เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่873 เขียนจดหมายเถอะ
บทที่873 เขียนจดหมายเถอะ
เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้มีปฏิกิริยาตอบรับ
จริงสิ หลังจากที่เธอกับหลวนจื่อท้อง พวกสิ่งของอย่างโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์พวกนี้ ก็กลายเป็นสิ่งของต้องห้ามไปแล้ว
ไม่อนุญาตที่จะให้มาปรากฏตัวตรงข้างๆกายพวกเธอได้อีกเลย
ดังนั้นส่วนที่เธอขอมาเรื่องนี้ หลวนจื่อไม่สามารถทำได้อยู่แล้ว
แม้ว่าหลวนจื่อจะยอม แต่เธอเองก็ไม่สามารถจะยอมได้เหมือนกัน
“ฉันลืมเรื่องนี้ไปเลย……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหัวเราะออกมาอย่างอายๆ “ถ้าอย่างนั้น ไม่ก็ให้อันเกอติดต่อฉันมาก็ได้?”
“แต่เที๋ยนเที๋ยน จี้จิ่งเชินก็ไม่ให้เธอใช้โทรศัพท์มือถือเหมือนกันไม่ใช่หรือ?”
หลวนจื่อมองเธอด้วยความสงสัย
“เอ้อ…..”
เป็นแบบนี้จริงๆ ไม่เพียงแค่ไม่ให้เธอใช้ แต่ตอนที่จี้จิ่งเชินอยู่กับเธอนั้น เขาเองก็ไม่ใช้ด้วยเหมือนกัน
จงหลีมีเรื่องอะไรที่จะขอคำแนะนำจากเขา ก็จะต้องไปรายงานที่คฤหาสน์ด้วยตัวเอง
ภายใต้การเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ต่อให้เธอคิดอยากจะรับโทรศัพท์จากหมินอันเกอ ก็คงไม่มีโอกาสเหมือนกัน!
ตอนนี้เธอออกมาจากบ้าน ก็ล้วนแต่มีเวินหงหยู้ไปเป็นเพื่อนด้วย
ถ้าหากจี้จิ่งเชินกับหล่อนหลีเลิกงานแล้ว ก็จะมีพวกเขาคอยอยู่ด้วย
เป็นไปไม่ได้เลยที่จะแอบรับโทรศัพท์ได้
“เอาเถอะ ถือว่าฉันไม่ได้พูดแล้วกัน”
แผนล้มเหลวหมด
หลวนจื่อมองดูท่าทางที่หดหู่ของเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างขำๆ แล้วยกมือลูบผมยาวๆของเธอ “รู้ว่าเธอเป็นห่วงฉัน เอาแบบนี้แล้วกัน ฉันจะเขียนจดหมายหาเธอฉบับนึงทุกวัน แล้วให้อันเกอเอาไปส่งให้เธอที่บ้าน เธอก็เขียนจดหมายตอบกลับ แล้วฝากให้อันเกอเอากลับมาให้ฉัน”
หลวนจื่อเสนอแนะความคิดเห็นที่ดีกว่าขึ้นมา
แล้วดวงตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็เป็นประกายขึ้นมาทันที
ใช้จดหมายในการคุยกัน ถึงแม้ว่าจะดูล้าสมัยไปบ้าง แต่ก็ไม่มีวิธีไหนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในตอนนี้ของพวกเธออีกแล้ว
อีกทั้งจี้จิ่งเชินจะต้องไม่คัดค้านอย่างแน่นอน
“แต่จะเป็นการรบกวนพี่หมินเกินไปหรือเปล่า?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกกังวลอยู่บ้าง เพราะถึงอย่างไรหมินอันเกอก็ยังจะต้องดูแลหลวนจื่อ
ถ้าหากไปๆมาๆ ก็จะเป็นการเพิ่มภาระต่อร่างกายของเขาค่อนข้างมาก
หลวนจื่อพึมพำออกมาด้วยสีหน้าที่ปรากฏความลำบากใจออกมา “ก็ยากสำหรับเขาอยู่นิดหน่อย…..”
