เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่937 แกไม่ใช่เวินเที๋ยนเที๋ยน?
บทที่937 แกไม่ใช่เวินเที๋ยนเที๋ยน?
คิดมาถึงตรงนี้แล้ว หลิวเหม่ยหลันไม่รู้ว่าไปคลำเอารูปถ่ายใบนั้นที่ยับยู่ยี่มาหลายครั้งแล้วมาจากที่ไหน
ใบหน้าในรูปนั้นเลือนรางไปบ้าง แต่ท่าทางของผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ในใจของเธอนั้นกลับยิ่งชัดเจน
เธอที่ได้รับความทรมานก็ยิ่งปรารถนาที่จะแก้แค้น
หล่อนเจียนีนอนอยู่บนเตียงที่โกโรโกโส “เอี๊ยด” เตียงเล็กๆแทบจะพังลงมา
“พี่หลี่มีความสามารถที่แข็งแกร่ง นี่เพียงแค่วันเดียว ก็สามารถหาคนที่เหมาะสมได้แล้ว ฉันเคยเห็นแล้วคนนั้นพวกนั้น จุ๊ๆ ร่างกายเต็มไปด้วยแผลเน่าเปื่อย แล้วก็ยังมีหน้าที่เต็มไปด้วยแผลเป็น เคลื่อนไหวนิดหน่อยก็ไอออกมาเป็นเลือดแล้ว”
ความชั่วร้ายในแววตาของหล่อนเจียนียิ่งลึกมากขึ้น
ภายใต้แสงสลัวจากไฟ ใบหน้าอวบอ้วนของเธอซีดเผือดแปลกๆผิดปกติไปอย่างชัดเจน
“ดีเหลือเกิน ดีจริงๆ”
หลิวเหม่ยหลันได้ยินการระบายความโกรธนี้ ดูเหมือนกับจะเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนที่มาคุกเข่าอ้อนวอนอยู่
“รีบโทรหามันสิ บอกว่า บอกว่า……”หลิวเหม่ยหลันคิดหาเหตุผลไม่ออก
“หนูคิดเอาไว้แล้ว ว่าจะบอกกับมันว่าครั้งที่แล้ววางยาไอ้เด็กนั่นเอาไว้ เด็กใบ้นั่นพูดไม่ได้ เวินเที๋ยนเที๋ยนรักเด็กนั่นมากขนาดนั้น จะต้องแทบจะทนรอที่จะมาเจอพวกเราเพื่อเอายาถอนพิษไม่ไหวแน่ๆ ถึงตอนนั้น…….”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ……..”
ห้องเล็กๆมีเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของทั้งสองคนดังออกมา
หัวเราะกันเช่นนั้นแล้ว หล่อนเจียนีจึงกดโทรออก
เรื่องราวเป็นไปอย่างราบรื่นจนน่าประหลาดใจ
ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นเหมือนกับที่พวกเธอคิดเอาไว้ แม้แต่ผมที่ยังไม่ทันได้หวีก็มาอย่างกระเซอะกระเซิงแล้ว
นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเธอมีท่าทางที่จนตรอกแบบนี้
ทั้งสองคนนัดเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ที่KTVแห่งหนึ่ง หลบอยู่ตรงด้านนอกประตูมองดูคนที่นั่งอยู่บนโซฟาเพียงลำพังแล้ว ทั้งสองคนก็ค่อยๆถอนออกไป
“กริ๊ง~”
โทรศัพท์มือถือของหล่อนเจียนีดังขึ้น เป็นเวินเที๋ยนเที๋ยนนั่นเอง
“หล่อนเจียนี ยาถอนพิษล่ะ! เธออยู่ที่ไหน?”
หล่อนเจียนีหัวเราะเยาะ
“เธออย่ารีบร้อนสิ ไม่นานหรอก”
ว่าแล้วเธอก็วางสายไป แววตาที่เกลียดชังนั้นหลอกล่อให้มาถึงที่แล้ว
“รีบมาขนาดนี้เลยหรือ ขอบคุณฉันสิ”
ประโยคสุดท้ายหล่อนเจียนีพูดออกมาเบาๆ แล้วก็เปิดประตูห้องข้างๆเข้าไป
ภายในห้อง ผู้ชายสี่ห้าคน มีทั้งอายุมากอายุน้อย ทั้งอ้วนทั้งผอม แต่ไม่มีข้อยกเว้น ทั้งหมดนั้นเป็นผู้ป่วยโรคเอดส์ทั้งสิ้น
เพียงแค่เวลาสั้นๆ คนที่ใบหน้ามีแผลเป็นนั้นก็อาเจียนออกมาเป็นเลือดแล้ว
หลิวเหม่ยหลันและหล่อนเจียนีไม่กล้าแม้กระทั่งจะเดินเข้าไปด้วยซ้ำ พวกเธอเพียงแค่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูแล้วเอ่ยพูดกับคนที่อยู่ด้านในนั้น :
“ไปเถอะ อยู่ห้องข้างๆนี่แหล่ะ ผู้หญิงคนนั้นอยู่ข้างใน แล้วแต่พวกแกเลยจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น”
แล้วไม่กี่คนเหล่านั้นก็พากันเดินแถวออกไป
เดินเข้าไปในห้องที่เวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่
หล่อนเจียนีหัวเราะออกมาอย่างพอใจ แววตานั้นเต็มไปด้วยความบ้าระห่ำ
“แม่ เรารอดูอะไรสนุกๆกันดีกว่า”
หลิวเหม่ยหลันพยักหน้าลง แต่ในใจนั้นกลับรู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้าง
“เจียนี ครั้งนี้คนพวกนี้ไปหามาได้ยังไงน่ะ?”
