เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่831 ทางที่ดีที่สุดบอกกับฉันมาว่าเธอไม่เป็นอะไร
บทที่831 ทางที่ดีที่สุดบอกกับฉันมาว่าเธอไม่เป็นอะไร
“ก๊อก ก๊อก!”
มือที่ถือปากกาของจี้จิ่งเชินอยู่ชะงักไป พลางเอ่ยขึ้นอย่างเคร่งขรึม : “เข้ามา”
จงหลีเปิดประตู แล้วเอ่ยขึ้นเตือนจี้จิ่งเชิน “ประธานจี้ครับ ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้วครับ”
จี้จิ่งเชินมองดูเวลา ช่องระหว่างคิ้วกลับยิ่งดูลึกขึ้น
เขาส่งสัญญาณมือให้จงหลีออกไป
จงหลีไม่กล้าเอ่ยพูดอะไรมาก การตัดสินใจของจี้จิ่งเชิน พวกเขาที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชามีแต่จะต้องปฏิบัติตาม
“เดี๋ยวก่อน!”
เสียงของจี้จิ่งเชินดังขึ้นจากทางด้านหลัง จงหลีจึงชะงักเท้าลงในทันที
“หาตัวเวินหงไห่เจอแล้วหรือยัง?”
เขาเอ่ยถาม เรื่องนี้ตั้งแต่ก่อนหน้าที่จะไปเกาะที่ไม่มีคนอยู่ เขาก็ได้ออกคำสั่งไปแล้ว
แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย
จงหลีส่ายหน้า “ไม่เจอเลยครับ แต่ผมรู้สึกว่า……”
เขาลังเลอยู่พักหนึ่ง ราวกับไม่รู้ว่าควรจะพูดต่อดีหรือเปล่า
“ว่ามา”
ริมฝีปากบางของจี้จิ่งเชินยกขึ้น พลางสั่ง
“ครับ ผมรู้สึกว่า อาจจะมีคนก่อกวนทิศทางการสืบสวนอยู่เบื้องหลังของพวกเราน่ะครับ”
การคาดเดาของจงหลีนั้นไม่มีหลักฐาน
หลายๆครั้ง พวกเขาได้รับข่าวแล้วพบร่องรอยการใช้ชีวิตของเวินหงไห่อยู่ที่นั่นมากมาย
แต่ทุกครั้งก็จะจับตัวมาไม่ได้เลย
เห็นได้ชัดว่ามีคนแอบส่งข่าวก่อน หรือมีคนตั้งใจที่จะกระจายข่าวให้ช้าลง
“ฉันรู้แล้วล่ะ”
จี้จิ่งเชินมีสีหน้าที่เคร่งขรึม “ตามหาร่องรอยของเวินหงไห่ต่อไป หาจนกว่าจะเจอ ลงไปได้แล้ว”
“ครับ”
หลังจากที่จงหลีออกไปแล้วนั้น จี้จิ่งเชินก็ลูบแหวนบนมือไปมาอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า
ไม่รู้ทำไม เขาถึงได้รู้สึกไม่สบายใจแบบนี้
เขาลังเลอยู่พักหนึ่ง แล้วส่งข้อความไปหาเวินเที๋ยนเที๋ยนฉบับหนึ่ง : ผมแทบจะรอสิ่งที่คุณเตรียมจะเซอร์ไพรส์ผมไม่ไหวแล้วนะครับ
มองดูข้อความที่ส่งออกไปสำเร็จแล้วนั้น รออยู่พักหนึ่งกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเลยเสียอย่างนั้น
หรือว่ากำลังคุยอยู่กับหลวนจื่อ แล้วไม่ทันได้สังเกตกัน?
ถึงช่วงเย็น จี้จิ่งเชินเสร็จสิ้นการประชุมรับซื้อกิจการที่ผิดปกติแล้วนั้น เขาเปิดโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู แต่กลับยังคงไม่เห็นการตอบกลับของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เกิดอะไรขึ้น?
ในใจของจี้จิ่งเชินนั้นรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาในทันที รู้สึกเหมือนกับว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เขาโทรหาหลวนจื่อและคนขับรถ ก็ไม่มีคนรับ
ถึงแม้ว่าจี้จิ่งเชินจะสั่งกับคนขับรถเอาไว้ ให้เขารอเวินเที๋ยนเที๋ยน แต่ก็บอกเขาด้วยเช่นกันว่าโทรศัพท์มือถือจะต้องติดต่อได้อยู่ตลอด24ชั่วโมง
ผิดปกติ!
เขารีบโทรไปหาหมินอันเกอ
“เที๋ยนเที๋ยนล่ะ?”
เขาเอ่ยถามเข้าประเด็น
หมินอันเกอได้ยินแล้วกลับรู้สึกงุนงง
“เที๋ยนเที๋ยน? เธอไม่อยู่ที่บริษัทหรือ?”
