CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล - ตอนที่ 99 ใบหน้ายิ้ม

  1. Home
  2. เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล
  3. ตอนที่ 99 ใบหน้ายิ้ม
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

เนื่องจากเป็นคนที่มารดาของตนให้ความสำคัญ หวังซีจึงกล่าวเตือนสติโหวฮูหยินดีๆ “เมื่อก่อนจวนชิ่งอวิ๋นโหวก็เคยช่วยเหลือผู้อื่นเช่นนี้หรือเจ้าคะ” 

 

 

โหวฮูหยินได้ยินแล้วมีชีวิตชีวา คิดว่าหวังซีเปลี่ยนความคิด ยอมออกหน้าไปหาคนตระกูลปั๋วให้นางแล้ว จึงรีบกล่าวว่า “ไม่เคย ไม่เคย เพราะฉะนั้นข้าถึงคิดว่าเส้นทางนี้มีความเป็นไปได้” 

 

 

ส่วนเรื่องที่หลายปีมานี้ยิ่งอยู่ตระกูลปั๋วก็ยิ่งไม่ชอบออกหน้าช่วยเหลือคนแล้วนั้น นางย่อมไม่บอกหวังซี 

 

 

หวังซีจำต้องกล่าวต่อไปว่า “เช่นนั้นท่านทราบเรื่องนี้ได้อย่างไร” 

 

 

โหวฮูหยินตะลึงงัน 

 

 

จริงด้วย นางรู้ได้อย่างไร 

 

 

คล้ายกับว่าเป็นตอนที่ไปเป็นแขกที่บ้านตระกูลหัน ตระกูลบุตรสะใภ้ของนายหญิงรองวันนั้นแล้วได้ยินใครสักคนเล่าให้ฟัง 

 

 

นางนึกย้อนกลับไปด้วย เล่าเหตุการณ์ตอนนั้นให้หวังซีฟังไปด้วย กลัวว่าหวังซีจะไม่เข้าใจ ยังกล่าวด้วยว่า “เจ้าไม่เข้าใจเรื่องในราชสำนัก ทุกคนต่างปกปิดเบื้องสูงไม่ปิดบังเบื้องล่างกันทั้งนั้น ปกติเรื่องเช่นนี้ คนอย่างพวกเรานั้นผู้อื่นล้วนระแวดระวังเอาไว้สองส่วน ย่อมไม่บอกพวกเราและพวกเราเองก็ยากจะได้รู้ด้วย แต่คนอย่างตระกูลหัน ไม่จำเป็นต้องระมัดระวังอะไร ข่าวของพวกเขาจึงรวดเร็วกว่าพวกเรานัก” 

 

 

ถ้าตระกูลหันทำอะไรไม่พิถีพิถันขนาดนั้นจริง ก็คงถูกฝ่ายร้องเรียนยื่นฎีกาฟ้องร้องจนล้มหายตายจากไปนานแล้ว 

 

 

หวังซีพยายามควบคุมกิริยาพลางกล่าว “การขอร้องให้ผู้อื่นช่วยเหลือต้องมีการปฏิสัมพันธ์กัน โหวฮูหยินควรไปสืบดูอีกสักหน่อยหรือไม่ เพื่อมิให้ติดต่อผิดคน อย่างน้อยก็ต้องสอบถามให้กระจ่างว่าเซียงหยางโหวซื้อใจชิ่งอวิ๋นโหวอย่างไรกระมัง หากเซียงหยางไปขอร้องด้วยตัวเอง ต่อให้ข้าไปหาคุณหนูหกปั๋วและคุณชายปั๋ว แต่เกรงว่าทั้งตัวคนและวาจาก็มีน้ำหนักน้อย ไม่ได้ผลลัพธ์อะไรอยู่ดี หากแหวกหญ้าให้งูตื่น ทำให้อนาคตของพี่ชายทั้งสองสามท่านเสียหาย เช่นนั้นก็เป็นการล้มเหลวขั้นปลายสุด ได้ไม่คุ้มเสียแล้วเจ้าค่ะ” 

 

 

