวกเขาแล้วก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
“คิดไม่ถึงเลยว่าโลกข้างนอกที่กล่าวขานร่ำลือกันว่าประธานจี้เย็นชาจริงจัง จะมีด้านที่เป็นเด็กแบบนี้ด้วย”
“เด็กน้อยเองก็น่ารักมากเหมือนกันนะ”
สองสามคนพูดคุยกันอย่างมีชีวิตชีวา และเวลานี้สวุไห่เฉินก็เดินเข้ามา
ได้ยินคำพูดของพวกเขาแล้ว จึงเอ่ยถามขึ้น : “เวินเที๋ยนเที๋ยนไปแล้วหรือ?”
“ใช่ค่ะ” เฉินหยุนกล่าว : “คนที่บ้านของเธอมารับเธอกลับไปด้วยกัน ช่างดูมีความสุขมากเลย”
สวุไห่เฉินได้ยินแล้วก็พยักหน้าลงเล็กน้อย : “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นผมกลับก่อนนะ”
ว่าแล้วก็หมุนตัวเดินออกไป
รอจนออกมาจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติแล้ว เขาถึงได้หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วกดโทรออกหาเบอร์หนึ่ง
“ในมือผมตอนนี้มีสินค้าอยู่ล็อตหนึ่ง ผ่านไปอีกสองสามวันก็จะได้รับมาแล้ว”
เสียงทางปลายสายดังขึ้น
“ตอนนี้ที่พิพิธภัณฑ์ของพวกคุณมีภัณฑารักษ์คนใหม่ไม่ใช่หรือ? ทำของอยู่ข้างนอกแบบนี้ไม่กลัวถูกจับได้รึไง?”
สวุไห่เฉินยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“คุณวางใจเถอะ เวินเที๋ยนเที๋ยนคนนั้นดูภายนอกดูเก่งแต่จริงๆแล้วไม่มีอำนาจอะไรหรอก ต่อให้ถูกจับได้จริง ก็ทำอะไรผมไม่ได้หรอก ของล็อตนี้สรุปแล้วคุณจะเอาหรือเปล่า?”
“ก็ต้องเอาสิ เพียงแค่คุณเอาออกมาได้ ผมก็รับทั้งหมดนั่นแหล่ะ!”
“ไม่มีปัญหา!”
คุยเงื่อนไขกันแล้ว สวุไห่เฉินถึงได้วางสายไป
เดิมทีคิดว่าภัณฑารักษ์คนใหม่ที่มารับตำแหน่งนี้จะเก่งมาก คิดไม่ถึงว่าจะเป็นแค่นี้
เป็นแค่เด็กที่ยังไม่โต ไม่ได้เรื่องได้ราวแบบนี้
แต่การเคลื่อนไหวของเขาช่วงนี้กลับดูมากไปอยู่บ้าง ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ถ้าหากถูกจับได้ ก็คงจบกันพอดี
เขาเดินไปพลาง ครุ่นคิดไปพลาง
คืนนี้ ดูเหมือนกับยังเป็นเฉินหยุนตรวจสอบ จะพลาดโอกาสดีๆไปไม่ได้!
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกจี้จิ่งเชินและจี้หยู๋ชิงลากกลับมายังคฤหาสน์
แม่ครัวเห็นพวกเขาปรากฏตัวขึ้นมา ในใจก็รู้สึกแปลกใจ ก่อนหน้านี้คุณผู้ชายบอกเอาไว้แล้วว่าวันนี้จะรับประทานอาหารข้างนอก แล้วทำไมกลับมาล่ะ?
จี้จิ่งเชินมองไปทางพ่อบ้านแวบหนึ่ง ถ้าหากไม่ใช่พ่อบ้านและคนขับรถให้ท้ายจี้หยู่ชิง เขาจะรีบไปถึงที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติได้อย่างไรกัน?
พ่อบ้านถูกสายตาที่มีอำนาจของเขาปรามเอาไว้ เหงื่อผุดขึ้นมาทันที
ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าไม่สามารถไปรบกวนจี้จิ่งเชินกับเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ แต่เมื่อเห็นคุณหนูตัวน้อยๆแล้ว เขาก็รู้สึกใจอ่อนขึ้นมาทันที ไม่มีวิธีอื่นเลยจริงๆ
“ผมอยากจะไปเองครับ!”สังเกตเห็นสายตาของจี้จิ่งเชินแล้ว จี้หยู๋ชิงก็รีบกระโดดออกมา แล้วขวางอยู่ตรงหน้าของพ่อบ้าน
เห็นการกระทำที่ดูปกป้องของเขาแล้ว จี้จิ่งเชินจึงเลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
“อย่างนั้นหรือ? การบ้านที่คุณครูสั่งเอาไว้ทำเสร็จหมดแล้วใช่ไหม?”
