เมื่อผมโดนระบบครองร่าง - บทที่ 114 ห้ามอัพเลเวล ฉันจะดูแลร่างกายนายเอง อย่าแม้แต่จะคิดใช้การฝึกฝนหลังจากที่นายเรียนรู้มันเชียว
- Home
- เมื่อผมโดนระบบครองร่าง
- บทที่ 114 ห้ามอัพเลเวล ฉันจะดูแลร่างกายนายเอง อย่าแม้แต่จะคิดใช้การฝึกฝนหลังจากที่นายเรียนรู้มันเชียว
บทที่ 114 ห้ามอัพเลเวล ฉันจะดูแลร่างกายนายเอง อย่าแม้แต่จะคิดใช้การฝึกฝนหลังจากที่นายเรียนรู้มันเชียว
ฟางหนิงโล่งใจ ในความคิดของเขาระบบก็คือระบบผู้มีสายตาและความทรงจำที่ไม่มีใครเทียบได้
หลังจากรู้กลโกง ฟางหนิงก็เริ่มแสร้งเล่นละคร “ฮ่าฮ่า ไอ้ตัวปลอม! นายคิดว่าแค่แกเลียนแบบพ่อบ้านเจิ้งได้ก็พอแล้วสินะ? แต่แกคงไม่รู้หรอกว่าท่านมังกรขาวของฉันอ่านโคนันมาแล้วกว่าเก้าร้อยตอน และนิยายนักสืบกว่าเจ็ดร้อยเรื่องตั้งแต่เขามายังโลก ตอนนี้เขาพัฒนาเป็นนักสืบมังกรขาวชื่อดังไปแล้ว ฉันรู้ความจริงหมดแล้ว!”
‘เจิ้งต้าว’ ยิ้มบาง “ท่านมังกรขาว พูดเล่นอีกแล้วสินะ ผมคือเจิ้งต้าวตัวจริง ท่านยังคิดว่าอะไรไม่จริงอีก?”
“ระยะเดินเท้า ช่วงการวาดมือ การสั่นของไหล่ และการกระเพื่อมของหน้าอก” ฟางหนิงกล่าวเสียงเรียบทำให้สีหน้าของอีกฝ่ายเปลี่ยนไป “ในจุดนี้ชี้ให้เห็นความต่างอย่างชัดเจนระหว่างพ่อบ้านเจิ้งตัวจริง แกอยากให้ฉันเล่นวิดีโอการเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ของพ่อบ้านเจิ้งเปรียบเทียบกับแกดูไหม?”
ระบบไม่พอใจเล็กน้อย “โฮสต์ไม่รู้สึกละอายใจที่ลอกคำพูดของระบบไปหน้าด้านๆ บ้างหรือไง?”
ฟางหนิงไม่รู้สึกละอายเลนสักนิด “ถ้าฉันไม่ลอกเลียนแบบนี้ จะรู้ได้ยังไงว่าฉันพบจุดบกพร่อง จะยอมแพ้ไหมล่ะ? แกไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้และทำได้แค่เป็นฮีโร่ที่อยู่เบื้องหลังฉัน ฉันเป็นคนเดียวที่รู้เครดิตของแก ตอนนี้งานของฉันเสร็จสิ้นแล้ว ถึงคิวของอัศวิน A ที่จะปรากฎตัว เชิญนายแสดงพลังได้ตามต้องการเลย”
เหตุผลนี้ทรงพลังมากจนระบบเลือกที่จะถอยกลับ
หลังจากอ่านคำที่ฟางหนิงพิมพ์ ในตอนนี้ ‘เจิ้งต้าว’ ในวิดีโอก็ระเบิดออก ท่ามกลางควันขโมง ปรากฏหญิงสาวในชุดสีเขียวงดงามทันสมัยค่อยๆ ปรากฏขึ้น…
“อย่างที่คาดไว้เลย” ฟางหนิงตอบกลับ “ต่อให้จิ้งจอกเจ้าเล่ห์แค่ไหน ก็ไม่สามารถหลบสายตานักล่าที่ดีของฉันได้หรอก!”
