เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่932 หายไปแล้ว!
บทที่932 หายไปแล้ว!
การเคลื่อนไหวของจี้จิ่งเชินชะงักไป เขากัดฟัน “ไม่ต้องสนใจเขาหรอกครับ เที๋ยนเที๋ยน ผมอยากจะบอกว่า…….”
“อ้า อ้า ฮือ ฮือ~”
เสียงของเสี่ยวหยู๋ชิงยิ่งดังขึ้น
เส้นเลือดตรงหน้าผากของจี้จิ่งเชินผุดขึ้นมา
เด็กคนนี้!
ตั้งใจใช่ไหม?
เวินเที๋ยนเที๋ยนอดที่จะเงยหน้าขึ้นมามองไปยังเตียงเด็กไม่ได้ “ดูเหมือนว่าหยู๋ชิงจะตื่นแล้วนะคะ”
“ไม่ต้องไปสนใจเขาหรอกครับ ไม่ได้ร้องไห้ก็แสดงว่าไม่ได้หิว”
จี้จิ่งเชินว่าแล้ว ก็กำลังจะเคลื่อนไหวต่อ
“แม่!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกตกตะลึง ความเซอร์ไพรส์ปรากฏในแววตาของเธอขึ้นมาทันใด
“หยู๋ชิงเรียกฉันว่าแม่แล้ว! จี้จิ่งเชิน พี่ได้ยินไหมคะ? เขาเรียกฉันว่าแม่!”
“เป็นครั้งแรกเลยนะที่เขาเรียกฉัน!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนลุกขึ้นมานั่งด้วยความตื่นเต้น แล้วรีบเดินไปทางนั้น
สีหน้าของจี้จิ่งเชินเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก
เจ้าเด็กคนนี้!
ไม่คิดว่าจะมาไม้นี้!
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ พลางบ่นไปอย่างงงๆ
“นี่มันอะไรกันคะ? ฉันจำได้ว่า เตียงของหยู๋ชิงไม่ได้อยู่ตรงนั้นนี่นา ทำไมไปไกลขนาดนี้กัน?”
จี้จิ่งเชินได้ยินแล้ว ก็รู้สึกร้อนรนขึ้นมาทันที
“คุณอาจจะจำผิดแล้วล่ะมั้งครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนอุ้มจี้หยู๋ชิงขึ้นมาด้วยความดีใจ เต็มไปด้วยความเบิกบานใจ
“หยู๋ชิงหนูเรียกแม่แล้ว เรียกอีกครั้งได้ไหมครับ?”
แต่ครั้งนี้ จี้หยู๋ชิงกลับไม่ยอมพูดออกมาอีก
ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง
“ไม่เป็นไรนะ ลูกเรียกแม่ได้แล้ว เก่งมากๆเลย”
เวลานี้เองจี้จิ่งเชินก็เดินเข้ามาพลางเอ่ยขึ้น : “เขาหิวแล้วหรือเปล่าครับ? ไปเตรียมของกินเสียหน่อยเถอะครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าแล้วส่งจี้หยู๋ชิงให้กับจี้จิ่งเชิน ถึงได้หันหลังเดินออกไป
ภายในห้องจึงเหลือเพียงแค่จี้จิ่งเชินกับลูก
เขาจึงจับเสื้อผ้าของลูกแล้ววางเขากลับลงไปที่เตียง
แววตาเย็นชา
จี้หยู๋ชิงที่อยู่ตรงหน้านั้นได้กลับสู่ท่าทางนิ่งสงบลงแล้ว
“เรานี่จริงๆเลยนะ ฉลาดเกินไปแล้ว” จี้จิ่งเชินเอ่ยพูด
“แต่ คนที่ติดแม่ตลอดแบบนี้ไม่ใช่ลูกผู้ชายนะ ต่อไปอาจจะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะเอาได้ อย่างเช่นโดว์โดว์”
จี้หยู๋ชิงได้ยินแล้วเบิกตาขึ้น ถึงแม้จะไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาก็ตาม
แต่จี้จิ่งเชินก็พอจะเดาความคิดที่อยู่ในใจของเขาได้
แล้วเป็นอย่างที่คิด วันรุ่งขึ้น รอจนจี้จิ่งเชินพูดถึงขึ้นมาอีกครั้ง ว่าจะให้จี้หยู๋ชิงนอนคนเดียว
และไม่คิดว่าจี้หยู๋ชิงจะยอม
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกกังวลอยู่บ้าง หลังจากย้ายไปแล้ว กลับต้องคอยมาดูอยู่ตลอดทั้งคืน
ผ่านไปสองสามวัน จนแน่ใจแล้วว่าจี้หยู๋ชิงไม่เป็นอะไรนั้น เธอถึงได้รู้สึกวางใจขึ้นมาในที่สุด
แต่ ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือ หลังจากที่ผ่านมาหลายวันแล้ว จี้จิ่งเชินก็มองดูต่อไปไม่ได้ จึงเอาตัวเธอกลับไป
