เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่790 เธอเป็นคนที่ฉันอิจฉาที่สุด
บทที่790 เธอเป็นคนที่ฉันอิจฉาที่สุด
เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่พูดอะไรนั้น ในใจของหลวนจื่อก็รู้สึกเจ็บปวด
ลองคิดดูหากเปลี่ยนเป็นตัวเอง เธอก็ไม่สามารถที่จะปล่อยไปได้เร็วขนาดนี้เช่นกัน
“เป็นความผิดของฉันเอง…..ฉันไม่ควรจะฟังคำพูดของหล่อนเจียนี ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงได้สงสัยเธอกับอันเกอ……”
“ขอโทษนะเที๋ยนเที๋ยน ขอโทษจริงๆ!”
มือทั้งสองข้างของเธอปิดหน้าเอาไว้ร้องไห้ออกมาอย่างไม่มีเสียง
เหมือนกับเด็กที่ไม่รู้จะทำอย่างไรแบบนั้น
“หลวนจื่อ ฉันไม่ได้โทษเธอหรอกนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถอนหายใจออกมา พลางเอ่ยขึ้น
“แต่ฉัน…….”
ได้ยินเวินเที๋ยนเที๋ยนยกโทษให้ เธอกลับยิ่งรู้สึกเสียใจ
“ไม่ เที๋ยนเที๋ยน เธอตีฉัน ด่าฉันก็ได้ เธอเป็นเพื่อนพี่น้องที่ดีที่สุดของฉัน ฉันไม่ควรที่จะสงสัยเธอเลย!”
เธอบีบมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนแน่น ราวกับว่ากำลังจับความหวังสุดท้ายนี้เอาไว้
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดไม่ถึงว่าปฏิกิริยาของหลวนจื่อนั้นจะดูรุนแรงขนาดนี้
“เธอใจเย็นๆก่อนนะ ตื่นเต้นมากไปมันจะไม่ดีต่อลูก”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยออกมานั้น ในใจรู้สึกเป็นกังวลยิ่งนัก
หลังจากที่หลวนจื่อตั้งครรภ์นั้นเธอผ่านเรื่องราวอุปสรรคมามากมาย ตกบันไดจนเกือบแท้ง คุณหมอบอกเอาไวตั้งแต่แรกแล้วว่าอย่าทำให้อารมณ์ของเธอนั้นตื่นเต้นหวั่นไหวมากเกินไป
“เที๋ยนเที๋ยน ฉันรู้ว่าเธอเป็นห่วงฉัน แต่ฉัน…..”
“ไม่เป็นไรนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนตัดบท พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้นมา
“เธอกำลังจะเป็นแม่คน ฉันหวังว่าเธอจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย อย่าเอาเรื่องลูกมาล้อเล่นแบบนี้ ต่อไปอย่าให้เป็นแบบนี้อีกนะ”
“เที๋ยนเที๋ยน……”
หลวนจื่อรู้สึกอึ้งไป มองแววตาที่จริงจังของเวินเที๋ยนเที๋ยน เธอรู้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้โทษเธอ
ทั้งๆที่ตัวเองอายุมากกว่าเธอแท้ๆ แต่มักจะเป็นฝ่ายที่ถูกให้อภัยอยู่เสมอ!
“ไม่ว่าจะเกิดอะไร เธอเองก็ไม่ควรจะมารออยู่ที่นี่ถึงสามวันแบบนี้ หากเกิดอะไรขึ้นกับเธอ หมินอันเกอจะทำยังไง? ฉันจะทำยังไง? ฉันยังคิดอยากจะเป็นแม่บุญธรรมของเด็กคนนี้ด้วยนะ…..”
น้ำเสียงของเวินเที๋ยนเที๋ยนดูหนักขึ้นมาบ้าง เธอรู้สึกโมโหจริงๆ โมโหที่หลวนจื่อไม่รักตัวเองแบบนี้
หลวนจื่อเม้มปาก ถึงแม้ว่าจะถูกว่า แต่ใบหน้านั้นกลับมีรอยยิ้มออกมา
เธอจับมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ “เที๋ยนเที๋ยน เธอกำลังเป็นห่วงฉันอยู่ใช่ไหม?”
“แน่นอนสิ” เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยขึ้นมาอย่างเด็ดขาด
หลวนจื่อ…..เธอจะไม่ยอมให้เกิดอันตรายอะไรขึ้นกับหลวนจื่อทั้งนั้น
“เที๋ยนเที๋ยน” ในที่สุดใบหน้าของหลวนจื่อนั้นก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา “ฉันคิดไม่ถึงจริงๆว่าเธอจะยกโทษให้ฉัน เพราะถ้าหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ก็คงไม่อยากจะเห็นแม้แต่หน้าฉันอีกด้วยซ้ำ”
“ช่วงเวลานั้น ฉันคิดแม้กระทั่งจะจากไปจริงๆ……”
จากไป?
