เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่999 ฝืนใจให้พ่ออุ้มหน่อยก็ได้
หลังจากหลวนจื่อปรากฎตัว รอบๆก็ส่งเสียงร้องตกใจออกมาอย่างไม่ขาดสาย
ผมดำนัยน์ตาดำ หุ่นที่เพอร์เฟค กลิ่นไอที่ลึกลับดึงดูดสายตาผู้คนอย่างไม่ขาดสาย เสน่ห์ที่พิเศษแบบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นสามารถเทียบได้
เห็นคนผมทองนัยน์ตาสีฟ้า และใบหน้าที่เฉียบคมจนชิน นาทีนี้เห็นหลวนจื่อแล้วยิ่งตื่นตะลึงสุดๆ!
ได้ยินว่างานออกแบบของดีไซน์เนอร์ในครั้งนี้ ก็คือเตรียมเพื่อคนยุโรป ตอนที่หลวนจื่อเดินเฉิดฉายออกมา คนอื่นๆยังค่อนข้างเป็นกังวล ถึงเวลาเธอจะสื่อคอนเซ็ปต์ของดีไซน์เนอร์ออกมาได้หรือเปล่า แม้กระทั่งจะกลายมาเป็นหัวมงกุฎท้ายมังกร
แต่ตอนนี้ ความกังวลและความกลัวที่มีอยู่ในใจทุกคนได้ถูกลบล้างไปหมด!
มีคนไม่น้อยพบที่เห็นในเวลาเดียวกัน ว่าหลวนจื่อที่อยู่ตรงหน้ากับคนที่อยู่ในความทรงจำของพวกเขาไม่เหมือนเดิมแล้ว
มีความเป็นผู้ใหญ่กว่าและยับยั้งชั่งใจกว่า ไม่เฉียบคมเหมือนเมื่อก่อน
ถึงอยู่บนเวทีนาๆชาติแบบนี้ หลวนจื่อก็สามารถเอาอยู่
ท่าก้าวย่างที่เพอร์เฟคและมั่นคงเดินมาทีละก้าว
สายตาของทุกคนต่างก็หล่นอยู่ที่บนตัวเธอจนไม่ยอมเคลื่อนย้ายสายตา
แววตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนเปล่งประกายเล็กน้อย ในขณะเดียวกันก็
ตะลึงในความสวยสุดๆ
จนกระทั่งเธอเดินลงจากเวที ทุกคนล้วนยังจมปลักอยู่ในความทรงจำของเมื่อครู่
บางคนที่ไม่รู้จักและวิจารณ์ไปมั่ว เริ่มสอบถามคนอื่นว่าคนที่อยู่บนเวทีคือใคร
ในนี้มีสื่อ นักข่าว และมีดีไซน์เนอร์ท่านอื่นๆอยู่
ดีไซน์เนอร์เห็นงานดีไซน์ของตัวเองเป็นเหมือนลูกตัวเอง ถ้าสามารถหาคนที่พึงพอใจ สื่อคอนเซ็ปต์ของดีไซน์ออกมาจะดีที่สุด
นาทีนี้เห็นหลวนจื่อก็เริ่มมีควมทเคลื่อนไหวกันขึ้นมา
พอได้ยินฝ่ายตรงข้ามคือหลวนจื่อ ก็รู้สึกทึ่งสุดๆเหมือนกัน
หลวนจื่อที่เป็นถึงนางแบบ ก็มีคนไม่น้อยเหมือนกันที่เคยได้ยินชื่อของเธอ แต่ดีไซน์เนอร์บางคนกลับไร้ความรู้สึกกับเธอ
จนกระทั่งตอนนี้ ในที่สุดถึงเห็นว่าบุคลิกที่สร้างได้ในตัวเธอ เป็นซุปเปอร์โมเดลที่เก่งจริงๆ นอกจากสามารถสื่อคอนเซ็ปต์ของดีไซน์เนอร์ออกมาแล้ว ยังสามารถช่วยพวกเราได้แรงบันดาลใจใหม่ๆด้วย!
เป็นคนที่สามารถพบเจอได้ แต่ไม่สามารถเรียกร้องมันมาได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่เห็นภาพนี้ก็รู้สึกดีใจเช่นเดียวกัน
เงยหน้ามองไป ก็เห็นไอรีนยืนอยู่ที่ขอบเวทีพอดี
ไอรีนมองหลวนจื่อที่เดินแบบอยู่บนเวที ดูเธอที่ดึงดูดสายตาผู้คน ได้รับการยอมรับจากทุกคนแล้ว ยิ่งโมโหจนกัดฟัน
ถึงแม้ไอรีนเป็นนางแบบเปิดงานของวันนี้ แต่เพราะการปรากฎตัวของหลวนจื่อ พริบตาเดียวก็ได้แย่งรัศมีบนตัวเธอไปหมด
ทุกคนต่างก็กำลังพูดคุยถึงการหวนกลับมาของหลวนจื่อ
เธอถึงขั้นสามารถจินตนาการได้ ข่าวของวันพรุ่งนี้จะต้องเป็นข่าวของหลวนจื่อหมดแน่นอน และไม่มีพื้นที่ของเธอเลย!
