เมื่อผมโดนระบบครองร่าง - บทที่ 202 กลิ่นอายสังหารของข้า คนธรรมดาล้วนรู้
บทที่ 202 กลิ่นอายสังหารของข้า คนธรรมดาล้วนรู้!
“ข้าจะกินจากทางใต้ไปทางเหนือ แล้วก็กินจากทางเหนือไปทางใต้ ข้าจะกินจากทางตะวันออกไปทางตะวันตก แล้วก็กินจากทางตะวันตกไปทางตะวันออก ข้าต้องการให้ผู้คนมอบของอร่อยๆ ให้ข้าเมื่อเห็นข้า…”
เสียงผู้หญิงอันคมชัดและไพเราะล่องลอยอยู่กลางอากาศ
ที่มาของเสียงผู้หญิงคือหนอนผีเสื้อตัวใหญ่เท่าฝ่ามือตัวหนึ่ง มันลอยอยู่กลางอากาศ บินไปทางเหนือ ชูศีรษะสีเขียวอวบอ้วนขึ้นสูงและร้องเพลง
ข้างกายมันมีกลุ่มคนที่ทำอะไรไม่ถูกติดตามอยู่
จูหงอิงติดตามอยู่ทางซ้าย ผู้อาวุโสกุ่ยต้าติดตามอยู่ทางขวา
เฉียวจื่อเจียงอยู่ข้างหน้า นั่งอยู่บนปุยฝ้ายสีขาวก้อนใหญ่ ราวกับกำลังนำทางให้หนอนผีเสื้อตัวใหญ่
เธอเพิ่งได้รับแจ้งว่า ราชาผีจะกลับชาติมาเกิดเป็นวิญญาณหนอนที่ทรงพลัง
เพราะเคยมีปฏิสัมพันธ์กับราชาผี จึงถูกส่งมาอย่างเร่งด่วน หลังจากมาถึง เธอก็ประหลาดใจทันที จะมีคนที่แข็งแกร่งเช่นนั้นอยู่ได้อย่างไร
โชคดีที่อีกฝ่ายดูเงอะงะเล็กน้อย ในหัวดูเหมือนจะมีเพียงคำว่า ‘กิน’ เธอจึงใช้คำพูดเพื่อสงบสติอีกฝ่าย
เมื่อเธอมาถึง วิญญาณหนอนตัวนี้เกิดมาได้เพียงแค่สองชั่วโมงกว่าเท่านั้น ทรัพย์สินของราชาผีกำลังจะถูกสูบจนหมด ไม่ใช่ว่าราชาผีไม่มีเงิน แต่อาหารปกติไม่อาจเติมเต็มความอยากอาหารของมันได้
ได้ยินว่าตอนแรกที่ปรากฎตัว มันยืนยันว่าจะย่างแม่แมลงกิน พระโพธิสัตว์ปีศาจกลับชาติมาเกิดบนไข่แมลง กลายเป็นหนอนผีเสื้อตัวหนึ่ง และยังบอกอีกว่าแม่แมลงของมันก็คือแม่ของมัน มึงถึงยอมเลิกรา แต่แล้วก็ครื้นเครงขึ้น ต้องการของอร่อยๆ ปริมาณมาก
ผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานเช่นนี้ ราชาผีคงไม่กล้ารุกราน โดยเฉพาะเมื่อมีแนวโน้มว่าอีกฝ่ายจะกลายเป็นฝ่ายตน…
พวกเขาเริ่มเตรียมงานเลี้ยงทันที แต่หนอนผีเสื้อตัวนี้พิถีพิถันเรื่องรสชาติมาก ความหมายของคำว่า ‘อร่อย’ อยู่ที่ปากของมัน ต้องเป็นอาหารที่มีปราณกำเนิดและอร่อย หากอร่อยมากพอ ความต้องการในปราณกำเนิดก็อาจลดลงบ้าง…
เฉียวจื่อเจียงคิดไปคิดมา สถานที่ที่สามารถใช้ต้นทุนต่ำสุดเพื่อทำให้หนอนผีเสื้อผู้ทรงพลังพึงพอใจได้ มีเพียงเสินโจวเท่านั้น
…
ฟางหนิงกับเทพแห่งระบบอิ่มเอมใจมากในงานแลกเปลี่ยนสมบัติ ยาเม็ดที่กลั่นจากสมุนไพรปราณกำเนิด สามารถแลกเปลี่ยนกับสมุนไพรปราณกำเนิดคุณภาพสูงได้หลายสิบรายการ ธุรกิจดำเนินไปได้ด้วยดี แต่กลับไม่รู้ว่ารังเก่าของเขากำลังถูกคิดแค้น
