เฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก - ตอนที่ 24
“อึก”
ดวงตาของแวนส์สั่นอย่างรวดเร็วเมื่อเขาตื่นขึ้น เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาอยู่ติดกับพื้น มีเหงื่อเกาะอยู่ทั่วร่างกายของเขา และเมื่อเขาดันตัวเองขึ้นเขาก็รู้สึกได้ว่าแก้มที่ผอมแห้งของเขาถูกพื้นดึงเล็กน้อยก่อนที่มันจะเด้งกลับมาที่ใบหน้าของเขา
เขารู้สึกเจ็บแปลบหลังจากที่ดวงตาของเขาเปิดขึ้นขณะที่มองไปรอบๆตัวเขา สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสับสน
เขายืนขึ้นพยายามที่จะดูว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่ในที่สุดหลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็จำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่เขาจะทรุดตัวลงกับพื้น นี่คือบ้านของเขาและเขาจำได้ว่าเขาเปิดระบบของเขาและส่งวิญญาณพ่อของเขาไปสู่ชีวิตหลังความตาย
หลังจากนั้นหน้าต่างมากมายก็โผล่ขึ้นมาตรงหน้าเขา แต่เขาไม่เข้าใจสิ่งที่ปรากฎขึ้น…มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปงั้นหรอ?
‘หน้าต่างระบบ’
[ร่างกาย เลเวล 2 ค่าประสบการณ์: 13/200,
ระบบ เลเวล 3 ค่าประสบการณ์: 6/300
พลังชีวิต: 52/52 | พลังงาน: 1/28
ความแข็งแรง: 7 | (พลังโจมตี: 16 + 0)
ความว่องไว: ??? | (ความเร็ว: ???)
ความทนทาน: 15 | (พลังชีวิตสูงสุด: 52, พลังป้องกัน: 8 + 0)
ความฉลาด: 3 | (พลังงานสูงสุด: 28, พลังเวทย์: 4 + 0)
อัตราการฟื้นฟูพลังชิวิต: 3
อัตราการฟื้นฟูพลังงาน: 1
คะแนนสถานะเหลือ: 10]
แวนส์ส์มองและเพ่งความสนใจไปที่คำพูดที่อยู่ตรงหน้า เขาพยายามดูว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนหรือไม่ จากความทรงจำของเขา เขาพบว่าส่วนล่างของหน้าต่างสถานะก็เปลี่ยนไป จาก 0 กลายเป็นหนึ่งและศูนย์
นี่…น่าจะเป็นเลข 10 เหรอ? แวนส์เอียงศีรษะ
ทันทีที่เขามุ่งความสนใจไปที่หมายเลข หน้าต่างอีกบานก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
[คุณต้องการแจกจ่ายคะแนนสถานะของคุณหรือไม่]
“…มันหมายถึงอะไรน่ะ?” แวนส์คร่ำครวญด้วยความหงุดหงิด
หน้าต่างทักษะอธิบายให้เขาฟังอย่างคลุมเครือ และหน้าต่างที่ลอยอยู่บนหัวของเขามันเป็นเพียง…คำศัพท์มากมายที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้
ดังนั้นเขาจึงถอนหายใจและทำได้เพียงปิดหน้าต่างระบบไปในตอนนี้
จากนั้นเขาก็จำได้ว่าเขาควรจะไปพบฮาร์วีย์และเบียทริซที่โรงเรียนเพื่อหาหอพัก… แต่ตอนนี้เขามีบ้านแล้ว
หัวของเขายังคงเจ็บอยู่และข้างนอกก็มืดแล้ว ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจกลับไปนอน เขาแน่ใจว่าฮาร์วีย์และเบียทริซไม่ได้รอเขาอีกต่อไป
แวนส์จึงเดินไปรอบๆบ้านเพื่อหาห้องนอน และทันทีที่พบมัน เขาก็กระโดดขึ้นเตียงทันที
“…นุ่ม” เขาพึมพำ เตียงนอนนุ่มกว่าในโรงพยาบาลมาก และด้วยความคิดสุดท้ายนั้นเขาก็หลับไปอีกครั้ง
แต่แล้วฟ้าร้องที่อึกทึกก็ปลุกเขาขึ้นมา เขาลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็วเพียงพบว่าตัวเองลอยอยู่ในความมืดอันกว้างใหญ่
เขาไม่ได้อยู่คนเดียว มีมนุษย์อีกคนหนึ่งอยู่ที่นั่นด้วย แต่สิ่งเดียวที่แตกต่างคือพวกเขามีปีกคู่หนึ่งที่หลังของพวกเขา
และมีมนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วน ทั้งหมดกระพือปีกไปในทิศทางเดียว แวนส์รีบหันหน้าไปทางที่พวกเขากำลังจะไปและที่นั่นเขาเห็นชายร่างมหึมา เขามีขนาดใหญ่มากจนมนุษย์มีปีกพวกนั้นเหมือนเป็นมดตัวหนึ่ง
ชายร่างมหึมาก็ตะโกน แต่เขาไม่เข้าใจคำพูดของเขา จากนั้นชายร่างมหึมาก็ยกมือขึ้นจากนั้นสายฟ้าก็เริ่มลุกลามไปทั่วร่างกายของเขา สายฟ้าแพร่กระจายอย่างรวดเร็วฆ่าคนมีปีกที่กำลังใกล้เข้ามาราวกับพวกเขาเป็นแมลง
แต่มันดูเหมือนว่าไม่ได้เกิดอะไรขึ้นมากมาย เนื่องจากพวกคนที่มีปีกมีจำนวนเยอะเป็นอย่างมาก ทันใดนั้นชายร่างมหึมาก็ชี้ไปที่แวนส์ และสิ่งที่อยู่ข้างหลังเขา แวนส์หันกลับไปอย่างรวดเร็วเพียงเพื่อดูยักษ์อีกตัว
‘นี่…’
ขณะนี้ยักษ์ตัวนั้นกำลังต่อสู้กับมนุษย์มีปีกจำนวนนับไม่ถ้วนที่บินอยู่รอบๆผิวหนังของเขา
แวนส์สัมผัสได้ถึงความคุ้นเคยจากยักษ์ที่เพิ่งมาใหม่นี้ มันมีความรู้สึกเหมือนกับแวนส์ในตอนที่เขาใช้ระบบของเขา ยักษ์ตัวนี้เริ่มปลดปล่อยแสงอยู่รอบๆเท้าของเขาพร้อมที่จะวิ่งไปข้างหน้า
แต่น่าเศร้าก่อนที่ชายคนนั้นจะวิ่งไป ชายมีปีกจำนวนนับไม่ถ้วนเริ่มกัดและเคี้ยวเท้าของเขา
“อ๊ะ!”
