เมื่อนายน้อยมีลูกสาว Young Master Has a Daughter - ตอนที่ 18
บทที่ 18 – ระดับสูง
ใช้เวลาไม่นานในการเสิร์ฟอาหารไปที่โต๊ะของพวกเขา แม้ว่าอาหารจะถูกปิดด้วยฝาโลหะ ปิดกั้นกลิ่นของอาหารทั้งหมดไม่ได้ บางส่วนรั่วไหลออกไปข้างนอกกลิ่นหอมของมันกระตุ้นความอยากอาหารอย่างทั่วถึง
ท้องของยุ่นเซี่ยร้องอย่างหนักเพราะความลำบากใจ เธอไม่สามารถอดกลั้นความหิวได้อีกต่อไปหลังจากที่เธอได้มองอาหารที่อยู่ต่อหน้าเธอ
ผู้คนที่นั่งอยู่รอบโต๊ะมองเธออย่างสนุกสนานยกเว้นหยื่อตงเหม่ย ใบหน้าของเธอดูแข็งกร้าวเช่นเคย แต่มีรอยยิ้มเล็กน้อยที่แทบสังเกตไม่เห็นบนริมฝีปากของเธอ
ยุ่นหลิงหัวเราะเบาๆ ที่ลูกสาวของเขา ดูเหมือนว่ายุ่นเซี่ยไม่สามารถรอได้อีกต่อไป ด้วยเหตุนี้มือของเขาจึงเอื้อมไปที่ฝาเพื่อให้พวกเขาเริ่มกินได้ทันที
เมื่อยุ่นหลิงเปิดฝาเขาค่อนข้างประหลาดใจเมื่อเห็นอาหารตรงหน้าเขา
“นี่คือ … หนึ่งในอาหารชั้นสูง7อย่าง ไก่สีรุ้ง”
มกุฎราชกุมารก็ประหลาดใจเช่นเดียวกัน
“ข้าคิดว่ากลิ่นนั้นค่อนข้างคุ้นเคย แต่ข้าจำไม่ได้ไม่ว่าข้าจะนึกแค่ไหนก็ตาม ปรากฎว่าเป็นไก่สีรุ้ง ก่อนหน้านี้ข้าเคยกินแค่ครั้งเดียวและนั่นคือตอนที่ข้ายังเป็นเด็ก”
“นี่เป็นอาหารที่หากินได้ยากมาก ต้องคนที่มีโชคเท่านั้นถึงจะได้กินมันแม้แต่จักรพรรดิก็ไม่สามารถกินไก่สีรุ้งได้ตามที่เขาต้องการ” ยู่ฉานไม่เคยกินไก่สีรุ้งมาก่อน แต่เขาก็ยังรู้ที่มาของอาหารจานนี้มันเป็นอาหารที่หากินได้ยากและมีชื่อเสียง
เช่นเดียวกับชื่อของมันไก่สีรุ้งเป็นไก่ที่มีสีบนตัวเจ็ดสี ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ให้เรียกไก่ชนิดนี้ว่าไก่สีรุ้งเพราะมันมีสีที่คล้ายกับรุ้งทั้งเจ็ดสี ไก่สีรุ้งนั้นเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ไก่ที่หายากที่สุด เป็นที่รู้กันว่าอร่อยมากไม่ว่าจะปรุงด้วยวิธีใดหรือไม่ว่าผู้ปรุงจะห่วยแตกแค่ไหนก็ตาม
แม้ว่าไก่สีรุ้งจะถูกปรุงสุกแล้วและไม่มีขน แต่ยุ่นหลิงและคนอื่นๆ ก็ยังรับรู้ได้ เป็นเพราะมันยังคงเปล่งประกายสีรุ้งทั้งเจ็ดออกมาอย่างแผ่วเบา ซึ่งนั่นเป็นลักษณะเฉพาะของมัน
“ข้าได้ยินมาว่าผู้ปกครองแผ่นดินสูงสุดทรงเลี้ยงไก่สีรุ้งไว้ในวัง พ่อของข้าบอกว่าผู้ปกครองแผ่นดินสูงสุดไม่เต็มใจที่จะกินพวกมันและเลี้ยงดูพวกมันเพื่อกินไข่แทน” ยู่ฉาน กล่าว แม้ว่าไก่สีรุ้งสามารถวางไข่ได้หลายฟอง แต่ก็มีโอกาสเพียงหนึ่งในล้านเท่านั้นที่ไก่หลากสีอีกตัวจะโผล่ออกมา ไข่ส่วนใหญ่ไม่ออกลูกเป็นตัวและเหมาะสำหรับรับประทานเท่านั้น
“ไก่สีรุ้งเหรอ? องค์ชายที่สี่ต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากเพราะเรื่องแค่นี้งั้นหรือ” ยุ่นหลิงกล่าวอย่างขบขัน เขาเหลือบไปเห็นโต๊ะอื่นๆ และเห็นว่าอาหารที่เสิร์ฟก็คุณภาพเยี่ยมเช่นกัน แม้ว่ามันจะเทียบกับไก่สีรุ้งไม่ได้ แต่ก็ยังคงเป็นอาหารชั้นสูงและมีราคาแพง
