เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่832 เป็นคุณที่ลักพาตัวฉัน
บทที่832 เป็นคุณที่ลักพาตัวฉัน
บริเวณรอบๆมืดสนิท ยื่นมือออกไปไม่เห็นแม้แต่นิ้วมือ เหมือนกับอยู่ในเหวลึกอย่างไรอย่างนั้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังได้สติอยู่ ก็ยังคงตกอยู่ในฝันร้ายที่ลึกมากขึ้นไปกว่าเดิมอีกครั้ง
เธอรู้สึกถึงความเจ็บแปลบตรงหัวไหล่ของตัวเอง
แต่นอกจากนี้แล้ว การมองเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น ทั้งหมดนี้ล้วนแต่ถูกกีดกันเอาไว้อย่างไร้ความปรานี
แม้แต่จะขยับก็ยังเป็นการคาดหวังที่มากเกินไปเสียด้วยซ้ำ
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่สามารถขยับตัวได้ ถึงแม้จะมองไม่เห็นอะไร แต่เธอก็รู้สึกได้ว่ามือทั้งสองข้างของตัวเองนั้นถูกมัดเอาไว้ข้างหลัง
ความทรงจำสุดท้ายที่อยู่ในหัวนั้นหยุดอยู่ตรงภาพที่เธอเดินลงมาจากรถ
แต่เธอไม่เข้าใจ ว่าใครที่คิดอยากจะลักพาตัวเธอกันแน่?
รถที่เดินทางมาครึ่งทางแล้วถูกตะปูเจาะยางจนระเบิด เห็นได้ชัดว่ามีคนจัดการทุกอย่างบนถนนเส้นนั้นเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
สามารถทำถึงขั้นนี้ได้ จะต้องรู้แหล่งที่เดินทางของเธอทะลุปรุโปร่งอย่างแน่นอน
ลักพาตัวเธอมาทำอะไร?
ขู่เอาเงิน? หรือมีเจตนาอย่างอื่น?
ความคิดของเวินเที๋ยนเที๋ยนดูว้าวุ่น ความมืดที่นำพาความหวาดกลัวมาให้เธอนี้ทำให้เธอยิ่งรู้สึกเครียดมากขึ้นไปกว่าเดิม
ไม่รู้ว่าจี้จิ่งเชินจะรู้แล้วหรือยังว่าเธอถูกลักพาตัวมา แล้วก็ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นห่วงหรือเปล่า……
เรื่องพวกนี้ เธอไม่สามารถคาดเดาทุกอย่างได้เลย
และเวลานี้เอง จู่ๆก็มีเสียงเปิดประตูเหล็กดังขึ้นมา
แสงส่องเข้ามาผ่านทางช่องของประตูเหล็ก ถึงแม้แสงจะยังคงมืดสลัวอยู่มาก แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนที่ตกอยู่ในความมืดมาเป็นเวลานานก็ยังคงถูกแสงนั้นแยงตาจนต้องหลับตาอยู่
มีคนเดินเข้ามาท่ามกลางแสงสว่างนั้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว แล้วเพ่งมองอย่างละเอียด……
“เวินหงไห่?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยชื่อเขาออกมาทีละคำ “เป็นคุณนั่นเองที่ลักพาตัวฉัน?”
เวินหงไห่ที่หายตัวไปตลอด ไม่คิดเลยว่าจะมาปรากฏตัวอยู่ในตอนนี้!
เงานั้นชะงักไป
“ฉันเอง”
เขาหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วเดินมาอยู่ตรงหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน แสร้งทำเป็นยิ้มออกมา
“ไม่คิดไม่ฝันเลยใช่ไหมล่ะ? หลานสาวของฉัน ตอนที่เธอผลักตระกูลเวินให้ตกเหวลึกด้วยมือของเธอเอง ตอนที่ทำร้ายตระกูลของฉัน ไม่รู้ว่าเคยนึกถึงวันนี้บ้างหรือเปล่า?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรับรู้ได้ถึงความอาฆาตแค้นในแววตาของเขา ถอยหลังไปด้วยความหวาดกลัว แต่กลับถูกเชือกมัดเอาไว้
ท่าทางของเวินหงไห่เวลานี้นั้นแตกต่างกับเมื่อก่อนราวกับเป็นคนละคน รอบๆเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความสิ้นหวัง และแววตาที่มีแต่ความเกลียดแค้น
ใบหน้าที่ผอมแห้งดูตกอยู่ในที่นั่งลำบาก ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ราวกับแก่ลงไปอีกเป็นสิบๆปี
เขาสวมใส่เสื้อผ้าที่เขาไม่เคยคิดจะแตะต้องเลยมาก่อน
“เวินหงไห่ คุณบ้าไปแล้ว! รีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!”