โหวฮูหยินฟังถ้อยคำนี้แล้วไม่ค่อยยินดีนัก นายหญิงรองกลับหมุนตัวเข้าไปหา รีบจับแขนเสื้อของโหวฮูหยินเอาไว้ กล่าวยิ้มๆ ว่า “คุณหนูต่างสกุลกล่าวมีเหตุผล เรื่องนี้พวกเราต้องไปสืบดูให้ดีก่อนจริงๆ ถึงจะถูก” จากนั้นบอกหวังซีให้รีบกลับไปอย่างอ้อมๆ ว่า “ออกไปข้างนอกมาทั้งวัน เจ้าเองก็เหน็ดเหนื่อยแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ! มีเรื่องอะไร พรุ่งนี้เช้าพวกเราค่อยคุยกันอีกที” 

 

 

หวังซีรู้ว่าพวกนางอยากไล่ตนกลับไปเพื่อจะได้ปิดประตูหารือกันว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี เพราะขอร้องนางไม่เป็นผล นางจึงถามไถ่ฮูหยินผู้เฒ่าอย่างยิ้มแย้มอีกสองสามประโยคแล้วลุกขึ้นขอตัวลา 

 

 

พวกฮูหยินผู้เฒ่าคุยอะไรกันบ้างนั้นหวังซีไม่รู้ หวังซีเพิ่งก้าวเท้าเข้าสวนร่มหลิวหวังหมัวมัวก็ออกมาต้อนรับ ถามอย่างเป็นห่วงว่า “ท่านไปหาฮูหยินผู้เฒ่ามาใช่หรือไม่ นางได้ตำหนิอะไรท่านหรือเปล่าเจ้าคะ” 

 

 

กล่าวจบ นางเผยความขุ่นเคืองออกมาให้เห็นหลายส่วน กล่าวว่า “หากคุณหนูรู้สึกไม่สบายใจ พวกเราย้ายออกไปดีกว่า หากท่านกลัวเหงา พวกเราย้ายไปอยู่ร้านขายยาเพื่อมวลชนเป็นเพื่อนท่านผู้เฒ่าเฝิงก็ได้ แต่ถ้าท่านอยากอยู่อย่างสงบ พวกเราก็ซื้อบ้านหรือไม่ก็เช่าบ้านหลังหนึ่งใกล้ๆ กัน” 

 

 

สรุปแล้วก็คือ ให้คุณหนูใหญ่ของพวกนางทนทุกข์อีกไม่ได้แล้ว 

 

 

วาจานี้กล่าวราวกับว่าฮูหยินผู้เฒ่าไม่ไว้หน้าหวังซีก็ไม่ปาน 

 

 

หวังซีอดถามไม่ได้ว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ” 

 

 

หวังหมัวมัวประหลาดใจ กล่าวว่า “ฮูหยินผู้เฒ่ารั้งท่านไว้ไม่ได้กล่าวอะไรเลยหรือ เช้านี้หลังจากที่ท่านไปจวนชิ่งอวิ๋นโหวได้ไม่นาน องค์หญิงฟู่หยางก็มาถึง คนของคุณหนูซือจึงมาขอน้ำแข็ง ข้าทำตามที่ท่านบอกไว้ก่อนหน้านี้ บอกว่าน้ำแข็งของพวกเราจำเป็นต้องเก็บไว้ใช้เอง ไม่อาจให้ยืมได้ หมัวมัวข้างกายคุณหนูซือจึงเดือดดาลขึ้นมา ตอนนั้นข้าเถียงกับนางไปหลายประโยค บอกว่ามาเป็นแขกบ้านผู้อื่นยังต้องบอกส่งเทียบมาแจ้งล่วงหน้าก่อนสองสามวัน บ้านพวกเขามาขอยืมน้ำแข็งถึงบ้านผู้อื่นไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าสักคำเลยอย่างนั้นหรือ เอ่ยปากก็พูดทันทีเลยว่าต้องการยืมน้ำแข็ง ไร้กฎระเบียบเกินไปแล้ว… 

 

 

…หมัวมัวผู้นั้นโมโห ก่นด่าพร้อมกับไปฟ้องฮูหยินผู้เฒ่า… 

 

 

…ฮูหยินผู้เฒ่าจึงส่งซือหมัวมัวมา… 

 

 

