เฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก - ตอนที่ 4
“นี่มันเลือด!”
นักเรียนหญิงลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่เธอรีบวิ่งไปยังทิศทางของกลิ่น เสียงร้องดังขึ้นเรื่อยๆเมื่อเธอเข้าใกล้แหล่งที่มาของเสียงมากขึ้น
“!!!”
ดวงตาของเธอเบิกกว้างทันทีที่มาถึงสนามประลองแห่งหนึ่งของสถาบัน ตรงกลางเวทีมีเด็กชายในชุดเหมือนผ้าขี้ริ้วกำลังขดตัวเป็นลูกบอลที่ตัวเต็มไปด้วยเลือดของเขา และร่างกายของเขากำลังสั่นเทา
นั่นคืออีแวนส์
นักเรียนหญิงรีบวิ่งขึ้นไปบนเวที เพื่อตรวจร่างกายของเด็กชายและทันทีที่เธอสัมผัสเขา เด็กชายก็คลานออกไปพร้อมกับเสียงแตกของกระดูกที่หักของเขา เสียงนั้นดังเข้าไปในหูของนักเรียนหญิงทันที
“…ไปให้พ้น!”
เด็กชายตะโกน ขณะที่เขาขดตัวเป็นลูกบอลอีกครั้งเลือดของเขาไหลลงบนพื้น
“นี่…ใครเป็นคนทำ!?”
นักเรียนหญิงอดไม่ได้ที่ถาม ขณะที่เธอมองไปที่สภาพของเด็กชาย
“นี่ใครทำกับนาย!?”
นักเรียนหญิงเดินเข้ามาหาเด็กชายอีกครั้ง เนื่องจากความกังวลของเธอ เธอจึงเกือบจะลื่นล้ม แต่เธอก็กลับมาทรงตัวได้อย่างรวดเร็ว มีเพียงรองเท้าบูทที่ห้อยอยู่บนคอของเธอที่ตกลงไปที่พื้น อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้สนใจในขณะที่เธอเดินไปหาเด็กชายที่เต็มไปด้วยเลือดอีกครั้ง คราวนี้เธอเข้าไปอย่างระมัดระวัง
“ตอนนี้นายเสียเลือดมากเลย”
เมื่อเห็นผิวซีดของเด็กชายนักเรียนหญิงก็อดไม่ได้ที่จะปิดปากของเธอ
“ฉันจะพานายไปรักษา…”
นักเรียนหญิงกำลังจะอุ้มเด็กชายขึ้นมา แต่แล้วเธอก็ได้ยินเสียงแตกที่เธอได้ยินมาก่อนหน้านี้เมื่อเด็กชายขยับตัว
หากเธออุ้มเขามีโอกาสที่กระดูกหักของเขาอาจทิ่มแทงอวัยวะภายในได้ นักเรียนหญิงไม่สามารถช่วยเขาได้ในตอนนี้
“นาย…นายได้ยินฉันไหมเด็กน้อย”
เธอพูดเบาๆขณะที่เธอคุกเข่าข้างๆเด็กชาย
“ฉันชื่อเจมม่า…นายอยู่ตรงนี้ก่อน โอเคมั้ย ฉันจะโทรหาผู้รักษาให้ แล้วฉันจะกลับมาเร็วๆนี้ฉันสัญญา”
ทันทีที่เธอพูดอย่างนั้นกล้ามเนื้อของเธอก็เริ่มนูนขึ้นและขนก็เริ่มขึ้นบนผิวหนัง เท้าของเธอโตขึ้น มันมีขนาดใหญ่กว่าเดิมครึ่งหนึ่ง เล็บบนนิ้วเท้าของเธอคมเหมือนมีด
“รออยู่ตรงนี้ก่อนนะ”
เจมม่ากระซิบอีกครั้ง ก่อนที่จะวิ่งลงจากเวที กรงเล็บของเธอทิ้งรอยไว้ที่พื้น
เมื่อนักเรียนหญิงที่เรียกว่าเจมม่าจากไป อีแวนส์ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวในเวทีอีกครั้ง เสียงร้องของเขายังคงก้องอยู่ในอากาศ แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็เงยหน้าขึ้น และเช็ดน้ำตาที่อยู่บนใบหน้าของเขา
แม้แต่การทำอะไรง่ายๆ อย่างนั้นก็ทำให้ร่างกายของเขาปวดร้าวไปทั้งตัว แต่ถึงกระนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืน หากหญิงสาวจากก่อนหน้านี้พาผู้รักษามาที่นี่เขาก็กลัวว่าจะต้องเดือดร้อน
อีแวนส์คิดว่าเขาจะต้องจ่ายเงินให้กับผู้รักษา สมบัติทั้งหมดของเขาถูกทำลายโดยเจอรัลด์และกลุ่มของเขา ดังนั้นพวกเขาอาจขังเขาไว้หากเขาไม่สามารถจ่ายเงินค่ารักษาได้อีแวนส์คิด
อีแวนส์…ไม่คุ้นเคยที่จะถูกช่วยเหลือ ตลอดชีวิตของเขา เขาอาศัยอยู่ในสถานที่ที่ไม่มีใครสนใจเสียงร้องของเขา และเมื่อเขาบอกใครๆว่าพ่อของเขาทำอะไรกับเขา พ่อของเขาก็จะตบตีเขามากขึ้นไปอีก
ดังนั้นแม้ว่ามันจะรู้สึกเหมือนหนอนกำลังกัดกินร่างกายของเขาจากภายในสู่ภายนอก แต่เขาก็เริ่มเดิน
มันเจ็บ…มันเจ็บ…มันเจ็บ…
จิตใจของเขาโหยหวนด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ยังคงเดินต่อไป ลากเท้าที่ถูกไฟไหม้ทิ้งรอยเท้าและรอยเลือดขณะที่เขาเดินต่อไป
เจ็บ…มันเจ็บ…
เท้าของฉันเจ็บมาก!