ตอนแรกเธอไม่ได้คิดมากขนาดนั้น แต่เมื่อคิดให้ดีแล้ว ก็รู้สึกว่าข้อเสนอนี้ดูจะไม่เข้ากับยุคสมัยเท่าไรนัก
ตัวเองพักอยู่ที่โรงพยาบาล หมินอันเกอก็มีงานของตัวเอง แล้วยังจะต้องสละเวลามาดูแลเธออีก นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว
เธอกับเวินเที๋ยนเที๋ยนยังจะให้เขามาแบกรับเป็น “คนส่งจดหมาย” ตำแหน่งนี้อีก
เป็นการบีบบังคับเขาอยู่บ้างจริงๆ
เธอก็เลยต้องล้มเลิกข้อเสนอนี้ด้วยความเสียใจ “ถ้าอย่างนั้นก็ช่างเถอะ อันเกอลำบากมากแล้ว ฉันไม่อยากให้เพิ่มภาระให้เขาอีก”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าอย่างเข้าใจ
ทั้งสองคนทำความเข้าใจร่วมกันแล้ว กลับได้ยินเสียงของหมินอันเกอที่ดังมาจากทางด้านนอกประตู “ไม่เป็นไรครับ เรื่องนี้ก็เอาแบบนี้แล้วกัน ผมจะเป็นคนส่งจดหมายให้พวกคุณเอง”
หมินอันเกอเดินเข้ามา สิ่งแรกที่ทำก็คือตรวจสอบดูสภาพของหลวนจื่อ
แน่ใจว่าความแข็งแรงของร่างกายของคนรักเช่นนั้นแล้ว เขาถึงยิ้มออกมาแล้วเอ่ยพูดกับเวินเที๋ยนเที๋ยน : “วิธีนี้ไม่เลวเลยนะ แล้วอีกอย่างผมเองก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด”
ข้อแรก หมินอันเกอ หลวนจื่อ และเวินเที๋ยนเที๋ยนรู้จักกันเป็นอย่างดี จะไม่แอบดูความลับของพวกเธออย่างแน่นอน ข้อสอง เขาเองก็ยินดีที่จะแบ่งความกังวลนี้มาจากหลวนจื่อด้วยเช่นกัน
หลวนจื่อไม่เห็นด้วยอยู่บ้าง “แต่คุณเองก็เหนื่อยมากพอแล้วนะคะ”
“วางใจเถอะครับ ถ้าหากผมเหนื่อยเกินไป วันถัดไปผมค่อยส่งก็ได้นี่นา” หมินอันเกอส่งสายตาที่แสดงออกมาว่าไม่ต้องกังวลให้กับเธอ “จดหมายรวมๆไว้สองสามวันแล้วค่อยส่งไป ก็คงได้ใช่ไหม?”
ประโยคหลังนั้น เขาพูดกับเวินเที๋ยนเที๋ยน
ได้ยินแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงรีบพยักหน้าลง “ได้แน่นอนอยู่แล้วสิคะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย ผมเองก็ยังกลัวว่าถ้าคุณไม่ได้รับจดหมายของหลวนจื่อ แล้วจะเป็นกังวลมากเกินไปก็จะไม่ดีอีก”
ความกังวลของหมินอันเกอนั้นไม่ได้ดูไร้เหตุผล
ถ้าหากไม่เอ่ยพูดก่อนนั้น หากหยุดไปหนึ่งวัน เวินเที๋ยนเที๋ยนจะต้องกังวลว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับหลวนจื่ออย่างแน่นอน
“ก็เอาแบบนี้แล้วกันนะครับ”
จี้จิ่งเชินไม่รู้ว่ามายืนอยู่ตรงด้านหลังเวินเที๋ยนเที๋ยนตั้งแต่เมื่อไหร่
ได้ยินบทสนทนาของหมินอันเกอกับเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว จี้จิ่งเชินมองเขาอย่างชื่นชม
เขารู้จักนิสัยของเวินเที๋ยนเที๋ยน ถึงแม้ปากเธอจะบอกว่าไม่ แต่ถ้าหากเธอเจอสถานการณ์ที่ว่าจดหมายของหลวนจื่อมาช้าไปล่ะก็ เธอจะต้องเป็นกังวลหลวนจื่ออย่างแน่นอน
เขาก็เลยเอ่ยพูดกับหมินอันเกอขึ้น : “ลำบากอะไรก็โทรหาผมนะ ผมจะส่งคนไปรับจดหมายเอง”
“ได้ครับ”
หมินอันเกอพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปทางหลวนจื่อ “นี่คุณควรจะวางใจได้ใช่ไหมครับ?”
เขายกมือขึ้นมาแล้วเหน็บผมไปที่หลังใบหูของหลวนจื่อ
หลวนจื่ออืมตอบรับเบาๆ ใบหูแดงเล็กน้อย
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองการโต้ตอบที่ดูใกล้ชิดกันของพวกเขา “เวลาก็ประมาณนึงแล้ว ฉันกับจี้จิ่งเชินไม่รบกวนพวกเธอแล้วนะ”
หลวนจื่องุนงงไปเล็กน้อย “จะไปแบบนี้เลยหรือ?”