ใช้ตัวเอง ขังเธอเอาไว้ในห้องนอน
เวินเที๋ยนเที๋ยนเตรียมงานที่จะซ่อมแซมเครื่องเคลือบลายครามสีดำไปพลาง แล้วก็ดูแลจี้หยู๋ชิงไปด้วย ยุ่งเสียจนปลีกตัวออกไปไหนไม่ได้เลย
“ตึง ตึง ตึง”
เสียงเคาะประตูดังถี่ขึ้น เวินเที๋ยนเที๋ยนตื่นขึ้นมาจากความฝัน
เธอเปิดประตู แม่ครัวยืนอยู่หน้าประตูด้วยความตื่นตกใจอย่างทำอะไรไม่ถูก
“คุณนายคะ เมื่อครู่นี้ฉันไปเรียกคุณหนูที่ห้องมา แต่เขาไม่อยู่บนเตียงค่ะ”
“ไม่อยู่? ไม่ใช่ว่าตื่นขึ้นมาแล้วออกไปเดินเล่นกับพ่อบ้านหรอกหรือคะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบจัดแจงผมเผ้าตัวเองแล้วเดินไปยังห้องของจี้หยู๋ชิง
บนเตียงเล็กๆของเขานั้นว่างเปล่า ส่วนผ้าห่มก็หล่นลงมาที่พรม
“พ่อบ้านบอกว่าไม่มีค่ะ ตอนนี้เขาเองก็กำลังออกไปตามหาอยู่เหมือนกัน”
ความร้อนใจของแม่ครัวนี้ติดต่อไปยังเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว
ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นตื่นกลัว แต่ยังพยายามข่มให้ตัวเองสงบนิ่งเอาไว้ พลางปลอบใจตัวเอง :
จี้หยู๋ชิงเป็นเด็กแก่แดด ไม่น่าว่าอาจจะไปเล่นที่ไหนซักที่เพียงเท่านั้น
คฤหาสน์ใหญ่ขนาดนี้
ไปเล่นกับนิวนิวจนเพลินไปแล้วหรือเปล่า
เมื่อก่อนก็เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง ทุกคนหากันจนทั่วคฤหาสน์ก็ไม่เจอแม้แต่เงาของเขาเลย จนสุดท้าย ก็ไปหาเจอที่ห้องเล็กของนิวนิว เขาเล่นจนเหนื่อย แล้วหลับไปบนร่างของนิวนิวอย่างสบาย
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบวิ่งไปที่ห้องของนิวนิวตรงลานกว้าง ในห้องนั้นไม่มี
แต่ตรงมุมหนึ่งกลับเจอนิวนิวที่หายใจแขม่วๆอยู่ ด้านบนศีรษะนั้นมีรอยเลือดอยู่ด้วย……
เลือด?
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกฟ้าจะถล่มลงมาแล้ว เดินโซเซแล้วล้มลงบนพื้นหญ้า
เธอสงบสติอารมณ์ตัวเอง ทำให้ตัวเองใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว
“ไปบอกตำรวจกับจี้จิ่งเชิน แล้วหารอบๆก่อน เปิดดูกล้องวงจรปิดด้วยนะคะ ฉันจะดู”
เวินเที๋ยนเที๋ยนสงบลงกว่าก่อนหน้านี้ แล้วรีบออกตามหา
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง จี้จิ่งเชินก็รีบกลับมา
ตอนที่ได้รับสายจากพ่อบ้าน จี้จิ่งเชินก็รีบกลับมาเลย
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังดูภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นจี้จิ่งเชินที่เข้ามาอย่างรีบร้อนแล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาเล็กน้อย
“จี้จิ่งเชิน….. หยู๋ชิงหายไปแล้ว……หาหมดแล้วก็ไม่เจอเลยค่ะ……”
เธอกำหมัดแน่น ฝืนรักษาความสงบนิ่งนี้เอาไว้
ผ้าขนหนูผืนหนึ่งปูอยู่บนพื้น ด้านในนั้นห่อหุ้มนิวนิวเอาไว้ ซึ่งไม่มีลมหายใจตั้งแต่แรกแล้ว
“แจ้งตำรวจหรือยังครับ?”
จี้จิ่งเชินมองไปยังคราบเลือดบนหัวของนิวนิว แล้วขมวดคิ้วขึ้น พลางเอ่ยถามพ่อบ้านที่อยู่ทางด้านหลังเขา
ส่วนแม่ครัวที่อยู่อีกทางด้านหนึ่งนั้นก็ร้องไห้เสียจนตาบวมไปหมด
“ตำรวจบอกว่าหายตัวไปครบยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้วถึงจะรับแจ้งครับ”
“ใช้ความสัมพันธ์ของฉันกับตระกูลเวิน”
จี้จิ่งเชินรีบบอก เรื่องนี้รอต่อไปไม่ได้แล้ว มีเวลามากขนาดนั้นเสียที่ไหนกัน??
