เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่1097 แบบนี้ดีมากเลย คุณนายหมิ
“พวกเราสามคนไปด้วยกันนะครับ”
หมินอันเกอว่าแล้ว สายตาที่แวววาวมองหลวนจื่อที่อยู่ตรงหน้า
หลวนจื่ออึ้งไปพักหนึ่ง แล้วรีบละสายตาออกมา
ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อก่อนตัวเองสามารถที่จะกล้าเผชิญกับสายตาของหมินอันเกอ แต่ช่วงนี้ กลับมักจะรู้สึกว่าสายตาของอีกฝ่ายนั้นดูร้อนผ่าวเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งทำให้ไม่กล้าสบตาได้โดยตรง
“ได้ค่ะ!”
โดว์โดว์รีบวิ่งเข้ามา แล้วดึงมือหมินอันเกอเอาไว้ พลางเอ่ยขึ้น : “คุณแม่คะ เราไปที่สวนสนุกครั้งที่แล้วกันเถอะค่ะ ไม่ใช่บอกว่าจะไปด้วยกันใช่ไหมคะ?”
หลวนจื่อลังเลอยู่เล็กน้อย แต่ทางฝ่ายนั้นลากตัวเองให้เดินไปข้างหน้าเรียบร้อยแล้ว
หมินอันเกอตามอยู่ทางด้านหลัง มองเบื้องหลังของทั้งสองคน ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มบางๆออกมา แววตานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน
หลวนจื่อเป็นของเขา โดว์โดว์เป็นของเขา ใครก็อย่าคิดจะแย่งไป
บริเวณใกล้ๆมหาวิทยาลัยนี้มีสถานบันเทิงและถนนการค้าที่สมบูรณ์ครบถ้วนอยู่ด้วย ก่อนหน้านี้หมินอันเกอเคยมาดูทางนี้แล้ว นับว่าพอจะเข้าใจสภาพแวดล้อมที่นี่อยู่เช่นกัน
ตลอดทางโดว์โดว์วิ่งไปวิ่งมาด้วยความรู้สึกที่แปลกใหม่ และแนะนำทิวทัศน์บริเวณรอบๆด้วยความกระตือรือร้น
เมื่อเห็นว่าโดว์โดว์ดูมีความสุขขนาดนี้ จึงยกยอแสร้งทำเป็นไม่รู้ เพื่อให้เข้ากับอารมณ์ของโดว์โดว์
และโดยไม่รู้ตัว ทั้งสามคนก็เดินเล่นกันตั้งแต่ช่วงบ่ายจนกระทั่งถึงช่วงหัวค่ำ
“เย็นแล้ว พวกเรากลับกันเถอะค่ะ” หลวนจื่อเอ่ยขึ้นมา
หมินอันเกอโบกมือ เรียกโดว์โดว์ที่กำลังเล่นเกมอยู่มาหา หันหน้ามา สายตามองอยู่ที่ร่างของหลวนจื่อ
“ปรมาจารย์หูหลินได้จัดการบ้านให้พวกคุณหรือเปล่าครับ?”
หลวนจื่อส่ายหน้า
ก่อนหน้านี่เธอเองก็รู้สึกแปลกอยู่บ้างเช่นกัน ครั้งนี้ดูเหมือนกับว่าเป็นเพราะตอนที่เรียนอยู่นั้นทุกคนแสดงออกมาได้ดีมาก ปรมาจารย์หูหลินจึงไม่ได้จัดการบ้านใดๆให้เลย
เมื่อก่อน ล้วนแต่จะต้องมีเรื่องไม่น้อยให้ต้องยุ่งกันทั้งนั้น
“ถ้าอย่างนั้นก็ทานข้าวกันก่อนแล้วค่อยกลับนะครับ” หมินอันเกอเอ่ยขึ้น
หลวนจื่ออึ้งไป และกำลังจะปฏิเสธ แต่โดว์โดว์กระโดดขึ้นด้วยความดีใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ดีเลยค่ะ ก่อนหน้านี้คุณแม่กับหนูเคยเห็นว่าที่นี่มีร้านอาหารอยู่ร้านนึง แล้วก็เคยอยากจะให้คุณพ่อมาด้วยกันด้วย ใช่ไหมคะ?”
หมินอันเกอได้ยินแล้ว ก็หันมามองทางหลวนจื่อ
“คุณอยากไปกับผมด้วยอย่างนั้นหรือครับ?”
