เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่840 ช่วยเธอ!
บทที่840 ช่วยเธอ!
“เหยาเย้น คุณบ้าไปแล้วใช่ไหม?”
เหยาเย้นเงียบ เพียงแต่ในมือนั้นกำลังถือปืนอยู่ ไม่ได้วางลง
เวินหงไห่รีบเกลี้ยกล่อมเธอ : “เหยาเย้น ฟังผมนะ รีบวางปืนลง อย่าทำให้ลูกตกใจ”
“กลัวลูกตกใจ คุณยังจะลักพาตัวเที๋ยนเที๋ยนมาอีกเนี่ยนะ? เวินหงไห่ คุณนี่มันแย่จริงๆ!”
เธอเอ่ยพูดอย่างเย็นชา
เวินหงไห่หันมามองเหยาเย้นที่ยกปืนขึ้นมาอย่างอึ้งๆ
เขาไม่เคยคิดเลย ว่าผู้หญิงที่น่ารังแกและเคยอ่อนแอคนนี้ จะกล้ายกปืนขึ้นมาใส่เขาแบบนี้
“คุณรีบวางปืนลงซะ ใครที่ทำให้คุณกล้าขนาดนี้ ไม่คิดว่าจะกล้าขู่ผม…..”
แต่เหยาเย้นนั้นกลับส่ายหน้า
“เวินหงไห่ ตอนนี้คุณยังคิดว่ายังสามารถทำให้ฉันตกใจได้อีกอย่างนั้นหรือ? คุณอย่าลืมนะ ว่าตอนนั้นคุณทำอย่างไรกับฉัน!”
เพียงแค่เหยาเย้นนึกถึงความทรงจำสีเลือดเหล่านั้น ก็กัดฟันด้วยความแค้น
เธอขี้ขลาด แต่เมื่อกระต่ายถูกบีบเข้าก็กัดคนได้เช่นกัน!
และยิ่งไปกว่านั้น เขาลักพาตัวเพื่อนสนิทของเธอมา และยังคิดที่จะแย่งสิ่งที่สำคัญที่สุดของเธอไปอีก!
เวินหงไห่สีหน้าเปลี่ยน คิดไม่ถึงว่าเหยาเย้นที่อ่อนแอมาตลอดจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ จึงรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที
เขาอดที่จะก้าวถอยหลังไปไม่ได้
“ใช่ ผมทำผิดกับคุณ คุณวางปืนลงก่อน แล้วมาคุยกันดีๆนะ!”
เวินหงไห่รีบพูดเกลี้ยกล่อม ถูกปากกระบอกปืนจ่ออยู่แบบนี้ เขาเองก็อดที่จะรู้สึกลนลานขึ้นมาไม่ได้
“คุณปล่อยตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนมาก่อน” เหยาเย้นเอ่ยพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา : “ไม่อย่างนั้น ฉันก็จะลั่นไกปืนอย่างไม่ลังเล”
แววตาที่ตัดเยื่อใยของเธอทำให้เวินหงไห่รู้สึกตกใจและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เวินหงไห่หัวเราะ พลางพูดเกลี้ยกล่อม : “คุณไม่ลั่นไกปืนหรอกใช่ไหม? ถ้าหากผมตาย คุณก็จะถูกจับ ถึงตอนนั้นหมิงเฮ่า…..”
“ฉันไม่แคร์!” เหยาเย้นตัดบทเขาอย่างเฉียบขาด “เพียงแค่ฉันนึกไปถึงเรื่องเมื่อก่อน ก็แทบอยากจะเอามีดเป็นหมื่นเป็นพันเล่มมาเชือดคุณให้ตายแล้ว!”
เธอเอ่ยพูดไปพลาง แล้วค่อยๆกดไกปืนลง…..
เวินหงไห่ตกใจจนสีหน้าเปลี่ยน
“เดี๋ยวก่อน!”
“เหยาเย้น คุณเอาปืนมาให้ผมดีไหม ผมรับประกันว่าจะไม่ทำร้ายคุณกับลูก!”
เวินหงไห่พยายามหลอกเอาปืนมา เพียงแค่เขาเป็นฝ่ายควบคุมพวกเขาได้ เขาก็จะปลอดภัย
เหยาเย้นหัวเราะเยาะ แล้วดึงเวินหมิงเฮ่าให้ถอยไปอยู่ทางด้านหลัง
“หมิงเฮ่า พ่อเป็นพ่อของลูกนะ!”
สายตาที่อ้อนวอนของเขามองไปยังลูกชายของตัวเอง
“พ่อไม่ใช่พ่อของผม พ่อลักพาตัวพี่เที๋ยนเที๋ยน พ่อเป็นคนไม่ดี!”
เวินหมิงเฮ่าชี้เขาพลางเอ่ยฟ้องขึ้นมา แววตานั้นเต็มไปด้วยความโกรธและน้ำตา
เหยาเย้นกอดเวินหมิงเฮ่าเอาไว้ และคนของจี้จิ่งเชินก็เข้ามาจับตัวเวินหงไห่เอาไว้
“เหยาเย้น คุณมันผู้หญิงสารเลว กรรมจะตามสนองคุณ!”
