CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล - ตอนที่ 76 พบปะยามค่ำคืน

  1. Home
  2. เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล
  3. ตอนที่ 76 พบปะยามค่ำคืน
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

จะให้เป็นเช่นนั้นได้อย่างไร! 

หวังซีรีบปฏิเสธเสียงแข็ง กล่าวว่า  ข้าเป็นบุตรสาวคนเล็กของบ้าน ยังไม่เคยประสบกับเรื่องเช่นนี้มาก่อน อย่างไรก็ตาม ตระกูลพวกข้าทำการค้า ท่านก็ทราบ คนทำการค้านี้ ได้ติดต่อกับผู้คนเป็นจำนวนมาก พบเห็นเรื่องต่างๆ มาก็มาก ข้าเคยได้ยินพี่ชายใหญ่ของข้าเล่าให้ฟังต่างหาก ก็เลยจำได้  

นางอยากแนะนำพี่ชายใหญ่ของนางให้เฉินลั่วรู้จัก ต้องเอ่ยถึงพี่ชายใหญ่ของนางต่อหน้าเฉินลั่วบ่อยๆ ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง 

เฉินลั่วราวกับถูกภาพเหตุการณ์ในกล้องส่องทางไกลดึงดูดความสนใจไปแล้ว หรือไม่บางทีคำพูดเมื่อครู่เขาก็แค่พลั้งปากพูดออกมาเท่านั้น เขาไม่ตอบ แต่ยกกล้องส่องทางไกลขึ้นมองอย่างตั้งอกตั้งใจมากยิ่งขึ้น 

หวังซีเบ้ปาก ได้แต่รออยู่ด้านข้างปล่อยให้เฉินลั่วดูให้เสร็จ 

แต่สมองของนางกลับขบคิดไม่หยุด 

หากเรื่องของเฉินเจวี๋ยเกี่ยวข้องกับเฉินลั่วจริงๆ นิสัยของเฉินลั่วนี้หากพูดอย่างใจกว้าง นั่นดูเป็นคนทรงอำนาจเล็กน้อย แต่ถ้าพูดอย่างใจแคบ ก็คือคนใจแคบที่ต้องการแก้แค้นระบายความโกรธ 

ต่อไปเวลานางติดต่อกับเขา ต้องจดจำข้อนี้เอาไว้ให้ดีถึงจะถูก 

แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นนาง นางก็ไม่มีทางปล่อยเฉินเจวี๋ยไปอย่างง่ายดายเช่นกัน 

เพียงแต่ไม่แน่ใจว่าระหว่างเป่าชิ่งจ่างกงจู่และเจิ้นกั๋วกงมีความขุ่นแค้นอะไรกันแน่ เป่าชิ่งจ่างกงจู่มีตรงส่วนไหนที่ทำผิดต่อเฉินเจวี๋ยหรือไม่ 

แล้วก็เจิ้นกั๋วกงเฉินอวี๋อีก ตอนนี้เขาทราบหรือยังว่าเป่าชิ่งจ่างกงจู่มีความสัมพันธ์ลับๆ กับน้องชายของอดีตสามี ถ้าเขารู้เรื่องแล้ว จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร 

แสร้งทำเป็นหูหนวกตาบอดย่อมเป็นไปไม่ได้ เฉินเจวี๋ยเปิดโปงเรื่องนี้ไปเรียบร้อยแล้ว อย่างไรเฉินอวี๋ก็ต้องรักษาเกียรติและชื่อเสียงของครอบครัว 

จะว่าไปแล้ว ความจริงเฉินเจวี๋ยสร้างปัญหายากให้เฉินอวี๋ข้อหนึ่งมากกว่า 

แต่มนุษย์นั้นมีชีวิตจนแก่ก็ต้องเรียนรู้ไปจนแก่เช่นกัน หวังซีรู้สึกว่าตนควรให้ความสนใจเจิ้นกั๋วกงเฉินอวี๋ด้วย ดูว่าเขาจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร และผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร หากนางได้พานพบเรื่องประเภทนี้บ้าง จะได้ใช้เป็นตัวอย่างได้ 

หวังซีคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่ตรงนั้น ตัวคนพิงอยู่กับกำแพงโดยไม่รู้ตัว 

เฉินลั่วมองเฉินเจวี๋ยที่กำลังร้องตะโกนโหวกเหวกโวยวายเสียงดังอยู่ในลานบ้านของเขาจากกล้องส่องทางไกล บ่าวไพร่ในบ้านก็ดี พ่อบ้านแม่บ้านก็ดี ไม่มีใครกล้าออกหน้ามาหยุดยั้งนาง แล้วก็ไม่มีใครออกหน้ามาพูดแทนเขาแม้แต่คนเดียวด้วย 

เมื่อก่อนเขายังเด็ก คิดเพียงว่าที่เฉินเจวี๋ยโวยวายโดยไร้เหตุผล เพราะเฉินเจวี๋ยเป็นบุตรสาวคนโตที่ขาดมารดา ไม่มีคนคอยสอนสั่ง แต่บัดนี้ เขากลับทำเพียงมองอยู่ด้านข้างอย่างไร้หัวใจ ถ้าหากพี่สาวแสนดีของเขาท่านนี้ไม่ได้รับความเห็นชอบและมีบิดาของเขาส่งเสริมอยู่เบื้องหลัง นางที่เป็นเพียงสตรีคนหนึ่ง จะทำเรื่องบ้าคลั่งเช่นนี้ได้อย่างไร 

น่าเสียดายก็แต่มารดาของเขา เกรงว่าจนถึงบัดนี้ก็ยังคิดว่าเป็นเพราะนางแต่งเข้าจวนเจิ้นกั๋วกงอย่างกะทันหัน เฉินเจวี๋ยรับไม่ได้ ถึงได้ต่อต้านนางเป็นพิเศษ เพื่อชื่อเสียงแล้ว มารดาของเขายอมถอยให้เฉินเจวี๋ยสามก้าว ยอมอดทนเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา และยินดีไม่สอนสั่งเฉินเจวี๋ยหากมันเป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวายมากขึ้น ถึงได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายนับวันยิ่งเหินห่างและเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ 

แต่ในเมื่อเฉินเจวี๋ยถึงกับกล้าล่อลวงเขากับเฉินอิงไปจับผิดเรื่องชู้รัก แล้วเหตุใดถึงปล่อยมารดาของเขาไปอย่างง่ายดายเช่นนี้เล่า? 

เวลานี้บิดาของเขาน่าจะรู้แล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างมารดาของเขากับจินซงชิงไม่ธรรมดาสามัญ แต่กลับไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรจากฝั่งบิดาของเขาเลย 

ก็เหมือนกับคุณหนูหวังที่ดวงหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยตรงหน้าท่านนี้ เขาเองก็อยากรู้เหลือเกินว่ามารดาของเขาไปไหน อะไรทำให้เฉินเจวี๋ยมีความมั่นใจ มาสร้างความวุ่นวายอยู่ในบ้านอย่างไม่เกรงกลัวเช่นนี้ 

เขาวางกล้องส่องทางไกลลง มองโคมไฟที่อยู่ไกลออกไปเงียบๆ 

ท่ามกลางความมืดมิด มีเพียงดวงตาของเขาที่เปล่งประกายริบหรี่ 

ดูโดดเดี่ยว เคว้งคว้างและหมดหนทาง 

หัวใจของหวังซีเต้นตึกตึกหลายครั้ง รู้สึกเห็นใจสงสารขึ้นมาเอง อดพึมพำชวนเขาคุยเป็นการหยั่งเชิงไม่ได้ว่า  เจ้ามาอยู่บนต้นไม้ได้อย่างไร เจ้ากลับมาจากข้างนอกหรือ ข้าได้ยินมาว่าเจ้ามีบ้านหลังหนึ่งอยู่ข้างนอก บ้านหลังนั้นอยู่ที่ไหน ไกลจากที่นี่หรือไม่ ตอนเจ้าไม่อยู่บ้าน เรื่องกินข้าวทำอย่างไร  

