เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่1107 สมบัติล้ำค่าใต้ทะเล
“เรากลับกันก่อนดีกว่านะลูก เหมือนกับว่าแม่จะเจอความลับของสมบัติล้ำค่านั่นแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไปพลางอธิบายไปด้วย : “เมื่อกี้นี้แม่เจอกับศาสตราจารย์จางเชียงหนิงแล้ว เขาบอกบางอย่างกับแม่ ตอนแรกแม่ไม่เข้าใจว่าหมายความว่าอะไร แต่จู่ๆเมื่อกี้นี้ก็นึกถึงความเป็นไปได้นึงขึ้นมา”
ตอนนี้เธออยากจะรีบไปพิสูจน์ ถ้าหากการคาดเดาของเวินเที๋ยนเที๋ยนถูกต้อง เป็นไปได้มากที่จางเชียงหนิงจะพบความลับของสมบัติล้ำค่านั้นตั้งแต่แรกแล้ว แต่เนื่องจากว่าคนขององค์กรนั้นอยู่ด้วย ดังนั้นจึงต้องแกล้งทำเป็นหลอกล่ออยู่ตลอดเวลาแบบนั้น
ทั้งสองคนรีบกลับไปที่บ้าน แล้วเอาถ้วยเครื่องเคลือบลายครามสีฟ้าขาวที่ซ่อนไว้ออกมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนนึกย้อนไปในสิ่งที่จางเชียงหนิงเคยพูดเอาไว้—รูปถ่ายวางไว้ใต้ตู้ชาม พลิกกลับมาถึงจะเห็น
เธอหมุนถ้วยเครื่องเคลือบลายครามที่อยู่ในมือ
รูปถ่ายวางไว้ใต้ตู้ชาม—คงจะหมายถึงข้อมูลที่อยู่บนถ้วยเครื่องเคลือบลายครามสีฟ้าขาวนี้
ถ้าหากไม่เห็น ก็พลิกกลับมาถึงจะเห็น—พลิกถ้วยเครื่องเคลือบลายครามกลับมา ลวดลายด้านบนนั้นก็มองไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงใดๆ
ถ้าหากแค่เพียงง่ายๆแค่นี้แล้วจะสามารถแก้ความลับของเครื่องเคลือบลายครามใบนี้ได้ ก็คงจะต้องถูกคนขององค์กรนั้นพบตั้งแต่แรกแล้วอย่างแน่นอน คงไม่รอจนถึงตอนนี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนครุ่นคิด
“จางเชียงหนิงบอกว่า เบาะแสอยู่ใต้ตู้ชาม คงจะไม่ง่ายแบบนั้น”
เธอหยิบกระดาษมาหนึ่งแผ่น แล้ววาดลวดลายบนถ้วยนั้นลงไป
เปลี่ยนกลับทิศทาง แล้วรวบรวมเข้าด้วยกันอีกครั้ง ถ้าพลิกกลับดู…..
ดวงตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นประกายขึ้นมาทันที ลวดลายเหล่านั้นค่อยๆปรากฏเป็นตัวอักษรภาษาจีน
ไม่ผิดแน่!
เนื่องจากตัวอักษรภาษาจีนซ่อนอยู่ในลวดลายนั้น ดังนั้นถ้าไม่ใช่คนที่คุ้นเคยกับตัวอักษรภาษาจีน ก็ไม่มีทางพบเจอได้เลย และยิ่งไม่ต้องพูดถึงที่จะต้องเอาลวดลายต่างๆมาแยก แล้วประกอบเข้าด้วยกันใหม่
เธอแยกแยะและวิเคราะห์อย่างละเอียด พบว่าตัวอักษรภาษาจีนด้านบนนั้นประกอบกันเป็นข้อความใหม่ทั้งหมด ด้านบนเขียนไว้เพียงแค่หย่งเล่อสองตัวอักษรเท่านั้น
ในช่วงเวลาหย่งเล่อในสมัยราชวงศ์หมิง ห่างไปจากจีนแผ่นดินใหญ่ไปอีกหนึ่งเกาะ ข้ามมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ และเป็นอีกหนึ่งอาณาเขตของราชวงศ์หมิงเช่นกัน เป็นที่รู้จักกันในส่วนของวงล้อม และเขตปกครองก็เป็นท่าเรือเก่าที่มีชื่อเสียง
ในปีนั้นตอนที่เจิ้งเหอเดินทางไปยุโรป ปราบโจรสลัดในท้องที่นั้น แล้วได้เอาอาณาเขตนี้เพิ่มให้กับราชวงศ์หมิง
เริ่มตั้งแต่ตอนนั้น ราชสำนักก็ส่งข้าราชการมาตั้งมั่นบริหารดูแลที่นี่ ทุกปีก็จะมีเรือมาลาดตระเวนระหว่างภายในประเทศและวงล้อมอยู่บ่อยๆ
