เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่728 ผมเป็นแฟนคุณนะ
บทที่728 ผมเป็นแฟนคุณนะ
เสียงของเวินเที๋ยนเที๋ยนดังออกมาจากข้างใน
ได้ยินเสียงนี้ เดิมทีใบหน้าที่จะแข็งกระด้างก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนทันที
หลังจากที่แยกกับเวินเที๋ยนเที๋ยนตั้งแต่ตอนเช้า นี่เป็นยิ้มแรกที่ปรากฏบนใบหน้า
ผู้ช่วยประธานที่ยืนอยู่ด้านข้างเห็นแล้ว ก็ตกใจเล็กน้อย
ใครๆก็ว่าจี้จิ่งเชินเลือดเย็นไม่มีความรู้สึก ใบหน้าปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งตลอดเวลา แต่คนพวกนั้นกลับไม่รู้ว่า ทุกครั้งที่จี้จิ่งเชินอยู่กับเวินเที๋ยนเที๋ยน ก็จะปรากฏรอยยิ้มที่อ่อนโยนออกมา
ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนเห็นเข้า เกรงว่าจะพากันตกหลุมรักหรือเปล่า?
ไม่ใช่สิ ถึงแม้จะเป็นตอนนี้ ผู้หญิงที่อยากจะปีนขึ้นเตียงของประธานจี้ รถสิบล้อก็ยังคงไม่พอใส่
กำลังคิด จี้จิ่งเชินก็ได้ผลักประตูเปิดออก
ท่าทางของเขาผ่อนคลายลงเล็กน้อยโดยไม่ได้ตั้งใจ เดินเข้าไป เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังก้มหน้าดูข้อมูลที่ผู้ช่วยเพิ่งจะเอาเข้าไปให้
เธอคิดว่าเป็นผู้ช่วยที่เอาสัญญาฉบับใหม่มาให้ จึงไม่ได้เงยหน้าขึ้น
“รายงานความคืบหน้าที่ท่าเรือส่งมาหรือยัง? ให้พวกเขารีบส่งมาด้วย”
จี้จิ่งเชินฟังแล้ว จึงพูดขึ้น: “อีกหนึ่งอาทิตย์หลังจากนี้จะมีการสุ่มตรวจ รีบเตรียมตัวให้พร้อมล่วงหน้าจะดีที่สุด”
จู่ๆเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ได้ยินเสียงของจี้จิ่งเชิน ก็รีบเงยหน้าขึ้นอย่างตกใจ
เห็นจี้จิ่งเชินยืนอยู่ตรงหน้า ก็มองเวลาโดยไม่รู้ตัว
“ทำไมคุณถึงมาเร็วขนาดนี้?”
จี้จิ่งเชินยิ้มๆ
“นี่ก็เย็นแล้ว ผมมารอคุณก่อน”
พูดจบประโยคนี้ เข็มนาฬิกาก็ชี้ไปที่เลข 5 พอดี ดูเหมือนจี้จิ่งเชินจะนับเวลาตั้งแต่ตอนมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบเซ็นชื่อลงบนสัญญาที่อยู่ในมือ
“รอฉันอีกเดี๋ยวนะคะ รอให้เอกสารรายงานความคืบหน้าฉบับนั้นส่งมาก็เสร็จแล้ว”
จี้จิ่งเชินกลับก้าวเท้าเดินเข้าไป
ในห้องทำงานของเวินเที๋ยนเที๋ยนมีหน้าต่างบานใหญ่ที่ยาวจรดพื้น ยืนที่หน้าต่าง สามารถมองเห็นลานหน้าตึก สามารถมองในมุมกว้าง
เขาเดินไป มองเห็นข้างหน้าต่างมีโซฟาเล็กและโต๊ะสำหรับดื่มชาที่ถูกเตรียมไว้ ด้านบนถูกปูด้วยพรหมอย่างเป็นระเบียบ
เวินเที๋ยนเที๋ยนดูสัญญาฉบับสุดท้ายเสร็จ เซ็นชื่อ แล้วเดินตามเขาไป
“ที่ตรงนี้เมื่อก่อนคุณนายหล่อนได้เตรียมเอาไว้ หากเหนื่อยจากการทำงานก็จะได้มานั่งพักตรงนี้ แต่ฉันยังไม่เคยลองเลย”
“ที่นี่วิวสวยใช้ได้”
จี้จิ่งเชินกวาดมองด้วยสายตา มองเงาของเวินเที๋ยนเที๋ยนที่สะท้อนอยู่บนกระจก ก็ได้ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย
“สวยใช้ได้จริงๆ”
น้ำเสียงของเขาผ่อนคลายลงอย่างไม่ได้ตั้งใจ แล้วถามขึ้น “ทำงานเสร็จแล้วเหรอ?”