“โอ๊ย!”
ดวงตาของเขาสั่นสะท้าน ขณะที่เขาล้มลงกับพื้น เขาไม่สามารถทนความเจ็บปวดได้อีกต่อไป กระดูกที่หักบนร่างกายของเขา ทำให้เขาดิ้น และกระอักเลือดอีกครั้ง
ความคิดที่ต่างๆพุ่งเข้ามาในใจของเขา
ทำไมเรื่องนี้ถึงเกิดขึ้นกับเขา?
เขาทำอะไรถึงสมควรได้รับสิ่งนี้?
เขาคิดว่าสิ่งต่างๆจะแตกต่างออกไป เมื่อเขาค้นพบว่าเขาเป็นผู้ควบคุมระบบ
ผู้ควบคุมระบบเป็นฮีโร่ที่เอาชนะมอนเตอร์ได้…แล้วทำไมเจอรัลด์และกลุ่มของเขาถึงทำแบบนี้กับเขา?
พ่อของเขาก็ยังทำร้ายและทารุณกรรมเขาอย่างไม่ลดละ
ทำไมถึงต้องเป็นเขา? เขาเป็นตัวปัญหางั้นหรอ?
‘ฉันเป็น…มอนเตอร์งั้นหรอ’ อีแวนส์คิด
เขาแค่อยากจะหนี ทำไมกัน…
ทำไมเขาถึงเจ็บปวดมากขนาดนี้?
ขากรรไกรหักของอีแวนส์สั่นอีกครั้ง ใบหน้าของเขาซีดเซียว เพราะความเจ็บปวดทั้งหมดที่เขารู้สึกน้ำตาของเขาไหลลงบนใบหน้าของเขาอีกครั้งอย่างไม่สามารถควบคุมได้
เสียงครวญครางของเขาเติมเต็มเวทีอีกครั้ง ลมหายใจของเขาผลักเลือดที่อยู่บนใบหน้าของเขาออกไปขณะที่เขานอนราบกับพื้น
อะไรบางอย่าง บางอย่างที่สามารถช่วยฉันได้…
ดวงตาของเขากระพริบหลายครั้ง เมื่อเขาเอื้อมมือไปหาสิ่งที่สามารถช่วยเขาได้ เขาโบกมือค่อยๆเคาะพื้นไปเรื่อยๆ
แล้วในที่สุดมือของเขาก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่ง เขาหันศีรษะไปอย่างอ่อนแรงเพื่อดูว่ามันคืออะไร
มันเป็นรองเท้าบูทของเจมม่า ซึ่งตกลงมาตอนที่เธอเกือบจะลื่นไถลบนเวที
อีแวนส์หัวเราะเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นรองเท้าบู๊ต และไอเป็นเลือด วิธีนี้จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดที่เท้าของเขาในตอนที่เขาเดินได้ใช่มั้ย?
ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นนั่งด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมด ขบฟันเพื่อพยายามเพิกเฉยต่อความเจ็บปวด เขาปลดลูกไม้ของรองเท้าบู๊ตที่พันกัน การมองเห็นของเขาค่อยๆเลือนหายไปเป็นสีดำในขณะที่เขาทำเช่นนั้น
สิ่งเดียวที่เขาได้ยินตอนนี้คือเสียงหัวใจที่เต้นรัว
ความเจ็บปวดที่เขารู้สึกกลบเสียงรบกวนที่โลกสามารถร้องให้เขาฟัง มีเพียงเสียงลมหายใจของเขาและความพยายามในการสวมรองเท้าบูท
ในที่สุดเขาก็สวมรองเท้าบู๊ตได้สำเร็จ มันอาจจะใหญ่ไปหน่อย แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย
ด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย และความหวังบนใบหน้าของเขา เขาจึงลุกขึ้นยืน…และพบว่าตัวเองล้มลงกับพื้นเหมือนหุ่นเชิดที่ถูกตัดสาย
ตุ๊บ!
