เมื่อผมโดนระบบครองร่าง - บทที่ 154 ไปกันเถอะ พวกเราส่งบัฟให้งูจงอางกันเถอะ
บทที่ 154 ไปกันเถอะ พวกเราส่งบัฟให้งูจงอางกันเถอะ
ระบบ “มันก็แค่ก้อนอิฐ คุณจ้องมองมันจะมีประโยชน์อะไร”
ฟางหนิง “ไม่ มันมีคุณลักษณะที่อาจเป็นประโยชน์ ฉันขอถามหน่อย ทำไมตอนแรกแกถึงทุ่มเทออกแบบคุณสมบัติ ‘การโจมตีไอคิว’ ล่ะ ไม่ใช่แค่เพื่อแก้แค้นหนังสือเกมที่รักของฉันใช่ไหม”
คุณสมบัติหนังสือเกมระดับต้น ‘การโจมตีไอคิว’ ระดับต้น ผลลัพธ์ก็คือ หากตีหัวศัตรูได้หลังจากขว้าง มีความเป็นไปได้ต่ำมากที่จะลดไอคิวของศัตรูลงชั่วคราวเป็นเวลา 24 ชั่วโมง หลังจากอัปเกรดแล้วจะได้ประสิทธิภาพมากขึ้น
ฟางหนิงสนใจคุณสมบัตินี้
ระบบ “อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก เพราะมันเหมาะสำหรับเพิ่มทักษะโจมตีนี้ก็เท่านั้น”
ฟางหนิง “ฉันเชื่อแกสิแปลก แกคิดว่าไอคิวตัวเองไม่สูง ถึงได้อยากจะลดไอคิวของคู่ต่อสู้ให้อยู่ในระดับเดียวกับแก ใช้ประสบการณ์โชกโชนปราบคู่ต่อสู้ใช่ไหมล่ะ”
ระบบ “พล่ามน้อยๆ หน่อย แค่บอกมาว่าคุณอยากจะทำอะไร”
ฟางหนิง “อ้อ ฉันแค่ต้องการลดไอคิวของงูจงอางเจ้าเล่ห์นั่นให้เหลือระดับเดียวกันกับแกไง ถ้าอย่างนั้น มันก็จะไม่คิดมาก เหมือนกับแกแน่ๆ พุ่งชนอย่างเดียว ตายแหงแก๋”
ระบบ “…”
การแจ้งเตือนของระบบ (ระบบใช้ค่าประสบการณ์หนึ่งล้านแต้มเพื่ออัปเกรดหนังสือเกมระดับต้นให้เป็นหนังสือเกมระดับกลาง
ระบบใช้ค่าประสบการณ์หนึ่งล้านแต้มเพื่ออัปเกรดคุณสมบัติของหนังสือเกมระดับกลาง อัปเกรด ‘การโจมตีไอคิว’ ระดับต้นเป็นระดับกลาง ผลลัพธ์ก็คือ หากคุณสามารถตีกลางหัวศัตรูได้หลังจากขว้างจะมีความเป็นไปได้บ้างที่จะลดไอคิวของศัตรูลงชั่วคราวเป็นเวลาสามวันและเพิ่มประสิทธิภาพความเกลียดชัง
ระบบใช้ค่าประสบการณ์ห้าล้านแต้มเพื่ออัปเกรดหนังสือเกมระดับกลางเป็นระดับสูง
ระบบใช้ค่าประสบการณ์ห้าล้านแต้มเพื่ออัปเกรดคุณสมบัติของหนังสือเกมระดับสูง ‘การโจมตีไอคิว’ จากระดับกลางเป็นระดับสูง ผลลัพธ์ก็คือ หากสามารถโจมตีศัตรูที่ตรงกลางศีรษะได้หลังจากขว้าง จะมีโอกาสมากที่จะลดไอคิวของศัตรูชั่วคราวเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์และเพิ่มประสิทธิภาพความเกลียดชัง และสามารถใช้ ‘ประสิทธิภาพการลดไอคิว’ ซ้อนทับได้ ศัตรูจะเกิดการต่อต้านหลัฟื้นตัว ‘ประสิทธิภาพการลดไอคิว’ และการต่อต้านจะคงอยู่เป็นเวลาหนึ่งเดือน)
ฟางหนิง “งั้นก็ดี ไปกันเถอะ พวกเราส่งบัฟไปให้เจ้างูจงอางกัน ไอ้ปีศาจฉลาดเป็นกรด คงจะเหนื่อยมาก”