จี้หยู๋ชิงพยักหน้าลงแล้วเชิดหน้าขึ้น จากนั้นก็วิ่งกลับไปที่ห้อง หยิบเอาการบ้านที่ทำเสร็จแล้วออกมา
“ถ้าหากทำผิด ครั้งต่อไปจะต้องเพิ่มชั่วโมงเรียนนะครับ” จี้จิ่งเชินทิ้งประโยคนี้เอาไว้ แล้วพลิกดูการบ้านในมือ
“ครับ! ผมทำไม่ผิดหรอก!”น้ำเสียงของจี้หยู๋ชิงมีความมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก มีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว
ถึงแม้ว่าจะมีการพิจารณาถึงว่าจี้หยู๋ชิงจะยังเด็กอยู่ และคุณครูแต่ละคนก็จัดการบ้านให้กับเขาไม่มากนัก แต่ถ้าหากเอาทั้งหมดมารวมกัน ก็จะกลายเป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลย
จี้จิ่งเชินเปิดอ่านด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ความรู้สึกใดๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนยื่นหน้าเข้ามาด้วยความสงสัย ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ถ้าหากพบอะไรที่ผิด ก็จะได้บอกก่อนเพื่อช่วยพูดให้กับจี้หยู๋ชิง
แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อดูการบ้านทั้งหมดแล้วก็ไม่เจอข้อผิดพลาดเลย
“หยู๋ชิงเก่งจังเลยครับ!”เวินเที๋ยนเที๋ยนอุทานขึ้นมา
เดิมทีใบหน้าที่กำลังตึงเครียด และจริงจังของจี้หยู๋ชิง เมื่อได้ยินประโยคนี้แล้ว ใบหน้าก็แดงขึ้นมาทันที รู้สึกเขินขึ้นมาบ้าง
“พวกนี้ง่ายมากเลยครับ”
“หืม”จี้จิ่งเชินส่งเสียงฮึดฮัดออกมาพลางเอ่ยขึ้น : “ถือว่าผ่านก็ได้”
จี้หยู๋ชิงได้ยินการประเมินนี้แล้ว ก็ยิ่งเชิดหน้าขึ้น
และเวลานี้เองแม่ครัวเดินเข้ามา พลางเอ่ยถามขึ้นมาอย่างลังเล : “มื้อเย็นควรจะทำอย่างไรดีคะ?”
เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้จี้จิ่งเชินบอกเอาไว้ ว่าจะทานอาหารข้างนอก ดังนั้นเธอจึงไม่ได้เตรียมเอาไว้เลย
“เตรียมเป็นสเต็กแล้วกัน เปิดชั้นดาดฟ้าเอาไว้ จะไปทานกันที่นั่น”
แม่ครัวได้ยินแล้ว ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที
“ไม่มีปัญหาค่ะ!”
ว่าแล้วก็รีบกลับไปยังห้องครัว
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับรู้สึกสงสัย
“ชั้นดาดฟ้าก็สามารถทานอาหารได้หรือคะ?”
“สองสามวันก่อนผมให้พวกเขาตกแต่งกันใหม่น่ะครับ คุณคงจะชอบ”
ว่าแล้ว จี้จิ่งเชินก็ลุกขึ้นยืน แล้วอุ้มจี้หยู๋ชิงขึ้นมา โดยไม่ได้สนใจการคัดค้านของเขา แล้วเดินขึ้นไปทางด้านบน
“ผมพาเขาไปก่อนนะครับ คุณพักผ่อนก่อนแล้วกัน”
เมื่อครู่นี้ตอนที่เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เขาก็พบว่าดูเหมือนว่าสถานะของภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจะเป็นที่ให้ความสำคัญมาก เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงตกอยู่ในสภาพที่ดูตึงเครียดทั้งวันแบบนี้
เห็นเอกสารที่เธอพลิกอ่านบนโต๊ะก็รู้แล้วว่าวันนี้ทั้งวันเธอจะต้องเหนื่อยมากขนาดไหน
เดิมทีจี้หยู๋ชิงยังรู้สึกไม่ได้ดีใจนัก แต่เมื่อได้ยินแล้วถึงได้หยุดดิ้นลง แล้วถูกจี้จิ่งเชินอุ้มไปอย่างว่าง่าย พลางพยักหน้าลง
“คุณแม่พักผ่อนนะครับ ต่อไปให้มอบให้ผมก็พอ”
“ได้ครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกเหนื่อยอยู่บ้างจริงๆ
ตำแหน่งภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์แห่งชาตินี้ว่างมาเป็นเวลาสามเดือน มีเรื่องที่สะสมเอาไว้เป็นจำนวนไม่น้อยที่จะต้องจัดการ วันนี้ทั้งวันเธอยุ่งมากเสียจนแทบจะแยกออกเป็นสองส่วนได้แล้ว
เมื่อครู่ที่พยายามฝืนคุยอยู่นั้น จี้จิ่งเชินก็คงจะเห็นเช่นกันสินะ?
เวินเที๋ยนเที๋ยนหาวออกมา แล้วเดินขึ้นไปด้านบน
จี้หยู๋ชิงที่ถูกจี้จิ่งเชินพาตัวไปนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาพลางเอ่ยถามขึ้น : “คุณแม่เหนื่อยมากไหมครับ?”
จี้จิ่งเชินพยักหน้าลง
จากที่เขาเคยสำรวจก่อนหน้านี้ พิพิธภัณฑ์แห่งชาตินี้ไม่ได้ธรรมดาอย่างที่คิดเอาไว้
เนื่องจากไม่มีคนดูแลเป็นเวลานาน ดังนั้นเจ้าหน้าที่พนักงานก็พากันหละหลวมเป็นอย่างมาก และปิดบังซ่อนปัญหาเอาไว้มากด้วยเช่นกัน