ไม่คิดเลยว่าเธอจะคิดที่จะไปจากที่นี่!
ได้ยินแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ลุกพรวดขึ้นมา “หลวนจื่อ เธอ……”
“แต่ฉันก็แบกหน้ามาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว”
ดังนั้นจึงพูดได้ว่าเธอละทิ้งความคิดที่จะหนีไปแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้รู้สึกโล่งใจ
“ฉันไม่อยากจากไปโดยที่เอาความรู้สึกเสียใจ และความละอายใจนี้ไปด้วย ฉันอยากจะบอกเธอด้วยตัวเอง อยากจะขอโทษเธอ”
หลวนจื่อลูบท้องตัวเอง อารมณ์ทั้งหมดในแววตานั้นสงบลงแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนยกมือขึ้นมาดึงเธอเอาไว้ แววตามีความเด็ดเดี่ยวเป็นอย่างมาก
“หลวนจื่อ เธอฟังนะ ไม่ว่าจะเป็นยังไง ฉันก็จะไม่ยอมให้เธอจากไปไหนทั้งนั้น”
เวินเที๋ยนเที๋ยนออกคำสั่งกับเธอ
หลวนจื่อได้ยินแล้ว กลับมีสีหน้าท่าทางที่รู้สึกเซอร์ไพรส์ขึ้นมา “เที๋ยนเที๋ยน นี่เธอ…..ยกโทษให้ฉันแล้วใช่ไหม?”
ใบหน้าของเธอนั้นยังมีรอยน้ำตาอยู่ บวกกับอาการที่ดูเซอร์ไพรส์นี้ของเธอ ทำให้ดูตลกขึ้นมา
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับหัวเราะไม่ออก
“การยกโทษให้สำหรับเธอแล้วมันสำคัญขนาดนั้นเลยหรอ?”
“สำคัญสิ เธอเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องที่ดีที่สุดของฉันนะ!”
“ต่อไป ถ้าหากมีคนมาบอกเรื่องแบบนี้กับเธออีก ขอให้เธอเชื่อฉันนะ”
ในที่สุดเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ได้เอ่ยพูดประโยคอยากจะถามออกมา
และเวลานั้นเอง เธอก็รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก
“เที๋ยนเที๋ยน ฉันไม่เคยบอกเธอเลย ว่าในสายตาของฉัน เธอสมบูรณ์แบบมากขนาดไหน สมบูรณ์แบบจนทำให้ฉันรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ….”
หลวนจื่อมองเวินเที๋ยนเที๋ยน แววตาเต็มไปด้วยความชื่นชม
ได้ยินแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็แสดงอาการที่มีความสงสัยออกมา
สมบูรณ์แบบ?
เธอสมบูรณ์แบบตรงไหนกัน?
หลวนจื่อต่างหากที่เป็นคนที่ทำให้เธอรู้สึกอิจฉาน่ะ?
“ฉันรู้สึกว่าคำว่าสมบูรณ์แบบที่เธอเข้าใจอาจจะมีความผิดพลาดไปบ้างนะ”
เธอคิดได้เพียงแค่คำอธิบายแบบนี้อออกมา
หลวนจื่อส่ายหน้าพลางหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วเอ่ยพูดต่อ : “เธอใจดี อ่อนโยน มีน้ำใจ ไม่เหมือนกับฉัน ที่เรื่อยเฉื่อยไปวันๆ ทั้งโง่ทั้งไม่มีเหตุผล”
“ฉันรู้สึกว่า ผู้หญิงแบบเธอ ผู้ชายในโลกคงจะชอบเธอสิถึงจะถูก อันเกอสารภาพรักกับฉัน ขอฉันแต่งงาน ฉันดีใจมาก แต่ฉันเองก็กลัว ว่าจริงๆแล้วเขาจะไม่รักฉัน เป็นเพราะลูกเขาถึงได้มาคบกับฉัน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่เคยได้ยินหลวนจื่อเอ่ยพูดคำพูดแบบนี้มาก่อนเลย
เท่าที่เธอจำได้ หลวนจื่อเป็นผู้หญิงที่ร่าเริงมาโดยตลอด
เธอคิดไม่ถึงว่า หลวนจื่อเองก็จะคิดว่าตัวเองสู้คนอื่นไม่ได้แบบนี้ และมีด้านที่วิตกกังวลกับผลได้ผลเสียของตัวเองแบบนี้
บางทีหลวนจื่อคงจะรักหมินอันเกอมากจริงๆ ถึงได้สูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง และความสามารถในการแยกแยะไป
“หลวนจื่อ คำพูดพวกนี้ทำไมเธอไม่บอกฉันให้เร็วกว่านี้ ที่เธอไม่สบายใจเรื่องหมินอันเกอ เขารู้แล้วหรือยัง?”