ระบบ “ฉันลงทุนค่าประสบการณ์ไป 12 ล้านแต้มให้กับคุณแล้วนะ ถ้าคุณยังสร้างปัญหาอีกล่ะก็ ลองดูฉันจะตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตครึ่งปีไหม”
ฟางหนิง “ขอแค่แกไม่ถูกงูตัวนั้นจับได้ก็ไม่เป็นไรหรอก”
ระบบ “คุณไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ ฉันมีวิธีที่จะหลบเลี่ยงการโจมตีของมัน”
…
ณ ดินแดนมรดก บนหน้าผาสูงชันที่พบเห็นได้ยาก
งูจงอางเชสกำลังขดตัวบนชะง่อนหินที่ยื่นออกมาจากหน้าผา เชิดหัวงูเรียบแบนขึ้นมองนกอินทรียักษ์ตัวหนึ่ง
ขนของนกอินทรียักษ์ตัวนี้มีจุดด่างและแข็ง ขนแต่ละเส้นเป็นสีเงินส่องสว่างเหมือนโลหะ กรงเล็บคู่หนึ่งเกาะต้นไม้ที่ตายแล้วไว้อย่างแน่นหนา ดวงตานกอินทรีคมกริบจ้องมองงูจงอางด้านล่าง เต็มไปด้วยความระแวดระวัง
“น้องอินทรีสวรรค์ แม้ว่าเจ้ากับข้าจะเป็นศัตรูกันตามธรรมชาติ แต่เจ้าก็รู้ ถึงความลึกลับที่แท้จริงของดินแดนมรดกแห่งนี้ ขอแค่เจ้าตกลงจะร่วมมือกับข้า ข้าจะให้ชาวเทียนจู๋มอบพลังจิตมนุษย์แก่เจ้า”
นกอินทรียักษ์ “ฮ่าๆ รอให้เจ้าก้าวหน้า เจ้าจะกินข้าอีกครั้งใช่ไหม”
เชส “จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราเป็นเทพเจ้าของเทียนจู๋เหมือนกัน และออกไปยังดินแดนกว้างใหญ่ไพศาลด้วยกัน มีความสุขกับการบูชาของมนุษย์ นับจากนี้ไปเราจะมีอิสระเสรี ไม่ถูกกักขังในดินแดนคับแคบอีกต่อไป ภัยพิบัติจะได้ไม่มาถึงในวันหนึ่ง”
ดูเหมือนว่านกอินทรียักษ์จะสนใจแต่มันก็ยังส่ายหัว “เมื่อเทียบกับชาวเสินโจว ข้าไม่เชื่อคนเทียนจู๋ที่เจ้าพูด พวกเขายังพยายามขโมยไข่ของลูกข้าด้วย คนแบบนี้ ข้าจะเชื่อได้ยังไงว่าพวกเขาจะบูชาข้าอย่างซื่อสัตย์”
เชส “เป็นเพราะพวกเขาไม่เข้าใจความเก่งกาจของน้องอินทรีสวรรค์ คนเทียนจู๋ที่ขโมยไข่ของลูกเจ้าก็ตายไปแล้วด้วยน้ำมือของชาวเสินโจว ในอนาคตชาวเทียนจู๋จะไม่ทำอย่างนี้อีกแน่นอน”
นกอินรีย์ยักษ์ “ฟังเจ้าพูดอย่างนี้แล้ว ข้าก็อยากจะขอบคุณคนเสินโจวที่ล้างแค้นให้ข้า ข้าจะกลับมาเป็นฝ่ายช่วยเจ้าต่อสู้กับพวกเขาได้ยังไง”
เชสพยายามเกลี้ยกล่อมมันหลายรอบ แต่ก็เปล่าประโยชน์ มันเข้าใจสถานะศัตรูตามธรรมชาติของทั้งสองฝ่าย เป็นเรื่องยากที่อีกฝ่ายจะเชื่อใจ จึงค่อยๆ ล่าถอย อินทรียักษ์มองดูงูจงอางยักษ์ที่ปีนหน้าผาลงไปช้าๆ แววตาเผยความโลภ แต่ก็ยังไม่มีท่าทีแต่อย่างใด มันรู้ดีว่าตอนนี้มันสามารถหนีจากการเป็นเหยื่อของอีกฝ่ายได้ง่ายดาย แต่ถ้าต้องการที่จะประชิดคู่ต่อสู้ ก็มีโอกาสสูงที่จะพิษของคู่ต่อสู้ฆ่าตาย
หลังจากคิดดูแล้ว มันก็กระพือปีกบินไปยังค่ายในหุบเขา