ผลพวงที่ไอรีนลำบากมาหนึ่งปี
กำลังจะถูกหลวนจื่อแซงหน้าภายในระยะเวลาสั้นๆไม่กี่วันแล้ว!
เธอจะยอมได้ยังไง?
พอเห็นหลวนจื่อเริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดที่สอง เธออาศัยเวลาว่างนี้เริ่มค้นหาอยู่หลังเวที
จะให้หลวนจื่อไปต่อไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นตำแหน่งของตัวเองจะต้องถูกเธอมาแทนที่ในไม่นานนี้แน่นอน!
เสื้อผ้าชุดแรกของหลวนจื่อได้ผ่านไป เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เริ่มตั้งตารอชุดที่สองของเธอแล้ว
แต่เสียดาย ไม่นึกเลยว่าวันนี้หมินอันเกอจะมาไม่ได้ ไม่งั้นจะให้หมินอันเกอดูสักหน่อย ถึงเวลาจะต้องตื่นตะลึงในความสวยแน่นอน!
พอคิดแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็อดยิ้มไม่ได้ จี้จิ่งเชินที่อยู่ข้างๆเห็นแล้วได้ถามว่า: “เป็นอะไรครับ? แอบยิ้มอะไรอยู่?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันหน้ามาพูดเสียงเบา: “ฉันนึกถึงหมินอันเกอค่ะ”
“อื๊ม?”
จี้จิ่งเชินพูดเสียงต่ำและยักคิ้วเล็กน้อย
“พูดแบบนี้แสดงว่า คุณนายจี้นั่งอยู่ข้างกายผม แต่ในใจกลับคิดถึงคนอื่น?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้วอึ้งไปครู่นึง จากนั้นได้พูดด้วยรอยยิ้ม: “ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นค่ะ ฉันหมายถึงถ้าวันนี้หมินอันเกออยู่ในงาน จะต้องถูกหลวนจื่อในตอนนี้ทำเอาหลงหัวปักหัวปำแน่เลยค่ะ”
“ถึงจะเป็นแบบนี้ก็เถอะ คุณก็ห้ามคิด” จี้จิ่งเชินกลับเผด็จการสุดๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนจนปัญญา
ผู้ชายคนนี้ จนถึงตอนนี้ ขอแค่เจอเรื่องของคนอื่นก็จะกลายเป็นคนเผด็จการสุดๆ
อีกอย่างตอนนี้ไม่ใช่แค่จี้จิ่งเชินคนเดียว แม้แต่จี้หยู๋ชิงที่นั่งอยู่อ้อมกอดจี้จิ่งเชินก็ไม่รู้ไปเรียนรู้มาจากเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็เผด็จการมากเหมือนกัน
ถึงแม้ปกติบนใบหน้าไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ เย็นชากับทุกอย่าง
แต่พอเจอเรื่องของเวินเที๋ยนเที๋ยน ก็จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นาทีนี้เห็นหม่ามี๊กับพ่อพูดคุยกัน ยิ่งไม่ยอมเหงาอยู่คนเดียว เขาเองก็ได้พูดอ้อแอ้ขึ้นมา
ถึงแม้รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามฟังไม่รู้เรื่อง แต่ก็ไม่อยากละทิ้งความพยายาม
ใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนค่อนข้างแดงก่ำ อุณหภูมิก็สูงขึ้นมาตามๆกัน
ดูรอบๆ เห็นว่าไม่มีคนมองเห็น เธอถึงได้พูดกับจี้จิ่งเชินเสียงเบา: “วางใจเถอะค่ะ ในใจฉันมีพื้นที่ให้แค่คุณกับหยู๋ชิงเท่านั้นค่ะ”
คิดไม่ถึงว่าจี้จิ่งเชินได้ยินคำนี้แล้วก็ยังไม่พอใจอยู่ดี
เขาย้อนถามว่า: “มีผมก็พอแล้ว เจ้าตัวแสบคนนี้ก็ถีบออกไปเลย ไม่ต้องเก็บเขาไว้ในใจหรอก”
จี้หยู๋ชิงได้ยินคำนี้ก็ใจร้อนขึ้นมาทันที
“อ้อแอ้ๆๆ!” เขาร้องเรียนอย่างไม่พอใจ
จี้จิ่งเชินเพิกเฉย และปราบปรามด้วยกำลังโดยตรง
“ทำไม? ไม่พอใจ?”