เวินหงไห่โมโห!
“กรรมตามสนองฉันแล้ว” เหยาเย้นมองเขา พลางเอ่ยพูดขึ้นเบาๆ : “กรรมครั้งใหญ่ที่ตามสนองฉัน ก็คือที่ฉันแต่งงานกับคุณไง” นั่นคือฝันร้ายที่เธอไม่มีทางหลุดพ้นได้เลยจนถึงทุกวันนี้
และตอนนี้ ในที่สุดก็ถึงตอนที่จะต้องตัดออกไปแล้ว
“ตอนนี้ ปล่อยเวินเที๋ยนเที๋ยนซะ”
เวินหงไห่กัดฟันแน่น
“ฉันรู้แล้ว”
ว่าแล้ว ก็มองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างเย็นชาแวบหนึ่งแล้วจึงปล่อยตัวเธอ
จี้จิ่งเชินรีบพุ่งตัวเข้าไปหาเธอทันที
“เที๋ยนเที๋ยน!”
ร่างกายของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นอ่อนแอเป็นอย่างมาก เธอกัดฟันเดินไปทางจี้จิ่งเชินได้สองเก้า
“จี้จิ่ง…….”
เธอไม่เคยรู้สึกว่าเส้นทางจะยาวขนาดนี้มาก่อนเลย
ราวกับเป็นระยะห่างจากนรกไปถึงสวรรค์เลยอย่างไรอย่างนั้น
พี่อย่ากังวลไปเลย
ฉันไม่เป็นอะไรหรอก
เดินโซเซไปได้สองก้าว ร่างที่สั่นไหวของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นก็ล้มลง
จี้จิ่งเชินรีบยื่นมือออกไปรับและอุ้มเธอขึ้นมาก่อนที่ร่างของเธอจะร่วงลงพื้น
“เที๋ยนเที๋ยน ตื่นสิครับ!”
จี้จิ่งเชินตะโกนออกมาอย่างร้อนใจ เวินเที๋ยนเที๋ยนฝืนลืมตาขึ้นมา
“จี้จิ่งเชิน…..ดีจริงๆเลยนะคะ ฉันได้เห็นพี่อีกครั้งแล้ว”
เธอยังคิดเลยด้วยซ้ำ ว่าจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้ว!
จี้จิ่งเชินขอบตาแดงก่ำ เขากอดเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ แล้วรีบวิ่งไปที่รถพลางตะโกนเรียกเธออย่างบ้าคลั่ง “อย่าหลับนะเที๋ยนเที๋ยน อย่าหลับ!”
“ทนอีกหน่อยนะครับ ผมจะพาคุณไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้แหล่ะ!”
มุมปากของเวินเที๋ยนเที๋ยนปรากฎรอยยิ้มบางๆออกมา
เธอขยับปาก ต้องการจะพูดอะไรออกมา แต่กลับไม่สามารถพูดออกมาได้ แล้วเธอก็หมดสติลงในอ้อมกอดของจี้จิ่งเชิน
จี้จิ่งเชินกอดเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ ราวกับว่ากำลังกอดตุ๊กตาเครื่องเคลือบที่เปราะบางเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น
เขากระซิบที่ข้างหูของเวินเที๋ยนเที๋ยน บางครั้งก็พูดถึงความรักระหว่างพวกเขาสามีภรรยา บางครั้งก็พูดถึงความกลัวที่อยู่ในใจของเขา
พยายามปลุกให้เวินเที๋ยนเที๋ยนตื่น หรือจะพอมีสติขึ้นมาบ้างเล็กน้อยก็ยังดี
“ขับเร็วๆหน่อย!”
จี้จิ่งเชินไม่รู้ว่าเร่งเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว
เพื่อส่งเวินเที๋ยนเที๋ยนไปที่โรงพยาบาลให้เร็วที่สุด คนขับรถฝ่าไฟแดงไปนับครั้งไม่ถ้วน
แต่เวลานี้ ถนนหนทางในเมืองนั้นเจริญไปค่อนข้างมาก รถติดกันอย่างแน่นขนัดเหลือเกิน
“คุณจี้ ทำอย่างไรดีครับ? ทางที่จะไปโรงพยาบาลสองสามเส้นนี้รถติดมากเลยครับ…….”
แต่จากสถานการณ์ของเวินเที๋ยนเที๋ยนในตอนนี้ จะต้องได้รับการรักษาในทันที
คนขับรถไม่สามารถทนที่จะพูดต่อไปได้อีก เนื่องจากเขาเห็นว่าจี้จิ่งเชินกำลังกอดเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ อาการแห่งความเจ็บปวดนี้ปรากฏขึ้น
เขาไม่เคยเห็นจี้จิ่งเชินเสียใจขนาดนี้และทำอะไรไม่ถูกแบบนี้ขนาดนี้มาก่อน
จี้จิ่งเชินได้ยินคำพูดของคนขับรถ แล้วบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งลง
เขาเอ่ยถามเสียงทุ้ม : “ห่างจากโรงพยาบาลอีกไกลไหม?”