เชสแหงนหน้ามองนกอินทรียักษ์ ส่ายหัวยิ้มเยาะ “เจ้าโง่ ถ้าคนเสินโจวเต็มใจที่จะบูชาปีศาจจากต่างแดนเป็นเทพเจ้า ทำไมฉันถึงนั่งดูเฉยๆ ตลอดแปดปีที่ผ่านมา รอกระทั่งชาวเทียนจู๋ลักลอบเข้ามาล่ะ”
หลังจากนั้นมันก็เลื้อยขึ้นไปยังอีกฟากหนึ่งที่ไกลออกไป
…
มังกรเพลิงเลื้อยวนเวียนไปรอบๆ บนท้องฟ้า
“ทำไมหาเจ้างูจงอางนั่นไม่เจอเลยล่ะ ระบบ ดวงตามังกรของแกไม่เทพพอเหรอ”
ระบบ “ไร้สาระ ดวงตามังกรของคุณต่างหาก… คงจะดีถ้าได้กินน้ำดีของงูจงอางนั่น ไม่เพียงแต่สายตาจะดีขึ้นมากเท่านั้น แต่ยังได้รับประสิทธิภาพพิเศษบางอย่างด้วย”
ฟางหนิง “งั้นเราต้องรอจนกว่าสัตว์ปีศาจที่มันขับเคลื่อนจะถูกกำจัดออกไป นั่นคือถุงของขวัญประสบการณ์เกือบพันตัวเชียว เรียกได้ว่าหนึ่งเดียวในโลก ถ้าออกจากที่นี่ แกจะหามันได้จากที่ไหนอีกล่ะ”
ระบบ “เรื่องนี้ต้องให้คุณบอกเหรอ เดี๋ยวๆ มีสหายอยู่ไกลๆ ฉันจะไปถามหน่อย”
อินทรีสวรรค์มองเห็นมังกรเพลิงน่าเกรงขามจากระยะไกล แม้ว่าอีกฝ่ายแอบซ่อนพลานุภาพมังกรเต็มที่ แต่ในสายตาของปีศาจทั้งหลาย มังกรเปล่งประกายราวกับคบไฟยามค่ำคืนที่มืดมิด เด่นสะดุดตาขนาดนั้น
เดิมทีมันคิดจะการหลบเลี่ยงอีกฝ่ายหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะบินตรงมาทางนี้ หากจงใจหนีหน้า มันก็จะดูเหมือนว่าตัวเองขี้ขลาด
ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้แผ่ไอสังหารแต่อย่างใด พลังของทั้งสองฝ่ายก็ใกล้เคียงกัน มันไม่จำเป็นต้องหวาดเกรงจึงหยุดบิน
“สหาย ช้าก่อนอย่าเพิ่งไป”
อินทรีสวรรค์ “พี่มังกรท่านนี้ มีอะไรจะชี้แนะ”
มังกรเพลิง “ฮ่าๆ ข้าเรียกสหาย เพราะอยากจะสอบถามคร่าวขาวของงูจงอาง”
อินทรีสวรรค์รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายถามถึงใคร “อ๋อ พี่มังกรคงกำลังตามหาเชสเจ้าเล่ห์นั่นอยู่สินะ ได้โปรดระวังด้วย มันเป็นผู้ที่มีพิษร้ายแรงมาก มันเพิ่งปีนขึ้นจากหน้าผาไปทางทิศตะวันตก แต่ด้วยแรงกดดันของพี่มังกร มันจะรับรู้ได้จากระยะไกล เกรงว่าท่านจะหามันไม่พบ”
ระบบ “ทำยังไงดี โฮสต์ นกอินทรียักษ์ตัวนี้พูดถูก”
ฟางหนิง “ง่ายมาก ให้รางวัลสักหน่อย ให้มันช่วยเราจัดการกับงูตัวนั้น ฟังน้ำเสียงของมัน ก็รู้แล้วว่ามันไม่ถูกกับงูตัวนั้น จริงสิ หนังสือเกมสุดที่รักของฉันถูกยืมไปชั่วคราว คงจะเรียกคืนมาได้ใช่ไหม”
ระบบ “ได้ มันจะกลับมาทันทีที่ฉันเรียกมัน”
ฟางหนิงพูดไม่ออก “แกเป็นพ่อของระบบจริงๆ …”
มังกรเพลิง “อ้อ มันเป็นแบบนี้ สหาย งูจงอางตัวนั้นสมรู้ร่วมคิดกับชาวเทียนจู๋ก่อให้เกิดหายนะในดินแดนนี้ ตัวข้านี้กำลังจะจัดการกับมัน ไม่ทราบว่าท่านจะร่วมมือได้หรือไม่ เราจะมีรางวัลตอบแทนแน่นอน “