“ขอแนะนำตัวเองสักหน่อย ฉันมีชื่อว่าติงเซียง ชื่อออนไลน์คือ ‘ความรักและความหวังอันเลือนราง’ และเป็นเพื่อนใน QQ ของ ‘เรียนรู้รายทาง’“ ผู้หญิงในชุดเขียวพูดเสียงเบาในวิดีโอ
ฟางหนิงคิดในใจ ‘เรียนรู้รายทาง’ เป็นชื่อเล่น QQ ของเจิ้งต้าวไม่ใช่เหรอ? ไม่เพียงแต่พูดชื่อเขาแล้วทุกอย่างจะจบ ทันทีที่ได้ยินชื่อของสองคนนี้ก็รู้ได้ทันทีว่าพวกเขาเป็นคู่หูศิลปิน เหล่าเจิ้งจะตั้งชื่อตัวเองว่าเจิ้งต้าวหรือ ‘เรียนรู้รายทาง’ ซึ่งคล้องจองกัน ฮิปสเตอร์เกินไปแล้ว ไม่เห็นเย่อหยิ่งเหมือนชื่อ ‘มังกรบินแห่งใต้หล้า’ ของเขาเลย
ฟางหนิง “ฉันตั้งตารอมานานแล้ว ไม่ทราบว่าติงเซียงเอาเจิ้งต้าวของเราไปซ่อนไว้ที่ไหน?”
หญิงชุดเขียวตอบกลับ “ฉันได้ยินเขาพูดหลายครั้งว่าท่านทั้งสองเป็นนักรบผู้กล้าหาญที่ยืนอยู่เหนือฟ้า ต้องเป็นบุคคลที่น่านับถือแน่นอน ฉันกับเขาอยู่ในความรักอันขมขื่นมานานกว่าสิบปีแล้ว ตอนนี้พวกเราตัดสินใจกลับไปที่ป่าเขา ขอให้ท่านได้โปรดเห็นใจเราด้วย”
ฟางหนิงครุ่นคิด ‘เป็นอย่างนั้นจริงๆ น่ะเหรอ?’ เป็นไปได้ไหมที่ตัวเขาจะคิดผิด?
ฟางหนิง “พี่สาวมีอะไรก็คุยกันดีๆ เถอะ ถ้าอยากจะแต่งงานกับเขา ฉันก็ไม่มีข้อโต้แย้ง ฉันสามารถให้บ้านเป็นของขวัญแต่งงานได้ เพียงแต่ปล่อยให้เขาทำงานกับฉันต่อไปก็พอ ฐานะทางบ้านของฉันมูลค่ามากกว่าหนึ่งพันล้านหยวน เรียกได้ว่าเป็นมังกรเศรษฐี นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษมอบให้ ทั้งหนึ่งในสี่ปรมาจารย์หลักในเสินโจวก็คอยควบคุมดูแลอยู่ ไม่มีอะไรต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยเลย ในโลกนี้ไม่มีที่ไหนจะสวัสดิการดีไปกว่าที่นี่อีกแล้ว…”
หญิงชุดเขียว “ท่านมังกรขาว พวกเราไม่สนใจสิ่งนอกกายพวกนี้หรอก เราแค่อยากอยู่กันท่ามกลางป่าเขา โปรดยกโทษให้ด้วย ขอตัวก่อน”
ฟางหนิงส่งข้อความกลับไปทันที “ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ ฉันพูดความจริง ฉันเป็นเจ้านายที่ดีแห่งศตวรรษ…เฮ้ อย่าเพิ่งออฟไลน์สิ กลับมา กลับมาก่อน…”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ไม่ทันไรบัญชี QQ ของเจิ้งเต้าก็ดับหายไป ไม่ว่าจะปิดกั้นหรือออฟไลน์ อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายไม่มีการตอบสนองใดอีกแล้ว
ฟางหนิงหันไปพูดกับระบบ “ฟังเข้าใจหรือเปล่า?”
ระบบตอบอย่างตรงไปตรงมา “ไม่เข้าใจ มันดูเหมือนบทรักๆ ใคร่ๆ ใช่ไหม?”
ฟางหนิงเข้าใจอย่างถ่องแท้ ดังนั้นเขาจึงโชคร้ายยิ่งกว่าเดิม เขายังโสดและตอนนี้เขาก็กำลังคิดถึงกิจวัตรที่เคร่งเครียดของผู้หญิงที่ไล่ตามผู้ชายสุดฤทธิ์สุดเดช…
ฟางหนิงกุมศรีษะ “อ่า ฉันรู้สึกอยากจะระเบิดพลังโจมตีสักหมื่นครั้ง! ทำไมเรื่องดีๆ แบบนี้ถึงไม่เกิดขึ้นกับฉันบ้าง…”
ระบบ “พวกมนุษย์ช่างเปราะบางเหลือเกิน…โฮสต์ยังมีความคิดที่จะจีบผู้หญิงอยู่อีกเหรอ?”