…เพียงแต่ว่าเนื่องจากซือหมัวมัวผู้นั้นรับเงินของพวกเราไป จึงไม่กล้าพูดอะไรมาก แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องมาไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองฝ่าย บอกว่าช่วยนำความของฮูหยินผู้เฒ่ามาแจ้ง ทว่าความหมายโดยรวมกลับให้พวกเราทำเสมือนไม่เคยได้ยิน… 

 

 

…หลังจากองค์หญิงฟู่หยางกลับไปแล้วข้าเห็นนางรออยู่ที่ประตูชั้นในตลอด คิดว่าฮูหยินผู้เฒ่าต้องการรอท่านกลับมาแล้วอบรมสั่งสอนท่านเสียอีก ข้าเห็นท่านไปหาฮูหยินผู้เฒ่าก่อน มิใช่ว่าฮูหยินผู้เฒ่าต้องการพูดเรื่องพวกนี้กับท่านหรอกหรือ” 

 

 

“เปล่า” หวังซีบอกวัตถุประสงค์ที่ฮูหยินผู้เฒ่าเรียกนางไปให้หวังหมัวมัวฟัง จากนั้นถามอย่างสนเท่ห์ว่า “แล้วหลังจากนั้นซือจูทำอย่างไร” 

 

 

หวังหมัวมัวกล่าวอย่างดูแคลนว่า “จะทำอะไรได้ ฮูหยินผู้เฒ่าย่อมไม่อาจปล่อยให้ซือจูมาทำขายหน้าที่จวนหย่งเฉิงโหว จึงเอาน้ำแข็งของตัวเองออกมาให้ซือจูใช้ก่อน ซือจูผู้นั้นก็ช่างหน้าใหญ่ใจโต นอกจากจะวางน้ำแข็งไว้ทั่วทั้งสี่มุมห้องโถงรับรองแขกแล้ว ยังใช้น้ำแข็งแช่ผลไม้และถั่วเขียวต้มเม็ดบัวให้องค์หญิงฟู่หยางและคนจากวังหลวงกินอีกด้วย ไม่รู้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าทราบเรื่องนี้หรือไม่ หากทราบ ข้าก็ต้องชมฮูหยินผู้เฒ่าว่า ‘ใจกว้าง’ สักคำแล้ว แต่ถ้าไม่ทราบ พรุ่งนี้คงมีงิ้วให้ดูเป็นแน่” 

 

 

ตอนนี้ต่อให้มีเงินก็หาซื้อน้ำแข็งไม่ได้ ฮูหยินผู้เฒ่ายกน้ำแข็งให้ซือจูใช้ ที่เรือนนางจึงมีไม่พอใช้แล้ว 

 

 

นอกเสียจากว่าจะไปหยิบยืมใช้ส่วนของหย่งเฉิงโหว 

 

 

หวังซียิ้มน้อยๆ กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยปากแทนซือจู หากพวกเราส่งน้ำแข็งไปให้ฮูหยินผู้เฒ่า ตัวเองก็มีไม่พอใช้แล้ว” 

 

 

หวังหมัวมัวเข้าใจ พยักหน้ายิ้มๆ เอ่ยถึงเจตนาที่ฮูหยินผู้เฒ่าเรียกหาหวังซีขึ้นมา กล่าวอย่างเดียดฉันท์ว่า “เห็นได้ชัดว่าพออนาคตของหลานชายมาอยู่ตรงหน้า เรื่องของคุณหนูซือก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไรแล้ว” 

 

 

นี่เป็นเรื่องปกติธรรมดาของมนุษย์ 

 

 

หวังซีได้แต่หัวเราะ 

 

 

หวังหมัวมัวหยิบใบรายการของขวัญของปั๋วหมิงเย่ว์มาอย่างกลัดกลุ้ม เอ่ยถามว่า “นี่ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ” 

 

 

“มีอะไรยุ่งยากกัน” หวังซียิ้มพลางรับใบรายการของขวัญมากวาดสายตามองครั้งหนึ่ง กล่าวว่า “ให้พวกไป๋กั่วมาช่วยจัดเก็บ อะไรที่อร่อยและน่าเล่นจริงๆ ก็เก็บเอาไว้ ส่วนที่ไม่อร่อยไม่น่าเล่นก็ทำเหมือนที่ผ่านมา มอบให้ผู้อื่นบ้างหรือไม่ก็ใช้ทำเป็นของขวัญตอบแทนบ้าง ย่อมมีที่ให้พวกมันไปอยู่แล้ว ส่วนด้านปั๋วหมิงเย่ว์ ข้าจะคิดหาวิธีเอง” 