เมื่ออินทรีสวรรค์ได้ยิน นัยน์ตาก็เปลี่ยนไป “ข้าไม่ต้องการรางวัลอะไร แต่ให้รางวัลท่านด้วยซ้ำ เมื่อเห็นว่าท่านเป็นร่างมังกรแท้ ได้รับความไว้วางใจจากคนเสินโจวแน่ ขอแค่ท่านช่วยให้ข้าได้รับการบูชาพลังจิตมนุษย์ชาวเสินโจว ข้ารับปากจะช่วยท่าน”
ระบบ “หมอนี่อยากได้พลังจิตมนุษย์ไปทำอะไร หรือว่าอยากจะทำตามงูจงอางอาศัยการสถาปนาเป็นเทพเพื่อผ่านด่านใช่หรือไม่ แต่พลังของมันยังห่างชั้นลิบลับ”
ฟางหนิง “ให้ฉันดูก่อนความดีความชั่วของหมอนี่เป็นยังไง”
ฟางหนิงควักหนังสือเกมออกมาพลิกเปิดคอลัมน์ ‘คอลเลกชันสิ่งมีชีวิต’
“อินทรีสวรรค์ เพศผู้ ชอบโบยบินอิสระเสรี ไม่ทราบอายุ สถานะ หัวหน้าเผ่าอินทรียักษ์”
“แนวโน้มความดีและความชั่ว ตรงกลางโน้มเอียงทางความยุติธรรม”
“การประเมินพลัง ผู้แข็งแกร่งระดับบ่อน้ำ ขนาดโดยละเอียด สระว่ายน้ำที่ไม่ทราบความลึก อันตรายอย่างยิ่ง”
ฟางหนิงอ่านแล้วก็พยักหน้า “ในเมื่อเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ข้างความยุติธรรม งั้นก็ง่ายหน่อย ให้ฉันคิดดูก่อน ดูเหมือนว่าจะมีบางสถานที่ในเสินโจวที่บูชานกอินทรีเป็นโทเทม แต่เรื่องนี้ต้องถามสำนักงานสัจธรรมก่อนจะอนุญาตหรือไม่ มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่จะทำเรื่องนี้ได้”
เมื่อหนึ่งคนและหนึ่งระบบหารือกันเรียบร้อย ระบบก็ควบคุมมังกรเพลิงส่งเสียง
มังกรเพลิง “สหาย ข้าช่วยท่านออกหน้าพูดได้ แต่จะเป็นไปตามที่ท่านปรารถนาหรือไม่ ตัวข้าตัดสินใจไม่ได้ สหายไปถามด้วยกันกับข้าดีกว่า”
อินทรีสวรรค์พยักหน้า “ข้ากำลังจะไปที่นั่นพอดี พี่มังกรยินดีช่วยก็ยิ่งดี ถ้าพวกเขารับปาก ข้าจะช่วยพี่มังกรในครั้งนี้”
ระบบ “อึม เยี่ยมมาก ได้พบท่านช่วยได้มากจริงๆ หวังว่าสำนักสัจธรรมจะไม่ใจแคบเกินไป”
ฟางหนิง “ไม่เช่นนั้นเราจะขอให้พวกนักโทษบูชามันก็ได้แล้ว ถึงยังไงมันก็แยกความแตกต่างไม่ได้”
ระบบ “เอ๊ะ โฮสต์คุณก็หลอกลวงคนเก่งจัง มันจะสำเร็จเหรอ”
ฟางหนิง “ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ นักโทษแต่ละคนมีพลังจิตที่แกร่งกล้ามาก หากฟื้นคืนแล้ว หนึ่งคนก็ไม่ด้อยไปกว่าร้อยคนพันคน และตอนนี้ก็มีมากกว่ายี่สิบคนแล้ว ต่อไปจับเพิ่มเข้าไปอีกหน่อยก็ไม่เป็นรองประเทศเล็กๆ ที่มีคนสองสามล้าน “
ระบบ “เรื่องนี้ไว้ค่อยคุยกัน พามันกลับไปที่ค่ายก่อนเถอะ”
…
หลังจากกลับมาที่หมู่บ้านในหุบเขา ฟังเรื่องราวของพันธมิตรที่มีศักยภาพแล้ว ผู้อาวุโสไห่ ผู้อาวุโสสวี่และเฉียวอันผิงก็ยังคงนิ่งเงียบเป็นเวลานาน พวกเขามีท่าทีไม่ชัดเจน