“หื้ม?”
อีแวนส์สับสน เขาล้มลงกับพื้น แต่เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย…ไม่…เขาไม่รู้สึกอะไรเลย
เขาพยายามขยับเท้า แต่มันก็ไม่เดินตามเขาอีกต่อไป เขาพยายามกระพริบตา แต่ก็ไม่เป็นไปตามคำสั่งของเขา
“นี่มัน…”
อีแวนส์อุทานในขณะที่เขาจ้องมองไปที่คำพูดที่ลอยอยู่ตรงหน้าเขา
[ตอบสนองความต้องการสำเร็จ …]
[ระบบเฮอร์มีสปลดล็อค!]
ในไม่ช้าการมองเห็นของเขาก็มืดสนิท ลมหายใจของเขาก็ขาดหาย การเต้นของหัวใจ สิ่งเดียวที่เขาได้ยินจนถึงเมื่อครู่ก็หายไป
…
อีแวนส์…ในวัยเด็กเต็มไปด้วยความหวังและความฝัน…เสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยวและเต็มไปด้วยความเสียใจเท่านั้น และไม่มีวันตื่นขึ้นมาอีกเลย
…
…
…
…
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงการเต้นของหัวใจดังขึ้น
“!!!”
ดวงตาของอีแวนส์เบิกกว้างทันที
หัวใจของเขาเต้นอีกครั้ง และอีกครั้ง…และอีกครั้งในแต่ละวินาที หัวใจของอีแวนส์เริ่มเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ
ในไม่ช้าหัวใจของเขาก็เต้นเร็วมาก จนทำให้ร่างกายที่ไร้ชีวิตของเขาสั่นสะท้าน
กรามที่หักของเขากลับเข้าที่อย่างช้าๆ แผลไฟไหม้ที่แขนของเขาดิ้นเหมือนหนอนและกลายเป็นสะเก็ด เศษที่ฝังอยู่บนผิวหนังของเขาเริ่มลดลงทีละชิ้นๆ และ…รองเท้าบูทที่เขาสวมอยู่ก็เริ่มสว่างขึ้น
จากนั้นแสงไฟก็ลอยไปในอากาศเหมือนเกลียวที่ปลิวไปตามลม…อย่างช้าๆ เกลียวได้รวมตัวกันเป็นรูปปีก
ทันทีที่มันเกิดขึ้น ร่างของอีแวนส์ก็หยุดสั่น การสั่นนั้นถูกแทนที่ด้วยการกระพือของปีกที่ก่อตัวขึ้นรอบๆรองเท้าของเขา
ด้วยเสียงคร่ำครวญ อีแวนส์ก็ลุกขึ้นยืนอย่างเชื่องช้าราวกับหุ่นเชิดที่ถูกมัดด้วยเชือก
ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็หยุดนิ่ง ตอนนี้เขาคุกเข่าอยู่บนพื้น ฝ่ามือของเขาสัมผัสกับปีกนั้นเบาๆ ทำให้การกระพือปีกของมันเร็วขึ้น และเร็วขึ้นจนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าอีกต่อไป
อีแวนส์ตะโกนบางทีเสียงร้องของเขาก็ดังพอที่จะก้องไปทั่วโลก
จากนั้นเขาก็หายไปโดยทิ้งควันไว้ข้างหลัง
“เธอได้ยินเสียงกรีดร้องนั่นไหม!? เขากำลังเจ็บปวด เร็ว!”
มีเสียงฝีเท้าหนักๆดังมาจากทางเดิน
นั่นคือเจมม่าและข้างหลังของเธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมเสื้อคลุมอยู่
“เขาอยู่ตรงนั้น…”
เจมม่าตะโกนและชี้ไปที่กลางเวที แต่เธอหยุดก่อนที่จะพูดจบ ขณะที่เธอเหล่ตาไปมอง แต่ไม่มีใครอยู่ที่นั่น
เธอ…เห็นผีจริงๆหรอ? ดวงตาของเจมม่าเบิกกว้าง เหงื่อเริ่มปรากฏบนใบหน้าของเธอ จากนั้นเธอก็ส่ายหัว นั่นคงเป็นไปไม่ได้
ซากของที่แตกหัก และเลือดจำนวนมหาศาลที่กองอยู่บนพื้นเวที พิสูจน์ได้ว่าเด็กชายอยู่ที่นี่แน่นอน
เขากระดูกหักและเสียเลือดมาก…
“เขาจะไปที่ไหนได้…เขาไปอยู่ที่ไหน?