“แต่ฉันยังกลัวงูอยู่นิดหน่อย…” เมื่อฟางหนิงเห็นว่าหัวข้อกำลังจะเปลี่ยนมาที่ตัวเอง เขาจึงรีบพยายามเปลี่ยนเรื่องพัลวัน “เดี๋ยวก่อน อย่าพูดไร้สาระ ถ้าฉันขอให้แกทำเรื่องหนึ่งที่ไม่ได้หนักหนามาก แกจะช่วยทำให้ไหม?”
ระบบ “ไม่ทำ”
ฟังหนิงยังคงจับศีรษะและขอร้อง “โอ้ มันเป็นเรื่องใหญ่นะ ช่วยหน่อยเถอะ! แกไปช่วยฉันตามหาเจิ้งต้าว ไม่สิ ทั้งหมดนี้เป็นบันทึกการสนทนา QQ ของ ‘เรียนรู้รายทาง’ และ ‘ความรักและความหวังอันเลือนราง’ นักสืบคนนี้ต้องการข้อมูลจำนวนมากเพื่อไขคดีการหายตัวไปของพ่อบ้านเจิ้ง ก่อนหน้านี้แกเคยพูดไว้ว่าสามารถเข้าสู่สถานที่ทั้งหมดบนอินเทอร์เน็ตสาธารณะได้ แต่เนื้อหาส่วนใหญ่ไม่สามารถอ่านหรือเรียนรู้ได้เลย แต่แกสามารถคัดลอกกลับมาให้ฉันได้นี่ นี่แกพูดเองนะ หรืออย่าบอกนะว่าที่ผ่านมาโกหก จริงๆ แล้วแกทำไม่ได้ใช่ไหม?”
ระบบ “ทำไม่จะไม่ได้? ภายในสิบนาทีระบบจะหามาให้”
ฟางหนิง “รีบไปรีบมาล่ะ”
หลังจากนั้นไม่นาน ไฟล์ข้อความที่มีขนาดมากกว่าสิบเมกะไบต์ก็ปรากฏขึ้นบนเดสก์ท็อปคอมพิวเตอร์ของฟางหนิง
“ระบบนายสุดยอดมาก!” หลังจากที่ฟางหนิงถอนหายใจและเปิดมัน บันทึกการสนทนาทั้งหมดของชื่อไอดี ‘เรียนรู้รายทาง’ และ ‘ความรักและความหวังอันเลือนราง’ ก็ปรากฏขึ้น
จากที่ดูระยะเวลายาวนานมากทีเดียว ด้วยช่วงวัยสิบแปดปีเรียกได้ว่าเป็นบททดสอบความรักทางไกลอย่างดี
ยิ่งดูฟางหนิงยิ่งซาบซึ้ง ดวงตาของเขาพลันเปล่งประกายสดใส เสียงหัวเราะ ‘ฮิฮิ’ ดังออกมาจากปากของเขาเป็นครั้งคราว
ระบบ “โฮสต์เจอเบาะแสอะไรบ้างหรือยัง?”
ฟางหนิงซาบซึ้งในเรื่องนี้มากจนไอคิวของเขาลดลงอย่างต่อเนื่อง เขาพูดอย่างเป็นกันเองว่า “ฉันเจอเยอะเลยแหละ บันทึกการสนทนาของ QQ ของคู่รักนี้ดีกว่านิยายรักออนไลน์ซะอีก…”
ระบบ “โฮสต์อยากให้ระบบตัดไฟไหม?”