เธออดทนกับความหวาดกลัวที่อัดแน่นเต็มอยู่ในใจเอาไว้ แล้วด่าว่าเขาด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ
“เหอะ”
เวินหงไห่ส่งเสียงออกมาอย่างไม่พอใจ แล้วจู่ๆก็เปิดไฟในโกดังขึ้น
ทั้งโกดังนั้นสว่างขึ้นมาราวกับช่วงเวลากลางวันในทันที
ดวงตาคู่นั้นที่ไม่ได้รับแสงมาเป็นเวลานาน เกิดความรู้สึกแสบตาอย่างรุนแรงทันทีจากแสงไฟนี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนหลับตาลงอย่างไม่รู้ตัว แล้วเอียงศีรษะไปอีกทางด้านหนึ่ง
แต่กลับถูกมือหยาบคู่นั้นบีบคอเอาไว้
“เวินเที๋ยนเที๋ยน ฉันอยากจะฆ่าเธอซะตอนนี้เลย น่าเสียดาย ที่เธอยังมีประโยชน์กับฉันอยู่บ้าง”
“เธอควรจะดีใจนะ ที่เธอยังมีประโยชน์มีค่าอยู่ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ตอนนี้เธอก็คงกลายเป็นศพไปแล้ว”
น้ำเสียงที่ดุดันของเขาดังเข้ามาในแก้วหูของเวินเที๋ยนเที๋ยน เหมือนกับลมหนาวที่ฝังเข้ากระดูกผ่านเข้ามาทางปกคอเสื้อเธอ
ทำให้เธอรู้สึกขนลุกขนพองไปหมดเสียอย่างนั้น
เธอไม่สงสัยเลย ผู้ชายคนนี้จะฆ่าเธออย่างที่เขาพูดออกมาแบบนั้นได้อยู่แล้ว เพียงแค่เธอไม่มีผลประโยชน์ใดๆ
น่ากลัวเกินไปแล้ว…..
“คุณไม่กลัวว่าจะถูกจับได้หรือ? จี้จิ่งเชินจะต้องเจอตัวคุณแน่”
เวินเที๋ยนเที๋ยนอดทนกับความรู้สึกที่หายใจได้ยากลำบากอย่างรุนแรงนี้เอาไว้ แล้วลองพูดให้เขาล้มเลิกความคิดนี้
แต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะของเวินหงไห่ดังขึ้นมา
“เธอรู้รึเปล่าว่าช่วงเวลานี้ฉันผ่านมันมาได้ยังไง?”
เวินหงไห่ดึงมือกลับ อากาศที่สกปรกในปริมาณมากนี้เข้าไปในปอด แต่กลับทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกเหมือนกับได้ชีวิตใหม่
ถูกเขาบีบต่ออีกสักพัก เธอจะต้องหายใจไม่ออกจนตายไปจริงๆแล้ว
ความตายอยู่ใกล้เธอขนาดนั้น แต่เธอยังไม่ทันจะได้นึกกลัวในภายหลังเลยนั้น ก็ได้ยินเวินหงไห่กัดฟันเอ่ยพูดขึ้นเสียก่อน : “ทุกๆวัน ฉันอยู่ด้วยความกังวลหวาดกลัว กลัวว่าไอ้เด็กจี้จิ่งเชินนั่นจะจับตัวฉันได้ กลัวว่าที่ที่ฉันอยู่จะถูกเปิดเผย”
“ฉันจะบอกเธอให้นะ วันที่ฉันเอาแต่คอยหลบซ่อนอยู่แบบนี้ ฉันเบื่อแล้ว!”
“ฉันเบื่อกับการที่จะต้องมาแย่งที่อยู่กับพวกหนูพวกแมลงสาบตลอดทั้งวัน ฉันเบื่อกับการที่ต้องมาทนฝืนยืดลมหายใจเฮือกสุดท้ายในโกดังมืดๆไม่เห็นเดือนเห็นตะวันแบบนี้!”
แววตาร้ายๆของเวินหงไห่จ้องมองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยน ใบหน้าที่แสดงความโหดร้ายของเขานั้นทำให้รู้สึกกลัว
บุคคลนี้เสียสติไปแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนรับรู้ถึงจุดนี้อย่างชัดเจน
ดังนั้นจึงไม่ได้ยั่วให้เขาโมโห เพียงแต่เม้มริมฝีปากไว้แน่น แล้วมองดูเขาระบายอารมณ์ออกมา
“ทำไมเธอไม่พูดอะไรออกมาล่ะ? เวินเที๋ยนเที๋ยน ที่ฉันเป็นแบบนี้ก็เพราะเธอ!”
ได้ยินแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงขมวดคิ้วขึ้นพลางเอ่ย : “ฉันเพียงแค่ทำในสิ่งที่ฉันควรทำเท่านั้น”
“สิ่งที่เธอควรทำ?” เวินหงไห่หัวเราะออกมาเสียงดังราวกับว่าได้ยินเรื่องตลกอย่างไรอย่างนั้น
“เวินเที๋ยนเที๋ยน เธอนี่เก่งมากเลยนะ สามารถทำลายบริษัทเวินซื่อกรุ้ปได้ และยังได้บริษัทตระกูลหล่อนมาครองอีก แม้แต่ไอ้เด็กนั่นของตระกูลจี้ก็หลงเธอ และแม้แต่ปู่ของตัวเอง ก็ต้องตายเพราะเธอ!”