 

 

หวังหมัวมัวไม่เข้าใจ ไปจัดการของขวัญเหล่านั้นด้วยความงุนงง 

 

 

หวังซีกลับเขียนกระดาษเล็กๆ แผ่นหนึ่ง ถามเฉินลั่วว่าควรจัดการเรื่องนี้อย่างไรดี 

 

 

***  

 

 

ด้านจวนชิ่งอวิ๋นโหว คุณหนูหกปั๋วนึกถึงความมหัศจรรย์ของการเย็บปักแบบสู่ซิ่วที่หวังซีพูดถึง จึงไปสถานที่เก็บตำราของตระกูลปั๋ว อยากดูว่าในบ้านมีหนังสือเกี่ยวกับการเย็บปักแบบสู่ซิ่วบ้างหรือไม่ 

 

 

สาวใช้เด็กที่ให้การรับใช้นางมีนามว่าเสี่ยวเถา ค่อนข้างสนิทสนมกับคุณหนูหกปั๋ว 

 

 

นางนึกถึงหน้าตาและกิริยามารยาทของหวังซี ในใจรู้สึกไม่ค่อยสงบนัก เห็นว่าในหอหนังสือไม่มีผู้อื่นอยู่ด้วย จึงช่วยคุณหนูหกปั๋วตรวจดูรายชื่อหนังสือไปด้วย กระซิบกล่าวหยั่งเชิงไปด้วยว่า “คุณหนูหก เหตุใดคุณชายรองตระกูลเฉินต้องช่วยคุณหนูหวังผู้นั้นด้วย คงมิใช่ว่าเขาสนใจคุณหนูหวังหรอกกระมัง เมื่อครู่ข้าได้ยินสาวใช้ในเรือนของคุณชายเจ็ดพูดกันว่า หลายวันมานี้คุณชายเจ็ดออกไปข้างนอกทุกวัน กลับมายังจับพู่กันหน้านิ่วคิ้วขมวดจนถึงถึงยามสามก็ยังไม่นอน วันนี้ยังส่งของกินของเล่นไปให้คุณหนูหวังที่จวนหย่งเฉิงโหวอีกหนึ่งคันรถด้วยเจ้าค่ะ… 

 

 

…ท่านว่า คุณหนูหวังผู้นี้จะมีอะไรโดดเด่นกว่าผู้อื่นหรือไม่ เหตุใดทั้งคนนี้และคนนั้นต่างชอบนางขนาดนี้” 

 

 

คุณหนูหกปั๋วได้ยินแล้วไม่ชอบใจเป็นอย่างยิ่ง กล่าวว่า “กล่าววาจาเลอะเทอะอะไร คุณชายเจ็ดชอบเล่นสนุกจนเกินความเหมาะสม พี่ชายรองเฉินก็เป็นคนเช่นนั้นด้วยหรืออย่างไร พี่ชายรองเฉินถึงกับมาขอร้องข้า เห็นได้ชัดว่าเชื่อใจข้าเป็นอย่างมาก แล้วข้าจะหักหลังความเชื่อใจของเขาได้อย่างไร… 

 

 

…คำพูดพวกนี้เจ้าพูดต่อหน้าข้าก็ให้แล้วกันไป หากข้าได้ยินเจ้าเอาไปซุบซิบนินทากับผู้อื่นล่ะก็ คนเช่นนี้ข้าไม่ต้องการ เจ้ามาจากที่ใดก็จงกลับไปที่นั่นเสีย” 

 

 

เสี่ยวเถาผู้นั้นเป็นลูกของบ่าวในบ้าน 

 

 

นี่ถ้าถูกส่งตัวกลับไป ไม่ต้องพูดถึงครอบครัวของพวกนาง แม้แต่อาหญิงสามและน้าชายหกก็เสียหน้าไปด้วย ชีวิตนี้นางอย่าหวังจะได้เงยหน้าขึ้นมาเป็นผู้เป็นคนอีกเลย 