การมองเห็นทั้งหมดของแวนส์เปลี่ยนไปทันทีเมื่อเขาปล่อยเสียงดังออกมา ลมหายใจของเขาหนักหน่วงในขณะที่เขามองไปรอบๆ ตัวเขาอย่างรวดเร็วและพบว่าตัวเองกลับมาในห้องของเขา
แสงของดวงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาที่หน้าต่างเล็กน้อยแล้ว
“มันคืออะไรกัน…ฝันแปลกๆแบบนี้” แวนส์พึมพำขณะลุกขึ้นจากเตียง จากนั้นเขาก็เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับวันที่ 2 ของการเรียน
ดูเหมือนว่าซาร่าห์เตรียมทุกอย่างไว้ให้เขาแล้วจริงๆ ตู้นั้นเต็มไปด้วยเสื้อผ้าและเครื่องแบบขนาดของเขา นอกจากนี้ยังมีเสื้อผ้าผู้หญิง แต่แวนส์เลือกที่จะไม่สนใจมันในตอนนี้
จากนั้นเขาก็ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงในการอาบน้ำ โดยนั่นคือการอาบน้ำที่หรูหราที่สุดที่เขาเคยอาบมาในชีวิตของเขา
ก่อนออกจากบ้านเขาต้องล็อคทุกอย่างไว้ให้ดีเผื่อว่าจะมีคนพยายามเข้ามาปล้น จากนั้นเขาก็ตรวจสอบอีกครั้งในเผื่อเขาปลดล็อกบางอย่างทิ้งไว้
และด้วยเหตุนี้เขาจึงหายใจเข้าลึกๆ
“ไปกันเถอะ” เขาพึมพำขณะที่แสงสีทองปรากฏขึ้นที่ดวงตาของเขา จากนั้นเขาก็จากไป เหลือเพียงร่องรอยของแสงสีทองพร่ามัวในยามเช้า
และไม่ถึงนาที
“หยุด!”
แวนส์หยุดตัวเองห่างจากสถาบันการศึกษาอย่างระมัดระวัง และตัดสินใจที่จะเดินไปตามทางที่เหลือตามปกติ จากนั้นเขาก็เดินไปเข้าไปในกลุ่มรวมกับนักเรียนที่กำลังเดินไปที่สถาบันการศึกษา
บางทีมันอาจจะไม่เหมือนกับการเดินเข้าไปในกลุ่ม แต่เป็นการหายเข้าไปมากกว่า เขาเป็นคนที่ตัวเล็กที่สุดดังนั้นทุกคนแทบจะมองไม่เห็นเขาเลยถ้าไม่มีใครมองหาเขา แต่ถึงอย่างนั้น…
“อ๊า! เจอแล้ว!”
นักเรียนหญิงคนหนึ่งชี้มาทางเขา นิ้วของเธอเกือบจะแตะจมูกของแวนส์ แวนส์สะดุ้งตอบขณะที่เขามองไปที่นักเรียนหญิงผมแดงหน้าตาคุ้นเคย
“เธอต้องการอะไรหรือเปล่า เอ่อเธอชื่อ…” แวนส์อดไม่ได้ที่จะถอยห่างออกไปเล็กน้อยขณะที่เขามองไปที่นิ้วของนักเรียนหญิง ถ้าจำไม่ผิดเธอชื่อ…
“เจนิซ?”
“ฉันชื่อเจมม่า!”
เธอคือเจมม่า คนที่พบว่าแวนส์นอนจมกองเลือดของตัวเองในสนามประลอง
“…ฉันทำรองเท้าของเธอพังหรือเปล่า”
แวนส์อดไม่ได้ที่จะขยี้ตา เธอมาที่นี่เพื่อให้เขาจ่ายค่ารองเท้า? แต่เขาแน่ใจว่ามันอยู่ในสภาพดีเมื่อคืนให้เธอเมื่อวานนี้
“ไม่! แต่ฉันรอนายอยู่!” เจมม่าพูด
“ถ้าไม่ใช่เพราะกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของนาย ฉันคงหานายไม่เจอแน่ๆ!”
“งั้น…เธอดมกลิ่นฉันหรอ?”
ทั้งสองดึงดูดความสนใจจากนักเรียนคนอื่นๆอย่างรวดเร็ว และด้วยคำพูดที่แวนส์เพิ่งพูดพวกเขาอดไม่ได้ที่จะกระซิบกันและพวกเขามองไปที่เจมม่าดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ
“…น่าเกลียดจัง” นักเรียนคนหนึ่งกระซิบ
“ว…เดี๋ยวก่อน” เจมม่าโบกมืออย่างรวดเร็ว
“มัน…ไม่ใช่อย่างนั้น! “