จี้จิ่งเชินได้ยินแล้วนั้นก็ยิ่งเอ่ยพูดขึ้นอย่างลนลาน : “ก่อนหน้านี้เธอบอกผมว่าจะไปหาหลวนจื่อ”
“ผมขอให้เที๋ยนเที๋ยนไปหาหลวนจื่อจริงๆ แต่วันนี้ผมไม่เห็นเธอนะ ผมอยู่ที่บ้านตลอด ผมคิดว่าพรุ่งนี้เธอถึงจะ…….”
ไม่รอให้เขาพูดจบ หัวใจของจี้จิ่งเชินนั้นก็ร่วงหล่นลงมาทันที!
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ความหวาดกลัวในใจนี้แทบจะกลืนกินเขาเข้าไปแล้ว!
เที๋ยนเที๋ยนจะต้องเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน!
เขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้อีกแล้ว ก้าวท้าวเดินไปที่โรงจอดรถอย่างรวดเร็ว แล้วขับตามทางจากบริษัทตระกูลหล่อนไปยังบ้านของหลวนจื่อ
แต่ผู้จัดการหยางกลับบอกเขาว่า เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ออกไปสองชั่วโมงก่อนหน้านี้แล้ว
แม้กระทั่งยังให้คนไปซื้อกระเช้าผลไม้ เพื่อเตรียมที่จะไปหาหลวนจื่ออีกด้วย
จี้จิ่งเชินหน้าซีด แล้วเหยียบคันเร่งมุ่งตรงไปยังทิศทางบ้านของหลวนจื่อ
ขับไปได้ครึ่งทาง จู่ๆกลับเห็นรถคันหนึ่งจอดอยู่ตรงข้างทาง
ทะเบียนรถคุ้นตาเป็นอย่างมาก
จี้จิ่งเชินลงจากรถ แล้วพบว่ารถคันนี้เป็นรถของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั่นเอง!
เขารีบเดินเข้าไป แล้วเปิดประตูรถ ก็เจอกระเป๋าของเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ด้านใน!
“คนล่ะ? ไปหาตัวมา!”
จี้จิ่เชินสั่งด้วยน้ำเสียงที่หนักหน่วง จับโทรศัพท์มือถือของเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ ในใจนั้นเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัว
และไม่นาน บอร์ดี้การ์ดก็เจอตัวคนขับรถที่หมดสติอยู่ตรงทางเปลี่ยวนั้น
บอร์ดี้การ์ดรีบเรียกคนขับรถที่หมดสติให้ตื่นขึ้นมา
“เวินเที๋ยนเที๋ยนล่ะ? ทางที่ดีที่สุดบอกกับฉันมาว่าเธอไม่เป็นอะไร!” จี้จิ่งเชินกัดฟันถาม แววตานั้นเยือกเย็นเข้ากระดูก
จี้จิ่งเชินเห็นเหตุการณ์นี้แล้ว ในใจเขานั้นก็รู้ดีว่าจะต้องเกิดเรื่องขึ้นกับเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างแน่นอน
แต่เขาก็ยังคงมีความหวัง
แม้กระทั่งอธิษฐานภาวนา ว่าทุกอย่างนี้เป็นเพียงแค่การตกใจไปเองเท่านั้น
เมื่อคนขับรถเห็นเขาแล้ว ก็ตกใจจนตัวสั่นไปทั้งร่างกาย และสีหน้าเปลี่ยน
“ประธานจี้ครับ มาได้ครึ่งทางยางล้อรถก็ระเบิด ผมเลยลงจากรถมาเช็คดู และตอนที่กำลังจะเรียกคนให้มาซ่อม ก็ถูกตีจนสลบไป ส่วนเรื่องอื่นผมก็ไม่ทราบแล้วครับ…..คุณนายคงจะ…..”
ตุบ!
ยังพูดไม่ทันจบ จี้จิ่งเชินก็ยกมือขึ้น แล้วเหวี่ยงหมัดไปที่ต้นไม้ ทำให้ทุกคนตกใจจนพากันเงียบไปหมด
บอร์ดี้การ์ดตรวจสอบสภาพเส้นทาง และยางล้อรถที่เสียหาย
“บนถนนเส้นนี้มีตะปูกระจัดกระจายอยู่แบบนี้ สามารถมั่นใจได้ว่ามีต้องมีคนทำอย่างแน่นอนครับ”
นั่นก็หมายความว่า ตะปูพวกนี้มีคนตั้งใจที่จะเอามาโยนทิ้งไว้ตรงนี้
เป้าหมายก็คือต้องการพาตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนไป!
คิดเช่นนี้แล้ว ดวงตาของจี้จิ่งเชินก็มืดมนลงในทันที
ความเยือกเย็นที่แพร่กระจายออกมารอบๆตัวของเขา ทำให้คนขับรถที่ขี้ขลาดนี้สั่นเทาอย่างต่อเนื่อง
“หา เบาะแสร่องรอยอะไรก็อย่าให้พลาดไปได้แม้แต่นิดเดียว!”
จี้จิ่งเชินกัดฟันออกคำสั่ง น้ำเสียงของเขาสั่นเทา
เวินเที๋ยนเที๋ยน คุณจะเป็นอะไรไปไม่ได้นะ!
ผมยังรอเซอร์ไพรส์จากคุณอยู่นะ…..