มองจากมุมของนาง ระหว่างอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่พักอาศัยและกิริยามารยาทนั้น เรื่องกินสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง 

หากไม่มีกิน ไม่ว่าชีวิตนี้จะเป็นอย่างไรก็ไม่มีทางอยู่ต่อไปได้ 

เฉินลั่วหันศีรษะกลับมามองนาง คล้ายเพิ่งได้เจอนางเป็นครั้งแรก สีหน้าทั้งไม่ได้ดูอบอุ่นเหมือนตอนอยู่ที่ร้านขายยา และไม่ได้เผยความโหดเหี้ยมออกมาให้เห็นเหมือนที่สวนป่า แต่ดูจิตใจสงบ กล่าวด้วยท่าทีปกติว่า  เจ้าคงเป็นบุตรสาวของกูไหน่ไนรองของตระกูลฉังท่านนั้นกระมัง มารดาของเจ้าสบายดีหรือไม่ เจ้าเดินทางมาจิงเฉิงครานี้ทำอะไรหรือ  

หวังซีกระอักกระอ่วนเล็กน้อย 

หรือว่าเรื่องของมารดานางจะเป็นที่กล่าวขานกันทั่วเมือง ไม่มีใครไม่รู้เรื่องเลยอย่างนั้นหรือ 

นางกับเฉินลั่วก็นับว่ารู้จักกันแล้ว ก่อนหน้านี้เขาน่าจะรู้ว่ามารดาของนางคือกูไหน่ไนรองของตระกูลฉังถึงจะถูก 

เขาถามนางเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร 

นางเต็มไปด้วยความข้องใจ ทว่ายังคงกล่าวอย่างจริงจังว่า  มารดาของข้าคือกูไหน่ไนรองของจวนหย่งเฉิงโหว นับตั้งแต่มารดาของข้าแต่งกับบิดาของข้า ชีวิตปลอดภัยเป็นสุข บุตรชายหญิงกตัญญู มีชีวิตเป็นอย่างดี ส่วนเรื่องที่ข้ามาจิงเฉิง มารดาของข้าให้ข้ามาทำความรู้จักตระกูลท่านยาย อาจเพราะคิดว่าถึงรุ่นของพวกข้าแล้วหากไม่ติดต่อกันไว้ กลัวว่าต่อไปต่อให้บังเอิญพบกันบนถนนคนสองตระกูลก็อาจไม่รู้ว่าต่างฝ่ายต่างเป็นใครกระมัง  

สองสามประโยคสุดท้ายนั้น นางพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเสียดสีประชดประชัน ทั้งเพื่อหยอกเย้าให้เฉินลั่วมีความสุขบ้างเล็กน้อย และเพื่อปกปิดความพยายามของมารดานางด้วย 

เฉินลั่วกลับพยักหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง กล่าวว่า  เวลาไม่เช้าแล้ว ข้าคิดว่าพ่อบ้านก็น่าจะมาถึงแล้วเช่นกัน ข้ากลับศาลากวางร้องก่อน ต่อไปหากมีเรื่องอะไร ข้าจะให้เฉินอวี้ติดต่อเจ้า เจ้าเองก็รีบไปพักผ่อนเถอะ!  

กล่าวจบ เขากระโดดลงมาจากง่ามต้นไม้ โบกกล้องส่องทางไกลในมือ กล่าวเสียงหนึ่งว่า ขอบคุณมาก แล้วหายลับเข้าไปในป่าไผ่โดยไม่แม้แต่จะหันศีรษะกลับมา 

เขาจากไปง่ายๆ เช่นนี้เลย? 

