เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่994 พวกคุณบังอยู่น่ะ
เวทีกับดอกไม้การตกแต่งรอบๆก็เตรียมเสร็จแล้ว ดีไซเนอร์ครั้งนี้มีชื่อเสียทั้งในและต่างประเทศมาก นางแบบมากมายโด่งดังได้เพราะเดินแบบจากเขา
เขาเลือกหลวนจื่อ ก็ทำให้คนรู้สึกตะลึงมาก
ธีมของงานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้คือธรรมชาติกับการเปลี่ยนแปลง นอกจากมาตรฐานระดับสูงสำหรับนางแบบและแฟชั่นโชว์แล้ว ขนาดผู้ชมที่มาในงานนี้ ก็ถูกจำกัดอยู่มาก
นอกจากนางแบบไม่กี่คนที่ดีไซเนอร์ชื่นชมแล้วสามารถได้ตั๋วเชิญคนอื่นเข้ามาได้แล้ว สิทธิที่เหลือก็มีดีไซเนอร์คัดเลือกเอง
ดูจากตรงนี้แล้ว อาจารย์ท่านนี้คงจะให้ความสำคัญกับหลวนจื่อมาก และชื่นชมเธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนมาถึงงานแล้ว ก็เห็นนางแบบมากมายกำลังเตรียมตัว
นางแบบที่มาถึงขั้นนี้ได้ ก็ผ่านการคัดกรองมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน
มาจากนานาประเทศ แม้ผิวจะไม่เหมือนกัน แต่หุ่นรูปร่างที่สูงเพรียว หุ่นที่เพอร์เฟกต์ กลับเป็นเหมือนกันหมด
เวินเที๋ยนเที๋ยนพวกเขาเดินเข้าไปแล้ว คนมากมายก็มองมาถึงจี้จิ่งเชิน
แต่จี้จิ่งเชินกลับไม่มองไปทางอื่นเลย ในสายตามีแต่เวินเที๋ยนเที๋ยน
แต่แววตาคนพวกนั้น กลับถูกจี้หยู๋ชิงเห็นแล้ว และรู้สึกไม่พอใจมาก
ตอนแรกเขายังกอดจี้จิ่งเชินไว้ ยกมือขึ้นอยากยากลำบาก และบังตาเขาเอาไว้
จี้จิ่งเชินเลิกคิ้วขึ้น
“ทำอะไรน่ะ?”
จี้หยู๋ชิงทำเสียงฮึอย่างไม่พอใจ เห็นได้ชัดว่าไม่อยากให้จี้จิ่งเชินมองผู้หญิงพวกนั้น
อายุน้อยๆ ความในใจก็แสดงบนใบหน้าหมด
จี้จิ่งเชินจะไม่รู้ได้ยังไง?
ดีดนิ้วไปบนหน้าผากเขาเบาๆและพูดว่า: “เรื่องนี้ไม่ต้องสอนหรอกนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองรอบด้าน ก็ยังหาหลวนจื่อไม่เจอ พูดว่า: “ฉันไปหาหลวนจื่อข้างในก่อนนะดูว่าจะหาได้ไหม เมื่อวานฉันบอกกับเธอแล้ว รอจี้จิ่งเชินมาแล้วก็จะไปหาเธอ”
“ฉันไปกับเธอนะ” จี้จิ่งเชินกำลังจะลุกขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบดึงตัวเขาไว้
“ไม่ต้องหรอก นายรอฉันตรงนี้ก่อน เสี่ยวหยู๋ชิงก็อยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวฉันกลับมาก”
ว่าแล้ว ก็โบกมือให้พวกเขา และรีบเดินออกไป
จี้จิ่งเชินไม่ไว้ใจ มองดูเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปหลังเวที ก็ถึงลดสายตาลง หันหน้าไปสบตากับจี้หยู๋ชิงที่นั่งข้างๆ
