เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่771 เจ็บจนเธอไม่สามารถหายใจได้
บทที่771 เจ็บจนเธอไม่สามารถหายใจได้
“คุณเห็นเธอเป็นเพื่อนสนิท เป็นเพื่อนพี่น้องที่ดี แต่เธอจะคิดแบบนี้หรือเปล่า?”
ประโยคเดียวที่หล่อนเจียนีบีบให้ต้องตอบคำถาม หลวนจื่อก้าวถอยหลังไปอย่างเจ็บปวด เสียงของเธอดังขึ้นข้างๆหูอย่างต่อเนื่อง
“คุณไม่ต้องพูดแล้ว ฉันไม่เชื่อคุณหรอก!”
หล่อนเจียนีที่อยู่ในสายนั้นยังคงพูดต่อ “ฉันเพียงแค่อยากจะเตือนคุณเท่านั้น อย่าโง่ไปหน่อยเลย”
“คุณหุบปากซะ!”หลวนจื่อตะโกนเสียงสูง แล้วเขวี้ยงโทรศัพท์มือถือลงไปที่พื้น ถึงได้เป็นการสิ้นสุดบทสนทนาครั้งนี้ลง
ผู้คนรอบๆตกใจกับการกระทำนี้ของเธอ แล้วหันมามองอย่างตื่นตกใจ
หลวนจื่อรู้สึกเจ็บปวดมาก หายใจหอบ แต่กลับไม่สามารถทุเลาความเจ็บปวดนี้ได้เลย และแม้แต่ตอนนี้เธอก็เริ่มที่จะปวดหัวขึ้นมาด้วยแล้วเช่นกัน
เธอขมวดคิ้ว เงยหน้ามองไปยังด้านในร้าน เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนและหมินอันเกอเหมือนกำลังจะรับรู้ถึงอะไรบางอย่าง และกำลังหันมา
เธอตกใจแล้วจึงรีบวิ่งไปหลบทางด้านข้าง
รอจนเวินเที๋ยนเที๋ยนและหมินอันเกอออกไปแล้ว ถึงได้เดินออกมา
ซากโทรศัพท์มือถือยังคงอยู่ที่พื้น แต่เวลานี้เธอไม่มีกะจิตกะใจที่จะสนใจแล้ว จึงเดินเซๆออกจากอาคารนั้นไป
ขณะกำลังขับรถอยู่นั้น ไม่รู้ว่าเอ้อระเหยลอยชายอยู่ข้างนอกเป็นเวลานานเท่าไหร่
รอจนตอนที่หลวนจื่อกลับมาถึงบ้านอีกครั้ง ฟ้าก็มืดลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เธอยังไม่ทันจะได้เข้าประตูบ้าน ขณะที่เธอเพิ่งจะลงจากรถ หมินอันเกอได้ยินเสียงแล้วจึงรีบวิ่งออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
“หลวนจื่อ คุณไปไหนมา? ทำไมผมโทรหาคุณคุณก็ไม่รับสาย?”
หลวนจื่อส่ายหน้า สายตาหยุดมองใบหน้าของเขาแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยพูดด้วยความตื่นตระหนก : “ฉันไม่ทันระวังเลยทำโทรศัพท์มือถือหายไปแล้วน่ะค่ะ……”
หมินอันเกอเดินเข้าไป แล้วมองเธออย่างพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
เห็นว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บ จึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ
“ผมเป็นห่วงคุณตลอดเลยนะ โทรหาไม่ติดเลย เกือบจะแจ้งตำรวจอยู่แล้วเชียว”
หลวนจื่อส่ายหน้า ไม่ได้ตอบอะไร แล้วเตรียมจะก้าวเท้าเดินเข้าไปยังด้านใน
ประตูคฤหาสน์ถูกเปิดออกอีกครั้ง แล้วเวินเที๋ยนเที๋ยนก็เดินออกมา
เพิ่งจะเห็นเธอ เท้าของหลวนจื่อก็ชะงักลง ไม่รู้ว่าควรจะเผชิญหน้ากับเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างไรดี
“ทำไมเธอก็มาด้วยล่ะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยพูดอย่างร้อนใจ : “หมินอันเกอบอกว่าเธอหายไป ฉันเองก็ไม่วางใจ ก็เลยมาดูว่าเป็นยังไงบ้าง? เธอไปไหนมา? ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
หลวนจื่อส่ายหน้า เห็นทั้งสองคนยืนอยู่ด้วยกันแล้ว มือที่อยู่ทางด้านหลังนั้นอดที่จะกำหมัดแน่นขึ้นมาไม่ได้
อดทนเอาไว้อยู่นาน ในที่สุดถึงได้เอ่ยถามขึ้นมา : “ทำไมพวกเธอถึงได้มาอยู่ด้วยกันได้ล่ะ? ตอนบ่ายออกไปข้างนอกด้วยกันมาอย่างนั้นหรือ?”