กว่าครู่ใหญ่หวังซีก็ยังไม่ได้สติคืนกลับมา เมื่อได้สติคืนกลับมาแล้วก็อดกระทืบเท้าไม่ได้ 

เฉินลั่วผู้นี้ ทำอะไรตามอำเภอใจไร้ทิศทาง หากมิใช่เพราะเขาเป็นคนค่อนข้างมีหลักการ มีขอบเขต ลงมือช่วยเหลือนางหลายครั้งแล้วล่ะก็ นางก็คร้านจะสนใจเรื่องของเขาเหมือนกัน? 

อย่างไรก็ตาม เหตุใดเขาถึงมาปรากฏตัวอยู่บนต้นไม้ รู้หรือยังว่านางคือคนที่แอบสอดส่องเขา แล้วจู่ๆ มาพูดเรื่องลับเฉพาะของครอบครัวให้นางฟังได้อย่างไรนั้น หวังซีจับต้นชนปลายไม่ถูกจริงๆ 

หลังจากล้างหน้าล้างตาแล้วนางนอนพลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงกว่าครู่ใหญ่ถึงได้ค่อยๆ รู้สึกง่วงเหงาหาวนอน 

เฉินลั่วนอนไม่หลับ 

ตะเกียงขนาดเล็กใช้สำหรับลุกไปถ่ายเบากลางดึกในห้องชั้นในเขาก็ให้คนดับไปเรียบร้อยแล้ว เขาห่มผ้า เอนกายนอนเงียบๆ อยู่บนเตียง จมูกได้กลิ่นอ่อนๆ ของธูปโกฐจุฬาลัมพา หูได้ยินเสียงหึ่งๆ ของนกและแมลงทุกชนิด 

มารดาของเขายังคงเหมือนเมื่อก่อน ไม่ว่าเฉินเจวี๋ยจะโหวกเหวกโวยวายอย่างไร ล้วนเพิกเฉยต่อเฉินเจวี๋ยไม่ถามไม่ไถ่อะไรทั้งสิ้น 

คนที่มาทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยคือเฉินเซิงพ่อบ้านใหญ่ข้างกายบิดาของเขา 

เขาไม่เพียงดูแลเฉินอวี๋บิดาของเขาจนเติบใหญ่มาเท่านั้น ยังเคยเป็นผู้ติดตามคนสนิทของท่านปู่ของเขา และช่วยจัดการทุกอย่างให้มารดาของเฉินเจวี๋ยแต่งเข้าตระกูลเฉินอีกด้วย เฉินเจวี๋ยและเฉินอิงค่อนข้างให้ความเคารพเขา ให้เขาออกหน้ามาเกลี้ยกล่อมเฉินเจวี๋ยเป็นเรื่องดีที่สุดแล้ว 

เพียงแต่ว่าคนอย่างเฉินเซิงนี้ คาดว่าคงมีแต่บิดาของเขาเท่านั้นที่สั่งการได้ 

ไม่รู้ว่าบิดาของเขาจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร 

เมื่อก่อน ถ้าเฉินเจวี๋ยกล้ามาหาเรื่องเขา เขาจะตอบโต้เฉินเจวี๋ยกลับไปตรงๆ อย่างไม่เกรงใจเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่เพียงยอมรับการกระทำของตัวเองเท่านั้น ยังจะดึงพระนามของเสด็จลุงของเขามาเหน็บแนมกระทบกระเทียบเฉินเจวี๋ยคำรบหนึ่งด้วย ทำให้เฉินเจวี๋ยทั้งร้อนใจทั้งโมโหวิ่งไปฟ้องบิดาของเขา 

แต่บิดาของเขาเล่า ไม่เคยสนใจว่าระหว่างพวกเขาพี่น้องนั้นผู้ใดถูกผู้ใดผิด มีแต่คิดว่าเขาถูกฮ่องเต้ตามใจจนเสียคน กลายเป็นคนหัวแข็ง ชอบรังแกผู้อื่น หยาบคายและไร้มารยาท 