ในตอนนั้นการเดินเรือภายในประเทศนั้นมีการพัฒนาเป็นอย่างมาก แต่มหาสมุทรที่อยู่ไกลนั้นก็ยังคงอันตรายมากอยู่ดี เรือสินค้าหลายลำที่จมลงกลางทาง
จากบันทึกที่สามารถหาได้นั้น ก็มีเรือจมดิ่งลงไปเกินกว่า5ลำ อีกทั้งตอนนี้ก็ยังหาไม่เจออีกด้วย ด้านบนนั้นล้วนแต่เป็นเครื่องประดับ เงินทอง เครื่องเคลือบลายคราม ใบชา ที่มีมูลค่าสูง และยังมีไม้จันทร์แดงที่ราคาแพงมากอีกด้วย
เพียงแต่จากเส้นทางของประเทศจีนไปถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น คงจะไม่ผ่านที่นี่สิถึงจะถูก
ราชวงศ์หมิงจนถึงตอนนี้นั้นก็ผ่านมาหกร้อยกว่าปีแล้ว ประกอบกับคลื่นใต้ทะเล และการปะทะเข้ากับกระแสน้ำ เป็นไปได้ที่จะถูกพัดผ่านมาแถวๆนี้
ถ้าหากสมบัติล้ำค่าที่พวกเขาพบเป็นหนึ่งในเรือลำที่จมดิ่งลงไปนั้น สิ่งของในนั้นจะต้องดึงดูดความอยากได้ของผู้คนจริงๆ
จี้หยู๋ชิงกระพริบตาด้วยความสงสัย แววตานั้นเต็มไปด้วยความงุนงง
“แต่ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นเรือลำที่จมไปของราชวงศ์หมิง การเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำใต้ทะเลมีมากขนาดนี้ เราจะรู้ได้อย่างไรครับว่าเรือลำนั้นจะอยู่ตรงไหน? อีกทั้งถ้าหากเครื่องเคลือบลายครามนี้เป็นผลผลิตบนเรือในตอนนั้น พวกเขาจะคาดการณ์ได้อย่างไรครับว่าเรือของตัวเองจะจม อีกทั้งจะถูกกระแสน้ำพัดผ่านมาด้วย?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มเล็กน้อย พลางเอ่ย : “เพียงแค่รู้ตรงจุดนี้ ก็จะสามารถหาเรือลำที่จมไปได้แล้ว”
จี้หยู๋ชิงก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดี เวินเที๋ยนเที๋ยนหยิบเอาเครื่องเคลือบลายครามมา แล้วลูบร่องรอยด้านบนอย่างละเอียด
“วัตถุโบราณทุกๆชิ้น ล้วนแต่จะบันทึกเรื่องราวที่ผ่านมาเอาไว้ทั้งหมดแล้ว ใต้ทะเลและโคลนจะทำให้เครื่องเคลือบลายครามสีฟ้าขาวเกิดการเปลี่ยนแปลง สามารถทำให้เครื่องเคลือบลายครามในราชวงศ์หมิงปรากฏอยู่ในสภาพแบบนี้ มีเพียงโคลนใต้ทะเลที่พิเศษประเภทเดียว สามารถทำให้เครื่องเคลือบลายครามเป็นสีอ่อน อีกทั้งเป็นเส้นทางของทางไปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พอดีอีกด้วย”
ในใจของเธอนั้นยังคงรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่าเรือลำนี้จะหลีกเลี่ยงจากสายตาของผู้คนจึงเลือกเส้นทางนี้ ทั้งยังเดินทางใช้เส้นทางไกลอีกเส้นทางหนึ่ง มิน่าล่ะเวลาผ่านไปนานขนาดนี้ก็ไม่มีใครพบร่องรอยเลย
เวินเที๋ยนเที๋ยนหยิบแผนที่ออกมา แล้วทำเครื่องหมายตำแหน่งที่เรืออาจจะจมอยู่นั้นตรงด้านบน แล้ววาดทิศทางของกระแสน้ำ
ตามการใช้เหตุผลพิจารณาเช่นนี้แล้ว มีความเป็นไปได้อยู่จริงๆที่จะถูกพัดมาถึงบริเวณแถวนี้
วาดความเป็นไปได้ของเส้นทางบนแผนที่ ถ้าหากพิจารณาไปถึงคนขององค์กรนั่นด้วยแล้วล่ะก็ ขอบเขตอาจจะเล็กลง
เครื่องเคลือบลายครามสีฟ้าขาวเป็นคนของสถาบันวิจัยพบเจอตอนที่สำรวจ ณ สถานที่จริง สถานที่ก็คือใกล้ๆบริเวณเกาะ คนขององค์กรเพื่อตามหาสมบัติล้ำค่า จะต้องไปตรวจสอบดูตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว แต่พวกเขาไม่พบ ก็พิสูจน์ได้ว่าเรือไม่ได้จมอยู่ตรงนั้น