ผ่านไปพักหนึ่ง เจิ้งต้าวได้รับข่าวก่อนว่า มีผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานปรากฏตัวขึ้นที่ร้านอาหารตระกูลฟาง โดยไม่หลบซ่อนแต่อย่างใด จึงไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร ขออัศวินมานั่งบัญชาการด้วยเถิด
หลังจากเขาเห็น สีหน้าก็เปลี่ยนไป จากนั้นกระซิบสองสามประโยคกับอัศวิน A ที่อยู่ข้างๆ แล้วจู่ๆ อีกฝ่ายก็ลุกขึ้นยืน
“อะไรนะ มีคนกล้าอวดดีที่ร้านขององค์จักรพรรดิ…ของข้าเหรอ?!”
พูดจบเขาก็ ‘ฟุบ’ กลายร่างเป็นมังกรเขียว และบินออกจากห้องโถงไปทันที
นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้คนส่วนใหญ่ได้เห็นมังกรตัวเป็นๆ จึงตกตะลึงในทันที ดวงตาเบิกกว้าง และมองไปทางทิศที่อัศวิน A บินหายไป
แต่ผู้คนจำนวนมากได้ยินสิ่งที่อัศวิน A พูดชัดเจน จึงพากันวิพากษ์วิจารณ์ทันที คนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไม่อยู่ ดังนั้นจึงสามารถพูดคุยกันได้ตามใจ
“หรือว่ากู่ปู้เหวยที่หายตัวไปก่อนหน้านี้จะเป็นคนทำ ไม่คิดว่าเขาเทียนชิงจะมาแก้แค้นเร็วขนาดนี้…”
“ร้านขององค์จักรพรรดิเหรอ น่าจะเป็นร้านที่พ่อครัวฟางเปิดที่เมืองฉี ฉันเคยไปกิน คุณภาพดีที่สุดในโลกจริงๆ ได้ยินว่าอัศวิน A ไปกินข้าวที่นั่นเป็นระยะๆ ไปกินทีสองสามวัน และต้องกินวัตถุดิบระดับสูงในร้านจนหมดถึงจะพอ เขาไม่เคยไปกินข้าวที่อื่นเลย”
“โหดเหี้ยมจริงๆ นี่เป็นการทุบชามข้าวของท่าเทพมังกรแห่งจิตวิญญาณ คาดว่าคงต้องการจับพ่อครัวฟางไปที่เขาเทียนชิง บีบให้เขาขึ้นไปบนเขาเพื่อตกหลุมพราง…”
ด้านนอกป่าทึบใต้ภูเขาสูงไร้ชื่อทางตะวันออกเฉียงใต้ กู่ปู้เหวยที่ยังคงนั่งสมาธิอยู่จู่ๆ ก็ลืมตาขึ้น แววตาสงสัยเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปทางเมฆลอยที่ขอบฟ้า แล้วหลับตาอีกครั้ง
แท้จริงแล้วผู้แข็งแกร่งระดับทะเลสาบนั้นน่ากลัวมาก ขอเพียงมีคนเอ่ยถึงชื่อเขาในที่สาธารณะที่มีผู้คนมากมาย เขาก็สามารถรู้สึกได้…
ในเวลานี้ งานแลกเปลี่ยนสมบัติยุติแล้ว เพราะผู้แข็งแกร่งมากมาย เช่น ราชาเทียนจิง เจ้าสำนักหม่า ประมุขหลิน หัวหน้าสงฆ์มากมายแห่งสมาคมพุทธ และเจ้าสำนักมากมายแห่งลัทธิเต๋าตามไปทีละคนๆ ไปมุงดูการปะทะกันของอัศวิน A กับเขาเทียนชิง…
นี่เป็นการปะทะกันครั้งแรกระหว่างกองกำลังอันทรงอิทธิพลสองกลุ่ม พวกเขาต้องไปเพื่อเพิ่มพูนความรู้ การต่อสู้ระหว่างผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานนี้ เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับพวกเขา
เหมือนกับประเทศล้าหลังที่มักจะจัดคณะไปเยือนประเทศมหาอำนาจเป็นครั้งคราว ไม่ว่าจะศึกษาจริงหรือไม่ มีมาดไว้ก่อน…
…
ภายในห้องอาหารของร้านอาหารตระกูลฟาง หนอนผีเสื้อขนาดเท่าฝ่ามือตัวหนึ่งกำลังนอนอยู่บนโต๊ะในห้องโถงใหญ่ และกินล้างกินผลาญ พวกพนักงานในร้านต่างหน้าซีดเผือด
เดิมทีเฉียวจื่อเจียงอยากให้หนอนผีเสื้อตัวนี้เข้าห้องส่วนตัว ผลคือหนอนผีเสื้อตัวนี้บินเข้าห้องอาหาร หลังจากได้กลิ่นอาหารอร่อยๆ มันก็หาที่นั่งว่างทันทีและนอนบนโต๊ะ ขอให้พนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟทันที
ขาหมูหอมๆ ถูกยกมาเสิร์ฟ ซึ่งใส่สมุนไพรเพียงเล็กน้อยในการต้ม และหนอนผีเสื้อขนาดเท่าฝ่ามือก็อ้าปากกว้าง และกลืนขาหมูลงไปในคำเดียว
พนักงานเหล่านี้ไม่ได้โง่เขลา ความอยากอาหารของอัศวินคนนั้นไม่น้อยไปกว่าหนอนผีเสื้อตัวนี้เลย กินก็ไม่ได้ช้าไปกว่ามัน แต่พวกเขาไม่กลัวอัศวินคนนั้น เพราะอัศวินเป็นคน และหน้าตาหล่อเหลา…
พวกแขกที่กำลังรับประทานในห้องโถงใหญ่ บางคนรีบออกไป แต่บางคนที่ใจกล้าก็ยังยืนมุงดูอยู่
“ความอยากอาหารสุดยอดมาก! เทียบกับอัศวินแห่งเมืองฉีของพวกเราคนนั้นแล้วก็ไม่เลว”
“มันเป็นสัตว์ประหลาดประเภทไหนกัน บน ‘ฟอรั่มสัตว์ประหลาด’ มีหนังสือภาพออกมาแล้วเหรอ”
“ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน รีบถ่ายรูปแล้วโพสต์บนฟอรั่มเร็ว ทำคะแนนหน่อย ไม่ต้องแชร์ไปที่เว่ยป๋อ มันจะถูกลบในไม่กี่วินาที”
แสงแฟลชมือถือสว่างขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าจากกลุ่มคนที่ไม่กลัวตาย
ไม่รู้ว่าหนอนผีเสื้อตัวนี้หมกมุ่นอยู่กับอาหารรสเลิศ หรือไม่สนใจผู้คนรอบตัวที่กำลังถ่ายรูป มันมัวแต่เลียจานจนสะอาด
หน่วยกิจการพิเศษเมืองฉีวางแนวล้อมด้านนอกประตูแล้ว แต่พวกเขาไม่กล้าเคลื่อนย้ายคนที่เข้าไป และไม่ได้ทำการกวาดล้างครั้งใหญ่ข้างนอก เกรงว่าหากเคลื่อนไหวมากเกินไป จะไปกระตุ้นอารมณ์ตอนกินข้าวของผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานผู้นั้น
ร้านอาหารตระกูลฟางทั้งร้านเงียบสนิท ไม่มีรถขับผ่านแม้แต่คันเดียว แล้วก็ไม่มีใครส่งเสียงดังเช่นกัน
พวกเขาได้รับเวลาหลังจากแจ้งเหตุน้อยเกินไป ตั้งแต่เฉียวจื่อเจียงส่งข้อความมา มีเวลาเพียงสิบนาทีเท่านั้น พวกเขาเพิ่งนำกำลังพลมาถึง หนอนผีเสื้อตัวนั้นก็บินเข้าไปในร้านอาหารแล้ว สามารถทำสิ่งเหล่านี่ได้ คงได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