ฟางหนิง “อย่าเชียวนะ ฉันกำลังไขคดีอยู่…”
ระบบ “ระบบรู้ว่าโฮสต์โกหก โฮสต์กำลังอ่านนิยายอยู่ชัดๆ…”
ฟางหนิง “ตั้งใจแล้ว ตั้งใจแล้วจ้าโอเคไหม? ระหว่างคนและระบบเรายังไว้วางใจกันได้เนอะ? อย่ารีบสิ ฉันกำลังอ่านอยู่ เดี๋ยวก็ได้รู้ความจริงแล้ว แม้ว่าจะผิดจรรยาบรรณไปบ้าง แต่เรามาถึงจุดนี้ก็เพื่อช่วยเขา! ปกติฉันไม่เคยให้แกทำแบบนี้มาก่อนซะหน่อย จากการวิเคราะห์ของนักสืบคนนี้ ในตอนนี้เหล่าเจิ้งน่าจะปลอดภัย ไม่แน่เขาอาจจะยังเพลิดเพลินกับความสุขสมอยู่ก็ได้! ปล่อยให้เขาสนุกกับการพบปะกันก่อน หากมีอันตรายร้ายแรง เพียงแค่เปิดใช้ทักษะในตำนานของเราอย่าง ‘ช่วยเหลือพันลี้’ เราก็สามารถบินข้ามไปได้ทันทีโดยไม่เสียเวลาแล้ว นายดูสิฉันพิจารณาทุกอย่างไว้แล้ว เพราะงั้นตอนนี้แกก็ปล่อยให้ฉันวิเคราะห์ข้อมูลรูปคดีด้วยความสบายใจเถอะ แล้วตามหาสถานที่ที่เหล่าเจิ้งอาจจะมีนัดออฟไลน์กับอีกฝ่าย…”
ระบบ “โอ้ ดูเหมือนว่าโฮสต์ยังคงคิดมากเหมือนเคยเลยนะ งั้นระบบจะไม่รบกวนแล้ว ระบบต้องเร่งปรับปรุงวิธีการเพิ่มพลัง โฮสต์ค่อยๆ อ่านไปนะ”
ฟางหนิงไม่เงยหน้า “ไปดีมาดี…”
………………
ฐานสำนักงานสัจธรรม ในสำนักงานแห่งหนึ่งท่ามกลางคอมพิวเตอร์ที่เรียงหลายเครื่อง หญิงสาวสองคนกำลังนั่งดูบางอย่างอยู่หน้าคอมพิวเตอร์
เฉียวจื่อเจียง “ฉันเพิ่งรายงานข้อมูลไปข้างต้น เราควรจะอนุมัติการดำเนินการของเราโดยเร็ว ป้าติงเห็นบันทึกการสนทนาเมื่อครู่นี้ไหม?”
คนที่นั่งถัดจากเธอเป็นหญิงสาวที่สวมชุดสีเขียวร่วมสมัยซึ่งมีรูปลักษณ์ที่สง่างามไม่แพ้กัน เธอคือติงเซียงเป็นคนรักเจิ้งต้าว
ติงเซียงได้ยินแบบนั้นก็ตอบกลับ “อืม ลำบากเธอแล้วจื่อเจียง ไม่นึกเลยว่าจะมีคนกล้าปลอมตัวเป็นฉัน น่าขยะแขยงจริงๆ ทั้งเหล่าเจิ้งคนนั้นก็งี่เง่ามาก คบกันมาหลายปีขนาดนี้เขายังแยกตัวจริงตัวปลอมของฉันไม่ออกเลย ไม่เหมือนท่านมังกรขาว ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะเป็นได้แค่พ่อบ้านใหญ่เท่านั้น…”
เฉียวจื่อเจียง “ฮ่าฮ่า ป้าติง จากการสนทนาเมื่อครู่ท่านมังกรขาวนับว่าไม่เลวเลยนะ ก่อนหน้านี้ท่านได้ทำผิดต่อเขาใหญ่หลวงแล้วล่ะ”
ติงเซียงหน้าแดง “มันเป็นความผิดของฉันเองที่เจิ้งต้าวคนงี่เง่าไม่ได้อธิบายชัดเจน ฉันจึงคิดผิดว่าท่านมังกรขาวและมังกรแห่งจิตวิญญาณเป็นคนหน้าซื่อใจคดที่คอยแต่จะปิดปากผู้คน คนพวกนั้นชอบพูดกันว่า ‘การใหญ่ยังไม่ทันสำเร็จ จะรีบคิดถึงครอบครัวไปทำไม’ ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจผู้หญิงอย่างเราอยู่แล้วนี่นา”
เฉียวจื่อเจียงพยักหน้ารับถี่รัว “ก็จริงๆ มีคนจำนวนมากวิ่งพล่านเพื่ออำนาจ ท้ายที่สุดแล้วก็เลยต้องการตัดทอนเชื้อสาย? หรือไม่แต่งงาน? มีเหตุผลแบบนี้ที่ไหนกันล่ะ จูเก่อเลี่ยงใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อหลิวเป้ยในการฟื้นฟูราชวงศ์ฮั่น มันก็เหมือนกับการแต่งงานกับภรรยาและมีลูกไม่ใช่เหรอ?”