เธอเพิ่งจะเอ่ยถามจบนั้น หัวใจก็เต้นเร็วขึ้นมา ตึก ตึก ตึก ได้ยินชัดเจนมาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนสบตากับหมินอันเกออย่างรวดเร็ว แล้วรีบเอ่ยขึ้น : “เปล่าหรอก เจอกันกลางทางเท่านั้นเอง ฉันได้ยินว่าเธอหายไปก็เลยมาดูด้วยกันกับเขา”
ได้ยินคำตอบนี้แล้ว มือที่อยู่ข้างๆลำตัวเธอก็สั่นเทาขึ้นมา สีหน้าซีดขาว ไม่มีเลือดฝาดอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว
บาดแผลที่อยู่ในใจราวกับถูกมือคู่หนึ่งฉีกออกด้วยความโหดร้าย เจ็บปวดเสียจนร่างกายและจิตใจจะแหลกสลายอยู่แล้ว
เธอหลับตาลง แล้วเซไปจนเกือบจะล้มลงบนพื้น
หมินอันเกอยกมือขึ้นเตรียมจะประคองเธอเอาไว้ แต่กลับถูกหลวนจื่อขวางเอาไว้ก่อน
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ เข้าไปพักผ่อนซักหน่อยเดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้ว พวกคุณคุยกันเถอะ”
เธอผลักมือหมินอันเกอออก แล้วทิ้งทั้งสองคนเอาไว้ พลางเดินเข้าไปด้านใน
หมินอันเกอถึงได้รับรู้ถึงความผิดปกตินี้ของหลวนจื่อ แต่กลับไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนตบไหล่เขา พลางเอ่ยขึ้น : “ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ รอให้หลวนจื่อรู้ว่าคุณเตรียมเซอร์ไพรส์เอาไว้ให้ จะต้องดีใจแน่ๆ”
ได้ยินเช่นนี้แล้ว หมินอันเกอจึงยิ้มออกมาเล็กน้อย มือคลำอยู่ตรงกล่องกำมะหยี่ที่อยู่ในกระเป๋า
เขาเอ่ยขึ้นมาเบาๆ : “วันนี้ขอบคุณคุณมากนะ ส่วนทางจี้จิ่งเชินทางนั้น เขาคงจะไม่ถือสาใช่ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนโบกมือ : “เขารู้ค่ะว่าฉันมาช่วยคุณดูแหวน ไม่เป็นไรหรอก”
หมินอันเกอเอ่ยขึ้นด้วยความกังวล : “ก่อนที่ผมจะลงมือ เรื่องวันนี้ขอให้คุณอย่าเพิ่งบอกหลวนจื่อนะครับ”
“ฉันรู้ค่ะ คุณอยากจะเซอร์ไพรส์เธอนี่นา ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว คุณวางใจได้”
ขณะพูดนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็อดที่หัวเราะออกมาไม่ได้ พลางเอยขึ้น : “นี่ก็ค่ำแล้ว ฉันกลับก่อนนะคะ ฝากลาหลวนจื่อด้วย”
หมินอันเกอส่งเธอขึ้นรถแล้วถึงได้หันกลับแล้วเดินเข้าไปในคฤหาสน์
พอเข้ามานั้น กลับไม่เห็นหลวนจื่อ แล้วจึงเดินไปทางด้านในด้วยความสงสัย
“หลวนจื่อ คุณอยู่ไหนครับ?”
เขาเดินไปรอบๆ แล้วถึงได้เห็นหลวนจื่อที่กำลังกำโทรศัพท์เอาไว้อยู่ในห้องนอน
หมินอันเกอเดินเข้าไป พลางเอ่ยถาม : “เป็นอะไรไปครับ? คุณทำอะไรอยู่น่ะ?”
หลวนจื่อส่ายหน้า ใบหน้าที่หันกลับมามองเขาด้วยรอยยิ้ม ในใจนั้นก็มีความรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง
ตั้งแต่คบกับหมินอันเกอมา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นใบหน้าของหมินอันเกอปรากฎรอยยิ้มที่มีความสุขขนาดนี้
เป็นเพราะว่าวันนี้ได้ออกไปข้างนอกด้วยกันกับเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างนั้นใช่ไหม?
พวกเขาเลือกแหวนกันนั่นก็เพราะต้องการจะแต่งงานกันอย่างนั้นหรือ?
แล้วจี้จิ่งเชินล่ะจะทำอย่างไร?