หลวนจื่อได้ยินแล้ว หน้าแดงขึ้นมาทันที
เพียงแค่ก่อนหน้านี้ตอนที่ผ่านร้านอาหาร เธอก็แค่พูดๆขึ้นมาเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าโดว์โดว์จะจำได้ และยังจะพูดถึงขึ้นมาต่อหน้าหมินอันเกออีก
เธอหน้าแดง รีบพูดขึ้น : “ไม่ใช่ค่ะ เพียงแค่ร้านอาหารร้านนั้นเหมาะกับการทานข้าวเท่านั้นเอง……”
ว่าแล้ว ก็รีบหันกลับเพื่อเดินออกไปด้านนอก
และเพิ่งจะเดินไปได้เพียงก้าวเดียวนั้น จู่ๆหมินอันเกอก็ดึงเธอเอาไว้เบาๆ หลวนจื่อถอยหลังมาแล้วเข้าสู่อ้อมกอดของเขา
มือหนึ่งของหมินอันเกอโอบเอวของเธอเอาไว้ กอดหลวนจื่อจากทางด้านหลัง แล้วก้มหน้าลงเล็กน้อย
น้ำเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นข้างๆใบหูของหลวนจื่อ
“แค่นี้จริงๆหรือครับ? ไม่อยากทานข้าวกับผมหรือ?”
หลวนจื่อแข็งทื่ออยู่ตรงที่เดิม สามารถรับรู้ถึงหน้าอกของอีกฝ่ายหนึ่งที่แนบอยู่ทางด้านหลังได้อย่างชัดเจน ถึงแม้จะใส่เสื้อผ้าอยู่ แต่ตอนนี้เป็นหน้าร้อน อุณหภูมิร่างการที่ร้อนผ่าวของอีกฝ่ายนั้นส่งผ่านจากผ้าบางๆนั่นมายังร่างของตัวเอง ราวกับผิวของเธอนั้นไหม้เกรียมไปหมดแล้ว
“ฉัน……”
เธอเอ่ยขึ้น แต่กลับพูดไม่อออก
หมินอันเกอก้มหน้าลงเล็กน้อย สามารถมองเห็นใบหูที่ค่อยๆแดงขึ้นของหลวนจื่อ มุมปากยกขึ้นมาอย่างชัดเจน แววตาเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความอ่อนโยน
แล้วเอ่ยพูดขึ้นเบาๆ “ไปกันเถอะครับ ไปดูว่าร้านอาหารที่คุณอยากจะให้ผมมาด้วยจะเป็นอย่างไร?”
ได้ยินประโยคนี้แล้ว ใบหน้าของหลวนจื่อนั้นก็ยิ่งแดงขึ้นกว่าเดิม แล้วรีบเอ่ยขึ้นมา : “ไม่ใช่แบบที่คุณพูดซักหน่อย”
แต่หมินอันเกอกลับไม่ได้เอ่ยพูดขึ้นอีก และพาโดว์โดว์เดินไปทางด้านหน้า
“คุณแม่ รีบๆตามมาสิคะ!”
หลวนจื่อมองเบื้องหลังของทั้งสองคน แล้วถอนหายใจออกมา ไม่มีวิธีอื่นแล้วทำได้เพียงต้องเดินตามไป
ก่อนหน้านี้ร้านอาหารที่หมินอันเกอและโดว์โดว์เห็นนั้นไม่ได้ใหญ่มากนัก สถานะอย่างหมินอันเกอ ถ้าหากเข้าไปในสถานที่ที่มีคนมาก ต่อให้เป็นต่างประเทศ ก็อาจจะเป็นที่ดึงดูดจนทำให้เกิดความวุ่นวายได้เช่นกัน
ร้านอาหารเล็กๆคนก็จะยิ่งน้อย แสงไฟสลัวๆ ถึงจะเหมาะกับการทานข้าวด้วยกัน
พอหมินอันเกอเดินเข้ามานั้น เห็นขนาดและการจัดร้านอาหารแล้ว มุมปากก็ยกขึ้นมา
เห็นได้ชัดว่าไม่ว่าจะเป็นอาหาร หรือขนาดของร้าน สถานที่ตั้ง ล้วนแต่มีการพิจารณาถึงสถานะของเขาเอาไว้หมดแล้ว สามารถเข้าออกได้ตลอดเวลา ไม่เป็นการดึงดูดความสนใจของคนอื่นๆ
เห็นได้ชัดว่าเป็นการเลือกมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ
รับรู้ได้ถึงจุดนี้แล้ว แววตาก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาแล้วมองไปยังหลวนจื่อ
หลวนจื่อสังเกตได้ถึงแววตาที่ร้อนผ่านของอีกฝ่ายแล้ว กลับไม่กล้าหันไปมอง
ถึงแม้ว่าจะพยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้ แต่การเคลื่อนไหวนั้นดูแล้วก็ยังคงดูแข็งทื่อไปบ้าง
เห็นการเคลื่อนไหวเล็กๆของเธอแล้ว แววตาของเขาก็ยิ่งปรากฏรอยยิ้มมากขึ้นกว่าเดิม
ตำแหน่งที่จองไว้อยู่ตรงมุมหนึ่งพอดี ติดหน้าต่าง แต่ด้านนอกหน้าต่างนั้นไม่ใช่วิวจากท้องถนน แต่เป็นทะเลยามค่ำคืน
ลมพัดมาผ่านผ้าม่าน พัดเข้าใบหน้า ไล่ความร้อนและความไม่สงบตลอดทั้งช่วงบ่ายออกไป ทำให้ในใจนั้นค่อยๆสงบลงมาได้
พนักงานของร้านอาหารไม่ได้สังเกตถึงสถานะของหมินอันเกอ หลังจากที่สั่งอาหารเรียบร้อยแล้วก็เดินออกไป
หลวนจื่อที่เคร่งเครียดอยู่ตลอดนั้น เป็นกังวลว่าจะมีคนที่พบเห็นพวกเขาแล้วจะก่อความวุ่นวายเข้า
เวลาที่ทานอาหารกันนั้นเงียบเป็นอย่างมาก แต่โดว์โดว์และหมินอันเกอที่อยู่ตรงข้ามนั้นดูแล้วกลับเข้ากันได้ดีมาก ไม่ได้รับผลกระทบจากคนอื่นๆเลย
“คุณพ่อคะ อาหารที่นี่อร่อยใช่ไหมคะ?”