มองตากันปริบๆ
จี้หยู๋ชิงทำเสียงฮึอย่างเย็นชา กอดอก หันหน้าไปทางอื่น
ท่าทีที่น่ารัก ทำเอาคนรอบข้างใจบางกันไปหมด
แต่ก็ทำให้นางแบบพวกนั้นตกใจ ก็คือจี้หยู๋ชิงที่นั่งข้างจี้จิ่งเชิน
เกี่ยวกับจี้จิ่งเชิน ถึงแม้เป็นคนต่างประเทศ ก็รู้จักเขาดี
อายุน้อย หล่อ มีเงินเยอะและรักเดียว เป็นความต้องการสำหรับผู้ชายทุกคนเลย
อย่าว่าแต่ ในวงการนางแบบนี้ มีนางแบบเกินครึ่งจะใช้เวทีนี้เป็นสะพานเชื่อม ได้แต่งงานกับเศรษฐี ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทองอีกต่อไป
แม้ทุกคนจะรู้ว่าจี้จิ่งเชินมีภรรยา และที่นั่งข้างเขาก็เป็นลูกชายของเขา
แต่เรื่องพวกนี้ สำหรับคนที่อยากแต่งงานกับเศรษฐีแล้ว ไม่ใช่ปัญหาเลย
ขอแค่กำจัดเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ พวกเขาก็มีโอกาสแต่งงานกับจี้จิ่งเชินแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น รักของคนคนหนึ่งจะรักษาได้นานเท่าไหร่กัน?
พอผ่านไปสักสี่ห้าปี หมดความสดใหม่ไป ถึงตอนนั้นก็เลิกกันเอง?
คิดแบบนี้แล้ว นางแบบหลายคนที่กำลังเตรียมตัวก็สบตากัน เดินไปหาเขาอย่างไม่ได้นัดหมาย
เมื่อกี้พวกหล่อนเห็นใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว ไม่ว่าจะหน้าตาหรือรูปร่าง ยังมีอาชีพอีก ตัวเองเก่งกว่าอีก ไม่มีเหตุผลที่จี้จิ่งเชินจะไม่ชอบพวกเธอ
ไม่นาน พวกหล่อนก็มาชวนจี้จิ่งเชินคุยต่อหน้า
“คุณคือคุณจี้ใช่ไหมคะ?”
“ก่อนหน้านี้ฉันเคยดูการสัมภาษณ์ของคุณจี้ เป็นคุณใช่ไหมคะ?”
“คุณรู้ไหม? ตั้งแต่ปีก่อนๆ ฉันก็รู้สึกนับถือคุณมาก อยากจะเจอกับคุณสักครั้ง ไม่คิดว่าวันนี้จะเป็นจริงแล้ว!”
“นั่นสิคุณจี้ ไม่คิดว่าครั้งนี้คุณก็มาร่วมงานด้วย เดี๋ยวพวกเราจะเดินดีๆนะคะ”
พวกหล่อนพูดอยู่นั้น กลับไม่เห็นว่าจี้จิ่งเชินจะสนใจตัวเองเลย จึงกัดฟัน
จึงต้องมองไปที่จี้หยู๋ชิงที่นั่งข้างๆแทน อยากจะลงมือกับเด็ก
พยายามยิ้มกว้างให้มากที่สุด และพูดอย่างดีใจว่า: “นี่เป็นลูกชายคุณใช่ไหม? น่ารักจังเลย!”
ว่าแล้ว ก็ยื่นมือไปหยิกแก้มของจี้หยู๋ชิงเบาๆ
จี้หยู๋ชิงขมวดคิ้ว ยกมือขึ้น
เพียะ!
ตบไปที่หลังมือเธอ ปัดมือนั้นออก สีหน้าดูเข้มงวดมาก
ใบหน้ากลมๆนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ แม้จะยังพูดไม่เป็น แต่ท่าทางการปัดมือนั้น กลับไม่แพ้ใครเลย
พวกหล่อนก็ยิ่งยิ้มกว้างมากขึ้น
“เป็นเด็กที่น่ารักจัง คุณจี้ ฉันขออุ้มเขาได้ไหมคะ?”
