เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่782 ฉันเชื่อเธอ
บทที่782 ฉันเชื่อเธอ
ได้ยินประโยคนี้แล้ว มุมปากของจี้จิ่งเชินก็ยกขึ้นมา ปกปิดรอยยิ้มเอาไว้ไม่ได้
เขามองเวินเที๋ยนเที๋ยน พลางยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น : “ได้ยินคำพูดนี้ของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว ผมเองก็รู้สึกคุ้มค่าแล้วล่ะครับ”
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับรู้สึกไม่พอใจ
“อย่าพูดแบบนี้สิคะ ถ้าพี่อยากฟัง ฉันก็จะพูดให้พี่ฟังบ่อยๆ แต่เรื่องแบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สองแล้วนะ”
เธอเครียดมาก
“เอาจริงใช่ไหม?” จี้จิ่งเชินย้อนถาม
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าลง
“พี่ไม่รู้หรอกว่าเมื่อคืนฉันตกใจขนาดไหน ฉันเป็นห่วงพี่…….”
มือของจี้จิ่งเชินที่ดึงมือของเธออยู่นั้นกระชับแน่นขึ้นเล็กน้อย พลางเอ่ยขึ้น : “ผมหมายถึงว่า เที๋ยนเที๋ยนจะพูดแบบนี้ให้ผมฟังทุกวันจริงๆใช่ไหม? ถ้าหากคุณหลอกผม ผมไม่ยอมเลิกราง่ายๆแน่”
จี้จิ่งเชินพูดขึ้นอย่างหยอกล้อ
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว คิดไม่ถึงว่าที่จี้จิ่งเชินพูดถึงนั้นคือเรื่องนี้
แต่เมื่อนึกไปถึงเรื่องเมื่อคืนนี้แล้ว ตอนนี้เธอก็ยังคงรู้สึกกลัวอยู่ จึงทำได้เพียงพยักหน้าลง
“ถ้าหากพี่อยากฟัง ฉันก็จะพูด มีอะไรยากกันคะ?”
จี้จิ่งเชินได้ยินแล้ว ดวงตานั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เที๋ยนเที๋ยนพูดประโยคที่ว่า คนที่ชอบที่สุดก็คือจี้จิ่งเชิน เป็นไงครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหน้าแดง
เรื่องแบบนี้ทั้งสองคนรู้ดี แต่ถ้าหากเอ่ยพูดออกมาอย่างเป็นทางการในสถานการณ์แบบนี้ กลับไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยออกมาอย่างไร
ลองดูหลายครั้งแล้ว ก็พูดไม่ออก
จี้จิ่งเชินเอ่ยขึ้น : “เมื่อครู่นี้ไม่ใช่ว่าเที๋ยนเที๋ยนรับปากผมแล้วนี่นาว่าจะพูด? หรือว่าคิดอยากจะกลับคำแล้ว?”
“ไม่ใช่ซะหน่อย…..”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบจับมือของจี้จิ่งเชินเอาไว้แน่น พลางเอ่ยขึ้นมาอย่างมุ่งมั่น : “ฉันชอบจี้จิ่งเชิน…..”
เธอก้มหน้าลง อย่างรู้สึกอาย
“เพราะฉะนั้นอย่าให้เกิดเรื่องขึ้นแล้วทำให้ฉันกังวลอีกเลยนะคะ”
ดวงตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นเต็มไปด้วยความกังวล
สายตาของจี้จิ่งเชินนุ่มนวลเหมือนกับสายน้ำ หัวใจของเขาพังลงมา อ่อนยวบลงอย่างไม่น่าเชื่อ
เขาเอ่ยขึ้นเบาๆ : “ต่อไปจะไม่เกิดขึ้นแล้ว ขอโทษนะครับ ที่ครั้งนี้ทำให้คุณต้องกังวล”
จี้จิ่งเชินกอดเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ นึกถึงเรื่องเมื่อคืนแล้ว ก็จริงจังขึ้นมาอีกครั้ง
“คุณรู้ว่าครั้งนี้หล่อนเจียนีเป็นคนทำแล้วใช่ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าลง
“พี่ขังเธอเอาไว้ในห้องน้ำ ตอนที่พวกเราเข้าไปก็เห็นเธอค่ะ ตอนนี้ยังอยู่ในห้อง รอหลังจากหมินอันเกอมาคุยกันแล้วค่อยตัดสินใจกันอีกที”
จี้จิ่งเชินพยักหน้า แล้วหลบสายตามองต่ำลง เพื่อปกปิดแสงแห่งความดุร้ายที่อยู่ในแววตา