หมินอันเกอพยักหน้าลง แววตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
“จริงครับ ต่อไปก็มาได้บ่อยๆแล้วนะ”
หลวนจื่อที่อยู่ตรงข้ามได้ยินแล้ว เบิกตาขึ้นมองด้วยความประหลาดใจ
“คุณจะอยู่ที่นี่หรือคะ?”
หมินอันเกอเงยหน้าขึ้นมา รอยยิ้มปรากฏขึ้นในดวงตา
“คุณอยากจะให้ผมอยู่หรือเปล่าล่ะครับ?”
หลวนจื่อไม่รู้เลยว่าควรจะส่ายหน้าหรือพยักหน้าดี
แต่ดีตรงที่หมินอันเกอไม่ได้เอ่ยถามต่อ ยืนขึ้นมาพลางเอ่ยขึ้น : “ถ้าหากว่าคุณอยาก ผมก็สามารถมาได้บ่อยๆ”
หลวนจื่ออึ้งไปพักหนึ่ง แล้วเอ่ยขึ้นมาเบาๆ : “แต่ว่า…..ตั๋วเครื่องบินแพงมากเลยนะคะ?”
หมินอันเกอคิดไม่ถึงว่าเธอจะตอบแบบนี้ นิ่งอึ้งไปพักหนึ่ง จากนั้นจึงหัวเราะออกมา
ใบหน้าของหลวนจื่อนั้นแดงขึ้นมาทันที เงยหน้ามองเขาอย่างไม่พอใจ
“คุณหัวเราะอะไรคะ?”
แววตาของหมินอันเกอนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เห็นท่าทางที่ไม่พอใจของหลวนจื่อแล้ว จึงฝืนข่มอาการหัวเราะบนใบหน้าเอาไว้ แต่ดวงตานั้นก็ยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้มอยู่ดี
“ก็จริงครับ ตั๋วเครื่องบินเป็นปัญหาใหญ่มากจริงๆ”
เพิ่งจะพูดจบนั้นก็อดที่จะหัวเราะขึ้นมาไม่ได้
ใบหน้าของหลวนจื่อนั้นกลับยิ่งแดงขึ้น แล้วดึงตัวโดว์โดว์เดินออกไปทางด้านนอก พลางบ่นออกมาเบาๆ
“ที่ฉันพูดมันไม่ถูกหรือไง?”
หมินอันเกอรีบตามมา
“ผมไม่ได้หมายความแบบนั้นเสียหน่อย”
เขาดึงตัวหลวนจื่อเอาไว้ พลางเอ่ย : “ผมเพียงแค่รู้สึกว่า แบบนี้ดีมากเลยนะครับ คุณนายหมิน”
ได้ยินคำเรียกนี้แล้ว ขาของหลวนจื่อนั้นจึงหยุดชะงักลงทันที แล้วหันหน้ามามองเขาด้วยใบหน้าที่ประหลาดใจ
หมินอันเกอเพียงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น แล้วย้อนถามกลับ : “มีอะไรที่ไม่ถูกต้องอย่างนั้นหรือครับ?”
พวกเขาแต่งงานกันตั้งนานแล้ว หลวนจื่อเป็นคุณนายหมินจริงๆ เพียงแต่ก่อนหน้านี้เรียกเธอแบบนี้น้อยครั้งมาก
หลวนจื่อส่ายหน้า รู้สึกสับสนอยู่บ้าง พลางเอ่ยถามขึ้นอย่างรีบร้อน : “คืนนี้คุณจะพักที่ไหนคะ?”
หมินอันเกอก้มหน้าลง แววตาที่มีรอยยิ้มภายใต้แสงไฟจากข้างทาง อ่อนโยนมากเป็นพิเศษอย่างเห็นได้ชัด มองไปยังร่างของหลวนจื่อ ทำให้เธอหัวใจเต้นรัว