 

 

ที่ผ่านมาคุณหนูหกปั๋วไม่เคยพูดกับนางรุนแรงเช่นนี้มาก่อน เสี่ยวเถาตกใจจนคุกเข่าเสียงดัง ตึง ลงไป กล่าวน้ำตาคลอว่า “คุณหนูหก ข้าช่างเหมือนมีน้ำมันหมูพอกหัวใจ[1] กล่าววาจาผิดไปแล้ว ต่อไปไม่กล้าทำอีกแล้วเจ้าค่ะ” 

 

 

“อืม!” คุณหนูหกปั๋วพยักหน้าเบาๆ ก้มหน้าดูรายชื่อหนังสือต่อ ทว่าปลายนิ้วกลับหยุดที่หน้านั้น เนิ่นนานก็ยังไม่พลิกไปหน้าใหม่ 

 

 

ในใจของนางเหมือนน้ำร้อนที่กำลังเดือดปุดๆ 

 

 

เฉินลั่วกับนางเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ทั้งสองคนอายุใกล้เคียงกัน สมัยเด็ก พวกผู้ใหญ่ยังเคยพูดเล่นๆ กันว่าอยากจับคู่ให้พวกเขา แต่นับตั้งแต่ฮ่องเต้ดูคลุมเครือกับเรื่องแต่งตั้งองค์ชายรองเป็นรัชทายาทเป็นต้นมา ผู้อาวุโสในบ้านก็ไม่อนุญาตให้คนในบ้านเอาชื่อของนางไปเอ่ยพ่วงกับเฉินลั่วอีก 

 

 

นางรู้ดี นี่เป็นเพราะฮ่องเต้ไม่อยากให้ตระกูลของพวกนางดองกับตระกูลเฉิน แต่ตั้งแต่ต้นจนถึงปักปิ่น เรื่องงานแต่งของนางก็ยังไม่มีการกำหนดลงมา ครอบครัวพวกนางอาจมีความคิดอยากให้เฉินลั่วมาเป็นบุตรเขยของตระกูลพวกนางก็เป็นได้ 

 

 

นางเองก็ยินดีเช่นกัน 

 

 

ไม่พูดถึงเรื่องที่เฉินลั่วหน้าตาโดดเด่นจนอาจกล่าวได้ว่ามีเพียงหนึ่งในหมื่น กระทั่งอาจมีเพียงหนึ่งในร้อยล้านด้วยซ้ำ แค่การระวังตัวไม่เข้าใกล้สตรีตามใจชอบ แค่ความฉลาดที่มองอะไรเพียงครั้งเดียวก็ทำได้แล้วเหล่านั้น คุณหนูหกปั๋วก็ยินดีรอต่อไปเรื่อยๆ แล้ว 

 

 

แต่สิ่งที่นางคิดไม่ถึงเลยก็คือ เฉินลั่วที่ไม่เคยขอร้องผู้ใดมาก่อนนั้น ครั้งแรกที่ขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น นอกจากจะมาขอความช่วยเหลือที่นางแล้ว ยังทำเพื่อคุณหนูต่างสกุลผู้หนึ่งของจวนหย่งเฉิงโหวที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากที่ใด และยังเป็นการช่วยเหลือคุณหนูต่างสกุลผู้นี้ออกจากปัญหาอีกด้วย 

 

 

นึกถึงตรงนี้ คุณหนูหกปั๋วรู้สึกนั่งไม่ติดที่เล็กน้อย 

 

 

นางอยากไปหาเฉินลั่วเพื่อสอบถามให้กระจ่างสักครั้งเหลือเกิน 

 

 

แต่พวกเขาไม่ใช่เด็กกันแล้ว นางไม่อาจไปพบเฉินลั่วตามใจชอบ และเฉินลั่วเองก็ไม่อาจมาจวนชิ่งอวิ๋นโหวตามใจชอบเช่นกัน 

 

 

ในหัวของนางปรากฏภาพตอนที่นางไปเรือนเย็บปักเมื่อช่วงบ่ายขึ้นมา ระหว่างที่เดินทะลุผ่านลานบ้านนั้นหวังซียื่นมือออกมาบังแสงแดดตรงหน้าผาก 