ถ้าหากมารดาไม่อบรมเขา บิดาของเขาก็จะตำหนิเขา 

ส่วนเฉินเจวี๋ยนั้น บิดาของเขามักจะพูดว่านางเป็นบุตรสาว ต่อไปเมื่อออกเรือนก็เป็นบุตรสะใภ้ เป็นภรรยาของผู้อื่น ต้องยึดหลักสามเชื่อฟังสี่คุณธรรมแล้ว ยากจะมีเวลาได้ทำตามใจตัวเองอีก ไม่เพียงส่งเครื่องประดับและอาภรณ์หรูหราไปเป็นของขวัญปลอบใจเท่านั้น ยังบอกเฉินเจวี๋ยอย่างขออภัยลับหลังเขากับมารดาของเขาว่า เขาไม่ควรแต่งงานกับจ่างกงจู่เลย ซึ่งเป็นเหตุให้พวกนางสองพี่น้องถูกรังแกไปด้วย ไม่อาจมีความสุขกับการดูแลของมารดาเลี้ยงได้เลยสักวัน ยังต้องอดทนอดกลั้นมารดาเลี้ยงในทุกๆ เรื่องอีกด้วย 

เฉินเจวี๋ยซาบซึ้งใจที่บิดาปกป้อง จึงยิ่งเกลียดชังมารดาของเขามากขึ้น 

เป็นธรรมดาที่มารดาของเขาเองก็ย่อมจะทำตัวเหินห่างและเย็นชากับลูกเลี้ยงที่ต่อต้านนางทุกเรื่องมากขึ้นเช่นกัน 

แต่ครั้งนี้ เขาคาดการณ์ได้ว่าเฉินเจวี๋ยจะมาโวยวายที่บ้าน เขาจึงหลบเลี่ยงออกไป 

เขาอยากรู้เหลือเกินว่าครั้งนี้บิดาจะทำอย่างไร คิดจะจบเรื่องอย่างไร 

ดูจากวันนี้แล้ว บิดาของเขายังคงใช้อุบายเก่าๆ ไม่มีอะไรพิเศษ 

นึกถึงตรงนี้ ในหัวของเฉินลั่วมีภาพของหวังซีลอยขึ้นมา 

เด็กสาวผู้นี้ช่างเฉลียวฉลาดจริงๆ 

แม้นกล่าวว่าเขียนความรู้สึกทุกอย่างไว้บนใบหน้า ทว่านอกจากไม่ทำให้คนรู้สึกรังเกียจแล้ว ยังรู้สึกว่านางเหมือนแมวเจ้าเล่ห์ตัวหนึ่ง ที่ถึงแม้อยู่ต่อหน้าเจ้าจะทำหน้าเอียงอายขอกินขอดื่ม เจ้าเห็นแก่ความน่ารักของนาง ทั้งๆ ที่รู้ว่านางแสร้งทำ ก็ยังคงอดให้อาหารนางไม่ได้อยู่ดี 

นิสัยนี้ของนาง น่าจะเกี่ยวพันกับความรักความเอาใจที่ได้รับจากตระกูลหวังกระมัง 

เขานึกถึงครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่องกูไหน่ไนรองของจวนหย่งเฉิงโหว เป็นฤดูร้อนหนึ่ง เนื่องจากเขาทำให้เฉินเจวี๋ยตกน้ำ ถูกบิดาลงโทษให้ยืนอยู่หน้าห้องหนังสือ 

บ่าวชราของจวนเจิ้นกั๋วกงสองสามคนกำจัดยุงอยู่หน้าห้องหนังสือ 

พวกเขาพูดถึงเรื่องงานแต่งของกูไหน่ไนรองของจวนหย่งเฉิงโหวขึ้นมา เล่ากันว่าหย่งเฉิงโหวไม่ยอมรับนาง นางแต่งเข้าตระกูลพ่อค้าไปเป็นภรรยาคนที่สอง…คนเหล่านั้นทอดถอนหายใจ ล้วนแล้วแต่เป็นน้ำเสียงที่เห็นใจและสงสารทั้งสิ้น 