“เหลือแค่เอกสารรายงานความคืบหน้าฉบับนั้นแล้ว หลังจากได้รับแล้วก็……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดอย่างเป็นการเป็นงาน แต่ไม่ทันพูดจบ จู่ๆจี้จิ่งเชินกลับดึงมือของเธอมา แล้วยกขึ้นเบาๆ
พริบตาเดียว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ถูกกดติดไว้กับกระจก แม้แต่มือขวาของเธอก็โดนเขาล็อกไว้
การกระทำของจี้จิ่งเชินนั้นอ่อนโยนมาก เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาอย่างตกใจ
“จี้จิ่งเชิน?”
จี้จิ่งเชินก้มหัวลงเล็กน้อย มุมปากยกขึ้น ปรากฏรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ แล้วถาม “ผู้ช่วยที่หน้าประตูคงจะไม่เข้ามาใช่ไหม?”
สมองที่ว่องไวของเวินเที๋ยนเที๋ยน ได้ถูกรอยยิ้มบนใบหน้าของจี้จิ่งเชินทำให้คิดช้าลงไปแล้ว เธอมึนๆงงๆ
“ไม่มีคำสั่งจากฉัน ก็คงไม่เข้ามา”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี”
จี้จิ่งเชินกระซิบ รีบโอบเอวของเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้
ร่างของทั้งคู่ใกล้ชิดแนบแน่น ถึงขนาดที่สามารถรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นทางร่างกายของซึ่งกันและกัน
สายตาที่ร้อนแรงทำให้เธอประหม่าเล็กน้อย
“จี้จิ่งเชิน ทำไมคุณ……”
จี้จิ่งเชินกระชับมือที่อยู่บนเอวของเธอ ขัดจังหวะเธอพูด
“อย่าขยับ ให้ผมกอดคุณหน่อย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงียบลง
จี้จิ่งเชินกอดเธอไว้เบาๆ แต่ความรุ่มร้อนในใจของเขาไม่อาจสงบลงได้ด้วยการกระทำเพียงแค่นี้ แต่กลับทวีความรุนแรงขึ้น มือที่อยู่บนเอวค่อยๆรวบเข้าหากัน
จี้จิ่งเชินเงยหน้าขึ้น มองหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนที่แดงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับมีขนนกที่คอยปลุกปั่นในใจของเขาไม่หยุดหย่อน
เขาก้มหน้าลงอย่างอดใจไม่ไหว จูบลงไป เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกกดไว้ที่กระจก
ด้านหลังมีความเย็นเล็กน้อยจากกระจก แต่ด้านหน้าร้อนรุ่มด้วยร่างกายของจี้จิ่งเชิน หน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยิ่งแดงหนักขึ้นไปอีก
เธอยกมือขึ้นมาผลัก แล้วพูดเบาๆ “ไม่ใช่บอกว่า แค่กอดหน่อยเดียวเหรอ?”