ถ้าหากหมินอันเกอรู้ เขาจะต้องพยายามแก้ไขเปลี่ยนแปลงอารมณ์เช่นนี้ของหลวนจื่อได้อย่างแน่นอน
หลวนจื่อส่ายหน้า
เธอไม่กล้าบอกเขา ไม่กล้าบอกใครทั้งนั้น
“คนโง่ เธอควรจะบอกหมินอันเกอให้เขารู้ความลังเลในใจนี้ของเธอนะ เธอไม่ได้เป็นภาระของเขามาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว เชื่อฉันสิ เขาจะต้องจัดการเรื่องทุกอย่างได้แน่นอน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเช็ดน้ำตาที่อยู่บนใบหน้าให้เธอ
หลวนจื่อหลับตาลง คล้อยตามไปกับท่าทางนี้ นั่นแสดงให้เห็นว่าเธอเชื่อใจคนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้มาก
“ต่อไปไม่อนุญาตให้สงสัยฉันแล้วนะ ต่อให้เธอสงสัย ก็จะต้องมาถามฉันตรงๆ ได้ยินไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนดึงหน้าตึง แล้วเพื่อเป็นการสั่งสอนหลวนจื่ออย่างจริงจัง
“รู้แล้วค่ะ คุณครูเที๋ยนเที๋ยน”
หลวนจื่อยิ้มออกมาในที่สุด
เวินเที๋ยนเที๋ยนจูงมือหลวนจื่อออกมาจากห้องพักผ่อน เคอเหยียนลรุ่ยที่รออยู่นานนั้นรีบเดินเข้ามา
“ดูแล้วทั้งสองคนคงจะเข้าใจกันแล้วสินะ ดีใจด้วย!”
สายตาของเคอเหยียนรุ่ยมองไปยังมือของพวกเธอสองคนที่กับจับกันเอาไว้
เวินเที๋ยนเที๋ยนและหลวนจื่อสบตากันแวบหนึ่ง แล้วหัวเราะออกมา
“ตามที่นายได้ยินแหล่ะ” เวินเที๋ยนเที๋ยนหันมาเอ่ยพูดกับเคอเหยียนรุ่ย “ควรจะต้องลองชุดแต่งงานแล้ว เลยเวลามานานแล้วนะ”
“เที๋ยนเที๋ยน ไม่ใช่แล้วมั้งเธอน่ะ? ยังไม่แต่งงานเลยเธอก็รีบขนาดนี้แล้ว! ต่อไปถ้าจะนัดเธอออกมานี่คงจะยากขึ้นกว่าเดิมอีกสินะ?”
หลวนจื่อมองเธออย่างไม่อยากจะเชื่อ เหมือนกับกำลังมองสัตว์ที่กำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างไรอย่างนั้น
“ฉันเองก็ไม่อยากจะรีบหรอกนะ…..” เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยขึ้นเบาๆ
หลวนจื่อกระพริบตา “ตอนนี้คนที่จะแต่งงาน ใครบ้างที่ไม่ได้อยู่ด้วยตัวเองน่ะ?”
“แล้วเธอกับหมินอันเกอล่ะ?”
ได้ยินแล้ว ใบหน้าของหลวนจื่อก็แดงขึ้นมา
“หลังจากที่เราแต่งงานกันแล้ว เขาเองก็อาจจะยุ่งงานของเขาน่ะ…….”
เหมือนงานของพวกเขา เป็นเหมือนโลกของคนสองคน เกรงว่าจะไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
“ตอนนี้การสื่อสารก็พัฒนาไปไกลขนาดนี้แล้ว ต่อให้พวกเธออยู่กันคนละฝั่งของมหาสมุทร ก็วิดีโอคอลหากันได้ แล้วอีกอย่าง ดาราก็มีเวลาพักผ่อน แบบนี้แทบไม่ต่างจากพวกคู่แต่งงานใหม่ๆได้เลยนะ ต่อไปทุกๆครั้งที่พวกเธอได้เจอกันก็จะหวานชื่นกันเหมือนกับคู่แต่งงานใหม่ๆยังไงล่ะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดปลอบใจหลวนจื่อ
เธอเองก็มองออก ว่าหลวนจื่อนั้นเป็นกังวลเรื่องของหมินอันเกอมากจริงๆ