ผ่านไปครู่หนึ่ง ยกเว้นเฉียวจื่อเจียง สำนักงานสัจธรรมสามคน เหรินรั่วเฟิง หงอวิ๋นเจียว ผู้อาวุโสสวี่ก็มาถึง พวกเขาเพียงแค่มุงดูอยู่ด้านนอกประตู ไม่ได้ก้าวเข้าไปในร้านอาหาร
เฉียวอันผิงได้รับบาดเจ็บที่ร่างกาย จึงไม่ได้ให้เขารีบมา
ผู้อาวุโสไห่กำลังจัดการปัญหาที่ตามมาอยู่ที่ดินแดนมรดก เคลียร์พื้นที่ และเตรียมปลูกสมุนไพรที่ท่านเทพมังกรแห่งจิตวิญญาณนำไปอีกครั้ง ผู้อาวุุโสเฝิงนั่งบัญชาการอยู่ที่บ้านเกิด
ในเวลานี้เอง พระธรรมราชาเทียนจิง เจ้าสำนักหม่าและผู้แข็งแกร่งอีกมากมายก็รีบมายังร้านอาหารตระกูลฟางก่อนกำหนด ขณะเดียวกันพวกเขาก็สัมผัสได้ถึงลมปราณอันแข็งแกร่งของหนอนผีเสื้อขนาดเท่าฝ่ามือที่อยู่ข้างในตัวนั้น แต่ละคนยืนนิ่ง ตัวสั่น พลังลมปราณที่แข็งแกร่งเช่นนี้ พวกเขาเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกในชีวิต…
ในเวลาเดียวกันทุกคนก็สงสัยเล็กน้อย ปกติอัศวิน A ควรจะมาถึงก่อน แล้วเหตุใดเขาจึงยังมาไม่ถึง เป็นไปได้ไหมว่าถูกคนดักซุ่มโจมตีระหว่างทาง
เหรินรั่วเฟิงไม่สนใจคนที่มุงดูกันอย่างคึกคักเหล่านั้น เขาเพียงแค่จ้องมองหนอนผีเสื้อตัวใหญ่ข้างใน และขมวดคิ้วแน่น เครือข่ายเทียนลั่วไม่ตอบสนอง แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ พลังลมปราณของสัตว์ประหลาดตัวนี้แข็งแกร่งจริงๆ ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่ากู่ปู้เหวยมาก
เขาคาดว่า แม้จะใช้ ‘หัตถ์เทพเจ้าเทียนหลัว’ ก็ไม่สามารถหยุดยั้งอีกฝ่ายได้
หรือว่าผู้แข็งแกร่งชั้นยอดต่างก็สามารถปิดกั้นการตอบสนองของเครือข่ายเทียนลั่วได้
จู่ๆ หงอวิ๋นเจียวที่อยู่ข้างๆ ก็พูดกับเขาว่า “คุณวางแผนจะทำอย่างไร ต้องขอให้ผู้อำนวยการลงมือหรือไม่”
เหรินรั่วเฟิงส่ายหน้า “ราคาลงมือของผู้อำนวยการสูงเกินไป ดูว่าขีดจำกัดความอยากอาหารของสัตว์ประหลาดที่ทำให้โลกตะลึงตัวนี้อยู่ตรงไหนก่อน ค่อยวางแผน ดูจากข้อมูลที่จื่อเจียงส่งมาก่อนหน้านี้ ยังพออธิบายสาเหตุได้บ้าง ไม่เหมือนสัตว์ประหลาดกระหายเลือด”
ผู้อาวุโสสวี่ลูบคางอยู่ข้างๆ เขารู้สึกว่าหนอนผีเสื้อตัวใหญ่ข้างในนั้น จากพฤติกรรม ดูเหมือนเด็กที่ยังไม่ได้รับการศึกษามากนัก บางทีเขาอาจจะสั่งสอนได้ หากสามารถเปลี่ยนมันเป็นสมาชิกของสำนักงานสัจธรรมได้ก็คงดี…
ผ่านไปพักหนึ่ง เหล่าผู้แข็งแกร่งที่มึงดูหนอนผีเสื้อตัวใหญ่กินอาหารผ่านหน้าต่างกระจกด้านนอกร้าน จู่ๆ หัวใจก็บีบแน่น พวกเขาเพียงแค่รู้สึกว่ากลิ่นอายสังหารอันรุนแรงถูกส่งมา!