จากที่เขาดูแล้วนั้น ก่อนหน้านี้หล่อนเจียนีเองก็มีการข่มขู่เวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ ถ้าหากเป็นเขา คงจะไม่ยอมให้ทั้งสองคนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหล่อนต่อไปอีกอย่างแน่นอน จะเป็นการนำพาหายนะมาให้ตัวเองเสียเปล่าๆ
ตอนนี้เธอเอาความคิดมาอยู่ที่ตัวเขาเองและเวินเที๋ยนเที๋ยน หลายๆเหตุการณ์จึงเกิดขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ก็จำเป็นจะต้องชดใช้กับการกระทำของตัวเอง
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังคิดที่จะจัดการเองนั้น จี้จิ่งเชินก็จะยอมวางมือ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สนใจเลย
ถ้าหากเวินเที๋ยนเที๋ยนตัดสินใจที่จะสร้างอันตรายให้กับตัวเองนั้น จี้จิ่งเชินเองก็มีอีกเป็นร้อยวิธีที่จะเตือนหล่อนเจียนีได้เช่นกัน
จี้จิ่งเชินปลอบเธอเบาๆ
“จะไม่พักผ่อนอีกซักหน่อยจริงๆหรือครับ? คุณอยู่ข้างล่างก็คงไม่ได้พักเท่าไหร่หรอกใช่ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า
“ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะค่ะ วันนี้หลวนจื่อกับหมินอันเกอจะมา”
พูดมาถึงตรงนี้แล้วเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ขมวดคิ้วขึ้น
เธอไม่รู้ว่าควรจะบอกจี้จิ่งเชินอย่างไร ว่าหลวนจื่อเป็นคนวางยาเขา
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ว่าเป็นเพราะหลวนจื่อถูกหล่อนเจียนีหลอก ถึงได้ทำเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่สุดท้ายแล้วหลวนจื่อก็เตือนเธอได้ทันเวลา
ถ้าหากจี้จิ่งเชินรู้เข้า ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนจะเลวร้ายไปถึงระดับไหน
เมื่อคืนนี้ ท่าทางของหลวนจื่อก็รู้สึกผิดเป็นอย่างมากแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดแล้วพลางเอ่ยขึ้น : “มีบางเรื่องที่ฉันจะต้องบอกพี่ค่ะ”
“อะไรครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนก้มลงมองจี้จิ่งเชิน สุดท้ายแล้วก็ยังคงเอ่ยพูดออกไป : “ความจริงแล้วหลวนจื่อเป็นคนวางยาพี่ค่ะ”
ได้ยินแล้วจี้จิ่งเชินก็เลิกคิ้วขึ้นสูง
ก่อนหน้านี้เขาเดาเพียงแค่ว่าหล่อนเจียนีเป็นคนทำ แต่กลับไม่เข้าใจอยู่ตลอดว่าเธอมาวางยาเขาตอนไหนกันแน่
และเมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนพูดมาแบบนี้ เขาก็เข้าใจขึ้นมาทันที
อาหารเย็นเมื่อวาน หลวนจื่อทำอาหารด้วยกันกับพวกเขา
เวินเที๋ยนเที๋ยนจับมือเขาเอาไว้แน่น แล้วเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วอยู่ตลอด
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยขึ้นมาด้วยความกังวล : “หลวนจื่อถูกหล่อนเจียนีหลอก แล้วอีกอย่างตอนสุดท้ายช่วงที่สำคัญ เธอเองก็เป็นฝ่ายโทรมาบอกความจริงเองทั้งหมด ฉันถึงได้ให้คนไปช่วยพี่ออกมา”
ว่าเช่นนั้นแล้ว จี้จิ่งเชินกลับยังคงไม่ได้พูดอะไรออกมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนถอนหายใจออกมาอยู่ในใจ พลางเอ่ยขึ้น : “เมื่อคืนนี้ หมินอันเกอขอหลวนจื่อแต่งงานแล้ว ต่อไปคงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกแล้วล่ะค่ะ…….”