เขาภาวนาอยู่ในใจนับครั้งไม่ถ้วน
ใครกล้ามาทำร้ายภรรยาของเขา เขาจะต้องทำให้คนๆนั้นชดใช้ให้ถึงที่สุด!
จะไม่ยอมปล่อยไปอย่างเด็ดขาด!
“คุณจี้ครับ พบตรงจุดนี้ครับ!”
บอร์ดี้การ์ดชี้ร่องรอยเบาะแสที่พวกเขาตรวจสอบเจอให้จี้จิ่งเชินดู
“นี่คงเป็นรอยเท้าและรอยล้อรถของคนที่ลักพาตัวคุณนายจี้ไป เนื่องจากว่าที่นี่ห่างจากถนนเส้นหลักค่อนข้างไกล จะมีคนมาจอดรถอยู่ที่นี่น้อยมากครับ”
จี้จิ่งเชินมองดูลักษณะพื้นของที่นี่อย่างละเอียด รอบๆมีต้นไม้ปกคลุม พื้นดินก็ขรุขระไม่เรียบอีกด้วย
ลงจากรถที่นี่ก็เพื่อดักซุ่มก่อนล่วงหน้า ก็จะต้องมีการอำพรางไว้จริงๆ
“ผมนึกออกแล้วครับ” แล้วจู่ๆคนขับรถก็ตีตรงหน้าผากของตัวเองขึ้นมา “คุณจี้ครับ จากบริษัทตระกูลหล่อนมาที่นี่ยังมีเส้นทางเล็กๆอีกเส้นนึงครับ”
จี้จิ่งเชินเหลือบมองเขา ส่งสัญญาบอกให้เขาพูดในสิ่งที่เขารู้ออกมาให้หมด
แน่นอนว่าคนขับรถไม่กล้าปิดบังเลยแม้แต่นิดเดียวอยู่แล้ว “เส้นทางเล็กๆนี้เปิดเอาไว้ให้สำหรับขึ้นไปบนเนินเขา หลังจากนั้นก็อ้อมมาจากทางด้านบน แต่เส้นทางนี้ลาดชันมาก ความสั่นสะเทือนบนทางนั้นก็ยังอันตรายมากอีกด้วย ผมก็เลยไม่ได้เลือกเส้นทางนี้ครับ”
“ถ้าหากไปทางถนนเส้นเล็กนี้ สามารถไปถึงบ้านหลวนจื่อได้ก่อนพวกนายไหม?”
แล้วจู่ๆจี้จิ่งเชินก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงเอ่ยถามขึ้น
“ได้ครับ” คนขับรถพยักหน้า “เส้นทางเล็กนี้ไม่ต้องผ่านไฟแดงเลย แล้วก็ไม่จำกัดความเร็วด้วยครับ ถึงแม้ว่าจะออกมาช้ากว่าพวกผม ก็สามารถจะถึงที่นี่ก่อนหน้าพวกเราได้”
จี้จิ่งเชินจ้องมองไปที่รอยล้อรถนั้นพลางครุ่นคิด
เรื่องที่เวินเที๋ยนเที๋ยนตัดสินใจไปบ้านของหลวนจื่อนั้น คนที่รู้เรื่องนั้นมีไม่มาก เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะพูดเรื่องนี้ออกไป คนขับรถเองก็คงไม่พูดเช่นกัน
ส่วนหมินอันเกอนั้น เขาไม่ได้รู้สึกสงสัยหมินอันเกอเป็นการชั่วคราว
โดยพื้นฐานแล้วก็สามารถตัดความเป็นไปได้ที่ข่าวนี้จะรั่วไหลออกไปได้
ถ้าหากไม่ใช่เป็นเพราะข่าวรั่วไหลออกไปนั้น ก็อีกหนึ่งความเป็นไปได้ก็คือมีคนสะกดรอยตามนั่นเอง
คนที่สะกดรอยตามนั้นติดตามเส้นทางที่คนขับรถขับมา คาดเดาไว้ก่อนล่วงหน้าถึงทิศทางที่เวินเที๋ยนเที๋ยนจะไป
หลังจากนั้นก็ดำเนินการสกัดหน้าและลักพาเธอตัวไป
สามารถทำจุดนี้ได้ จะต้องเป็นคนที่คุ้นเคยกับเรื่องมนุษยสัมพันธ์ของเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างแน่นอน
เขารู้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนกับหลวนจื่อเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แล้วก็รู้ว่าบ้านของหลวนจื่ออยู่ที่ไหนอีกด้วยเช่นกัน
จะต้องเป็นคนรู้จักที่ทำแต่เรื่องผิดกฎหมายแน่ๆ!
จี้จิ่งเชินนึกถึงคนหนึ่ง นอกจากเธอแล้ว เขาก็นึกไม่ออกแล้วว่าจะมีใครที่สอดคล้องกับเงื่อนไขอีก คนที่จะใช้ทุกวิถีทางเพื่อต้องการให้เวินเที๋ยนเที๋ยนใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุข
“ไปตระกูลหล่อน!”
เขาหันหลังแล้วเดินไปที่รถอย่างรวดเร็ว