ยุ่นหลิงพูดถูก อง์ชายที่สี่เกือบจะถังแตกเพราะเหตุนี้ เขาใช้เงินไปมากเพื่อแสดงความมั่งคั่งและอำนาจของเขา องค์ชายที่สี่ต้องการสร้างความเป็นมิตรและดึงดูดอัจฉริยะให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ผ่านงานเลี้ยงนี้
ยังมีอาหารที่ยังไม่ได้เปิดอยู่บนโต๊ะของพวกเขา มกุฎราชกุมารยกอีกฝาหนึ่งออกจากถาด
“อันนี้ดูเหมือน … ข้าคิดว่ามันคือปลาแซลมอนหิมะ ปลาแซลมอนชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในธารแข็งในทะเลขั้วโลก ไม่แพง แต่ก็ไม่ถูกด้วย”
“อันนี้เป็นเนื้ออสูรหมูเกรด A เนื้ออสรูหมู มีราคาค่อนข้างถูกใครๆ ก็ซื้อได้ แต่เนื้อเกรด A นั้นค่อนข้างหามาทานได้ยากมาก” ยู่ฉานกล่าวเมื่อเห็นเนื้ออสูรหมูในถาดสุดท้าย
หยื่อตงเหม่ยและองครักษ์ของมกุฎราชกุมารจ้องมองพวกเขาอย่างนิ่งเงียบขณะที่พวกเขาทุกคนคิดว่า ‘ทั้งสามคนเป็นอะไรกัน? ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารงั้นรึ? ’
“ยังไงก็ตามพวกเราขอกินก่อนล่ะนะ” ยุ่นหลิงพูดขณะที่เขาคว้าส้อมและมีด เขาหั่นเนื้อไก่ส่วนหนึ่งแล้ววางไว้บนจานของยุ่นเซี่ย “เซี่ยเซี่ยเจ้าควรกินนี่นะ ไก่สีรุ้งไม่เพียงแค่อร่อยเท่านั้น แต่ยังดีต่อพื้นฐานร่างกายของเจ้าด้วย สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์เมื่อเจ้าเริ่มฝึกตนในอนาคต”
“อื้ม” ยุ่นเซี่ยพยักหน้าให้พ่อของเธอ
“กินปลาแซลมอนหิมะพวกนี้ด้วย รสชาติของมันอาจด้อยกว่าไก่หลากสี แต่ก็ยังคงเป็นอาหารอันโอชะชั้นสูง เจ้าเป็นลูกสาวของตระกูลยุ่นดังนั้นเจ้สต้องรู้วิธีชื่นชมอาหารที่ดีจากอาหารที่ไม่ดี สำหรับเนื้ออสูรหมูนั้นค่อนข้างหนักเกินไปสำหรับเจ้า เจ้าจึงไม่ควรกินมัน เนื่องจากนี่มันกลางคืนแล้วเจ้าจะได้นอนเร็วๆ ดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่จะไม่กินมันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะเจ้ากำลังจะกินไก่สีรุ้งและปลาแซลมอนหิมะอยู่แล้ว”
“ยุ่นเซี่ยเข้าใจท่านพ่อ” ยุ่นเซี่ยพูดตามยุ่นหลิงพูดทุกคำ
ยุ่นหลิงยิ้มให้เธอด้วยความขอบคุณ จากนั้นเขาสังเกตเห็นยู่ฉาน และมกุฎราชกุมารมองเขาอย่างแปลกประหลาด
“อะไรรึ?” ยุ่นหลิงถามขมวดคิ้ว
“ไม่มีอะไรหรอก” มกุฎราชกุมารตอบและเริ่มรับประทานอาหารโดยไม่สนใจยุ่นหลิง
ในทางกลับกัน ยู่ฉานหัวเราะเบา ๆ
“ไม่มีอะไรหรอกยุ่นหลิง มันดูแปลกน่ะที่เจ้าทำตัวเป็นพ่อฮ่าๆ”
“เจ้าไม่ใช่คนแรกที่บอกกับข้าแบบนั้น” ยุ่นหลิงพูดโดยนึกถึงยุ่นหยี่ที่พูดแบบเดียวกันก่อนหน้านี้ “และข้ารู้สึกว่าเจ้าไม่น่าจะใช่คนสุดท้ายด้วย”
จู่ๆยู่ฉานก็หัวเราะออกมา “มันไม่ใช่ความรู้สึก แต่มันเป็นความจริง จะมีอีกหลายคนที่จะต้องประหลาดใจเมื่อเห็นเจ้าทำตัวแบบนี้ในอนาคต”
ยุ่นหลิงปล่อยคำเย้ยหยัน เขาไม่สนใจ ยู่ฉานในขณะที่เขาเริ่มรับประทานอาหารหลังจากเสิร์ฟอาหารในจานของเขาเอง