เวลานี้ จี้จิ่งเชินถึงได้เอ่ยพูดออกมา
“ที่ผมเป็นกังวลไม่ใช่ตัวเองหรอกนะครับ แต่เป็นคุณต่างหาก”
คำพูดของจี้จิ่งเชินนั้นเต็มไปด้วยความกังวล
ครั้งนี้หลวนจื่ออาจจะเป็นเพราะการยุยงของหล่อนเจียนี จึงวางยาในอาหารของเขา
ถ้าเช่นนั้นครั้งต่อไป ก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะเป็นเพราะอีกคนหนึ่งหลอก ก็จะเป็นภัยกับเวินเที๋ยนเที๋ยน
ความเป็นไปได้ทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นนั้น จี้จิ่งเชินจะต้องป้องกันเอาไว้ก่อน
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินประโยคนี้แล้ว จึงขมวดคิ้วขึ้นมา
“แต่……หลวนจื่อคงจะไม่เป็นแบบนี้อีกแล้วล่ะค่ะ ฉันเชื่อเธอ”
จี้จิ่งเชินจ้องมองเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่พักหนึ่ง แล้วถึงได้ถอนหายใจออกมา
“เอาล่ะครับ ในเมื่อคุณต้องการแบบนี้ บางทีครั้งต่อไปก็คงไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว”
ว่าแล้ว จี้จิ่งเชินจึงเอ่ยถามพลางยิ้มออกมา : “จะพักต่อไหมครับ? หรือว่าจะไปทานอาหารเช้า? ผมว่าพ่อบ้านคงจะสั่งให้แม่ครัวเตรียมเอาไว้แล้ว”
“ทานอาหารเช้าก่อนค่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนลุกขึ้นมานั่ง
“ตอนนี้ฉันไม่ง่วงแล้วค่ะ”
และเพิ่งจะเตรียมลงมาจากเตียงนั้น จี้จิ่งเชินก็ยกมือขึ้นมา แล้วก็อุ้มเธอขึ้นมา
“ทานอาหารเช้าก่อน แล้วค่อยพักผ่อนต่อนะครับ” จี้จิ่งเชินกล่าว
“แต่ว่าวันนี้หลวนจื่อกับหมินอันเกอพวกเขาจะมานะคะ” เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยขึ้นมาอย่างลังเล
“รอให้พวกเขามาถึงกันก่อน แล้วผมจะปลุกคุณเอง”
จี้จิ่งเชินก้าวเดินต่อไป พลางก้มหน้าลงมาเล็กน้อย แล้วประทับจูบลงบนริมฝีปากของเธอ น้ำเสียงดูหนักแน่นขึ้นมาเล็กน้อย
“ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธนะ”
“ฉัน……”
และในที่สุดเวินเที๋ยนเที๋ยนจึงพยักหน้าลง
มุมปากของจี้จิ่งเชินปรากฏรอยยิ้มขึ้น เขาอุ้มเธอแล้วเดินลงมายังด้านล่าง
ตอนที่เดินมาถึงห้องรับแขก แม่ครัวกับฉวีผิงได้เตรียมอาหารเช้าเอาไว้เรียบร้อยแล้วตามที่คิดไว้จริงๆ
เห็นทั้งสองคนเดินลงมาแล้ว ใบหน้ามีรอยยิ้มแห่งความปลื้มใจปรากฏขึ้น
“คุณผู้ชายไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหมครับ?”
“ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ” จี้จิ่งเชินว่าพลางวางตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนลงบนเก้าอี้
ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ใบหน้าที่มองทั้งสองคนด้วยความปลื้มใจของฉวีผิงนั้น จู่ๆก็นึกอะไรขึ้นมาได้ สีหน้าจึงเปลี่ยนไปในทันที
“คุณหนูครับ มีเรื่องนึงที่ผมลืมบอกคุณไป เมื่อคืนนี้ที่คุณให้ผมไปดูหลิวเหม่ยหลัน แต่ตอนที่ผมไปถึงที่นั่น กลับไม่พบหลิวเหม่ยหลันแล้วครับ”
“ในคฤหาสน์นี่หาหมดแล้วหรือยัง?”
ฉวีผิงพยักหน้าลง
“เมื่อคืนนี้มืดมาก ให้พวกเขาลองหาดูในห้องรอบนึงแล้ว วันนี้ตอนเช้าผมก็ให้พวกเขาไปหาอีกรอบนึง ถึงได้พบกล้องตรงประตู เมื่อคืนนี้ หลังจากที่หล่อนเจียนีถูกพวกเราจับตัวได้ไม่นาน เธอออกไปอย่างรีบร้อน ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วขึ้นอย่างงงๆ
หลิวเหม่ยหลันรักหล่อนเจียนีมาก ถึงแม้จะเป็นเมื่อก่อนที่หล่อนเจียนีหนีไปนั้น เธอเองก็ไม่ได้คำนึงถึงตัวเอง ให้หล่อนเจียนีซ่อนตัวอยู่ภายในห้องของตัวเองเสียอย่างนั้น
ครั้งนี้หล่อนเจียนีถูกจับตัวได้อีกครั้ง แต่เธอกลับหนีไปแล้ว?
นี่มันเรื่องอะไรกัน?