ระบบ “นี่มันเรื่องอะไรกัน หมายความว่ายังไง ให้คำตอบตรงๆ ไม่ได้เหรอ”
ฟางหนิง “ยังดูไม่ออกอีกเหรอ ฉันเดาว่ามันเกี่ยวข้องกับ ‘เทพมังกรแท้’ คนที่มักจะปรากฏขึ้นในการแจ้งเตือนของระบบนั่นแหละ มันจะต้องใช้พลังจิตของมนุษย์มากแน่ๆ
“ตอนนี้จู่ๆ ก็มีปีศาจเข้ามาแบ่ง ผู้อาวุโสสามคนนี้จึงกังวลว่าจะส่งกระทบการพัฒนาของ ‘เทพมังกรแท้’ ในเมื่อนกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งจะเทียบกับโทเทมสูงสุดของเสินโจวได้ยังไง ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่อันตรายพอถึงขันที่จะต้องการความช่วยเหลือจากมัน”
อินทรีสวรรค์จองหองเย่อหยิ่ง เมื่อมันเห็นท่าทางของพวกเขา ใบหน้าก็เย็นชาทันที มันไม่พูดอะไรก็กระพือปีกออกจากค่ายไป
มันบินไปพลางคิดว่าควรจะตอบตกลงงูจงอางเจ้าเล่ห์นั่นดีหรือไม่ แต่นั่นมันกับดักชัดๆ
ขณะที่มันสับสนตัดสินใจไม่ถูก ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากด้านหลัง
“สหาย อย่าเพิ่งรีบไป” มังกรเพลิงตามมาข้างหลัง “ถ้าท่านไม่ถือสา ข้านี้มีดินแดนลับ ที่นั่นมีคนกลุ่มเล็กๆ ที่บูชาสหายได้”
อินทรีสวรรค์หยุดบิน เมื่อได้ยินก็ลอยอยู่กลางอากาศ เพียงแต่ส่ายหัว “ข้ารับเจตนาดีของพี่มังกร เพียงแต่พลังจิตของคน ต้องเป็นคนจากโลกภายนอก และไม่สามารถเป็นสิ่งมีชีวิตในดินแดนลับได้ ไม่อย่างนั้นดินแดนมรดกแห่งนี้ถึงจะคับแคบ ข้าก็มีลูกหลานนับพันนับหมื่น ทำไมต้องไปขอความช่วยเหลือจากคนเสินโจวล่ะ”
มังกรเพลิง “ไม่สำคัญหรอก กลุ่มเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนลับนี้คือจิตวิญญาณของผู้คนจากโลกภายนอก ตอนนี้พวกเขาใช้ชีวิตค่อนข้างน่าเบื่อและต้องการที่พึ่งพิงทางจิตวิญญาณ ศักยภาพของวิญญาณก่อนตายโดดเด่น ปัจจุบันยังมีจำนวนน้อยแต่จะมีมากขึ้นในอนาคต”
อินทรีสวรรค์รู้สึกสนใจ ให้คนบูชาไม่ได้ ให้วิญญาณบูชาก็ได้ ถ้าก่อนตายวิญญาณเหล่านี้เป็นผู้แข็งแกร่งจริง อย่างนั้นพวกมันก็แข็งแกร่งกว่าคนธรรมดามากทีเดียว มันจึงพยักหน้าพลางเอ่ยว่า “ในเมื่อเป็นอย่างนี้ งั้นก็ให้ข้าลองดูเถอะ หากได้รับการบูชาพลังจิตมนุษย์จริงล่ะก็ ต่อไปข้าจะเชื่อฟังแต่พี่มังกรเท่านั้น”
มังกรเพลิง “พูดได้ดีๆ”
ฟางหนิง “เอาล่ะ ดูสิฉันช่วยแกหลอกอันธพาลมาได้อีกตัวแล้ว รอมันได้รับการบูชาด้วยพลังจิตมนุษย์ของชาวนรกไม่เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินก็เป็นสีเขียว เมื่อถึงตอนนั้นอัศวิน A จะมีครบทั้งนกอินทรีและสุนัข มีพลังแข็งแกร่ง”
ระบบ “โฮสต์ช่างเฉียบแหลม”
…………………………………………..