 

 

มือขาวกระจ่าง เนียนละเอียด เรียวยาวและนุ่มละมุนราวกับแกะสลักมาจากหยกหินอ่อนขาว ทว่านุ่มและงดงามยิ่งกว่าหยกหินอ่อนขาวเสียอีก ภายใต้แสงอาทิตย์ทำให้มองเห็นเส้นเลือดเขียวและปลายนิ้วชมพูได้ชัดเจน 

 

 

ในใจของคุณหนูหกปั๋วราวกับมีขนนกปัดผ่านกลับไปกลับมา ทำให้นางไม่อาจสงบใจลงมาได้ 

 

 

นางวางรายชื่อหนังสือลง อดถามเสี่ยวเถาไม่ได้ว่า “เจ้าบอกว่าพี่ชายเจ็ดส่งของกินเครื่องดื่มและของเล่นไปให้คุณหนูหวังเป็นจำนวนมาก เป็นเรื่องจริงหรือ” 

 

 

เสี่ยวเถาเพิ่งจะถูกทำให้ตกใจกลัวมา ไหนเลยจะกล้าพูดเสียงดัง 

 

 

“ข้าได้ยินเสียวอู่พูดเจ้าค่ะ” นางกล่าวอย่างระมัดระวัง “เสียวอู่บอกว่าของบางอย่างเขาเป็นคนไปซื้อด้วยตัวเอง เพื่อรวบรวมของหนึ่งคันรถนี้แล้ว คุณชายน้อยเจ็ดใช้เวลาร่างใบรายการไปหลายวัน ยังให้ซื้อของเล่นและเครื่องดื่มก่อน แล้วค่อยซื้อของกินเป็นลำดับสุดท้าย ไม่รู้ว่าเอาใจใส่มากมายเพียงใด!” 

 

 

เอาใจใส่ก็ดี 

 

 

คุณหนูหกปั๋วยิ้ม กล่าวว่า “เจ้าหาวิธีไปเอาใบรายการของขวัญที่พี่ชายเจ็ดส่งไปให้คุณหนูหวังมาหนึ่งฉบับ” 

 

 

นางจะเอาไปให้ฮูหยินผู้เฒ่าดู 

 

 

พอฮูหยินผู้เฒ่าดีใจ ไม่แน่ว่าอาจจะสู่ขอภรรยามาให้พี่ชายเจ็ดของนางสักคนก็ได้ นี่ก็นับเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง 

 

 

เสี่ยวเถารับคำ “เจ้าค่ะ” อย่างนอบน้อม แล้วถอยออกไป 

 

 

คุณหนูหกปั๋วนั่งอยู่ในหอหนังสือเงียบๆ เพียงลำพัง ดมกลิ่นหมึกอันเป็นเอกลักษณ์ของหอหนังสือ คิดคำนวณว่าหวังซีจะเชิญแขกเมื่อใด ถึงเวลานางควรส่งของขวัญอะไรไปให้ ถ้าหากหวังซีไม่ส่งเทียบเชิญมาให้นาง นางควรทำหน้าหนาไปอาศัยรถม้าของอู๋จู๋ คุณหนูรองตระกูลอู๋ตรงไปเองเลยดีหรือไม่ หรือควรหลอกล่อลู่หลิงของจวนเจียงชวนป๋อให้พานางร่วมทางไปด้วยดี… 

 

 

นางคิดว่านางต้องไปหยั่งเชิงเจตนาของมารดานางดูสักหน่อย 

 

 

ถึงแม้นางจะยินดีรอเฉินลั่ว แต่ก็ต้องมั่นใจว่าเป็นคนที่นางรอแล้วจะได้มาจริงๆ ถึงจะใช้การได้ 

 

 

คุณหนูหกปั๋วเผยรอยยิ้มหวานงดงามออกมา ก่อนไปเรือนหลักของจวนชิ่งอวิ๋นโหว 

 

 

……………………………………………………………………….. 

 

 

 

 

 

[1] น้ำมันหมูพอกหัวใจ กล่าวถึงคนที่มองปัญหาเพียงผิวเผิน ผู้อื่นว่าอย่างไรก็เฮโลตามนั้น ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง 

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 99 ใบหน้ายิ้ม"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์