เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่931 การแก้แค้นของเสี่ยวหยู๋ชิง
บทที่931 การแก้แค้นของเสี่ยวหยู๋ชิง
จี้จิ่งเชินเห็นเธอยิ้มแล้ว ก็ตั้งใจที่จะกลั้นรอยยิ้มนี้เอาไว้เพื่อหลบเลี่ยง
เขาเดินเข้าไปแล้วโอบเอวของเธอ แล้วเอาศีรษะวางไว้ตรงหัวไหล่ของเวินเที๋ยนเที๋ยน :
“ยังเป็นเด็กนะก็ดูได้ว่านิสัยเป็นอย่างไร แล้วอีกอย่างเขาเทียบกับคนทั่วไปไม่ได้ ตอนนี้คาดว่าไอคิวของเขาจะตามเด็กสามสี่ขวบทันแล้วนะครับ เป็นลูกผู้ชายตัวน้อยๆคนนึง ผมรู้สึกว่า ผ่านไปอีกซักหนึ่งปี เขาก็สามารถปกป้องคุณได้แล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกขำกับน้ำเสียงของเขา
“ดูโอเวอร์อย่างที่พี่พูดซะที่ไหนกันคะ? พี่จิ่งดีกับเขา ฉันรู้ ฉันเองก็รักเขาค่ะ”
“แล้วผมล่ะครับ?”
จี้จิ่งเชินเอ่ยพูดอย่างเคืองๆ
“ตั้งแต่มีหยู๋ชิงความสนใจของคุณก็ถูกลูกดึงไปหมดแล้ว”
เสียงอู้อี้กำลังฟ้องความลำเอียงของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันมา และยังคงอยู่ในอ้อมกอดของจี้จิ่งเชิน เผชิญหน้ากับเขา เขย่งปลายเท้าขึ้น แล้วจูบลงที่คางของเขา
“ใครก็มาแย่งฉันไปไม่ได้หรอกค่ะ พี่เป็นคนที่ฉันรักที่สุดตลอดไปอยู่แล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นคืนนี้……”
จี้จิ่งเชินคิดจะพูดต่อนั้น ก็เห็นเด็กน้อยอย่างจี้หยู๋ชิงที่ลุกขึ้นมานั่งเองอยู่บนเตียง จ้องมองทั้งสองคนที่กำลังกอดกันอยู่ด้วยแววตาที่เป็นประกาย
เวินเที๋ยนเที๋ยนเองเห็นแล้วนั้นจึงเดินเข้าไปเพื่อกล่อมให้เขาหลับ
จี้จิ่งเชินพูดกระซิบ : “ถึงเวลาที่ต้องให้เขานอนคนเดียวแล้ว”
“ท้องฟ้ามืดลง แสงสว่างจากดวงดาวตามมา แมลงบิน……”
เสียงเพลงทุ้มต่ำดังขึ้น เป็นเสียงของมารดาที่กำลังกล่อมลูกตัวเองให้เข้านอน
กลางคืนเย็นเหมือนน้ำ แสงจันทร์สุกสกาว
เริ่มตั้งแต่วันรุ่งขึ้นนั้น ห้องเด็กน้อยที่พ่อบ้านได้เตรียมเอาไว้ตั้งแต่แรกนั้นก็สามารถใช้ได้แล้ว จี้จิ่งเชินจะให้จี้หยู๋ชิงนอนห้องของเขาเองจริงๆ หรือจะพูดให้ดีก็คือจะได้เป็นตัวของตัวเองนั่นเอง
ก่อนจะเข้านอน จี้จิ่งเชินยังจ้องมองดวงตาของเขาแล้วบอกกับเขาอีกด้วย :
“เป็นลูกผู้ชายลูกจะต้องนอนคนเดียวนะ”
จี้หยู๋ชิงไม่มีคำพูดใดๆ แววตาหรี่ลงเล็กน้อย ทำไมทีพ่อยังอยากให้แม่นอนด้วยเลย?