บริเวณใกล้ๆนั้นก็คงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะมีเหมือนกัน
เวินเที๋ยนเที๋ยนขีดตำแหน่งด้านบนออกสองสามที่ และไม่นาน บนแผนที่นั้นก็เหลือเพียงแค่ที่สุดท้าย
“เป็นไปได้มากว่าจะอยู่ตรงนี้” เวินเที๋ยนเที๋ยนวงเอาไว้ด้านบน พลางเอ่ย : “สถานที่นี้นับว่าไม่ได้ใกล้จากเกาะมากนัก คนทั่วๆไปก็คงจะไม่อาจพบเจอได้ อีกทั้งบริเวณใกล้ๆนี้ก็ไม่ใช่สถานที่ที่ชาวประมงจะไปกันบ่อยๆอีกด้วย”
จี้หยู๋ชิงเบิกตาขึ้น มองไปยังเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความนับถือ
“คุณแม่เก่งจังเลยครับ!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มออกมาอย่างถ่อมตัว พลางเอ่ย : “ความจริงแล้ววิธีนี้ไม่ยากเลย เพียงแต่จะต้องเข้าใจสภาพแวดล้อมภายในประเทศและสถานการณ์ของช่วงเวลานั้นด้วย ถึงจะคิดได้ คนของสถาบันวิจัยก็คงจะเดาออกแล้ว แต่เนื่องจากว่าไม่อยากให้ของมีค่าพวกนั้นไปตกอยู่ในมือของคนอื่น ถึงได้แสร้งทำเป็นวิจัยออกมาไม่ได้แบบนั้น”
“แล้วตอนนี้พวกเราควรทำยังไงครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนครุ่นคิด พลางเอ่ยขึ้น : “นอกจากสมบัติล้ำค่าแล้ว ความปลอดภัยของศาสตราจารย์สองสามท่านที่สถาบันวิจัยก็สำคัญมากเหมือนกัน ถ้าหากเราเอาสมบัติพวกนั้นไปก่อนล่วงหน้า คนขององค์กรนั้นก็จะเอาความไม่พอใจมาระบายลงที่พวกศาสตราจารย์เหล่านั้น”
เธอเอ่ยพูดไปพลาง แล้วเก็บถ้วยเครื่องเคลือบลายครามสีฟ้าขาวที่อยู่ในมือ เวลานี้ทางด้านล่างนั้นก็มีเสียงพูดคุยกันดังขึ้นมา
การเคลื่อนไหวของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นหยุดชะงักลงทันที และในขณะเดียวกันจี้หยู๋ชิงเองก็เงี่ยหูฟังด้วยเช่นกัน สีหน้าเปลี่ยนไปในทันที
“อะไรลูก?”
จี้หยู๋ชิงเอ่ยพูดขึ้นอย่างจริงจัง : “ดูเหมือนว่าคนขององค์กรนั่นมาหาเราถึงที่นี่แล้วครับ”
“ไม่ดีเลย!”
เขารีบลุกขึ้นมา : “เจ้าของบ้านทางด้านล่างบอกข่าวของพวกเราไปแล้วครับ พวกเขากำลังขึ้นมา!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอากล่องที่เก็บถ้วยเครื่องเคลือบลายครามสีฟ้าขาวออกมาใหม่ แล้วหันกลับจะเดินไป
ก่อนหน้านี้พวกเธอไม่ได้บอกสถานะของตัวเองกับเจ้าของบ้าน แล้วก็ไม่ได้ให้เจ้าของบ้านปิดบังข่าวคราวของพวกเขาด้วย กังวลว่าหลังจากที่ทางฝ่ายนั้นรู้แล้ว จะเปิดเผยกับคนขององค์กรนั้น
แต่คิดไม่ถึงว่าวันนี้ตอนที่เจ้าของบ้านออกไปซื้อของข้างนอก เอ่ยพูดถึงเรื่องของเวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้หยู๋ชิงกับคนอื่นนั้น ถูกคนขององค์กรที่กำลังตามหาคนอยู่ข้างๆนั้นได้ยินเข้าพอดี จึงรีบตามมา
คนที่นี่เดิมทีก็หวาดกลัวคนขององค์นั้นอยู่แล้ว เมื่อพวกเขาเอ่ยถาม ก็รีบบอกถึงสถานการณ์ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว ไม่ได้เตรียมการป้องกันใดๆเอาไว้เลย
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้หยู๋ชิงจะเตรียมตัวกันเอาไว้แล้ว ว่าทางฝ่ายนั้นอาจจะตามมาเจอ แต่คิดไม่ถึงว่าจะมาเร็วขนาดนี้!