แม้ปากเฉียวจื่อเจียงจะเอ่ยสนับสนุนแต่ในใจกลับคิดว่า ‘หึหึ เธอมองไม่ได้เห็นความจริงอะไรหรอก ป้าติงเซียงคนนี้มีประวัติความรักอันขมขื่น เพราะเจิ้งต้าวกลายเป็นพ่อบ้านของท่านมังกรขาวและมังกรแห่งจิตวิญญาณ จึงถูกดึงเข้ามาอยู่ในความดูแล อีกอย่างฉันก็ได้ดึงบันทึกการสนทนาออนไลน์ทั้งหมดของเขามาแล้ว ตอนนั้นเองที่ฉันพบว่าเจิ้งต้าวกับป้าติงอยู่ในช่วงความรักที่ยาวนานมาก
ใบหน้าของติงเซียงสงบลง รู้สึกกระดากอายที่จะพูดถึงความสัมพันธ์ของเธอกับรุ่นน้องต่อ ดังนั้นจึงเปลี่ยนหัวข้ออย่างรวดเร็ว “เอาละ จื่อเจียง อย่าพูดถึงเรื่องนี้ต่อเลย พยายามให้ดีที่สุดเพื่อจับคนคนนั้นเถอะ ดูว่าจุดประสงค์ของพวกเขาคืออะไร”
“ได้ค่ะ ป้าติง” เฉียวจื่อเจียงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ป้าติงอยากให้เชิญสองท่านนี้อีกครั้งไหม หากมีพวกเขารับรองได้เลยว่าภารกิจนี้จะไม่มีอันตราย! นอกจากนี้เรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับพวกเขาและพวกเขาต้องไปช่วยพ่อบ้านเจิ้งแน่นอน ประหยัดงบทีมสืบสวนพิเศษของเรา ทั้งยังมีพวกเขาเป็นผู้ประสานงานร่วมกัน ขอแค่พวกเขาได้รับการอนุมัติจากต้นสังกัดก็พอ”
ติงเซียง “ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็จะดีมาก ท่านผู้นำทั้งหกมีภาระที่ต้องรับผิดชอบล้นมือ พวกเขาอาจต้องรับมือกับเหตุฉุกเฉินบ่อยครั้ง คงโทรตามอำเภอใจไม่ได้หรอก คราวที่แล้วเรื่องแมลงปีศาจ ลุงของเธอและคนอื่นๆ ก็ถูกย้ายไปจัดการกับเหตุการณ์อื่นๆ ทันที โชคดีที่ท่านมังกรแห่งจิตวิญญาณอยู่ เขาถึงได้กำจัดพวกมันได้กวาดล้างจนเรียบร้อยไม่ให้ได้เล็ดลอดออกไปแม้แต่ตัวเดียว น่าเสียดายที่ท่านมังกรขาวไม่ยอมปรากฏตัว ฉันเดาว่าเขาคงประสานงานอยู่เบื้องหลังแหละเนอะ?”