จี้จิ่งเชินไม่ได้ตอบ แต่กลับจูบไปที่ริมฝีปากของเธออย่างเร่าร้อน ปิดกั้นเสียงต่อต้านที่เบาบางไว้ในปาก
ในเวลานี้ จู่ๆเสียงเคาะประตูของห้องทำงานก็ดังขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนตัวแข็งทื่อ หูตั้งขึ้นด้วยความตื่นเต้น และยิ่งหนักขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินเสียงของผู้ช่วยที่อยู่ข้างนอก
“ประธานเวิน ข้อมูลถูกเตรียมไว้เรียบร้อยหมดแล้ว จะให้เอาเข้าไปมั้ยคะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบผลักจี้จิ่งเชินที่อยู่ข้างหน้า แต่อีกฝ่ายกลับไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
เวินเที๋ยนเที๋ยนทำได้แค่เอ่ยปากพูด “จี้จิ่งเชิน ผู้ช่วยจะเข้ามาแล้ว คุณหลีกทางให้ฉันหน่อย”
แต่วันนี้คนที่เชื่อฟังมาตลอดอย่างจี้จิ่งเชินกลับไม่ยอมวางมือ ยังคงโอบเอวเธอไว้แน่น
“ไม่เอา”
น้ำเสียงดื้อรั้นอย่างกับเด็ก
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งหน้าแดง
“แต่……ผู้ช่วยจะเข้ามาแล้ว”
ในเวลานี้ในที่สุดจี้จิ่งเชินก็เงยหน้าขึ้นมา
“ถ้าหากเที๋ยนเที๋ยนจูบผมสักหน่อย ผมก็จะยอมปล่อย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปยังที่กั้นประตูด้วยความกังวล เกรงว่าตอนนี้ผู้ช่วยจะเปิดประตูเข้ามากะทันหัน
เธอขยับไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วไปแตะโดนปากของจี้จิ่งเชินนิดเดียวอย่างกับแมลงปอโดนน้ำ
“พอแล้ว ถูกผู้ช่วยเห็นเข้าก็จะแย่”
“กลัวอะไร?” จี้จิ่งเชินพูด “ผมเป็นแฟนของคุณนะ”
เขาไม่พอใจกับการจูบแบบขอไปทีของเวินเที๋ยนเมื่อครู่ จี้จิ่งเชินก็กดเธอลงอีกครั้ง ยื่นมือออกแรงไปที่เอว เท้าทั้งสองข้างของเวินเที๋ยนเที๋ยนถูกยกขึ้นจากพื้น
ร่างทั้งร่างของเวินเที๋ยนเที๋ยนถูกจี้จิ่งเชินโอบไว้ในอ้อมแขน ร่างกายใกล้ชิดแนบแน่น จนรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นที่ออกมาจากร่างกายของอีกฝ่าย
ความเร่าร้อนได้ห่อเธอไว้ภายในพริบตาเดียว ราวกับคนที่กำลังจะจมน้ำตาย
ยังดีที่จี้จิ่งเชินยังจำได้ว่าผู้ช่วยกำลังรออยู่ข้างนอก ก็ไม่ได้ทำตามใจต่อไป
จูบราวกับการจู่โจมข้าศึก ทำให้กลิ่นกายของเธอติดตัวเขาไปด้วย ถึงจะพอใจแล้วยอมถอยออกมา ความฮึกเหิมค่อยๆสลายไปราวกับกระแสน้ำ
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนพิงกระจก ขาทั้งสองข้างอ่อนแรง แก้มแดงระเรื่อ ริมฝีปากเผยอออกเล็กน้อย ลมหายใจเหนื่อยหอบ แววตายังคงเต็มไปด้วยความมึนงง
ท่าทางแบบนี้ปลุกปั่นหัวใจของจี้จิ่งเชินจนกระพืออีกครั้ง ถึงแม้เขาอยากจะจูบอีก สานต่อเรื่องเมื่อครู่ให้เสร็จแค่ไหน
แต่ตอนนี้ผู้ช่วยยังอยู่ข้างนอก ถ้าหากถูกพบเข้าจริงๆ เขากลัวว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่สนใจเขาไปพักใหญ่
คิดถึงจุดนี้ จี้จิ่งเชินก็ทำได้แค่อดทนเอาไว้ แล้วขยับไปข้างหน้า แล้วจุ๊บลงไปปากที่โดนจูบจนแดงระเรื่อ อุ้มเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นมา ราวกับอุ้มเด็กที่ว่านอนสอนง่าย แล้ววางเธอลงบนเก้าอี้ของประธาน
“ถ้าเที๋ยนเที๋ยนยังไม่ได้สติ ผู้ช่วยจะเข้ามาแล้วนะ”
พูดพร้อมรอยยิ้ม พริบตาเดียวเวินเที๋ยนเที๋ยวก็ตกใจตื่น
เธอรีบเรียกสติกลับมา แล้วมองไปทางจี้จิ่งเชินอย่างไม่พอใจ