ราวกับว่าอ่านความคิดของเขาออก จี้จิ่งเชินจึงรีบปิดประตูห้องแล้วกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง
ภายใต้แสงไฟจากโคมไฟนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังคงรู้สึกไม่วางใจ
เธอไม่กล้าไปกล่อมให้หยู๋ชิงหลับ เพราะกลัวว่าพอไปแล้วจะไม่ได้กลับมา เธอที่ใจอ่อนนั้นเพียงแค่เห็นสายตาที่น่าสงสารของจี้หยู๋ชิงแล้วก็ยอมแพ้แล้ว
คืนนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนนอนพลิกตัวไปมา หลับไม่สนิท ไปดูจี้หยู๋ชิงอยู่หลายครั้งว่าเขาหลับดีหรือเปล่า
จนกระทั่งเช็คแน่ใจแล้วว่าเขาหลับสนิท ถึงได้รู้สึกสบายใจขึ้นมา ตลอดทั้งคืน เงามืดภายใต้ดวงตานั้นก็ดูหนักขึ้นด้วย
ตอนที่จี้จิ่งเชินตื่นขึ้นมาทำงานตอนเช้า เวินเที๋ยนเที๋ยนก็อยากจะลุกขึ้นมาจัดเนคไทและทำอาหารเช้าให้เขาเหมือนกับปกติ แต่ถูกจี้จิ่งเชินส่งกลับขึ้นเตียงไปเช่นเดิม
“เที๋ยนเที๋ยน ตอนนี้ยังไม่ให้คุณตื่นนะครับ นอนอีกซักหน่อยนะ”
เห็นรอยคล้ำที่ใต้ตาของเธอแล้ว จี้จิ่งเชินก็รู้สึกสงสารจับใจ
จี้หยู๋ชิงนั้นกลับหลับสบายมาก มารอแม่ครัวทำอาหารเช้าให้ตรงข้างๆโต๊ะอาหารอย่างมีชีวิตชีวาตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว
เห็นจี้จิ่งเชินที่ลงมาคนเดียว จี้หยู๋ชิงก็มองไปทางด้านหลังเขาอีก แต่ก็ไม่เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยน
แววตาสงสัยนั้นมองไปยังจี้จิ่งเชิน
“แม่เราเหนื่อยเกินไปแล้ว ให้แม่นอนต่ออีกซักพักนะครับ เราอย่าไปรบกวนแม่นะ”
จี้หยู๋ชิงพยักหน้าลงเพียงเล็กน้อย แล้วเริ่มต่อสู้กับตะเกียบขึ้นมา
ช่วงนี้เขากำลังเรียนรู้ที่จะใช้ตะเกียบ
จี้จิ่งเชินมองเขา พลางเอ่ยขึ้นอีก : “แล้วก็ยังมีอีก นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราต้องนอนเองนะ”
จี้หยู๋ชิงเงยหน้าขึ้นมาด้วยสีหน้าที่จริงจัง แต่กลับไม่ได้เอ่ยพูดออกมา
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว
เพียงแค่มีเด็กคนนี้อยู่ด้วย จี้จิ่งเชินก็ทำอะไรไม่ได้เลยเช่นกัน
เจ้าเด็กคนนี้
ครึ่งขวบ ก็สามารถนอนเองได้แล้ว
เสี่ยวหยู๋ชิงไม่พูดอะไร แล้วก็ไม่ตอบรับอีกด้วย
จี้จิ่งเชินเห็นสถานการณ์แล้ว จึงแอบรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
ดูแล้วฉลาดมากเกินไปก็ไม่ดีเท่าไรนัก
ช่วงกลางคืน ตอนที่จี้จิ่งเชินพูดถึงความต้องการนี้กับเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นมานั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่เห็นด้วยเช่นเดียวกัน
“เสี่ยวหยู๋ชิงเพิ่งจะครึ่งขวบเองนะคะ ต้องนอนกับพวกเราสิ”
จี้จิ่งเชินเกลี้ยกล่อม : “ตอนกลางคืนเขาไม่ร้องเอะอะหรอกครับ หิวก็มีคนดูแล เขาอยู่ในห้องนอนด้วย ไม่ใช่ว่าจะไม่สะดวกเสียที่ไหนกัน?”
“ไม่นี่คะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า “เสี่ยวหยู๋ชิงนอนเตียงเด็ก ต้องไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพวกเราสิคะถึงจะถูก”
จี้จิ่งเชินกัดฟัน
เพียงแค่อยู่ในห้อง ก็ส่งผลกระทบมากแล้ว!
เขาจ้องเสี่ยวหยู๋ชิงอย่างไม่พอใจ
“เด็กคนนี้ คงอยากจะนอนคนเดียวใช่ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมองจี้หยู๋ชิงด้วยความสงสัย
“หยู๋ชิงหนูรู้สึกแบบนี้หรือเปล่าครับ?”
จี้หยู๋ชิงได้ยินแล้ว จึงทิ้งหนังสือภาพในมือ แล้วมองใบหน้าที่กำลังขู่ของจี้จิ่งเชิน แล้วก็มองไปยังเวินเที๋ยนเที๋ยนอีกครั้ง
ถึงแม้จี้จิ่งเชินจะไม่ได้เอ่ยพูดขึ้นแต่ใบหน้าของเขากลับมีตัวอักษรบรรทัดหนึ่งเขียนเอาไว้อย่างแวววาว :
ถ้าหากเราไม่ตกลง ตายแน่!