หล่อนเจียนีเอ่ยพูดขึ้นมาอย่างไม่ได้แคร์อะไร : “พี่หลี่หามาน่ะ เขาบอกว่าออกจากบ้านมา แล้วเจอพวกนั้นขอทานอยู่ข้างหน้าประตูพอดี หลังจากถามแล้วก็ไม่คิดว่าจะเป็นพวกที่เป็นเอดส์ทั้งหมด เลยพามา”
“หาเจอง่ายๆแบบนี้เลยหรือ?”
หลิวเหม่ยหลันรู้สึกสงสัยอยู่บ้าง
ผู้ป่วยพวกนี้ จะหาง่ายๆขนาดนี้เสียที่ไหนกัน?
แต่หล่อนเจียนีกลับไม่ได้สนใจ
“ขอเพียงแค่แก้แค้นได้ก็พอ หนูเพียงแค่นึกถึงท่าทางของเวินเที๋ยนเที๋ยนในอีกไม่นานนี้ หนูก็ดีใจจนจะนอนไม่หลับแล้ว! เดี๋ยวแม่กับหนูเข้าไปถ่ายรูปมันด้วยกันนะ หนูต้องการให้ทุกคนได้เห็น!”
“อืม……..”
ทั้งสองคนรออยู่หน้าประตูซักพักหนึ่ง เห็นว่านานแล้วเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่วิ่งออกมาเสียที
ว่ากันตามหลักแล้ว ควรจะมีการเคลื่อนไหวบ้างสิถึงจะถูก
หรือว่าจะยอมแพ้แล้ว?
หล่อนเจียนีเอาหูแนบกับประตู เพื่อตั้งใจฟังเสียงที่อยู่ข้างใน
ไม่มีเสียงร้อง
แล้วก็ไม่มีเสียงหายใจหอบด้วยเช่นกัน
ตะโกนด่ากันอย่างรุนแรง?
ก็ไม่มี
ผิดปกติ
หล่อนเจียนีที่เชื่องช้ามีลางสังหรณ์เห็นท่าไม่ดีแล้ว กำลังจะเปิดประตูเข้าไปดูถึงสาเหตุ
และตอนที่เธอจะผลักประตูเข้าไปนั้น ประตูห้องก็ถูกเปิดออกมาเป็นช่อง แล้วแขนผอมๆก็ยื่นออกมา แล้วคว้าเสื้อของหล่อนเจียนีลากเข้ามา
หลิวเหม่ยหลันที่ยืนอยู่ทางด้านหลังเห็นว่ามีอะไรผิดปกติ จึงหมุนตัวคิดจะวิ่งหนีไป แต่แรงหนึ่งที่มาจากตรงก้นของเธอนั้นทำให้ตัวเธอพุ่งเข้าในห้อง แล้วล้มคว่ำลงบนร่างของหล่อนเจียนี
แสงในห้องที่สลัวๆอยู่นั้น จู่ๆก็สว่างขึ้นมาทันใด
หล่อนเจียนี่คว่ำอยู่ที่พื้น พยายามจะเงยหน้าขึ้นมามอง เวินเที๋ยนเที๋ยนที่นั่งอยู่บนโซฟา เธอก้มหน้าลง ผมยาวปกปิดใบหน้าของเธอเอาไว้
อีกทางด้านหนึ่งของโซฟานั้นทั้งห้าคนนั้นรวมตัวอยู่ด้วยกัน อยู่ห่างจากเวินเที๋ยนเที๋ยนมากอยู่พอสมควร
“พวกแกเป็นอะไรกัน? ได้เงินแล้วจะไม่ทำงานแล้วใช่ไหม?”
หล่อนเจียนีไม่ทันได้เข้าใจเหตุการณ์นี้ให้ชัดเจน โมโหเสียจนด่าว่าพวกเขาที่ไม่มีจรรยาบรรณในอาชีพเลย
หลิวเหม่ยหลันลุกขึ้นมาจากร่างของหล่อนเจียนี คิดอยากจะเข้าไปพยุงหล่อนเจียนีอยู่สองสามครั้ง แต่เธออ้วนเกินไป จึงประคองขึ้นมาไม่ได้
“พวกแก รีบจัดการผู้หญิงคนนั้นให้ฉันซะ! มันนั่นแหล่ะ”
กว่าจะดิ้นจนลุกขึ้นมานั่งไม่ใช่เรื่องง่าย หล่อนเจียนีชี้เวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่บนโซฟาอย่างลนลาน
ทั้งห้าคนนั้นไม่ขยับ ฟังคำพูดของเธอแล้วทำเป็นเข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวา
หล่อนเจียนีเดินไปข้างหน้าสองก้าว เข้าไปใกล้เวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วยื่นมือออกไปจับผมของเธอ
เมื่อใช้แรงแล้ว ผมที่อยู่บนศีรษะของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ร่วงลงมา ปรากฏให้เห็นศีรษะที่เป็นวาววับ
หล่อนเจียนีไม่ปฏิกิริยาตอบรับใดๆ
นี่? เวินเที๋ยนเที๋ยนผมร่วงแล้วอย่างนั้นหรือ?