เขาคิดว่าตัวเองน่าเวทนาแล้ว คิดไม่ถึงว่ายังมีคนที่น่าเวทนายิ่งกว่าเขาอยู่อีก 

ชั่วขณะนั้น เขาอยากรู้เหลือเกินว่าในอนาคตกูไหน่ไนรองของจวนหย่งเฉิงโหวจะเป็นอย่างไรบ้าง 

คล้ายกับว่าเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว จะช่วยพยากรณ์อนาคตของเขาได้ด้วยก็ไม่ปาน 

เขาจึงเริ่มสนใจเรื่องของจวนหย่งเฉิงโหวทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ 

แต่กูไหน่ไนรองของจวนหย่งเฉิงโหวมีครอบครัวสามีแล้วก็ไม่เคยกลับมาหาอีกเลย แล้วก็ไม่ใช้ประโยชน์จากจวนหย่งเฉิงโหวในการทำการค้าด้วย 

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตระกูลหวังสานสัมพันธ์กับหย่งเฉิงโหวไม่สำเร็จ หรือเป็นเพราะจวนหย่งเฉิงโหวไม่อยากติดต่อกับตระกูลหวังกันแน่ 

ด้วยนิสัยของหย่งเฉิงโหวคนเก่าแล้ว เฉินลั่วคิดว่าน่าจะเป็นเพราะจวนหย่งเฉิงโหวไม่ยอมติดต่อกับตระกูลหวังมากกว่า 

ตระกูลหวังสู่ขอบุตรสะใภ้เช่นนี้กลับไป พวกเขาจะคิดว่าไร้ค่าแล้วกลั่นแกล้งรังแกกูไหน่ไนรองของจวนหย่งเฉิงโหวหรือไม่ 

กระทั่งหย่งเฉิงโหวคนเก่าเสียชีวิตไป หวังซีก็ปรากฏตัว… 

เฉินลั่วยังประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง 

ตระกูลหวังมีคุณธรรมและความสามารถมากกว่าที่เขาคิดเสียอีก นอกจากไม่คิดว่ากูไหน่ไนรองของจวนหย่งเฉิงโหวไร้ความดี เมื่อหวังซีมาถึงจวนหย่งเฉิงโหว ก็ไม่ไปประจบประแจงผู้ใด มาด้วยท่วงท่าของคนที่มาเยี่ยมญาติปกติ 

ตอนนั้นเขายังรู้สึกโล่งอกไปเปลาะหนึ่งด้วย 

กระทำสิ่งใดก็อดเข้าข้างคุณหนูหวังท่านนี้ไม่ได้ 

และพอเข้าข้าง ก็เกิดเรื่องขึ้นเลย 

เฉินลั่วยิ้มขื่น 

เขาเพียงอยากดูว่าเมื่อเขาไม่ปะทะกับเฉินเจวี๋ยแบบตาต่อตาฟันต่อฟันแล้ว บิดาของเขาจะเปลี่ยนกลยุทธ์หรือวิธีการมาจัดการพวกเขาสองพี่น้องหรือไม่ 

ใครจะรู้ว่าจะได้พานพบกับหวังซีที่มาปีนกำแพงบ้านของพวกเขา ยังถือกล้องส่องทางไกลไว้สอดส่องบ้านของพวกเขาด้วย นอกจากเขาจะไม่ตำหนินางแล้ว ภายใต้สภาพจิตใจที่สลดหดหู่มากนั้นเขายังเล่าเรื่องไร้สาระภายในบ้านเหล่านั้นให้หวังซีฟังอีกด้วย 

บัดนี้มาคิดๆ ดูแล้ว เฉินลั่วรู้สึกหดหู่เหลือเกิน 

คำพูดเหล่านั้น เขาพูดออกไปอย่างง่ายดายขนาดนั้นได้อย่างไร 

…………………………………………………………………… 

 

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 76 พบปะยามค่ำคืน"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์