เฉียวจื่อเจียงตอบกลับ “คงจะใช่ แต่เดี๋ยวหนูจะติดต่อเขาให้ทันที ช่วงนี้เขาหมกมุ่นอยู่กับเกมที่ชื่อว่า ‘Beasts Fighting for Heroes’ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราให้การสนับสนุนด้านเทคนิคอยู่เบื้องหลัง เมื่อไม่นานมานี้เขาใช้เวลาเจ็ดวันเจ็ดคืนอย่างบ้าคลั่งในการเล่นมัน และมังกรบินแห่งใต้หล้าก็คือชื่อบัญชีของเขา ซึ่งขึ้นอันดับแรกในทุกหมวด แต่ดูจากบันทึกการสนทนา แสดงว่าท่านผู้นั้นยังคงห่วงใยพ่อบ้านเจิ้งอย่างลึกซึ้ง เป็นไปไม่ได้ที่จะทิ้งเขาไว้หรอก”
ติงเซียงยิ้มแล้วมองเฉียวจื่อเจียงเข้าสู่ระบบ QQ พร้อมกล่าวต่อ “ฮ่าฮ่า ท่านสองคนนี้ช่างโลภและขี้เล่นจริงๆ น่าสนใจมาก พวกเขาแตกต่างจากคนที่แข็งแกร่งอื่นๆ อย่างสิ้นเชิงเลย”
เฉียวจื่อเจียงได้ติดต่อกับผู้อาวุโสมังกรขาวแล้วบอกอีกฝ่ายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก่อนจะนัดพบกันและออกเดินทาง หลังจากได้ยินดังนั้นอีกฝ่ายก็เอ่ยตอบรับอย่างเห็นด้วยทันที
ไม่รู้ทำไมเมื่อมองข้อความที่อีกฝ่ายส่งมาก็ไม่แปลกใจเลย เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นผิด เพียงแต่ในน้ำเสียงที่เอ่ยคล้ายจะมีความเสียใจปะปนอยู่
หรือว่าเธอติดต่อมาช้าเกินไป? ควรให้เขารู้สึกว่าพ่อบ้านเจิ้งอาจต้องทนทุกข์ทรมานมากกว่านี้อีกหน่อยดีไหม แต่นั่นคงไร้หนทาง ในการบริการสาธารณะจำเป็นต้องปฏิบัติตามขั้นตอนและการดำเนินการใดๆ ย่อมต้องรอการอนุมัติ
เฉียวจื่อเจียงเพิกเฉยต่อความผิดปกตินี้ เธอดีใจเนื้อเต้นที่เทพผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองจะมาปรากฏตัว เท่านี้ก็หมดห่วงแล้ว
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยและรอการอนุมัติ เธอก็เริ่มคุยกับติงเซียงอีกครั้ง เธอต้องการเก็บเกี่ยวจากอีกฝ่ายและหาประสบการณ์ไปด้วย ผู้หญิงส่วนน้อยเท่านั้นแหละที่ไม่สนใจเรื่องนี้
…………
ระบบ “โฮสต์จะไปเมื่อไหร่? โฮสต์วิเคราะห์ออกมาว่าผู้หญิงคนนั้นปลอมตัวมาซึ่งตรงกับผลวิเคราะห์ของสำนักสัจธรรม ดูเหมือนว่าโฮสต์นายจะเป็นนักสืบตัวจริงเลยนะ แล้วโฮสต์จะอ่านไปจนถึงเมื่อไหร่เหรอ คดียังไม่กระจ่างอีกหรือไง?”
ฟางหนิง “เวลาและสถานที่ถูกกำหนดไว้แล้ว แกอย่าเพิ่งเร่งสิ ตอนที่ฉันหมกมุ่นอยู่กับบันทึกนี่ เหมือนว่าฉันได้เข้าสู่เขตแดนแปลกประหลาดและได้ยินคนพูดถึงฉันบ่อยๆ…หรือว่าจะมีเงื่อนงำอะไรเกี่ยวกับบันทึกการสนทนาออนไลน์ของเหล่าเจิ้งหรือเปล่า? แปลกจริงๆ…ขอฉันดูหน่อย”
ระบบ “โฮสต์โกหกอีกแล้ว ระบบไม่มีทางโดนหลอกแน่! ดับเครื่อง…”
ระบบแจ้งเตือนคุณปิดการใช้งานแล้ว
ฟางหนิงมองไปที่หน้าจอสีดำสนิทของคอมพิวเตอร์ด้วยท่าทีไม่แยแส “หึหึ ปิดก็ปิดไป ฉันรอให้แกลงมือทำอยู่นานแล้ว ตอนนี้ฉันได้เรียนรู้ประสบการณ์ทั้งหมดของเหล่าเจิ้งในเขตแดนประหลาดนั่นมาแล้ว…”
ระบบ “ต่อให้โฮสต์เรียนรู้ประสบการณ์มากแค่ไหน ระบบก็อัพเลเวลให้ไม่ได้หรอก ระบบจะดูแลร่างกายโฮสต์เอง อย่าแม้แต่จะคิดใช้การฝึกฝนหลังจากที่โฮสต์เรียนรู้มันเชียว…”
ฟางหนิงแทบจะกระอักเลือดออกมาสักสามลิตรเมื่อได้ยินคำพูดนั้น เขาล้มลงกับพื้นท่าทางหมดอาลัยตายอยาก ก่อนที่จะจำนนกับความพ่ายแพ้นี้
…………………………………………………………