เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่945 เธอต้องแพ้แน่
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่รู้ว่าในขณะที่ตัวเองไม่ได้เจตนานั้น กลับทำให้เคหยี่อันเกิดความรู้สึกเกลียดชังเธอ
ในตอนนั้นเธอกำลังคุยอาจารย์เคเกี่ยวกับปัญหาในด้านของการบูรณะ
หลังจากอ่านศึกษาค้นคว้าในช่วงนี้แล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกเห็นแสงสว่างทันที
ก่อนหน้านี้เธอมีเรื่องหนึ่งที่ไม่เข้าใจมาตลอด หลังจากได้คำอธิบายแล้วและมีแผนการใหม่ทั้งหมด ก็อดใจไม่ไหวที่จะทดลอง
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองข้อมูลในมือ เอ่ยอย่างตื่นเต้น “ถ้าหากใช้วิธีนี้ล่ะก็ น่าจะสามารถกำจัดข้อบกพร่องได้ และมีแนวโน้มที่จะสมบูรณ์แบบ”
ศาสตราจารย์ฉู่พยักหน้า ตนเองก็พอใจเป็นอย่างมาก
แล้วเอ่ย “ใช่แล้ว ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ไม่กี่เดือนหลังจากนี้จะมีงานแข่งขันเกี่ยวกับการบูรณะวัตถุโบราณระดับประเทศ ถึงตอนนั้นจะมีผู้ที่มีความสามารถในด้านนี้ระดับต้นๆ ของแต่ละประเทศจะมารวมตัว เข้าร่วมการแข่งขัน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า เรื่องนี้เธอเคยได้ยินท่านเปิงพูดถึงแล้ว
“ทุกประเทศเข้าร่วมสามคน ตอนนี้กำหนดแน่นอนแล้วสองคน ยังคนสุดท้าย พวกเราตัดสินใจเหลือให้นักบูรพาวัตถุโบราณที่อายุน้อยลงมาหน่อย ตอนนี้กำลังคัดเลือกลูกศิษย์ในวังกับประชาชนทั่วไปที่มีความสามารถ ถึงตอนนั้นอาจจะจัดการแข่งขันขึ้นล่วงหน้า เธออยากเข้าร่วมไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าโดยไม่หยุดคิดอะไร
ก่อนหน้านี้ที่เธอจะตัดสินใจเข้าวังมา ก็เพื่อการแข่งขันนี้
อาจารย์ฉู่พยักหน้าอย่างพอใจ และคิดแบบเดียวกันกับเธอ
เขาคิดว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นตัวเลือกที่โดดเด่น ก่อนหน้าที่เธอจะมา พวกเขายังคงลังเลว่าจะเลือกใครดี
ตอนนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ปรากฏตัวแล้ว ก็ไม่สงสัยอะไรอีก
อาจารย์ฉู่เอ่ย “ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็จะไปบอกพวกเขา ไม่ต้องแข่งหรอก เลือกไปเลยก็ได้แล้ว จะได้ประหยัดเวลามาใช้ฝึกฝน”
ปั้ง!
ในตอนนั้นเอง ประตูห้องก็เปิดออกอย่างกะทันหัน
ทั้งสองคนจึงหันไปอย่างรวดเร็ว ก็เห็นเซียวหยี่อันโกรธเกรี้ยวอยู่หน้าประตู
“ฉันไม่ยอม!” เธอเอ่ยปาก
ทันทีที่เห็นเธอ อาจารย์ฉู่ก็ขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ
เซียวหยี่อันกัดฟันเอ่ยอย่างไม่หวั่นไหว “ในเมื่อกำหนดการแข่งขันไว้เรียบร้อยนานแล้ว จะเปลี่ยนใจกลางคันได้อย่างไร? หรือว่าแม้กระทั่งอาจารย์เอง ก็ร่วมมือกับคนอื่นเล่นสกปรกอะไรลับหลังอย่างนั้นเหรอ?”