ความจริงแล้วเวินเที๋ยนเที๋ยนเองก็ไม่ได้อยากไป แต่เธอเห็นสีหน้าของจี้จิ่งเชินเมื่อครู่นี้แล้ว มีความหมายว่าจะต้องไปได้แล้ว
เขาดูจะไม่ค่อยเคยชินกับการพูดคุยกับพวกหลวนจื่อและอยู่ด้วยกันกับพวกเขาเท่าไรนัก
และนี่ก็ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกหดหู่อยู่บ้าง
แต่เธอรู้ว่านิสัยของจี้จิ่งเชินเป็นแบบนี้ กับคนนอกจะพูดจาไม่ไว้หน้า สามารถมาเยี่ยมหลวนจื่อเป็นเพื่อนเธอแบบนี้ก็นับว่าไม่เลวแล้ว
เธอไม่ควรที่จะเรียกร้องให้มากนัก
ดังนั้นเมื่อสบสายตาที่รั้งเอาไว้ของหลวนจื่อ เวินเที๋ยนเที๋ยนเองก็พยักหน้าลงให้กับเธอ เป็นส่งสัญญาณบอกให้เธอปล่อยเธอกลับไป
หลวนจื่อจึงทำได้เพียงต้องบอกลาเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างอาลัยอาวรณ์ “กลับดีๆนะ”
“อืม เธอก็พักผ่อนเยอะๆนะ” ว่าแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงกระพริบตาส่งให้เธอแล้วทำท่าทางเขียนจดหมาย “อย่าลืมเขียนจดหมายให้ฉันด้วยล่ะ!”
“ไม่ลืมหรอก!”
หลวนจื่อยิ้มกลับ
เธอตีมือของหมินอันเกอเบาๆ “คุณไปส่งเที๋ยนเที๋ยนกับจี้จิ่งเชินหน่อยสิคะ”
หมินอันเกอไม่ปฏิเสธคำขอของหลวนจื่ออยู่แล้ว
เขากับเวินเที๋ยนเที๋ยนและยังมีจี้จิ่งเชินเดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วย จนกระทั่งมาส่งเพวกเขาถึงตรงหน้าประตูโรงพยาบาล
“อันเกอ ไม่ต้องไปส่งแล้วล่ะค่ะ” เวินเที๋ยนเที๋ยนส่งสัญญาณเป็นการบอกให้แยกย้าย “หลวนจื่อทางนั้นอย่าทิ้งเธอไว้เลยค่ะ คุณไปอยู่เป็นเพื่อนเธอดีกว่า ใกล้จะคลอดเมื่อไหร่จะต้องบอกฉันก่อนนะคะ”
ตอนที่หลวนจื่อคลอดเธอจะไม่เอาแต่เฝ้าคอยอยู่ที่บ้านอยู่แล้ว
เธออยากจะอยู่เป็นเพื่อนหลวนจื่อ ไม่ใช่ว่านั่งอยู่ที่บ้าน มัวรอแต่จะให้หมินอันเกอคอยส่งข่าวของหลวนจื่อมาให้
“วางใจได้ครับ ต่อให้คุณไม่บอก ผมเองก็จะต้องบอกพวกคุณก่อนล่วงหน้าอยู่แล้ว”
หมินอันเกอเอ่ยพูดขึ้นอย่างอบอุ่น สีหน้านั้นมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด
เวินเที๋ยนเที๋ยนสามารถเข้าใจได้ถึงความรู้สึกที่เขาจะได้กลายเป็นพ่อคนแล้ว
อีกทั้งตอนที่เขามาส่งหลวนจื่อนั้น จะต้องหงุดหงิดไม่สบายใจมากอย่างแน่นอน
หลังจากที่รู้ว่าหลวนจื่อไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ถึงได้ดีใจมากขนาดนี้
จี้จิ่งเชินจับมือเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วเดินไปยังรถที่จอดรออยู่ตรงหน้าประตูโรงพยาบาล
ขึ้นไปนั่งบนรถแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ลังเลอยู่พักหนึ่ง แล้วก็ยังคงเอ่ยพูดกับจี้จิ่งเชิน : “ถ้าไม่อย่างนั้นครั้งหน้าฉันจะมาเยี่ยมหลวนจื่อ ให้คุณพ่อมากับฉันดีไหมคะ?”
ความหมายของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นก็คือ ครั้งต่อไปให้เวินหงหยู้มากับเธอ ก็ไม่จำเป็นต้องให้จี้จิ่งเชินมาแล้ว
แต่จี้จิ่งเชินไม่ได้รับรู้ถึงตรงจุดนี้ หรือในจิตใต้สำนึกของเขา ตัวเองไม่ควรที่จะแยกจากเวินเที๋ยนเที๋ยน แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่การมาเยี่ยมเยียนคนอื่น เธอเองก็ควรจะอยู่ด้วยกันกับเขา
ส่วนในจิตใต้สำนึกของจี้จิ่งเชินนั้นก็เข้าใจว่าให้พวกเขาทั้งสามคนนั้นมาเยี่ยมหลวนจื่อด้วยกันนั่นเอง