สมน้ำหน้า
“สมน้ำหน้าที่แกผมร่วง”
หล่อนเจียนีสะบัดวิกผมในมือไปอย่างระบายความโมโห
“เธอหมายถึงฉันหรือ?”
“เวินเที๋ยนเที๋ยน” ที่นั่งก้มหน้าอยู่ตลอดนั้น เงยหน้าขึ้นมาแล้ว
หล่อนเจียนีกับเขาอยู่ใกล้กันมาก และเวลานี้เองก็รู้สึกตกใจกับใบหน้าที่เงยขึ้นมาจนเธอต้องก้าวถอยหลังไป
“นี่ นี่ นี่ แกไม่ใช่เวินเที๋ยนเที๋ยนนี่”
“ก็ไม่ใช่น่ะสิ”
คนๆนั้นถอดเอาเครื่องเปลี่ยนเสียงออกแล้วทิ้งลงบนพื้น แม้แต่น้ำเสียงก็เปลี่ยนไปแล้วเช่นกัน
หลิวเหม่ยหลันเห็นสถานการณ์แล้ว ก็ตกใจเสียจนสีหน้าเปลี่ยน ดึงประตูห้องออกเพื่อจะวิ่งออกไปทางด้านนอก
ถูกหลอกแล้ว!
แต่ตรงหน้าประตูนั้นมีชายร่างกำยำยืนอยู่หนึ่งคน เพื่อขวางทางตรงประตูเอาไว้
หลิวเหม่ยหลันใช้แรงดัน แต่ก็ไม่ขยับ
จี้จิ่งเชินอยู่ทางด้านหลังชายร่างกำยำคนนั้น แล้วตบบ่าเขาไป จากนั้นชายร่างกำยำผู้นั้นจึงหลบให้เขา ปรากฏช่องว่างออกมา
ผ่านทางช่องว่างนั้น จึงทำให้หลิวเหม่ยหลันมองเห็นสถานการณ์ทางด้านนอก หน้าซีดขึ้นมาทันใด
“จี้ จี้จิ่งเชิน……”
หลิวเหม่ยหลันเค้นชื่อนี้ออกมาอย่างยากลำบาก
เมื่อหล่อนเจียนีได้ยินแล้ว ก็ขาอ่อนขึ้นมาทันใด แล้วล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น
“ละครฉากนี้เป็นยังไงบ้าง? ทำให้พวกเธอพอใจหรือเปล่า?”
จี้จิ่งเชินเอ่ยพูดออกมาอย่างเยือกเย็น
“เธอรู้ตั้งแต่แรกแล้ว”
ในดวงตาของหลิวเหม่ยหลันนั้นราวกับกำลังมีไฟที่แผดเผาอยู่อย่างไรอย่างนั้น
เธอก้มหน้าแล้วชนเข้ากับชายร่างกำยำคนที่อยู่ตรงหน้าประตูตรงนั้น
เมื่อจี้จิ่งเชินปรากฏตัวออกมา เธอก็รู้แล้ว ว่าพวกเธอแพ้แล้ว
แท้ที่จริงแล้วก็ถูกหลอกมาตลอดนี่เอง
น่ารังเกียจ!
ชายร่างกำยำที่อยู่ตรงหน้าประตูนั้นมีกล้ามเนื้อราวกับกำแพงเหล็ก หลินเหม่ยหลันชนเสียจนศีรษะรู้สึกเจ็บไปหมด เธอยื่นมือออกไปสะกิดแต่กลับถูกชายร่างกำยำคนนั้นเตะออกไป
หล่อนเจียนีตกตะลึงจนตัวแข็งทื่อ จดหมายฉบับหนึ่งถูกโยนเข้ามา
เป็นจดหมายฉบับนั้นที่พวกเธอส่งให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยนนั่นเอง
ด้านบนจดหมายนั้นยังวาดรูปกะโหลกรูปใหญ่ลงไปอีกด้วย
“พี่หลี่ของฉันไม่ปล่อยแกไปหรอก”
หล่อนเจียนียังคงปากแข็ง
“เธอหมายถึงเขา?”
ชายที่ถูกมัดมือทั้งสองข้างเอาไว้ถูกผลักมาที่พื้นตรงหน้าประตูห้อง ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่า เต็มไปด้วยรอยเฆี่ยน
พอหล่อนเจียนีเห็นแล้ว นั่นที่ทุกคนเรียกว่าลูกพี่อย่างนั้นหรือ