อาจารย์ฉู่ได้ยินคำนี้สีหน้าก็ครึ้มลงทันที
“เธอพูดไร้สาระอะไร? แหกตาดูว่าในประเทศฝีมือการบูรณะของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นยอดเยี่ยมที่สุด ให้เธอรับหน้าที่ไปก็เหมาะสมแล้ว”
“นั่นคือก่อนหน้านี้!ตอนนี้ผ่านไปมากกว่าหนึ่งปีแล้ว เธอยังคงรักษาระดับเดิมไว้ได้อย่างไร ต่อให้เธอไม่ได้ถดถอย ก็มีคนอื่นๆ ที่พัฒนาอยู่ตลอด ถ้าไม่ได้แข่งกันจริงๆ จะรู้ได้อย่างไรว่าเธอคือที่หนึ่ง?”
เซียวหยี่อันพูดเสียงดังขึ้น “ในเมื่อต้องการแข่งขัน ถ้าอย่างนั้นก็แข่งขันอย่างซื่อสัตย์ตามกติกา นี่เป็นถึงชื่อเสียงของประเทศ!”
เธอจ้องไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างกดดัน ดวงตาเต็มไปด้วยไฟโกรธ
อาจารย์ฉู่คิดไม่ถึงว่าเซียวหยี่อันจะมีความเห็นแย้งในตอนนี้
ความจริงแล้วก่อนเวินเที๋ยนเที๋ยนจะปรากฏตัว พวกเธอก็เอนเอียงไปทางเซียวหยี่อัน
ในการแข่งขันครั้งนี้ เธอได้คะแนนที่ดีมาก เป็นตัวแทนของประเทศได้
แต่เมื่อมีเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว ทุกคนก็ย้ายข้าง
เพราะต่อให้เซียวหยี่อันโดดเด่นแค่ไหน ก็เทียบกับเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้
นี่คือความคิดเดียวกันของอาจารย์ทุกคนที่เคยร่วมงานกับเวินเที๋ยนเที๋ยน
ยกเลิกการแข่งขันเพื่อประหยัดเวลา ให้มีเวลาฝึกฝนมากยิ่งขึ้น เตรียมตัวกับการแข่งขันใหญ่ระดับประเทศครั้งสุดท้าย แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกกล่าวหาว่าเล่นไม่ซื่อลับหลัง
เซียวหยี่อันมองพวกเธอ อย่างไม่ยอมแพ้เด็ดขาด
เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงเอ่ยขึ้นเป็นคนแรก “ถูกแล้ว ฉันคิดว่าทำตามแผนการแข่งขันเดิมดีที่สุด”
อาจารย์ฉู่ยังคงลังเล
“แต่ถ้าแบบนั้น เวลาระหว่างสองการแข่งขันจะน้อยมาก ถึงตอนนั้นอาจจะไม่มีเวลาเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันระดับประเทศ”
“เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วง” เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยอธิบาย “ขั้นแรกจัดการแข่งขันขึ้นก่อน เลือกผู้สมัครที่คิดว่าเหมาะสมที่สุดในใจของทุกคน ถึงตอนนั้นก็ทำให้ทุกคนเป็นที่ยอมรับ ยิ่งไปกว่านั้นในการแข่งขันไม่ได้มีแค่การแข่งขัน หากทุกคนมารวมตัวกันแล้วแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ ก็จะสามารถเห็นการพัฒนาและความก้าวหน้าได้อย่างน่าตกใจ มีประโยชน์เป็นอย่างมาก”
เมื่อเห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนเองก็เห็นด้วย อาจารย์ฉู่ครุ่นคิดแล้วพยักหน้า
“ในเมื่อแม้แต่เธอก็พูดถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็จัดการแข่งขันตามปกติ คัดเลือกอันดับหนึ่งเข้าร่วมการแข่งขันระดับประเทศ”
เซียวหยี่อันได้ยินดังนั้น ก็เงยหน้าขึ้นอย่างลำพองใจ
“ครั้งนี้ฉันจะต้องคว้าแชมป์ให้ได้!”
แต่อาจารย์ฉู่กลับไม่คิดเช่นนั้น ได้ยินประโยคนั้นแล้วก็กลับขมวดคิ้วเอ่ย “เธอชนะไม่ได้หรอก”
น้ำเสียงมั่นใจ ทำให้เซียวหยี่อันกัดฟันกรอด กำหมัดแน่น
“ทำไม? ยังไม่ได้เริ่มแข่ง คุณก็มั่นใจแล้วว่าฉันจะไม่ชนะ? หรือว่าทักษะการบูรณะของฉันจะเทียบเธอไม่ได้?”