เวินหงไห่ส่งเสียงจุ๊ๆออกมาเบาๆ น้ำเสียงไม่ได้ชื่นชม แต่เป็นการเหน็บแนมประชดประชันเธอมากกว่า
“แต่ต่อให้เธอจะเก่งขนาดนี้ ตอนนี้ก็ไม่ใช่ว่าตกมาอยู่ในกำมือของฉันแล้วรึไง?”
สังเกตเห็นมาจนถึงตรงจุดนี้แล้ว ในที่สุดเวินเที๋ยนเที๋ยนจึงอดที่จะถามออกมาไม่ได้ : “คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?”
พยายามหนี แต่กลับลักพาตัวเธอมาไว้ที่นี่
แบบนี้จะทำให้เขายิ่งถูกเจอตัวได้เร็วยิ่งขึ้น
อีกทั้งเวินหงไห่ก็เป็นคนพูดเอง ว่าเธอยังมีประโยชน์กับเขา
เพราะฉะนั้นแล้ว เวินหงไห่คิดจะหลอกใช้ให้เธอทำอะไร?
เวินหงไห่บีบใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยน ให้เธอเงยหน้าขึ้นมา แววตาที่ร้ายกาจนั้นมองอยู่ที่ใบหน้าของเธอ
“ฉันแค่อยากจะดูว่าเพื่อเธอแล้ว จี้จิ่งเชินจะทุ่มเทขนาดไหนเท่านั้นเอง ชีวิตของเธอหรือว่าชีวิตของตัวเอง มันจะเลือกยังไง?”
เวินเที๋ยนเที๋ยเบิกตาขึ้นมาด้วยความตกใจทันที
“คุณมันเลว!”
เวินหงไห่ยกมุมปากแล้วหัวเราะขึ้นมา
“ไม่ใช่ว่าฉันก็เรียนมาจากเธอรึไง?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนดิ้น เพื่อสะบัดมือของเขาออก
“เป็นผลกรรมจากสิ่งที่คุณทำไว้ต่างหาก! ไม่ว่าจะเป็นกิจการของตระกูลเวิน หรือว่าเหยาเย้น เป็นคุณ……อุบ!”
ยังไม่ได้พูดจบ เวินหงไห่ก็ยกฝ่ามือขึ้นมาแล้วเหวี่ยงลงบนใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เพียะ!
แรงตบจากฝ่ามือนี้นับว่าแรงมาก เธอรู้สึกว่าใบหน้าครึ่งหนึ่งของตัวเองนั้นไม่รู้สึกอะไรแล้ว ในหัวนั้นตื้อไปหมด
“นังผู้หญิงสารเลว มีสิทธิอะไรมาสั่งสอนฉัน? ถ้าไม่ใช่เพราะเธอยุยงส่งเสริม เหยาเย้นจะกล้าหย่ากับฉันหรือ?”
เขาจ้องเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างเกลียดชัง แววตานั้นเยือกเย็นราวกับงูพิษ
“แม้แต่ตระกูลและปู่ของตัวเองก็ยังทรยศได้ เวินเที๋ยนเที๋ยนเธอนี่มันเลือดเย็นจริงๆเลยนะ ตอนนั้นไม่ควรพาเธอกลับมาเลย! เธอต่างหากที่เป็นตัวการเรื่องชั่วๆทั้งหมดนี่น่ะ!”
เขาร้องตะโกนออกมาอย่างคนเป็นโรคประสาท ชูมือโบกไปมาราวกับคนบ้าอย่างไรอย่างนั้น
ถ้าหากว่าเขาไม่ได้หาผลประโยชน์ส่วนตัวจากบริษัทเวินซื่อกรุ้ป ถ้าหากไม่ใช่ความรุนแรงของตระกูลเขา เขาจะมาอยู่ตรงจุดนี้ได้อย่างไร?
เขาไม่รู้จักทบทวนตัวเอง แต่กลับบีบบังคับให้เหยาเย้นกับหมิงเฮ่ากลับมาอยู่ข้างๆเขา
“พวกเขาไม่ตกลงหรอก ฉันจะไม่ยอมให้เหยาเย้นกับหมิงเฮ่าต้องมาเปลี่ยนตัวกับฉัน แล้วก็จี้จิ่งเชินอีก……”
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนนึกถึงบุคคลนั้น ก็ลังเลขึ้นมา หลังจากนั้นพักหนึ่ง ถึงได้เอ่ยพูดขึ้นมาอย่างแน่วแน่ : “เขาเองก็ไม่ยอมเหมือนกัน!”