“ไม่ได้” ในที่สุดจี้จิ่งเชินก็พูดแล้ว น้ำเสียงเขาเยือกเย็นจนเหมือนน้ำแข็ง แช่คนให้แข็งได้ในทันที
พวกหล่อนอึ้งไปหมด เมื่อก่อนเพราะหน้าตาหุ่นของพวกหล่อน แม้จะอยู่ในแวดวงเศรษฐีหรือดารา ก็ได้รับความโปรดปรานทั้งนั้น ไม่เคยมีใครพูดกับพวกหล่อนด้วยน้ำเสียงแบบนี้เลย
แต่ไม่คิดว่า วันนี้พวกหล่อนเริ่มก่อน สุดท้ายจี้จิ่งเชินกลับเย็นชามาก
พอนึกถึงตำแหน่งของจี้จิ่งเชิน พวกหล่อนก็ยิ้มอยู่อย่างนั้น
“จริงเลย คุณจี้ ขี้เหนียวจังเลยนะคะ”
“นั่นสิ เกี่ยวกับการเดินแบบครั้งนี้ ฉันยังมีเรื่องอื่นอยากคุยกับคุณนะคะ”
ว่าแล้ว ก็ไปนั่งข้างจี้จิ่งเชิน ยกมือขึ้น วางไว้บนตัวเขา
แต่ยังไม่ทันได้สัมผัสปลายเสื้อ เพียะ!
มีเสียงดังอีกครั้ง จี้หยู๋ชิงที่นั่งข้างๆยื่นมือออกมาอย่างโมโห ปัดมือเธอออกทันที
เขาคลานมานั่งอยู่ในอ้อมกอดจี้จิ่งเชิน ปกป้องจี้จิ่งเชินเอาไว้ ไม่ให้ใครแตะต้อง
ใบหน้าที่เย็นชานั้นมีความโกรธอยู่ มองไปแล้วเหมือนกับจี้จิ่งเชินเลย
อีอีอาอา!
เขาพูดอย่างโมโห นางแบบที่ถูกตีก็ร้องเสียงโอ๊ย หลังมือแดงเถือกแล้ว!
เด็กอายุแค่นี้ ทำไมมีแรงเยอะแบบนี้นะ
เธอกัดฟันกรอด อยากจะลากเด็กคนนี้มาตีซะให้เข็ด
แต่เห็นแก่จี้จิ่งเชิน เลยต้องข่มอารมณ์ไว้ มองค้อนจี้หยู๋ชิงไปอย่างแรง
เดี๋ยวก่อนเถอะ รอฉันกลายเป็นแม่ของแกก่อน ดูสิฉันจะจัดการแกยังไง
จี้หยู๋ชิงมองสีหน้าบนใบหน้าของนางแบบออก เขาทำเสียงฮึอย่างไม่พอใจ หันหน้าไปพูดอีอีอาอากับจี้จิ่งเชิน
นางแบบอีกคนที่เห็นคนนั้นถูกตี ก็แอบหัวเราะเยาะในใจ
ถามไปว่า: “คุณจี้ ลูกของคุณกำลังพูดอะไรเหรอคะ?”
จี้จิ่งเชินน้ำเสียงเย็นชา เหมือนออกมาจากน้ำแข็ง ไม่มีความสูงต่ำเลย
“เขาว่า พวกเธอบังอยู่น่ะ”
จี้จิ่งเชินพูดเสริมว่า: “ผมก็คิดแบบนี้”
พูดถึงตรงนี้ ในที่สุดเขาก็เงยหน้า แววตาเหมือนทำทาน กวาดตามองคนพวกนี้ แต่กลับเยือกเย็นจนถึงกระดูก เหมือนใบมีดที่คอยกรีดเนื้อตัว
แค่มองไม่กี่วินาที ก็ทำให้คนเย็นวาบไปทั้งตัวแล้ว ในใจก็หวาดกลัวขึ้นมา
เขาพูดอย่างเย็นชาว่า: “หายไปจากตรงหน้าฉันเดี๋ยวนี้ หรือไม่อย่างนั้น ก็ทำให้พวกเธอหายไปจากวงการนางแบบตลอดไป!”