เห็นเธอต่อต้านแบบนี้ อาจารย์ฉู่ก็ไม่ได้เอ่ยโน้มน้าวอะไรอีก จึงพูดว่า “ในเมื่อเธอต้องการเข้าร่วมการแข่งขัน ตอนนั้นหลังจากแข่งขันกับเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว เธอก็จะเข้าใจเองว่าทำไมฉันถึงพูดแบบนี้”
ได้ยินแบบนี้ สีหน้าของ เซียวหยี่อัน ก็ยิ่งไม่น่ามอง
“ถึงตอนนั้นที่การแข่งขันเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ฉันจะต้องเอาชนะเธอให้ได้ จนกว่าจะเป็นผู้ชนะคนสุดท้าย”
พูดพลางหมุนตัวเดินจากไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นดังนั้นก็เอ่ยกับอาจารย์เซียวอย่างรู้สึกผิด “ขออภัย ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้”
อาจารย์ฉู่ส่ายหน้า
“เธอไม่ต้องโทษตัวเอง ในใจฉัน เธอเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดแล้ว วางใจแล้วเต็มที่กับการแข่งขันเถอะ วันข้างหน้าเธอจะเข้าใจเอง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวออกไปก่อน”
เมื่อออกประตูมา ยังไม่ทันได้ไปไหน เวินล็อกนเที๋ยนเงยหน้าขึ้นมาก็เจอกับเซียวหยี่อัน
ตั้งแต่เมื่อสักครู่อีกฝ่ายนั้นไม่ได้ไปไหน แต่รออยู่ที่หน้าประตูนั่นเอง
เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนออกมาแล้วก็ขวางหน้าเธอไว้
“ฉันต้องชนะเธอแน่!” เธอเอ่ยขึ้นมาโดยไม่คิด
เวินเที๋ยนเที๋ยนหยักหน้าเล็กน้อย ไม่ได้โต้แย้งอะไร
เซียวหยี่อันเห็นดังนั้น ในใจก็ยิ่งเดือดดาล
“ฉันสัมผัสงานบูรณะมาตั้งแต่อายุ15 ได้รับการอบรมฝึกฝนอย่างเป็นระบบที่สุด ตั้งแต่เด็กจนโต ทุกคนต่างเห็นฉันเป็นความหวังของโลกการบูรณะวัตถุโบราณ มั่นใจว่าในอนาคตต้องล้ำหน้าอาจารย์หลายๆ คนในวัง อยู่บนจุดสูงสุด เทียบกับเธอที่รู้งูๆ ปลาๆ ไม่ได้สัมผัสการบูรณะตลอดทั้งปีที่แล้ว เธอไม่ใช่คู่แข่งของฉันด้วยซ้ำ!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเองก็รู้ตัวว่าด้านนี้เป็นด้านที่เธอกังวล
เพียงแต่ว่าคนตรงหน้านั้นเป็นอย่างที่อาจารย์ฉู่พูดไว้ก่อนหน้านี้จริงๆ ทักษะการบูรณะนั้นดีมาก ทำให้ภาคภูมิใจในตัวเองมาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับยิ้มออกมา
เซียวหยี่อันสีหน้าไม่น่ามองยิ่งกว่าเดิม
“เธอยิ้มอะไร? หรือว่าเธอคิดว่าฉันจะเอาชนะเธอไม่ได้?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้าแล้วเอ่ย “ไม่ ไม่ใช่ ฉันแค่คิดว่าแข่งกับเธอ น่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดี”
“เธอไม่กลัวตัวเองแพ้เหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ย “แน่นอนว่าไม่กลัว ถ้าทักษะการบูรณะเธอดีกว่าฉัน ก็ต้องให้เธอเข้าร่วมการแข่งขันแน่นอนอยู่แล้ว ไม่ใช่เหรอ?”
เซียวหยี่อันขมวดคิ้ว
“รอถึงตอนนั้นเธอแพ้แล้ว ก็จะไม่คิดแบบนี้”
พูดแล้วก็เดินออกไปด้วยท่าทีไม่เกรงกลัวสิ่งใด