เสี่ยวหยู๋ชิงเห็นแล้วก็ยิ้มออกมา แล้วดึงมือเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้
ร้องอ้อแอ้ๆ ถูมือของเธอ เพื่อแสดงออกว่าไม่อยากไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนหัวเราะขึ้นมา
“พี่ดูสิคะ หยู๋ชิงก็บอกว่าอยากจะอยู่ด้วยกันกับพวกเรา”
สีหน้าของจี้จิ่งเชินนั้นยังคงเขียวปั๊ดเหมือนเดิม
เจ้าเด็กคนนี้!
ยังพูดไม่ได้ ก็รู้จักที่จะมาสู้กับเขาแล้ว
ต่อไปเป็นแบบนี้จะใช้ได้เสียที่ไหนกัน?
เห็นท่าทางดีใจของเวินเที๋ยนเที๋ยน จี้จิ่งเชินจึงทำได้เพียงต้องพยักหน้าลง
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ เราก็ยังสามารถรอกันได้อีกหน่อย”
จี้จิ่งเชินจึงต้องยอมถอยให้ก่อน
คิดไม่ถึงว่า คืนนั้น จะมาพบกับการแก้แค้นของเสี่ยวหยู๋ชิง……
เพิ่งจะเตรียมตัวพักผ่อน
จี้จิ่งเชินเดินเข้ามาในห้องนอน เห็นเสี่ยวหยู๋ชิงกำลังหลับอยู่ อีกทางด้านหนึ่ง เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังพิงอยู่ข้างๆโต๊ะหนังสือ ในมือยังคงถือข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องลายครามสีดำอยู่ ราวกับว่าเหนื่อยจนผล็อยหลับไปแล้ว
เขาใจอ่อนลงเล็กน้อย
จี้จิ่งเชินเตรียมจะเดินเข้าไป แต่จู่ๆก็นึกถึงปิศาจตัวน้อยที่ทำให้ทำอะไรได้ไม่สะดวกนี้
หันกลับมา แล้วผลักเตียงเด็กน้อยให้ไกลออกไปอีกซักหน่อย
แล้วถึงได้เดินเข้าไปอย่างรู้สึกวางใจ
“เที๋ยนเที๋ยน”
จี้จิ่งเชินส่งเสียงออกมาเบาๆ แต่กลับไม่มีอะไรตอบกลับมา
เขายิ้มออกมาเล็กน้อย แล้วอุ้มเวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังหลับขึ้นมาอย่างเบามือ แล้ววางตัวเธอลงบนเตียง
เคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ตื่นแล้ว
พอลืมตาขึ้นมา ก็เห็นใบหน้าของจี้จิ่งเชินแล้ว
“จี้จิ่งเชิน?”
“ผมเองครับ”
จี้จิ่งเชินยิ้มเล็กน้อย แววตานั้นเต็มไปด้วยความรัก
“ไม่ใช่ให้คุณพักผ่อนดีๆหรอกหรือครับ? ถ้าหากนอนดึกแบบนี้อีก ต่อไปจะไม่ให้คุณดูอีกแล้วนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบส่ายหน้า
“จริงๆแล้วฉันรอพี่อยู่ต่างหากค่ะ”
เธอยกมือขึ้นมาแล้วโอบคอของจี้จิ่งเชินเอาไว้ อดที่จะยื่นหน้าเข้าไปแล้วจูบลงบนหน้าผากเขาไม่ได้
เป็นเพียงแค่จูบแบบผิวเผินจูบหนึ่งเพียงเท่านั้น แต่กลับเหมือนว่าจะเป็นการจุดเปลวไฟในใจของจี้จิ่งเชินอย่างไรอย่างนั้น
ดวงตาดำสนิทมีแสงสลัวๆแวบเข้ามา
“เที๋ยนเที๋ยน”
น้ำเสียงทุ้มต่ำที่มีความเย้ายวนดังขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนยกมือขึ้น แล้วจู่ๆก็ปะทะเข้ากับสายตาของเขาอย่างเคลิบเคลิ้ม
จี้จิ่งเชินโน้มตัวลงเล็กน้อย ค่อยๆบรรจงจูบเบาๆลงบนแก้มของเวินเที๋ยนเที๋ยน หน้าผาก ริมฝีปาก เพิ่มความลึกซึ้งไปทีละนิดๆ
มือใหญ่ลูบไล้อยู่ตรงเอวบาง ราวกับว่ากำลังจุดเปลวไฟขึ้นมาอยู่อย่างไรอย่างนั้น
ตอนที่จี้จิ่งเชินยื่นเข้าไปในชายเสื้อของเวินเที๋ยนเที๋ยน ปลายนิ้วก็สัมผัสเข้ากับผิวที่ละเอียดอ่อน
ดวงตาของเขาปั่นป่วนอีกครั้ง พร้อมที่จะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ
“เที๋ยนเที๋ยน ผม…..”
“อ้า อ้า!”
และเวลานี้เอง ที่จู่ๆเสียงของจี้หยู๋ชิงก็ดังขึ้นมา!