คำถามแล้วคำถามเล่าที่ผุดออกมาในหัวของเธอ ทำให้ความคิดในหัวของหลวนจื่อนั้นสับสนวุ่นวายไปหมด ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดี
เงียบไปซักพักหนึ่ง เธอจึงอดที่จะถามออกไปไม่ได้
“หมินอันเกอ คุณเคยคิดที่จะแต่งงานบ้างไหม?”
ได้ยินคำพูดนี้แล้ว หมินอันเกอจึงรู้สึกตะลึงไปเล็กน้อย เขาเบิกตาขึ้น แล้วมองเธอด้วยความประหลาดใจ คิดว่าหลวนจื่อจะรู้แผนของตัวเองแล้วเสียอีก
แต่หลวนจื่อที่เห็นท่าทางของเขาแล้ว กลับคิดว่าหมินอันเกอกำลังกังวลว่าเธอจะรู้เรื่องของตัวเองกับเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้าแล้ว จึงฝืนยิ้มออกมาแล้วเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง : “ถ้าหากมีคนบังคบให้คุณแต่งงานกับคนที่คุณไม่ชอบ คุณจะทำอย่างไรคะ?”
หมินอันเกอคิดไตร่ตรองอย่างตั้งใจ แล้วดึงมือของหลวนจื่อมา เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่มุ่งมั่นเป็นอย่างมาก
“ผมจะแต่งงานกับคนที่ตัวเองชอบเท่านั้นแหล่ะครับ”
เขามองหลวนจื่อด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความรัก อยากจะใช้เวลานี้แสดงความรู้สึกของตัวเองออกมา
แต่เวลานี้ในหัวของหลวนจื่อนั้น กลับเต็มไปด้วยท่าทางของเวินเที๋ยนเที๋ยนกับหมินอันเกอที่กำลังเลือกแหวนด้วยกันอยู่ที่ร้านในช่วงบ่ายของวันนี้ แล้วก็ทำให้หัวใจของเธอเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง
“ฉันรู้แล้วล่ะค่ะ” เธอถอนหายใจออกมา ในน้ำเสียงไม่ได้มีความดีอกดีใจเลยแม้แต่นิดเดียว
หมินอันเกอขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย “วันนี้คุณเป็นอะไรไปครับ?”
หลวนจื่อส่ายหน้า
“อาจจะเหนื่อยเกินไปหน่อยน่ะค่ะ ฉันไปพักผ่อนก่อนนะ”
หมินอันเกอได้ยินแล้ว ก็ไม่ได้สงสัย จึงก้มลงแล้วจูบที่หน้าผากของเธอ
“คุณพักผ่อนเถอะนะครับ คุณหมอบอกว่าช่วงนี้คุณจะต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีนะ”
“ฉันรู้ค่ะ”
หลวนจื่อเอ่ยพูดขึ้นอย่างใจลอย แล้วนอนลงบนเตียง ในหัวของเธอนั้นยังคงนึกถึงคำตอบของหมินอันเกอเมื่อครู่นี้
เขาอยากแต่งงานกับคนที่ชอบเพียงเท่านั้น ถ้าอย่างนั้นก็คงจะเป็นเวินเที๋ยนเที๋ยนใช่หรือเปล่า?
ถ้าหากตระกูลหลวนบังคับให้เขาแต่งงานกับตัวเอง จะต้องไม่มีความสุขอย่างแน่นอน
หลวนจื่อเองก็ไม่อยากจะผูกมัดเขา แต่สถานการณ์ในตอนนี้ ถ้าหากตระกูลหลวนรู้ พวกเขาจะต้องบังคับให้หมินอันเกอแต่งงานอย่างแน่นอน
หลวนจื่อคิดพลางสอดมือเข้าไปใต้หมอน แล้วกำโทรศัพท์เครื่องนั้นเอาไว้
ก่อนที่หมินอันเกอจะเข้ามานั้น เดิมทีเธอต้องการจะโทรไปจองตั๋วเครื่องบิน
ถึงแม้ว่าจะถูกขัดขึ้นมา แต่ความคิดที่อยู่ในใจของหลวนจื่อนั้นก็ไม่ได้ล้มเลิกไป
ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?
เธอจะไปจากที่นี่ดีไหม?
เมื่อนึกถึงตัวเองจะต้องไปจากหมินอันเกอ ในใจของเธอนั้นก็รู้สึกเจ็บปวด
ทั้งๆที่ขโมยเขามาเป็นเวลานานขนาดนี้แล้ว ในใจควรจะพอใจแล้วสิถึงจะถูก ทำไมเมื่อคิดว่าจะต้องจากไป หัวใจถึงได้เจ็บปวดขนาดนี้กัน?
เจ็บเสียจนเธอไม่สามารถหายใจได้เลย