“อ้อแอ้!”
น้ำเสียงของจี้หยู๋ชิงยิ่งมีท่าทางดุร้ายเข้าไปใหญ่ กล้าท้าทายจี้จิ่งเชิน!
จี้จิ่งเชินแค่พูดอย่างเรียบเฉย: “ฉันขอเตือนนายเลยว่ารีบละทิ้งความคิดนี้ซะ นี่เป็นภรรยาของฉัน ถ้านายอยากให้คนเก็บนายไว้ในใจ ก็ไปหาคนอื่น”
แม้แต่กับเด็กที่ยังไม่ครบหนึ่งขวบ ความหึงหวงของจี้จิ่งเชินก็ไม่ลดลงเลยสักนิด คอยปฏิญาณตนอย่างกำเริบเสิบสานและเผด็จการ
จี้หยู๋ชิงฟังแล้วอึ้ง ทำแก้มป่องด้วยความโกรธ จากนั้นได้หันหน้าไปอีกทางพร้อมหันตูดให้กับจี้จิ่งเชิน
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกกิจกรรมร่วมกันของทั้งสองคนหยอกจนหัวเราะขึ้นมา
จี้หยู๋ชิงในนาทีนี้ช่างน่าสงสาร ทำให้คนแข็งใจรังแกไม่ได้จริงๆ
“เอาล่ะ คุณอย่ารังแกเสี่ยวหยู๋ชิงเลยค่ะ”
ระหว่างพูด เธอยื่นมืออยากจะอุ้มจี้หยู๋ชิงมา
ใครจะไปรู้ว่าจี้หยู๋ชิงมองเธอแต่กลับไม่มีความเคลื่อนไหวเลย กลับกันยังได้ดึงเสื้อของจี้จิ่งเชินเข้ามาใกล้พร้อมทั้งส่ายหัว
“อ้อแอ้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมึนงง “ลูกพูดอะไรอีกคะ?”
จี้จิ่งเชินยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แววตาแฝงด้วยรอยยิ้ม “ผมอุ้มก็พอแล้ว คุณตั้งใจดูการแสดงของหลวนจื่อเถอะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนสอบถามจี้หยู๋ชิง เห็นไม่ยอมให้ตัวเองอุ้มจริงๆ ในที่สุดถึงล้มเลิกความคิด
ช่างเถอะ ปกติจี้หยู๋ชิงติดตัวเองงอมแงมเลย ตอนนี้ยอมสนิทชิดเชื้อกับจี้จิ่งชิงก็ไม่เลวเหมือนกัน
พอคิดแบบนี้แล้วก็ได้หันหน้ากลับไปดูการแสดงต่อ
นาทีนี้ จี้จิ่งเชินถึงยกมือลูบศีรษะของจี้หยู๋ชิง
“เด็กดีมาก”
จี้หยู๋ชิงพยักหน้า
ช่วงนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังเข้าร่วมการแข่งขันบูรณะวัตถุโบราณ ของแบบนี้ส่วนใหญ่ล้วนเป็นงานที่ละเอียด บางครั้ง ยังต้องใช้แว่นขยาย เป็นการทดสอบความคล่องแคล่วของนิ้วมือของนักบูรณะวัตถุโบราณมาก
นับตั้งแต่เตรียมการแข่งขันมา พวกอาจารย์ฉู่ก็กำชับมาเป็นพิเศษว่าเธอห้ามยกของหนัก เพื่อถึงเวลาจะได้ไม่สูญเสียความแม่นยำ
เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ทำตามมาโดยตลอด แต่แค่เจอจี้หยู๋ชิงก็จะลืมเรื่องนี้ไปเลย
เมื่อกี๊จี้จิ่งเชินก็เป็นห่วงจริงๆ เพื่อการแข่งขันของเวินเที๋ยนเที๋ยน อย่าเพิ่งให้เธออุ้มจะดีกว่า
จี้หยู๋ชิงก็รู้จุดนี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อกี๊ถึงได้ปฏิเสธเวินเที๋ยนเที๋ยน
เขานั่งอยู่ในอ้อมอกของจี้จิ่งเชิน พร้อมทำแก้มป่อง
เพื่อหม่ามี๊แล้ว เขาฝืนใจให้พ่ออุ้มหน่อยก็ได้
ทำหน้าเย่อหยิ่ง แต่ลึกๆแล้วไม่เหมือนที่แสดงออกมาเลย