“ครับ”
ถึงแม้ว่าตระกูลเวินจะล่มไปแล้ว แต่ยังมีคนที่ไม่ใช่สายตรงอยู่ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เป็นสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวของเจ้าของตระกูลเวิน พวกนั้นก็จะต้องยอมรับอยู่แล้ว ภายใต้พื้นหลังสีแดงนั้น อย่าว่าแต่เป็นตำรวจเลย แม้แต่กองกำลังพิเศษก็สามารถจะปรับโยกย้ายได้
“ฮัลโหล คุณพาหลวนจื่อมาที่นี่หน่อย อย่าลืมนะไม่ต้องพาโดว์โดว์มาด้วย” จี้จิ่งเชินโทรหาหมินอันเกออย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
ตอนนี้จำเป็นจะต้องให้หลวนจื่อมาอยู่เป็นเพื่อนเวินเที๋ยนเที๋ยน บางทีอาจจะสามารถทำให้อามรณ์ของเธอนิ่งขึ้นมาได้เป็นการชั่วคราว
ส่วนเขาก็ไม่วางใจคนอื่น เขาจะต้องไปหาด้วยตัวเอง
ถ้าหากโดว์โดว์อยู่ด้วย ไม่เพียงแค่จะยิ่งยุ่งยากมากขึ้นเท่านั้น อีกทั้งยังกลัวว่าเที๋ยนเที๋ยนเห็นโดว์โดว์แล้วก็จะคิดถึงจี้หยู๋ชิงขึ้นมา ทางที่ดีที่สุดคือไม่ต้องอยู่ที่นั่นเลยจะดีกว่า
หมินอันเกอยังไม่รู้ว่าความจริงคืออะไรแต่ได้ยินเสียงของจี้จิ่งเชินแล้ว ก็ไม่อยากจะถามอะไรให้ละเอียดมากนัก จึงรีบพาหลวนจื่อไป
เมื่อลงจากรถแล้ว พ่อบ้านก็พูดถึงเรื่องราวคร่าวๆกับพวกเขา
“เที๋ยนเที๋ยน”
ในฐานะที่หลวนจื่อเป็นแม่ เข้าใจความรู้สึกความรู้สึกของเวินเที๋ยนเที๋ยนดี เพิ่งจะได้เจอกันก็เข้าไปกอดเธอเอาไว้แล้ว
เห็นว่าหลวนจื่ออยู่ด้วย จี้จิ่งเชินก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาไม่น้อย โทรศัพท์เสร็จแล้วนั้นจึงออกไปจากคฤหาสน์ทันที
ในขณะที่ทุกคนในคฤหาสน์กำลังตื่นตกใจกันจนทำอะไรไม่ถูกนั้น ภายในโรงงานแห่งหนึ่งในเขตชานเมือง
จี้หยู๋ชิงหรี่ตามองคนที่อยู่ตรงหน้าทั้งสองคน ใบหน้านั้นสงบนิ่งเป็นอย่างมาก
“ที่นี่ปลอดภัยใช่ไหม?” หลิวเหม่ยหลันคนนั้นเอ่ยถาม
“วางใจได้ค่ะแม่ ปลอดภัยอยู่แล้ว บริเวณรอบๆนี่หนูดูแล้วไม่มีคนอื่นเลย” หล่อนเจียนีใช้นิ้วหยาบๆลูบบนใบหน้าเล็กๆของจี้หยู๋ชิง
“ฮึ่ม เป็นวันที่ดีจริงๆเลยสินะ คลอดก่อนกำหนดก็สามารถเลี้ยงดูให้ทั้งขาวทั้งอ้วนได้แบบนี้”
จี้หยู๋ชิงไม่ขยับตัว ไม่ตื่นตระหนก แล้วก็ไม่กลัวด้วยเช่นกัน
หล่อนเจียนียังคิดจะลูบอีก พอยื่นมือออกมา ยังไม่ทันได้สัมผัส จี้หยู๋ชิงก็หลบไปโดยแทบจะไม่ได้คิด
“กล้าหลบอย่างนั้นหรือ?”
หล่อนเจียนียกฝ่ามืออวบๆขึ้น แล้วสะบัดลงไปบนใบหน้าของจี้หยู๋ชิง
รอยนิ้วมือห้านิ้วนั้นปรากฏขึ้นมา ตัดกันอย่างเห็นได้ชัดกับผิวที่ขาวเนียนนั้น
ใบหน้าของจี้หยู๋ชิงนั้นรู้สึกเจ็บ แต่ก็กัดฟันเอาไว้ น้ำตาคลอแล้วก็เก็บอาการกลับไป