เฉียวอันผิงก็ไม่สามารถปล่อยกลิ่นอายสังหารที่รุนแรงเช่นนี้ได้
“กลิ่นอายสังหารรุนแรงมาก!” ในบรรดาแขกธรรมดาที่กำลังถ่ายรูปอยู่ในร้านอาหาร หลายคนวางโทรศัพท์ลงและตกตะลึงขึ้นมา
“เบาเสียงหน่อย อย่ายั่วยุสัตว์ประหลาดตัวนั้น”
มีคนสงสัย “พวกคุณรู้สึกถึงกลิ่นอายสังหารได้อย่างไร ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย พวกคุณก็ไม่ใช่ผู้ฝึกฝนไม่ใช่เหรอ”
“ตั้งใจฟังเพลงประกอบ…” มีคนเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี
ที่แท้ในเวลานี้เอง จากนอกร้านที่เงียบสงบมาก จู่ๆ เสียงเพลงเฮฟวีเมทัล ‘ตูม…ตูม…ตูม’ ก็ดังขึ้น เหมือนกับเสียงของสัตว์ประหลาดที่ชั่วร้ายใกล้เข้ามา กลิ่นอายสังหารรุนแรงมากจริงๆ!
มังกรเขียวพุ่งลงมาจากฟ้า หัวมังกรขนาดใหญ่โผล่เข้าไปในประตูร้าน มองดูรอบๆ เป็นสัตว์ประหลาดชั่วร้ายจริงๆ!
เมื่อแขกทุกคนในห้องโถงใหญ่ของร้านอาหารเห็นภาพนี้ก็พากันถ่ายรูปไม่หยุดและหัวเราะ หนอนผีเสื้อตัวใหญ่จะสะดุดตาเท่ามังกรเขียวได้อย่างไร!
คนที่ข่าวสารว่องไวบางคนรู้ว่า นี่เป็นร่างจริงของอัศวินคนนั้น
วินาทีต่อมา มังกรเขียวตัวนั้นก็หายไป ภายใต้หมอกสีขาว อัศวิน A ปรากฏตัวขึ้น
หลังจากปรากฏตัวขึ้น เขาก็ได้ยินว่ามีคนพูดถึงเขาทันที
“ท่านเทพ โปรดอย่าบุ่มบ่าม หนอนผีเสื้อข้างในนั้น ตัวไม่ใหญ่ แต่พลังลมปราณแข็งแกร่งมาก เกินขีดจำกัดพลังของแต่ละคนในโลกนี้ โปรดอย่าได้วู่วาม”
เขาไม่ได้หันไปมอง เพียงแค่เดินไปข้างหน้าต่อ และพูดว่า “ข้าผดุงคุณธรรมทุกวัน ข้าจะรังแกผู้อ่อนแอและหวาดกลัวผู้แข็งแกร่งได้อย่างไร เมื่อเผชิญหน้ากัน แม้ว่าศัตรูจะแข็งแกร่ง และรู้แก่ใจว่าสู้ไม่ได้ ก็ต้องชักดาบออกมา และเผชิญหน้าอย่างไม่เกรง”
เหรินรั่วเฟิงได้ยินอีกฝ่ายตอบกลับ นัยน์ตาก็ซับซ้อน แต่ไหนแต่ไรเขาคิดว่าอัศวิน A เพียงแค่เดินตามเส้นทางที่ถูกต้องเพื่อเพิ่มพลัง ไม่เคยคิดเลยว่าอีกฝ่ายจะมีจิตใจที่เสียสละไม่เกรงกลัวสิ่งใดเช่นนี้เชียวหรือ
หรือว่าเขาเข้าใจผิดจริงๆ ในบรรดาผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานเหล่านี้ ยังมีคนกล้าเพิกเฉยอันตรายใดๆ เพื่อเต๋าในใจ!