คนขับรถมองดูGPSแล้วตอบกลับไปตามความจริง : “ยังอีกประมาณสามกิโลครับ”
สามกิโล ถ้าหากว่าวิ่งไปคนเดียวก็คงจะเร็ว แต่ถ้าแบกอีกคนหนึ่งเอาไว้ด้วยล่ะก็……
แต่สำหรับเวินเที๋ยนเที๋ยนในตอนนี้ อาจจะเป็นระยะทางแห่งความเป็นความตาย
จี้จิ่งเชินแทบไม่ได้ไตร่ตรอง และตัดสินใจออกมาอย่างเด็ดขาด
“ฉันจะแบกเธอไปเอง”
เขาเปิดประตูรถ แล้วแบกเวินเที๋ยนเที๋ยนลงจากรถ
“เที๋ยนเที๋ยน ทนหน่อยนะครับ…..”
จี้จิ่งเชินแบกเธอ ความเร็วในการวิ่งนั้นไม่ได้ช้าไปกว่าคนทั่วๆไปเลย
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่แบกอยู่บนหลังนั้นเบามากเสียจนน่ากลัว ทำให้จี้จิ่งเชินยิ่งรู้สึกสงสารเธอจับใจ
การรับน้ำหนักและเพิ่มความเร็ว ผ่านไปสักพักหนึ่ง บนหน้าผากของเขานั้นก็เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อเล็กๆผุดขึ้น
วิ่งมาตลอดทาง ทำให้พละกำลังของจี้จิ่งเชินมาถึงขีดสุดแล้ว
เม็ดเหงื่อไหลลงมาจากหน้าผากอย่างต่อเนื่อง ส่วนเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่บนหลังเขานั้นกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดๆแล้ว ยิ่งทำให้เขารู้สึกลนมากกว่าเดิม
“เที๋ยนเที๋ยน เที๋ยนเที๋ยน”
เขาตะโกนเรียกชื่อเธอไม่หยุด
“ผมจี้จิ่งเชินนะครับ คุณได้ยินที่ผมพูดไหม อย่าหลับนะครับ”
“ต้องไม่เป็นอะไรนะ ทั้งคุณและลูกจะต้องไม่เป็นอะไร”
เขาพึมพำไม่หยุด ไม่รู้ว่ากำลังบอกตัวเอง หรือว่ากำลังบอกเวินเที๋ยนเที๋ยน
คนที่เดินผ่านนั้นมองท่าทางของเขาอย่างประหลาดใจ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้แบกคนวิ่งอย่างบ้าระห่ำอยู่บนถนนแบบนี้
ตัวเองที่บีบให้รับน้ำหนักเกินแบบนี้ทำให้เขามาถึงโรงพยาบาลจนได้ในที่สุด และกำลังหายใจหอบอยู่ พูดไม่ออกเลยแม้แต่ประโยคเดียว
แต่เขาก็ไม่ได้สนใจที่จะพัก แบกร่างของเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้าไปในห้องฉุกเฉิน
“ช่วย….ช่วยเธอด้วย!”
เขาหอบไปพลางขอร้องหมอไปพลาง
ประตูห้องผ่าตัดตรงหน้าเขาค่อยๆถูกปิดลง
จี้จิ่งเชินเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเข็นเข้าไปต่อหน้าต่อตา โดยมีประตูกั้นเขาเอาไว้
ขอร้องล่ะเที๋ยนเที๋ยน อย่าทิ้งผมไปนะ
เขาอธิษฐานในใจนับครั้งไม่ถ้วน
และไม่นาน หลวนจื่อกับหมินอันเกอที่ได้รับข่าวคราวก็รีบมาที่โรงพยาบาลด้วยเช่นกัน
พวกเขาเห็นจี้จิ่งเชินที่เดินไปเดินมาอยู่ตรงประตูห้องผ่าตัด
“คุณจี้ เที๋ยนเที๋ยนเป็นอย่างไรบ้างคะ?”
หลวนจื่อเอ่ยถามอย่างกังวล ในใจของเธอว้าวุ่น ไม่เห็นเที๋ยนเที๋ยน เธอก็ไม่สบายใจเลยแม้แต่นิดเดียวเช่นกัน
จี้จิ่งเชินมองไปยังไฟที่กำลังสว่างอยู่ในห้องผ่าตัด “กำลังช่วยให้พ้นจากอันตรายอยู่น่ะ”
น้ำเสียงของเขาแหบแห้ง ราวกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านทะเลทรายมาอย่างไรอย่างนั้น
หลวนจื่อไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจเขาอย่างไร
“เที๋ยนเที๋ยนเป็นคนดีฟ้าย่อมคุ้มครอง เธอจะต้องไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอนค่ะ”