ผู้แข็งแกร่งมากมายเฝ้าดูอยู่ด้านนอกร้าน และมองไปทางอัศวิน A ที่เดินเข้าไปในร้านด้วยนัยน์ตาซับซ้อนเช่นเดียวกัน พวกเขาเข้าใจว่า อีกฝ่ายกำลังรับความเสี่ยงแบบไหน
นั่นคือผู้แข็งแกร่งที่เกินขีดจำกัดพลังของแต่ละคนในโลกปัจจุบัน จากมาตรฐานการประเมินพลังของตระกูลมังกรของพวกเขา น่าจะเหนือกว่าระดับทะเลสาบสูงสุด…
บางทีอัศวิน A อาจจะแข็งแกร่งมากก่อนหน้านี้ แต่ในสายตาของผู้แข็งแกร่งเหล่านี้ ตอนนี้เขาเป็นเพียงจุดสูงสุดของระดับบ่อน้ำ ยังห่างจากระดับทะเลสาบอีกไกลโข หนอนผีเสื้อตัวนั้นดูไม่ธรรมดา แต่หากยั่วโทสะอีกฝ่าย เป็นไปได้มากที่มันจะสามารถกลืนมังกรเขียวลงไปได้ในคำเดียว!
ในความคิดอันซับซ้อนของทุกคน อัศวิน A ที่เดินเข้าไปในร้านอาหารตระกูลฟางท่ามกลางเพลงประกอบยืนอยู่ตรงหน้าหนอนผีเสื้อตัวใหญ่แล้ว เขาโบกมือ พนักงานที่กำลังผลัดกันเสิร์ฟอาหารเหล่านั้นก็ถอยกลับไปทีละคนอย่างโล่งอก
“ทำไมไม่มีอาหารอร่อยๆ แล้ว รีบไปนำมาเสิร์ฟอีก…” หนอนผีเสื้อตัวใหญ่ตัวนั้นไม่แม้แต่จะมองอัศวิน A เพียงแค่เร่งรัดพนักงานที่หลบอยู่ข้างๆ เหล่านั้น
อัศวิน A เอ่ยเสียงเรียบ “ท่านจะกินข้าวก็กินข้าว เหตุใดไม่ลดพลังลมปราณของท่านลง จงใจและตั้งใจอวดเช่นนี้ กลัวว่าใต้หล้าจะไม่วุ่นวายหรือ”
ผู้แข็งแกร่งทุกคนที่อยู่ด้านนอกร้านได้ยินก็ตกตะลึง พี่ใหญ่ เพลงประกอบแนวเฮฟวีเมทัลที่คุณเปิดเมื่อครู่นี้ ไม่ต่างจากเจ้าหนอนที่หยิ่งผยองข้างในร้านเลย…
อย่างน้อยคนธรรมดาก็สัมผัสกลิ่นอายผู้แข็งแกร่งของมันไม่ได้ ทว่ากลิ่นอายสังหารของคุณแม้แต่คนธรรมดาก็สัมผัสได้!
………………………………………………………….